ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 538|ตอบกลับ: 0

ม่านราตรี = 25 - 26 =

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

   “ขี้งก! ไม่ดูก็ได้ไปแอบดูห้องของตุลดีกว่า ...คงน่าดูไม่แพ้คู่นี้แน่  คิกๆ”
   ปีศาจแมวสาวเอ่ยกับตัวเองพลางโบกหางสะบัดไปมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเปลี่ยนแผนไปแอบดูห้องนอนของอีกคู่ที่ตอนนี้กำลังมีรังสีความหวานปลดปล่อยออกมาอย่างไม่คิดเกรงใจใครเช่นเดียวกัน

บทที่ 25
   หลังจากอธิปและกริชได้ตกลงปลงใจคบกันแล้ว แม้ตุลาจะยินดีกับอาของเขา แต่ตอนนี้เขาก็กำลังพบกับความลำบากอยู่เช่นกัน เมื่อพาทิศกับเขายังคงไม่สามารถผ่านคืนหวานชื่นสำหรับคู่รักไปได้สักที  ซึ่งจริง ๆ แล้วเขา
ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนัก แต่พอจะถึงเวลาแบบนั้นทีไร เขาก็กลัวจนเผลอร้องไห้ออกมา ทำเอาพาทิศต้องหยุดแล้วปลอบเขาเสียยกใหญ่ อะไรไม่แย่เท่า พอกริชได้ยินเสียงเขาร้องไห้ก็ดันหายตัวแวบมาบ่นใส่พาทิศอีก
จนทำให้ผีดิบหนุ่มเปรยกับเขาไว้ว่า สงสัยจะต้องสร้างเขตแดนเวลาอยู่กับเขาเพียงลำพังเสียแล้ว
   “ขอโทษนะครับ...เพราะผมแท้ ๆ คุณเลยโดนอาดุเข้าให้อีกจนได้”
   ตุลาบอกกับพาทิศด้วยสีหน้าสำนึกผิด หลังจากที่อธิปเข้ามาลากตัววิญญาณหนุ่มออกไปไม่ให้อยู่รบกวน
พวกตนต่อ
   “ไม่ใช่ความผิดของตุลหรอก ...ฉันต่างหากที่ทำให้ตุลหายกลัวไม่ได้สักที”
   พาทิศปลอบโยนคนข้างกาย ซึ่งก็ทำให้คนฟังยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่
   “ทั้ง ๆ ที่ผมชอบคุณขนาดนี้ ...แล้วก็อยากให้คุณกอด...แต่ว่า...”
   “ไม่เอาน่าตุล ครั้งแรกสำหรับบางคนมันก็ต้องใช้ความกล้ามาก ...ฉันไม่โทษตุลหรอกที่จะกลัวเรื่องนี้...
คงเคยได้ยินมาสินะว่ามันเจ็บมากน่ะ ใช่ไหม”
   ตุลาหน้าแดงวาบ แล้วจึงพยักหน้ายอมรับตามตรง ทำให้คนพูดยิ้มน้อยแล้วลูบศีรษะอีกฝ่าย
   “ว่าแล้วเชียว ...แสดงว่าไปแอบหาข้อมูลเรื่องนี้เอาไว้ แล้วดันเจอเรื่องน่ากลัว ๆ อะไรมาล่ะสิ”
   “ระ…รู้ได้ไงครับ”
   ตุลาสะดุ้ง พลางเอ่ยอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มองหน้าอีกฝ่าย ทำเอาพาทิศอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
   “ก็นิสัยนักเขียนอย่างตุลนี่ เวลาอยากรู้อะไรก็ต้องหาข้อมูลให้ละเอียดใช่ไหมล่ะ”
   ตุลาชะงักแล้วก้มหน้าหลบสายตาคนรู้ทันด้วยความอาย ทำให้พาทิศต้องชะโงกหน้าไปจูบแก้มขาวอมชมพูนั่นด้วยความเอ็นดูฟอดใหญ่
   “สำหรับบางคน เรื่องพวกนี้มันก็เป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างน่ากลัวสักหน่อย ...แต่หลายคนก็รู้สึกดีกับมัน ขึ้นอยู่กับว่า คู่ของเราเป็นใคร เขารักเราและพร้อมจะเอาใจใส่ถนอมเรา ไม่ใช่หวังเพียงแค่ร่างกายของเราหรือไม่ ...ซึ่งในจุดนี้ฉันคิดว่าตุลก็คงน่าจะมั่นใจได้ไม่ใช่หรือ”
   ตุลาเงยหน้าสบตากับคนรักหนุ่มด้วยสายตารักใคร่ชื่นชม แล้วซุกใบหน้าซบกับอกกว้างของอีกฝ่าย
   “ผมจะลองดูอีกครั้งครับ...”
   “ขอบใจ ...แต่ถ้าไม่ไหวยังไงก็บอกนะ ฉันไม่รีบร้อนเร่งรัดเธอนักหรอก”
   พาทิศปลอบโยน ทำให้คนฟังยิ่งรู้สึกซาบซึ้งตื้นตันมากขึ้นไปอีก
   “... ถะ ถ้า ผมเกิดร้องไห้อีก...คุณพาทิศก็ไม่ต้องสนใจนะครับ”
   ตุลาบอกเสียงอึกอักพร้อมใบหน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะช้อนตาหวานซึ้งจ้องตอบอีกฝ่าย
   “ผมเชื่อใจคุณครับ...”
   พาทิศครางเบา ๆ ในลำคอแล้วก้มลงจูบริมฝีปากบางนุ่มของร่างตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหว
   “ทำไมถึงได้น่ารักมากขึ้นทุกวันแบบนี้นะตุล ... เธอทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกไปแล้วรู้ไหม”
   “คุณพาทิศ...ผม...”
   ตุลามีทีท่าเอียงอาย นึกคำพูดโต้ตอบอะไรไม่ถูก แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องอุทานเบา ๆ เมื่อถูกร่างสูงประคอง
ร่างของเขาเอนกายลงไปสัมผัสกับผืนเตียงนุ่ม พร้อมกับทาบทับร่างของตัวเองไปติด ๆ
   “อ๊ะ ...เกือบลืมไป”
   พาทิศอุทานเบา ๆ เหมือนจะนึกขึ้นได้ถึงอะไรบางอย่าง ทำเอาคนที่หลับตาพริ้มรอคอยจุมพิตอันอ่อนโยน ต้องปรือตาขึ้นมองอย่างสงสัย แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ ครอบคลุมไปทั่วห้องนอนที่เขาอยู่
อย่างน่าประหลาด
   “เขตแดนไงล่ะ ...ทีนี้ก็จะไม่มีใครมารบกวนพวกเราตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอีกแล้ว ...แถมยังป้องกันไม่ให้คนอื่นได้เห็นตุลของฉันในสภาพเซ็กซี่เย้ายวนได้อีก”
   คำตอบของพาทิศทำให้คนฟังหน้าแดงวาบด้วยความอาย โดยเฉพาะประโยคที่แสดงความเป็นเจ้าของนั่น
มันยิ่งทำให้ใจของเขาเต้นระทึกด้วยความวาบหวามมากขึ้นอีกด้วย
   “ตุล...รักนะ ...รักมากที่สุด”
   ถ้อยคำกระซิบและการเล้าโลมอันอ่อนโยนช่วยกลบความคิด ความกลัวอื่น ๆ ของชายหนุ่มร่างบางให้สลายหายไปเกือบหมดสิ้น ทว่าระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินจนถึงขีดสุด ตุลาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีบางสิ่งที่เขาคุ้นเคยแทรกตัวเข้ามาภายในช่องทางคับแน่นของร่างเขา
   “อ๊ะ...มะ...ไม่!”
   ตุลาสะบัดหน้าไปมาด้วยความเจ็บปวด น้ำใส ๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสอง มือทั้งคู่พยายามดันร่างสูงให้ออกห่าง พาทิศมองความทรมานของคนรักด้วยความสงสารแล้วพยายามกระซิบปลอบและเล้าโลมให้ชายหนุ่มคลายความเจ็บลงอย่างเต็มที่
   “ไหวไหมตุล...”
   เสียงกระซิบอ่อนโยนพร้อมกับอาการขยับหมายจะถอนกายทำให้ตุลารู้สึกตัว เขาผวากอดรัดร่างนั้นไม่ให้
จากไปไหน แล้วจึงตอบกลับไปทั้งน้ำตา
   “ขอโทษครับ ...ทะ...ทำต่อเถอะครับ...ผมยังไหว”
   “แน่ใจนะ ...ไม่ต้องห่วงความรู้สึกฉันหรอก ร่างกายของตุลสำคัญกว่า”
   พาทิศกระซิบถามอย่างเป็นห่วง เพราะการเกร็งตัวบีบรัดของชายหนุ่มแสดงออกให้เห็นถึงความกลัว
และความเจ็บปวดของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
   “ผมอยากเป็นของคุณ...ทั้งหัวใจ ...และร่างกาย ...ได้โปรดเถอะครับคุณพาทิศ...ช่วยผมด้วย”
   น้ำเสียงเจือสะอื้นเอ่ยร้องขอ และคำพูดนั้นก็ทำให้ผีดิบหนุ่มยากจะควบคุมตัวได้ไหวอีกต่อไป เขาค่อย ๆ
ดันกายเข้าไปภายในช่องทางคับแคบนั่นอย่างช้า ๆ สลับหยุดนิ่ง เพื่อให้แรงบีบรัดนั้นคลายออก ส่วนริมฝีปากบางนุ่มก็ถูกเขาประกบปากปิดเอาไว้ตลอดเวลา เพราะไม่อยากได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของคนรัก
ทว่าเสียงครางฮือในลำคอทุกครั้งที่เขาขยับก็ทำให้เขารับรู้ความเจ็บของร่างโปร่งได้เป็นอย่างดี
   “ถ้าตุลรักฉัน ก็ขอให้เชื่อฉัน...ฉันจะทำให้เธอมีความสุข...เชื่อฉันนะ”
   ถ้อยคำกระซิบปลอบตลอดเวลาที่ร่วมรัก ทำให้คนซึ่งรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย และร้องไห้ออกมาตลอดเวลา
ยิ้มขึ้นมาได้ เขารั้งกายให้แนบชิดเข้าไปอีก และพยายามขยับกายตามการเคลื่อนไหวของคนรัก เสียงครางด้วยความเจ็บในตอนแรก เริ่มแปรเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น นั่นจึงทำให้พาทิศยิ้มออกมาได้ในที่สุด
   “ตุล ...รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม ...บอกฉันสิ”
   ตุลาพยายามจะตอบ แต่พออีกฝ่ายขยับเคลื่อนไหว เขาก็เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบาแทน ทำให้ร่างสูงอมยิ้มน้อย ๆ แล้วชะโงกหน้าลงไปประทับริมฝีปากของอีกฝ่ายอยู่เนิ่นนานจนกระทั่งถอนริมฝีปากออกมาในที่สุด
   ภาพดวงตาปรอยชุ่มฉ่ำน้ำตา ปากบวมแดงเผยอเย้ายวน และใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ ล้วนปลุกกระตุ้นให้อารมณ์ของผีดิบหนุ่มพวยพุ่งขึ้นสูง จนเผลอลืมตัวลืมตนขยับกายด้วยความรุนแรง จนร่างโปร่งสั่นคลอนไปทั้งร่าง โชคดีที่ตุลาในยามนี้เริ่มมีอารมณ์คล้อยตามมากขึ้นแล้ว หากยังคงเป็นแบบในช่วงแรกของการร่วมรัก บางทีชายหนุ่มอาจจะเข็ดหลาบและหวาดกลัวเพิ่มขึ้นไปเลยก็ได้
   “อ๊า ...คุณพาทิศ ... บะ...เบาหน่อย”
   ตุลาร้องครางประท้วงเพราะเหมือนว่าผีดิบหนุ่มจะเร่งจังหวะเกินไป จนร่างกายเขาแทบรับไม่ไหว พาทิศกัดฟันกรอดพยายามข่มความต้องการตัวเอง แล้วพึมพำขอโทษคนรักแผ่วเบา ก่อนจะค่อย ๆ ขยับกายให้ช้าลงกว่าเดิม และช่วยผลักดันให้ร่างโปร่งไปถึงจุดฝั่งฝันก่อน
   “ดีไหม...ตุล”
   ตุลาปรือตาขึ้นมองคนรัก แล้วยิ้มอย่างอ่อนหวานตอบ
   “ครับ ...ผมดีใจ ที่เราได้เป็นหนึ่งเดียวกันจริง ๆ สักที”
   พาทิศยิ้มรับ พลางกล่อมให้อีกฝ่ายหลับ ซึ่งก็ไม่ยากลำบากอะไร เพราะตุลาหลับไปหลังจากนั้นไม่นานด้วยความอ่อนเพลีย ส่วนตัวเขาก้มมองบางส่วนของร่างกายของตัวเองที่ยังคงไม่ยอมอ่อนแรงอย่างนึกปลง ทั้ง ๆ
ที่อยากจะทำให้มากกว่านี้ แต่ขืนทำแบบนั้นตุลาคงจะรับไม่ไหวเป็นแน่  เขาอยากให้ครั้งแรกของชายหนุ่มรู้สึกดีให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้สานความสัมพันธ์ระหว่างกันในครั้งต่อไปได้ราบรื่นกว่าเดิม
   “ช่วยไม่ได้นะ ...เพราะรักมาก ถึงได้ยอมรู้ไหม”
   พาทิศกระซิบบอกคนที่หลับไปแล้วพร้อมกับจุมพิตที่หน้าผากอีกฝ่ายแผ่วเบา ใบหน้าหวานแย้มยิ้มน้อย ๆ ราวกับกำลังหลับฝันดี นั่นจึงทำให้คนมองอดจะยิ้มน้อย ๆ ไปด้วยไม่ได้
   “ราตรีสวัสดิ์...เด็กน้อยที่น่ารักของฉัน”
   ผีดิบหนุ่มเอ่ยราตรีสวัสดิ์แล้วประคองนอนกอดร่างโปร่งไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเห็นว่าตุลาหลับสนิท เขาจึงปลดเขตแดน และกลับห้องใต้ดินของตนบ้าง เพื่อที่จะจัดการภารกิจส่วนตัวที่ยังคงค้างคา ให้มันเสร็จสิ้นไปในคืนนี้เสียที
   ตุลาบิดกายอย่างเกียจคร้านเมื่อแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามายังในห้องนอนของเขา ทว่าชายหนุ่มกลับต้องปวดแปลบไปแทบทั้งร่างโดยเฉพาะบริเวณบั้นท้าย ตุลากัดฟันนิด ๆ ขณะขยับตัว เขาทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แล้วก็ต้องใบหน้าแดงวาบด้วยความเขินอาย
   “เรากับคุณพาทิศ...ทำไปแล้วสินะ”
   ชายหนุ่มพึมพำ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้อง ซึ่งไม่เห็นร่างของคนรักอยู่ เจ้าตัวลอบถอนหายใจ แม้อยากจะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมีพาทิศอยู่เคียงข้างตลอดเวลา แต่ด้วยสถานภาพความเป็นผีดิบของอีกฝ่าย ก็ทำให้เขาพอจะเข้าใจได้ถึงความจำเป็นของคนรักอยู่พอสมควร แค่พาทิศเจียดเวลามาคอยดูแลทำอาหารเช้าและกลางวันให้เขา และอยู่เป็นเพื่อนเขาบ้าง ตุลาก็รู้สึกเกรงใจมากอยู่แล้ว เพราะลองคำนวณดูอีกฝ่ายก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างที่ควรจะเป็นเลยด้วยซ้ำ
   “ฮึบ! อาบน้ำดีกว่า ...อ๊ะ...เหวอ ....โอ๊ย!”
   เสียงร้องพร้อมกับเสียงวัตถุบางอย่างตกตุบลงพื้น ทำให้คนที่กำลังเตรียมอาหารชะงักแล้วรีบพุ่งตัวกระโดดขึ้นชั้นสอง เปิดห้องพรวดเข้าไปยังห้องคนรักอย่างรวดเร็ว เร็วเสียกว่ากริชที่หายตัวออกจากห้องของอธิปมาเพื่อดูหลานชายเสียอีก
   “ตุล เป็นอะไรหรือเปล่า!”
   พาทิศบอกแล้วประคองคนที่ล้มไปนอนกองกับพื้น ตุลาหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าบอกว่าเพราะเจ็บสะโพกและแข้งขาอ่อนหมดแรง จนทำให้ล้มตกเตียงลงไปนอนกองแบบนั้น ทว่าอาการก้มหน้าก้มตาของชายหนุ่มก็ทำให้
พาทิศพอจะคาดเดาได้
   “คราวหลังก็เรียกสิ ...ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะรีบมาหาทันทีล่ะนะ”
   พาทิศกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน ทำเอากริชที่เตรียมจะถามอาการหลานชายชะงัก แล้วค่อย ๆ ถอยออกห่างทั้งคู่ ก่อนจะมองตุลาด้วยสายตาเอ็นดู แล้วจึงหายตัวไปจากห้องนั้น
   “แต่คุณพาทิศก็ยุ่ง ๆ เพราะผมอยู่ทุกวันนี่ครับ”
   ตุลากระซิบบอกอุบอิบ ทำเอาคนมองยิ้มน้อย ๆ แล้วจูบหน้าผากของชายหนุ่มแผ่วเบา
   “ถ้าต้องทำเพื่อตุล ฉันไม่เหนื่อยหรอกนะ”
   พาทิศบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ทำให้คนมองหน้าแดงแล้วกอดร่างสูงแน่น ก่อนจะชะงักเหมือนจะนึก
ขึ้นได้
   “เอ๊ะ เมื่อครู่ เหมือนผมจะเห็นอากริชในห้องนี่ครับ”
   ตุลามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นร่างของอาอย่างใด พาทิศหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วประคองร่างของตุลา
ขึ้นนั่งบนเตียง
   “เขาคงเห็นว่าฉันดูแลตุลได้ เลยไม่อยู่รบกวนพวกเราล่ะมั้ง ...”
   ตุลาหน้าแดงระเรื่อ รู้สึกอายนิด ๆ แต่ก็ดีใจที่อาของเขาเข้าใจความรักของพวกเขาและเลิกคิดขัดขวางสักที
   “หรือไม่ก็เป็นห่วง ไม่อยากอยู่ห่างคุณอธิป เลยต้องรีบกลับไปหาก็ได้”
   พาทิศบอกตามมาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาตุลาหน้าแดงก่ำ เพราะเผลอจินตนาการแปลก ๆ ระหว่างทั้งคู่ไปด้วย แต่แล้วเสียงกระแอมเบา ๆ ก็ทำให้ผีดิบหนุ่มยิ้มแห้ง ๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงกระแอมจะเปรยขึ้นเบา ๆ
   “นายทิ้งหม้อข้าวต้มไว้ใช่ไหม ...ไปจัดการต่อให้เรียบร้อยซะ เดี๋ยวก็ไหม้หมดหลานฉันไม่มีข้าวเช้ากินพอดี!”
   “ครับ ๆ รับทราบ”
   พาทิศยกมือยอมแพ้ แล้วหันไปโค้งศีรษะขอโทษอีกฝ่าย ซึ่งวิญญาณหนุ่มก็ทำเสียงฮึในลำคออย่างไม่สบอารมณ์นัก แต่พอพาทิศออกไปจากห้องแล้ว เขาก็หันมาสบตากับหลานชายที่มองเขาตาแป๋ว กริชหน้าแดงวาบแล้วรีบแก้ตัวทันที
   “อาเปล่านะ! ทำไมอาจะต้องห่วงหมอผีงี่เง่าแบบนั้นด้วย!”
   ตุลาหัวเราะแห้ง ๆ เขายังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนอาของเขาจะกลัวว่าเขาจะล้อเลยต้องรีบแก้ตัวไว้เสียก่อน
   “ครับ ๆ ผมเชื่ออานะ”
   ตุลาบอกพร้อมยิ้มกว้าง ทำให้กริชโล่งอก แล้วสอบถามเรื่องร่างกายของอีกฝ่าย แต่พอตุลาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ บอกพร้อมหน้าแดงก่ำ ก็ทำให้วิญญาณหนุ่มชะงัก แล้วกัดฟันกรอดตามมา
   “หนอย...หมอนั่น กล้าล่วงเกินหลานของฉันเชียวหรือไง”
   “แปลกอะไรเล่า เขาคนรักกัน ขืนป่านนี้ยังไม่มีอะไรกันน่ะสิ ผิดปกติแล้ว”
   เสียงเนือย ๆ อย่างนึกรำคาญของใครบางคนดังขึ้นหน้าประตู กริชกับตุลาหันขวับไปมองก็พบว่าอธิปกำลังยืนมองพวกเขาอยู่อย่างเซ็ง ๆ
   “พอเลยนายกริช ...ได้ยินเสียงหลานทีก็แวบหาย ๆ หัดคิดถึงคนที่กำลังอารมณ์ค้างดูมั่งสิว่าลำบากขนาดไหน”
   กริชหน้าแดงวาบ เช่นเดียวกับตุลา วิญญาณหนุ่มมองหลานชายของตนด้วยความอาย แล้วหันมาตวาดเพื่อนสนิทที่เลื่อนฐานะเป็นคนรักไปเรียบร้อยลั่นห้อง
   “หุบปากเลยไอ้หมอผีหื่น! นายกำลังทำให้หลานฉันเข้าใจผิดนะ!”
   “เออ ๆ เข้าใจผิดก็เข้าใจผิด ...งั้นฉันขอตัวอาเธอกลับห้องก่อนแล้วกันเจ้าหนู ส่วนข้าวเช้าไม่ต้องขึ้นมาตาม ขอเวลาฉันสักสองสามชั่วโมง เดี๋ยวฉันลงไปกินเอง”
   ตุลาพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ ส่วนกริชนั้นหน้าแดงวาบแล้วเตรียมทำท่าจะแวบหนี แต่ก็ถูกอธิปเดินมาจับข้อมือหมับเอาไว้เสียก่อน ด้วยอาคมของหมอผีหนุ่มจึงทำให้กริชไม่สามารถหายตัวหนีได้อย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก
   “กลับห้องกันได้แล้วนะที่รัก...คราวนี้ถ้ายังทำไม่เสร็จ ไม่ยอมปล่อยให้ออกมาแน่”
   อธิปยิ้มติดโหดทำเอาตุลาต้องลอบกลืนน้ำลายด้วยความกลัวแทนอาของตน ส่วนกริชนั้นอยากจะโวยวาย แต่ก็อายหลานชายที่มองอยู่ เจ้าตัวจึงทำเป็นเชิดใส่ แล้วบอกออกไปด้วยท่าทางไม่ยี่หระ
   “เชอะ! ไม่ปล่อยก็อย่าปล่อย กลัวแต่จะหมดแรงก่อนจะถึงเสียมากกว่า ทั้งแก่ทั้งเหี่ยวออกแบบนี้”
   อธิปลอบยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นของคนพูด เจ้าตัวหันไปลาเจ้าของห้อง แล้วจูงมือกริชออกไปด้วยกัน โดยมีตุลามองตามอย่างนึกทึ่งในตัวอาของตน
   “อากริชเก่งจัง ...ถ้าเราเก่งแบบนี้บ้าง คุณพาทิศจะดีใจไหมนะ”
   ตุลาพึมพำโดยไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า ขณะนี้คนเก่งของเขา กำลังพยายามทั้งขู่ ทั้งอ้อนวอน ให้หมอผีหนุ่มยอมปล่อยตัว  เพราะตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาอธิปก็ไม่ยอมปล่อยให้กริชได้พัก แถมยังใช้อาคมสร้างร่างให้วิญญาณหนุ่มสิง จนมีประสาทสัมผัสรับรู้เหมือนตอนเป็นมนุษย์อีก เล่นเอากริชทั้งอ่อนเปลี้ยระบมไปหมด แต่ถึง
อย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การที่อยู่เคียงข้างและได้รับความรักจากอธิปเช่นนี้ ก็ทำให้เขารู้สึก
มีความสุขที่สุดนับตั้งแต่วันที่ได้กลายมาเป็นวิญญาณเลยทีเดียว
บทที่ 26
   นิยายเรื่องที่สองของตุลาได้รับการตีพิมพ์และมีผลตอบรับจากนักอ่านค่อนข้างดีไม่แพ้เล่มแรก แถมเผลอ ๆ จะดีกว่าเล่มแรกด้วยซ้ำ เพราะเพียงวางขายไม่นานเขาก็ได้รับการแจ้งจากสำนักพิมพ์ว่าจะมีการตีพิมพ์ซ้ำครั้งที่สองเร็ว ๆ นี้
   “ยินดีด้วยนะเจ้าหนู ตอนนี้เธอกลายเป็นนักเขียนใหญ่ยิ่งกว่าอาของเธอแล้วล่ะมั้ง”
    อธิปเอ่ยชม ตอนนี้ทุกคนในคฤหาสน์กำลังร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีกับตุลา ณ บริเวณสวนหน้าซุ้มราตรี แสงไฟหลากสีถูกประดับตกแต่งไปตามซุ้มแลดูสวยงามยิ่งนัก
   “ไม่หรอกครับ ถ้าอายังอยู่ป่านนี้คงจะดังยิ่งกว่าจนผมเทียบไม่ติดก็ได้”
    กริชสั่นศีรษะอย่างระอากับการถ่อมตัวของหลานชาย เขาเองก็คิดเหมือนอธิปที่ว่าตุลานั้นมีพรสวรรค์ในการแต่งนิยาย แม้สำนวนการดำเนินเรื่องจะยังไม่เข้าขั้นนักประพันธ์ชั้นครู แต่นิยายของตุลานั้นมีเสน่ห์ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมและลุ้นระทึกไปกับเหตุการณ์ในแต่ละหน้ากระดาษได้เป็นอย่างดี
   “ความจริงคุณกริชก็น่าจะเขียนหนังสือต่อได้นะคะ ที่นี่ก็มีอาถรรพ์พอที่จะให้คุณแสดงร่างออกมาได้อยู่แล้ว คุณก็แค่พิมพ์เรื่องที่คุณแต่งลงไปในคอมแค่นั้นไม่ใช่หรือคะ”
   ราตรีเสนอความเห็นทำให้ตุลาตาวาวแล้วรีบหันไปทางอาของตน ทว่าวิญญาณหนุ่มกลับยิ้มน้อย ๆ แล้วสั่นศีรษะปฏิเสธ
   “ตอนที่ฉันเลือกเดินทางนี้ ฉันก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างในโลกไปหมดแล้ว จะมีก็แค่ตุลเท่านั้นที่ฉันยังเป็นห่วงอยู่ ส่วนเรื่องงานเขียนตุลก็สืบทอดต่อจากฉันไปแล้ว ฉันจึงไม่จำเป็นต้องสานต่อมันอีก”
   คำตอบของกริชสร้างความเสียดายให้กับตุลายิ่งนัก แต่เขาก็เข้าใจในสิ่งที่อาบอกดี และเขาก็ตั้งใจแล้วว่าจะเป็นนักเขียนนิยายที่ดีและมีชื่อเสียงตามความฝันของอาให้ได้
    “ฮึ...ใช่สิ ห่วงก็แค่หลานตัวเองเท่านั้นล่ะนะ”
    อธิปที่นั่งข้าง ๆ บ่นขึ้นอย่างน้อยใจ ทำให้วิญญาณหนุ่มต้องหันไปมองพลางลอบยิ้ม
    “ไม่เห็นแปลก ญาติพี่น้องก็ต้องมาก่อนคนรักเป็นธรรมดา”
   กริชเปรยเบา ๆ สร้างความหมั่นไส้ให้กับคนฟังยิ่งนัก แต่ก็นับว่ายังดีที่อีกฝ่ายกล้าเรียกเขาว่าคนรักต่อหน้า
คนอื่น อย่างไม่เขินอายเหมือนช่วงแรก ๆ ที่คบกัน
    “คอยดูเหอะ คืนนี้จะจัดชุดหนักจนต้องครางขอร้องเสียให้เข็ด”
   อธิปบ่นงึมงำ ทว่าทุกคนนอกจากตุลากลับได้ยินชัดเจนดี ดังนั้นนอกจากกริชที่นั่งหน้าแดงด้วยความฉุน
ปนอาย คนอื่นก็พากันอมยิ้ม และหัวเราะคิกคักกันเบา ๆ จนตุลาแปลกใจ
    “ไม่มีอะไรหรอก พอดีทุกคนนึกเรื่องตลกขึ้นได้พร้อม ๆ กันน่ะ”
    พาทิศแสร้งตอบคำถามคนรัก แต่นั่นทำให้ตุลายิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่
   “ใช่...พวกเรานึกถึงตอนตุลเข้ามาอยู่ใหม่ ๆ ตอนนั้น ตุลขี้กลัวจะตาย หลอกนิดหลอกหน่อยก็เป็นลมละ”
   รุ้งพรายรีบเสริม เพราะขืนบอกเรื่องที่อธิปบ่นไป มีหวังกริชอาละวาดจนงานเลี้ยงได้ยุติแน่
   “อ๊ะ ก็ตอนนั้นทุกคนชอบแกล้งผมกันนี่ครับ”
   ตุลารีบบอก หน้าแดงน้อย ๆ ด้วยความอาย เพราะตนก็เผลอทำเรื่องน่าขายหน้าไปเยอะในช่วงปีกว่าที่ผ่านมา
   “แต่ตอนนี้คุณตุลก็เก่งขึ้นเยอะนะคะ อย่างน้อยก็ไม่ค่อยได้ยินเสียงโวยวายตกใจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
   ปิ่นสุดาเอ่ยชม แต่ก็ทำให้คนฟังยิ้มเจื่อน ๆ เพราะแต่ละคนดันจำเรื่องแย่ ๆ ของเขาได้หมด
   “อืม...บางทีโรคกลัวผีของตุลอาจจะดีขึ้นแล้วก็ได้นะ”
   ราตรีเอ่ยเสริม ทำให้ทุกคนนอกจากกริชหันมามองตากัน แล้วยิ้มแปลก ๆ จนตุลาชักสังหรณ์ใจพิกล
   “เราไม่ได้ทำไอ้นั่นมานานแล้วนี่นะ...”
   รุ้งพรายบอกพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จนกริชเอะใจ
   “พวกนายจะคิดแกล้งอะไรตุลอีก...อ๊ะ อธิปปล่อยนะ!”
   กริชที่เตรียมจะแย้งถูกอธิปโอบเอวรั้งมาใกล้ตัว พลางกระซิบบอก
   “ไม่ดีหรอกหรือ...เขาจะได้เลิกขวัญอ่อนสักที เกิดใครรู้ว่านักเขียนนิยายผี กลับกลัวผีขึ้นสมองเสียเอง
มันทุเรศออกนะกริช นายอยากให้หลานนายกลายเป็นตัวตลกหรือ?”
   คำเกลี้ยกล่อมของอธิปทำให้กริชเริ่มลังเล แต่ตุลาที่พอจะรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองถึงกับสะดุ้งโหยง แล้วหันไปมองพาทิศคล้ายจะขอความช่วยเหลือ
   “รับรองว่าฉันจะอ่อนโยนกับเธอในครั้งนี้แน่”
   ผีดิบหนุ่มบอกพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จนตุลาต้องลอบถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง
   “ตามสบายครับ...ยังไงผมก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วนี่”
   เสียงหัวเราะคิกคักจากสามสาวดังขึ้นทันทีที่ตุลาพูดจบ พวกเธอเอ่ยปลอบโยนเขาครู่หนึ่ง แล้วจึงสุมหัวปรึกษากันในสิ่งที่ทำให้คนฟังขนลุกซู่ เพราะดูว่าพวกเจ้าหล่อนจะเอาจริงเอาจังเสียยิ่งกว่าครั้งก่อนเสียอีก
    “ถ้าอย่างนั้นฉันร่วมด้วยดีไหมนะ...”
   กริชที่เริ่มนึกสนุกเปรยขึ้นมา ทำเอาตุลาสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปมองอาของตนอย่างไม่เชื่อสายตา
   “อาไม่แกล้งหลานรุนแรงเหมือนพวกนี้หรอกน่า รับรอง”
   กริชแย้มยิ้มอ่อนโยน แต่มันทำให้ตุลารู้สึกเสียวสันหลังวาบยังไงพิกล แม้ว่าตุลาจะลืมไปแล้ว แต่คนที่ทำให้เขากลัวผีขนาดหนักแบบนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอาที่แสนดีของเจ้าตัวนั่นเอง
   “อืม…มีนายกริชมาร่วมวงแบบนี้คงสนุกดี หมอนี่ยิ่งชอบคิดวิธีแกล้งคนแบบแปลก ๆ เสียด้วยสิ”
   อธิปหันไปพึมพำกับพาทิศ ทำให้กริชที่ถูกนินทาหันขวับไปมองแล้วค้อนเข้าให้ จนอธิปต้องรีบง้อเพราะกลัวอีกฝ่ายงอนหนักจนเลิกล้มความตั้งใจเสียก่อน
   “งั้นคืนนี้จะปล่อยเธอนอนพักให้เต็มตาไปก่อน ทว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ที่คฤหาสน์ม่านราตรีนี่จะกลายเป็นสถานที่สยองขวัญอย่างแท้จริงสำหรับเธอเอง”
    พาทิศเปรยขู่ ทำเอาตุลาส่งเสียงฮึเบา ๆ ด้วยความงอน ที่แม้แต่คนรักก็ยังไม่ยอมเข้าข้างเขา แถมยังจะหาเรื่องแกล้งเขาเหมือนทุกคนอีก
   “เอาน่า เดี๋ยวจะยอมให้ลงโทษหลังจากการทดสอบความกล้าจบลงนะ”
   ผีดิบหนุ่มโน้มใบหน้ากระซิบข้าง ๆ หูคนรัก ทำให้ตุลาหน้าแดง แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ หายงอนไปกว่าครึ่งเรียบร้อย
   “ถ้าอย่างนั้นก็กินเลี้ยงกันต่อ แล้วค่อยส่งตุลขึ้นไปพัก จากนั้นพวกเราก็มาปรึกษากันว่าใครจะหลอกอะไรยังไงช่วงไหน งานนี้ฉันตั้งใจว่าจะเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้ายันถึงเที่ยงคืนของพรุ่งนี้เลย ดังนั้นเราจะมาหลอกรุนแรงเหมือนพวกผีปลอม ๆ ตามงานวัดหรือสวนสนุกตั้งแต่แรกไม่ได้  ต้องค่อย ๆ เพิ่มดีกรีความน่ากลัวทีละน้อย ให้สมกับเป็นผีจริงหน่อย”
   กริชสรุปตัดบท ทว่าคำพูดของวิญญาณหนุ่มก็ทำให้หลายคนอึ้ง เพราะมันช่างผิดกับอิมเมจชายผู้รักหลาน
คนนี้เสียเหลือเกิน
   “ขอบคุณจริง ๆ ครับอากริช...ที่ตั้งใจเพื่อผมแบบนี้”
   ตุลาพึมพำด้วยความเหนื่อยใจ ทำให้กริชชะงักหันมามองหลานยิ้ม ๆ แล้วรีบบอก
   “จะได้ให้ตุลจำความรู้สึกเวลาหวาดกลัวเอาไว้ไงล่ะ ประสบการณ์ตรงแบบนี้ทำให้เขียนนิยายได้ดีขึ้นนะ”
   ตุลาฝืนยิ้มแห้ง ๆ ให้ เข้าใจว่าอาเป็นห่วง แต่ลึก ๆ แล้วในความเป็นห่วงนั่นคงมีความสนุกแฝงอยู่บ้างเป็นแน่
   “เอาล่ะ ๆ มากินกันต่อดีกว่า เดี๋ยวเจ้าหนูตุลจะใจฝ่อเสียก่อน”
   อธิปรีบเอ่ยขัด เช่นเดียวกันคนอื่นที่ช่วยกันชวนตุลาคุย และเล่าเรื่องตลกขบขันให้อีกฝ่ายลืมเรื่องที่จะเกิดขึ้น จนในที่สุดก็ถึงเวลาเกือบสี่ทุ่ม ทุกคนจึงคะยั้นคะยอกึ่งบังคับให้ตุลาเข้านอน ซึ่งชายหนุ่มก็จำยอมทำตามอย่างขัดไม่ได้ และพอส่งตุลาถึงห้องแล้ว สมาชิกที่เหลือของคฤหาสน์ม่านราตรี ต่างก็สบตากันไปมา แล้วจึงปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์น้อย ๆ บนใบหน้าของแต่ละคน ชนิดที่หากตุลาได้เห็น คงต้องขอตัวลี้ภัยหนีไปนอนบ้านบิดามารดาแทนเป็นแน่
   ตุลาปรือตาขึ้นลืมอย่างงัวเงีย อากาศในช่วงใกล้เช้าของวันนี้ค่อนข้างหนาวกว่าทุกวัน จนทำให้เขาต้องลุกขึ้นตรงไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำแต่พอจะเดินกลับมานอน  เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นอะไรบางอย่างวูบผ่านตรงระเบียงห้องตนไปแวบหนึ่ง
   “ฮะ ๆ ตาฝาดน่า ...ก็พวกนั้นบอกว่าจะเริ่มหลอกเราตั้งแต่หกโมงเช้าเป็นต้นไปนี่นา”
   ตุลาทำเป็นไม่ใส่ใจเพราะดูเวลาที่นาฬิกาแล้วก็เพิ่งแค่ตีห้าเท่านั้น ทว่าเขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแหลม ๆ ลอยมาตามลมแผ่วเบา พร้อมกับร่างในชุดกระโปรงสีแดงสด มีผมยาวรุงรังปิดหน้าปิดตาวูบผ่านระเบียงไปอีกหน
   “วะ...เหวอ แบบนี้ผิดสัญญานี่ครับ!”
   ตุลากระโดดโหยงแล้วโวยวายลั่นห้อง แต่พอสิ้นเสียงเขาไม่เท่าไหร่ พวกรุ้งพราย ปิ่นสุดา และราตรี
ก็กระโดดขึ้นมาที่ระเบียงอย่างตกใจ ส่วนกริชนั้นหายตัวแวบเข้ามาในห้องหลานด้วยสีหน้าเป็นห่วง โดยมี
อธิปและพาทิศเปิดประตูตามมาติด ๆ
   “เกิดอะไรขึ้นหรือตุล เป็นอะไรไปทำไมตะโกนโวยวายแบบนี้”
   ตุลาเบิกตามองทุกคนไล่ไปเรื่อย ๆ แล้วก็ยิ่งหน้าซีด เมื่อนึกขึ้นได้ว่าชุดที่ราตรีใส่นั้นเป็นสีขาวมาตลอด แต่คนที่เขาเห็นลอยผ่านระเบียงไปนั่นใส่ชุดแดงชัด ๆ
   “ผะ...ผมเห็นผี ...ผีผู้หญิงใส่ชุดแดงลอยผ่านหน้าต่างนั่นไป”
   ทุกคนพากันนิ่งเงียบเมื่อได้ยิน ก่อนที่รุ้งพรายจะเป็นฝ่ายหัวเราะเสียงดัง แล้วคนอื่น ๆ ก็มีทั้งหัวเราะทั้งอมยิ้มตามมา
   “อะ...หัวเราะอะไรกันครับ ผมซีเรียสนะ!”
   ตุลารีบบอกด้วยความหงุดหงิด เพราะสีหน้าและแววตาที่ทุกคนมองมายังเขานั้น แสดงออกว่าไม่เชื่อเรื่องที่เขาพูดสักนิด
   “ก็แหม...พวกเราอุตสาห์กลุ้มคิดเรื่องที่ว่าจะหลอกตุลยังไงให้กลัวพรุ่งนี้ดี ใครจะไปรู้ล่ะว่าตุลเองก็คิด
จะหลอกให้พวกเรากลัวเหมือนกัน พัฒนาขึ้นนะเนี่ย!”
   รุ้งพรายบอกหลังจากหยุดหัวเราะได้แล้ว คนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย บ้างก็พึมพำอะไรเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม จนทำให้ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด
   “ผมไม่ได้แกล้ง ไม่ได้โกหกนะ ผมเห็นจริง ๆ กับตาตัวเองเลย ผีตนนั้นลอยผ่านระเบียงไปมาตั้งสองรอบแน่ะ!”
   ตุลาโวยวาย แล้วชี้มือไปที่ระเบียง รุ้งพราย ราตรี และปิ่นสุดา ขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วจึงชะโงกหน้าไปดูรอบ ๆ สวน ก่อนจะหันมาสบตากัน
   “ไม่มีนะคะคุณตุล ถ้ามีพวกเราที่อยู่ที่นี่ก็ต้องรู้สึกตัวสิคะว่ามีคนล่วงล้ำเขตแดนเข้ามา”
   ปิ่นสุดาบอกขึ้นบ้าง นั่นจึงทำให้ตุลาชักเริ่มลังเลและไม่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองเห็น
   “หลานอาจจะกังวลเรื่องพรุ่งนี้มากเกินไป ....ถ้ายังไงเราจะยกเลิกทดสอบเรื่องความกล้าดีไหม หลานจะได้
ไม่ต้องเห็นภาพหลอนนั่นอีก”
   กริชเอ่ยปลอบหลานชาย แต่เสียงของรุ้งพรายนั้นขัดขึ้นมาก่อน
   “อ๊า ...อุตสาห์นั่งประชุมคิดทั้งคืนเลยนะ”
   “รุ้งนี่ก็ อยากให้ตุลประสาทเสียเพราะภาพหลอนทั้งวันหรือไง”
    ราตรีดุเพื่อนสาว ทำให้รุ้งพรายหน้าจ๋อย จนตุลานึกสงสาร
   “เอ่อ...ไม่ต้องหรอกครับ คงจะเป็นอย่างทุกคนพูด ผมคงเครียดเกินไป แถมเพิ่งตื่นก็อาจจะงัวเงียก็ได้
ส่วนเรื่องทดสอบความกล้า ไหน ๆ ทุกคนก็เสียเวลาคิดแล้ว ก็ทำต่อไปเถอะครับ”
   คำพูดของตุลาทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก พาทิศโอบบ่าร่างของคนรักมาแนบกาย
แล้วปลอบโยนเบา ๆ
   “ไม่ต้องห่วงนะตุล รับรองพรุ่งนี้ตุลจะต้องพบกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ...แน่นอน ไม่ใช่เรื่องแย่ ๆ อย่างเดียวหรอก”
   ตุลาเงยหน้ามองผีดิบหนุ่มก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ยังคงยิ้มตอบรับอีกฝ่าย
   “ครับ ...หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
   “จะให้อานอนเป็นเพื่อนยันเช้าดีไหม”
   กริชบอกขณะดูเวลา เพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงพวกเขาจึงจะเริ่มแผนการทดสอบความกล้าในครั้งนี้
   “ง่า...เกรงใจครับ ผมนอนคนเดียวได้อยู่”
   ตุลาบอกเพราะเห็นอธิปหน้าหงิกตอนที่กริชเสนอความเห็น ส่วนพาทิศหัวเราะเบา ๆ แล้วบอกกับทุกคน
ในห้องนั้น
   “ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจะดูแลตุลจนถึงเช้าเอง ยังไงผมเองก็ไม่มีบทบาทอะไรในช่วงเช้าของพรุ่งนี้อยู่แล้ว”
   คนอื่น ๆ หันมาสบตากันแล้วพากันพยักหน้าเห็นด้วย แต่รุ้งพรายก็ยังไม่วายกำชับก่อนจากไป
   “แล้วอย่าใจอ่อนบอกความลับในการทดสอบความกล้าให้ตุลรู้ล่ะ นายยิ่งแพ้ลูกอ้อนตุลอยู่ด้วย!”
   “เออน่า ไม่บอกหรอก ไป ๆ กันสักที ตุลจะได้นอนต่อ...จริงไหม”
   รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับริมฝีปากผีดิบหนุ่มระหว่างพูด ทำให้ตุลาหน้าแดงน้อย ๆ พอจะเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อดี
   “เชอะ! หวานกันนัก หมั่นไส้จริง ๆ ถึงตอนหลอกเมื่อไหร่ แม่จะหลอกให้ขวัญกระเจิงไปเลย”
   รุ้งพรายบ่นงึมงำค่อนข้างดัง ทำเอาตุลาที่ได้ยินเข้าหันไปมองตาปริบ ๆ ส่วนราตรีนั้นหัวเราะน้อย ๆ แล้วตบบ่าเพื่อนสาวให้ใจเย็น ก่อนจะหันมาโบกมืออำลาชายหนุ่มเช่นเดียวกับปิ่นสุดา
   “แล้วเจอกันตอนเช้านะเจ้าหนู”
   อธิปบอกพร้อมกับลากแขนกริชให้เดินตามไปด้วยกัน สร้างความหมั่นไส้ให้วิญญาณหนุ่มยิ่งนัก แต่ก็ยังคงยอมเดินตามไปด้วยแต่โดยดี
    “อีกแค่ไม่ถึงชั่วโมงเองสินะ”
   ตุลามองนาฬิกาพลางพึมพำอย่างเป็นกังวล เขาเหลือบมองไปที่ระเบียงด้วยความหวาดหวั่น แต่ก็ต้องสะดุ้งน้อย ๆ เมื่ออ้อมกอดอันอบอุ่นของคนที่อยู่ด้วยสวมกอดตนจากเบื้องหลัง
   “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถึงทุกคนจะบอกอย่างนั้น แต่ช่วงเช้า พวกเราจะปล่อยให้ตุลกินอาหารและทำธุระส่วนตัวตามปกติให้เรียบร้อยโดยไม่ก่อกวน เพราะฉะนั้นเธอก็ยั
งพอมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจได้อีกตั้งนานเลยทีเดียว”
   คำบอกเล่าของพาทิศทำให้ตุลาต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก เห็นดังนั้นผีดิบหนุ่มจึงหัวเราะเบา ๆ แล้วพลิกร่างของคนรักให้หันกลับมาเผชิญหน้าตน
   “แล้วอย่าบอกรุ้งล่ะว่าฉันแอบบอก เดี๋ยวฉันจะโดนบ่นเข้าให้อีก”

   ตุลายิ้มรับแล้วพยักหน้า จากนั้นพาทิศก็โอบบ่าคนรักให้ไปที่เตียงพวกเขานอนพูดคุยหยอกล้อกันอยู่ตลอดยันเช้า เพราะตุลาเองก็นอนไม่หลับแล้วและพอใกล้หกโมงเช้า แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาในห้องพาทิศก็ขอตัวกลับไปด้านล่างเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้คนรักต่อไปโดยที่ตุลานั้นออกมายืนส่งอีกฝ่ายหน้าห้องก่อนจะรีบหายเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เพราะไม่มั่นใจว่าทุกคนจะเปลี่ยนแผนเป็นโจมตีเขาแต่เช้าไหมนั่นเอง



ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-21 18:52 , Processed in 0.080454 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้