ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 842|ตอบกลับ: 4

ม่านราตรี = ตอนพิเศษ 1 - 2 =

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่

ทว่าก่อนที่เขตแดนของผีดิบหนุ่มจะสมบูรณ์ ตุลาได้ยินเสียงแว่ว ๆบ่นของใครบางคนดังขึ้น เขาหน้าแดงก่ำพลางนึกในใจว่าคิดถูกแล้วล่ะนะที่ขอให้พาทิศทำแบบนี้  จากนั้นเมื่อเขตแดนเสร็จเรียบร้อย ตุลาจึงค่อย ๆหลับตาพริ้ม รอรับจุมพิตอ่อนโยนของคนรักที่มอบให้ตนอย่างมีความสุข อีกครั้ง
ตอนพิเศษ #1
(อธิป-กริช)

   เสียงพูดคุยกระซิบหยอกล้อ ค่อย ๆ เงียบหายจนสัมผัสไม่ได้ ทำให้คนแอบฟังอยู่อีกห้องต้องทำเสียงในลำคออย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
   “ฮึ! เจ้าผีดิบนั่น รังแกหลานฉันอีกแล้วสิท่า”
   อธิปมองคนรักที่ยืนเดินไปเดินมาที่หน้าประตูห้องเขา  แล้วจึงสั่นศีรษะอย่างเอือมระอาตามมา
   “นายกริช หลานนายกับหมอนั่น เขาไปถึงไหนต่อไหนกันตั้งนานแล้ว นายยังจะห่วงจะหวงอะไร
นักหนา หือ?”
   “ก็ร่างกายตุลไม่ค่อยแข็งแรงนี่นา!”
   กริชแก้ตัวพลางหน้าแดงนิด ๆ ที่ต้องมาเถียงกันเรื่องบนเตียงของคนอื่นแบบนี้
   “แค่เป็นฝ่ายรับมันจะอะไรนักเชียว”
   “จะลองเป็นดูมั่งไหมล่ะ!”
  กริชสวนกลับ จนคนฟังต้องทำสีหน้าแหยง ๆ แล้วรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ ทำให้วิญญาณหนุ่มค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้
    “ทำเป็นพูดดี นายนั่นล่ะหื่นตัวพ่อเชียวไอ้หมอผีบ้า นี่ดีนะที่ฉันตายไปแล้ว และไม่มีร่างเนื้อ ไม่งั้นมีหวัง...”
   กริชค้างคำพูด หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าพูดต่อให้จบ ทำให้คนฟังอมยิ้มน้อย ๆ แล้วแกล้งถาม
   “มีหวังอะไร พูดต่อให้จบสิ”
   “มีหวัง...โธ่โว้ย งี่เง่า คืนนี้ฉันนอนที่อื่นดีกว่า!”
   กริชแกล้งโวยวายกลบเกลื่อนแล้วทำท่าจะหายตัวหนีไป แต่ก็ยังช้ากว่าคนที่นั่งบนเตียง เจ้าตัวดีดนิ้วเปาะเดียว ร่างของกริชที่หน้าประตูก็หายวับมาอยู่ตรงหน้า  ก่อนจะถูกเขารวบตัวมานั่งตักของตนเองในเวลาถัดมา
   “ปล่อยนะ! เจ้าหมอผีเฮงซวย! ฉันบอกหลายหนแล้วไงว่าไม่ให้ใช้อาคมกับฉัน!”
   อธิปหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วจึงหอมแก้มของร่างที่ดิ้นโวยวายบนตักของตนเบา ๆ จนร่างนั้นสะดุ้ง
พอกริชดิ้น อธิปก็หอมซ้ำ จนวิญญาณหนุ่มต้องเลือกนั่งนิ่ง ๆ เพื่อไม่ให้ถูกคนรักแกล้งหากำไรจากเขาอีก
   “ถ้าเป็นวิญญาณเรียบร้อย ๆ เหมือนผ้าพับไว้ ฉันจะใช้อาคมทำไม วิญญาณที่ใจร้อน ขี้โวยวาย แถมชอบ
น้อยอกน้อยใจอย่างนาย ขืนไม่สะกดเอาไว้ แล้วหนีไป ฉันก็ลงแดงตายพอดี”
   กริชหน้าแดงก่ำกับคำพูดนั้น เพราะฟังแล้วก็แปลได้อย่างเดียวว่าอีกฝ่ายทั้งหวง ทั้งห่วง และรักเขามาก
จนต้องผูกมัดบังคับกันก็ยอม และเขาเองจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้รังเกียจการแสดงความรักแบบที่อธิปทำกับเขา
เท่าใดนัก เพียงแต่เพราะไม่อยากเสียหน้า จึงต้องทำเป็นเล่นตัวโวยวายออกไปนั่นเอง
   “ไอ้หมอผีหื่น...”
   กริชพึมพำเบา ๆ แล้วซบหน้าลงบนอกกว้างของอีกฝ่าย ทำให้อธิปต้องอมยิ้มน้อย ๆ พลางประคองกอดร่างบางเอาไว้แบบนั้นสักพักใหญ่ จนกริชต้องเงยหน้ามามองอย่างสงสัย
   “จะไม่ทำหรือไง”
   อธิปยิ้มตอบ ก่อนจะแสร้งตีสีหน้าเจ้าเล่ห์แล้วย้อนถามกลับ
   “ทำอะไร?”
   “ก็ทำ...”
   กริชชะงักหน้าแดง แล้วจึงเริ่มโวยวายแก้เขินอีกครั้ง
   “ไม่ทำก็ไม่ทำ ปล่อยได้แล้ว!”
   “โอ๋ ๆ ก็นายไม่อยากนี่ แล้วจะให้ฉันฝืนใจนายได้ยังไงกัน”
   อธิปรีบแก้ตัว ทำให้วิญญาณหนุ่มต้องค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้
   “ทีคืนก่อน ๆ ล่ะ บอกให้พอก็ไม่ยอมหยุด ทีนี้จะมาทำเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมาเชียว!”
   “หมายความว่า ถ้าฉันอยากเมื่อไหร่ก็ทำได้เลย โดยไม่ต้องรอนายอนุญาต?”
   อธิปแสร้งถามด้วยสีหน้าสงสัย ทำให้กริชที่กำลังงอนโพล่งตอบกลับไปอย่างลืมตัว
   “เออ! อยากทำอะไรก็ทำไปสิ!”
   พอพูดจบวิญญาณหนุ่มก็ชะงัก เพราะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากคนรัก และยิ่งมองสีหน้าของอีกฝ่าย ก็เริ่มรู้ตัวว่าตนหลงกลอธิปเข้าให้เสียแล้ว
   “ไอ้หมอผีเจ้าเล่ห์!”
   “นายไม่ชอบคนผิดคำสัญญาใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมคำพูดของตัวเองเมื่อครู่ล่ะ”
   “เออ! อยากทำก็ทำไป ไม่เห็นจะแคร์เลย ก็แค่ฝ่ายรุกแก่ ๆ ทำทีสองทีก็หมดแรงแล้วแท้ ๆ”
   กริชที่โดนไล่ต้อนทำเป็นเชิดหน้าใส่ แต่คำพูดยั่วยุอารมณ์นั่นกลับทำให้อธิปนึกขำ เขาแกล้งทำเป็นซ่อนยิ้มในสีหน้า แล้วจึงเอ่ยออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม
   “พูดแบบนี้มันสบประมาทกันชัดๆ  งั้นเดี๋ยวจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่า ฉันมันแก่แค่อายุ แต่อย่างอื่นยังฟิตปั๋ง
จะทำโต้รุ่งก็ยังไหว!”
   กริชหน้าซีดเผือด พยายามดันกายหนีออกจากอ้อมกอดนั่น แต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งเห็นรอยยิ้ม-เอี้ย-มเกรียมดุดันของคนรัก เขาก็ยิ่งอยากจะร้องไห้กับความปากเก่งของตัวเองเมื่อครู่
   “ง่า...เมื่อกี๊ฉันล้อเล่นน่ะ”
   อธิปแกล้งทำเป็นตีสีหน้าเคร่งขรึม แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
   “สายไปแล้ว นายดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉันอย่างรุนแรงเลยนะนายกริช เพราะฉะนั้นคืนนี้ ฉันจะทำให้นายรู้ด้วยร่างกายของนายเองเลยว่า ฉันน่ะเจ๋งขนาดไหน”
   “อธิป...”
   กริชลากเสียงอ้อน ทำเอาอธิปเกือบหลุดยิ้ม แต่ก็ยังคงเก๊กขรึม แล้วส่ายหน้าช้า ๆ
   “ไม่มีทาง คืนนี้ฉันจะใช้อาคมสร้างร่างเนื้อให้นายเหมือนคราวนั้นด้วย ...รับรองว่าคราวนี้นายจะไม่บ่นเบื่อ หรือหาว่าฉันไร้น้ำยาอีกแน่”
   กริชอยากจะร้องไห้ออกมาเมื่อได้ฟัง เขาพยายามจะดิ้นรนหนี แต่ไม่เป็นผล เพราะสู้อาคมของอีกฝ่ายไม่ได้
   “นายจะรุนแรงกับฉันจริง ๆ หรืออธิป... ไหนนายว่ารักฉันไงล่ะ....จะรังแกกันได้ลงคอเชียวหรือ”
   อธิปแทบจะใจอ่อนยวบยาบ พอเจอใบหน้าหวาน ๆ ที่มีน้ำตาคลอเบ้า อ้อนวอนขอร้องเขา แต่ก็ยังคงพยายามฝืนเกร็งสีหน้าให้เย็นชาไม่ให้หลุดยิ้มออกมาเต็มที่
   “ฮึ...ทีพูดทำร้ายจิตใจกันดันพูดออกมาง่าย ๆ ทีนี้คิดจะมาอ้อนขอ คิดว่าฉันจะใจอ่อนง่าย ๆ หรือไง”
   กริชเงียบกริบพลางนิ่งคิดอย่างแปลกใจ เพราะตามปกติเจอไม้นี้อธิปก็มักจะใจอ่อนกับตนไปแล้ว ถ้าไม่โกรธจริง ๆ ก็มีอีกอย่างเดียวก็คืออีกฝ่ายกำลังหาทางแกล้งเขาอยู่เป็นแน่
   “อย่างนั้นหรือ...งั้นก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำไปเลยแล้วกัน”
   กริชบอกด้วยสีหน้าเศร้าซึม จนคนมองใจหายวาบ เริ่มหลุดร้อนรนออกมาจนวิญญาณหนุ่มจับได้ กริชซ่อนยิ้มในสีหน้า รู้ทันทีเลยว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกรธตนจริงแน่
   “ฉันมันพวกปากไม่ดี ปากเสีย ฉันเองก็รู้ตัว...แต่ฉันคิดว่านายจะรู้ดีเสียอีก ว่าฉันก็แค่พูดไปแบบนั้น ...ฉันคงคิดไปเองสินะ ว่าพวกเราน่ะเข้าใจกันและกันดีกว่านี้น่ะ”
   กริชเริ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ทำเป็นน้อยอกน้อยใจอย่างรุนแรง จนอธิปต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
   “นายอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะอธิป... ถึงนายจะทำรุนแรงกับฉันขนาดไหน ยังไงฉันก็เกลียดนายไม่ลงอยู่แล้วนี่นะ”
   เท่านั้นเองอธิปก็ไม่อาจแกล้งทำเป็นเฉยชาต่อไป หมอผีหนุ่มรีบกอดจูบ ปลอบประโลม และพูดจาเอาอกเอาใจคนรักยกใหญ่ จนกริชต้องลอบยิ้มกับตัวเองน้อย ๆ
   “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ นายจะไม่ทำรุนแรงกับฉันใช่ไหม”
   กริชแกล้งถามเศร้า ๆ ทำให้อธิปต้องพยักหน้ารับหลาย ๆ ครั้งเพื่อยืนยันให้อีกฝ่ายเชื่อใจ
   “สัญญาแล้วนะ งั้นถ้าฉันบอกให้หยุด นายก็ต้องหยุดด้วยนะ”
   “ได้ ๆ ยังไงก็ได้ ....เอ๋?”
   คำขอที่ดูเหมือนจะเอาแต่ใจ ผิดกับสีหน้านั่น ทำให้อธิปเริ่มสงสัย แต่พอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับบนใบหน้าหวานตามมา เขาก็ต้องสบถเบา ๆ ในลำคอที่เสียรู้คนรักเข้าให้อีกจนได้
   “ว่าฉันเจ้าเล่ห์ นายก็ไม่แพ้กันเลยนะนายกริช!”
   “ใครใช้ให้นายแกล้งฉันก่อนล่ะฮึ!”
   กริชสวนกลับ ซึ่งอธิปก็ทำหน้ายุ่ง แต่สักพักเขาก็กอดร่างในอ้อมกอดแน่นขึ้น แล้วจูบใบหน้าของคนรักอย่างเอาอกเอาใจแทน
   “เอาเป็นว่าฉันยอมรับผิดเอง เลิกงอนแล้วดีกันนะ ไม่งั้นเอาแต่งอนกันไปงอนกันมาแบบนี้ มีหวังสว่างไม่ได้ทำอะไรพอดี”
   กริชหน้าแดงระเรื่อ ทั้งฉุนทั้งอายที่อีกฝ่ายวกกลับเข้ามาเรื่องพวกนี้เข้าอีกจนได้
   “ไอ้หมอผีหื่น!”
   “เออ หื่นก็หื่น ยอมรับทุกข้อกล่าวหา เพราะงั้นมาทำกันได้แล้วน่า”
   อธิปเลิกต่อล้อต่อเถียง แล้วจับร่างที่เตรียมจะโวยวายอุ้มลอยขึ้นแล้ววางลงบนเตียงนอนตามมา
   “ยอมรับดี ๆ เถอะน่า นายเองก็ต้องการเหมือนกันใช่ไหม”
   กริชหน้าแดงก่ำ พลางตวาดสวนกลับไป
   “ใครต้องการกัน!”
   “เหรอ...งั้นตกลงคืนนี้จะไม่ให้ทำจริง ๆ น่ะหรือ”
   อธิปแกล้งย้อนถามด้วยสีหน้าสงสัย ทำให้ร่างบนเตียงชะงักกึก หน้าแดงมากขึ้น ก่อนจะอุบอิบตอบเสียงแผ่ว
   “เจ้าบ้า...ฉันไม่ได้หน้าด้านเหมือนนายนะ ...รู้ดีอยู่แล้วจะถามทำไมเล่า”
   “หึ ๆ นาน ๆ ครั้งก็อยากฟังนายพูดบ้างนี่ เอาแบบ อธิปฉันต้องการนาย แบบอ้อน ๆ น่ะ พูดให้ฟังบ้างก็ดีนะ”
   หมอผีหนุ่มทำเป็นจีบปากจีบคอล้อเลียน ทำให้กริชทั้งขำทั้งฉุน แล้วจึงแกล้งเลียนแบบคำพูดอีกฝ่าย
ออกไปบ้าง
   “อธิป...ฉันต้องการนายนะ...รีบ ๆ มาทำเร็วเข้าสิ ขืนให้รอมากกว่านี้ ระวังฉันจะไปหาคนอื่นแทนนะ”
   หมอผีหนุ่มที่เคลิ้ม ๆ ในตอนแรก กับคำหวานอ้อน ๆ ของคนรัก ถึงกับสะดุ้งเฮือกในท้ายประโยค ก่อนจะทำตาดุใส่ทันที
   “ขืนลองทำดูสิ ฉันเอาไอ้ชายชู้นั่นตายแน่ ถ้าหมอนั่นมันเป็นคน ฉันจะเสกตะปูกับหนังควายเข้าท้องมัน
และถ้าเป็นผี ฉันจะจับใส่หม้อ โบกปูนถ่วงน้ำไม่ต้องผุดต้องเกิดตลอดชาติแน่!”
   กริชยิ้มขำ ๆ กับท่าทีหึงหวงของอีกฝ่าย ก่อนจะใช้ฝ่ามือลูบไล้ที่เสื้อของตัวเองเบา ๆ ฉับพลันมันก็ค่อย ๆ สลายไปเองเผยให้เห็นเนื้อหนังขาวเนียนชวนมองแทน
   “ฉันเริ่มจะขี้เกียจรอจริง ๆ แล้วสิ...นายจะหึงอีกนานไหมเนี่ย”
   อธิปกลืนน้ำลายลงคอกับอาหารตาตรงหน้า เขาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกบ้างจนเปลือยเปล่า แล้วจึงใช้มือของตนลูบไล้กางเกงของกริชแผ่วเบา ซึ่งมันก็ได้ผลลัพธ์ตามมาไม่แตกต่างจากเสื้อของวิญญาณหนุ่มเลยทีเดียว
   “เป็นวิญญาณแบบนายมันก็สะดวกดีไปอย่างนะ”
   “หึ...แต่ถ้าเอาแต่หื่นมากอย่างนาย ระวังจะได้ตายก่อนแก่กว่านี้พอดี”
   กริชเอ่ยเตือนอย่างระอา ดีนะที่อธิปเป็นหมอผีจึงมีวิธีป้องกัน ขืนเป็นคนธรรมดา ริอาจมีอะไรกับวิญญาณแบบเขาบ้าง มีหวังได้อายุสั้นโดนสูบพลังวิญญาณจนหมดแน่
   “มือชั้นนี้แล้ว เอาผีมาทำเมียก็หลายครั้ง รับรองไม่มีปัญหา”
   คำพูดนั้นทำให้คนที่กำลังเคลิ้มกับสัมผัสที่ได้รับชะงักกึก แล้วมองคนรักตาขวางทันที
   “เอาผีมาทำเมียบ่อยอย่างนั้นหรือ!”
   อธิปกลืนน้ำลายลงคอ เพราะดันเผลอหลุดปากออกไป ระหว่างที่กำลังคิดแก้ตัว เสียงแหลม ๆ จากมุมหนึ่งในห้องก็ดังขัดขึ้นมา
   “ใช่แล้วค่ะคุณกริช เจ้านายชอบหาเศษหาเลยกับพวกนางไม้ ผีพราย ไม่ก็ผีสาวเอ๊าะ ๆ บ่อยมาก แถมผีสาวพวกนี้ยังติดใจ มาตบตีกันแถวบ้านเจ้านายประจำ จนฉันกับพวกพี่ ๆ ต้องคอยออกไปไล่เพราะรำคาญเลยค่ะ!”
   กริชเงียบกริบ มองไปยังกล่องใส่ของที่ขยับไปมา แต่ของข้างในไม่อาจออกมาได้ เพราะถูกอธิปใช้สายสิญจน์พันผนึกเอาไว้อยู่
   “เฮ้ย! ชบา เอาอะไรมาพูด ... ง่า อย่าไปเชื่อนะนายกริช ยัยนี่ชอบพูดจาเหลวไหลเลอะเทอะแบบนี้ประจำ”
   อธิปที่ถูกลูกน้องเผารีบแก้ตัว ทว่ากริชกลับมองเขาอย่างเย็นชา แล้วจึงเรียกเสื้อผ้าออกมาสวมใส่ร่างกายแบบเดิมอีกครั้ง
   “ถ้างั้นคืนนี้นายก็ไปหาพวกนางไม้อะไรนั่นมาแก้หื่นแทนแล้วกัน ฉันขอตัวก่อนล่ะ!”
   “ดะ เดี๋ยว กริช ไม่จริงน่า ... นายปลุกให้ฉันเริ่มตั้งมาขนาดนี้แล้วแท้ ๆ นายจะปล่อยให้มันค้างคาแบบนี้
หรือไง!”
   อธิปโวยวายลั่น แต่กริชกลับหันขวับมามอง แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
   “แต่ฉันหมดอารมณ์ไปเรียบร้อยแล้ว...และถ้านายคิดจะใช้อาคมบังคับฉันล่ะก็ เราสองคนขาดกันแน่”
   คำพูดสีหน้าแววตา มองดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายเอาจริง และเมื่อกริชหายวับไปจากห้องเขา หมอผีหนุ่มก็หันขวับมามองกล่องที่ใส่หัวกะโหลกของลูกน้องทั้งสาม แล้วขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแค้นเคือง
   “ชบา...นี่เธอ...”
   “ก็ใครใช้ให้เจ้านายพลั้งปากเองล่ะ แล้วถึงฉันไม่พูด เดี๋ยวคุณกริชก็มาคาดคั้นฉันอยู่ดี สู้บอก ๆ ไปเสียเลยดีกว่า ...นี่ล่ะน้า ให้ฉันแอบดูดี ๆ ก็ดีอยู่แล้ว ดันมาผนึกเอาไว้ ไม่ให้ฉันเห็นภาพ แต่ดันให้ได้ยินเสียง กะจะยั่วให้ฉันอกแตกตายเองนี่  แบบนี้เขาเรียกเวรกรรมตามทันไงล่ะคะ!”
   ชบารีบบอกเสียงใสเป็นชุด ก่อนจะทำเป็นหาวยาวแล้วเงียบไป แสดงให้เห็นว่าไม่อยากจะสนทนาต่อ นั่นจึงทำให้หมอผีหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด เพราะอีกฝ่ายก็พูดถูก เขาดันเผลอพลั้งปากเอง และด้วยนิสัยอย่างกริชถ้าอยากรู้จะต้องซักไซ้ไล่ต้อนจนกว่าจะรู้ความจริงเป็นแน่
    “เออ! ฉันมันผิด ทำอะไรก็ผิดไปหมด! โธ่โว้ย! ถึงจะเคยผ่านใครมา แต่ปัจจุบันก็รักนายคนเดียวนะ นายกริช ได้ยินไหม!”
   อธิปโวยวายเสียงดัง ทำให้คนที่หายตัวหนีไปแต่ไม่ได้ไปไหนห่างต้องลอบยิ้มน้อย ๆ ความจริงก็ไม่ได้โกรธอะไรนัก แต่ก็แค่อยากดัดนิสัยคนรักเอาไว้แต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่แอบไปมีเล็กมีน้อยทีหลังอีก
   “คืนนี้ช่วยตัวเองไปก่อนเถอะนะอธิป ไว้จะบริการให้วันหลังแทนแล้วกัน”
   กริชพึมพำพลางอมยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงหายตัวแวบไปที่ห้องสมุดของคฤหาสน์ หยิบหนังสือในนั้นมาอ่านไปพลาง ฮัมเพลงไปพลางอย่างอารมณ์ดีตลอดทั้งคืน ผิดกับอีกคนที่อยู่ในห้องนอน ที่ต้องช่วยตัวเองไปลวก ๆ แถมพอฝัน ก็ยังฝันว่าคนรักนั้นตามมายั่วให้อยากแล้วจากไปให้อารมณ์ค้างซ้ำสองอีกด้วย
   มันช่างเป็นคืนที่แสนโชคร้ายสำหรับหมอผีหนุ่มผู้นี้เสียจริง!
ตอนพิเศษ #2
คืนข้ามปี

   ...วันสิ้นปี หลายบ้านนั้นวุ่นวายกับการจัดเก็บทำความสะอาดบ้านพักอาศัย และมีหลายบ้านที่จัดงานเลี้ยงฉลองกันตามลำพังครอบครัว หรือร่วมกับเพื่อนฝูง  ตุลาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาช่วยพวกพาทิศจัดเก็บกวาด
ที่คฤหาสน์ม่านราตรี ก่อนจะไปฉลองเป็นส่วนตัวกับครอบครัวและญาติฝั่งแม่ที่บ้านของบิดา
   “แย่ชะมัด คิดว่าจะได้เคาท์ดาวน์ปีใหม่กับตุลเป็นครั้งแรกแท้ ๆ”
   รุ้งพรายบ่นอุบ เพราะปีที่แล้วตุลาก็กลับไปฉลองกับที่บ้านแบบนี้เหมือนกัน
   “เอ่อ คุณรุ้งครับ มันจำเป็นนี่ครับ”
   “ใช่ซิ! พวกเรามันไม่ใช่ครอบครัวของตุลนี่นา จะไปสำคัญอะไรกับตุลนักล่ะ!”
   รุ้งพรายประชดอย่างพาล ๆ ด้วยความน้อยใจ เพราะเธอเตรียมของขวัญปีใหม่ไว้เซอร์ไพรส์อีกฝ่ายเรียบร้อย และตุลาก็ทำท่าเหมือนกับว่าจะกลับมาร่วมเคาท์ดาวน์ที่คฤหาสน์ได้ ทว่าเพราะปีนี้มีญาติ ๆ มาด้วย ทำให้กำหนดงานเลี้ยงดำเนินยาวไปจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งก็ทำให้ชายหนุ่มต้องค้างที่บ้านเดิมไปโดยปริยาย
   “ไม่ใช่นะครับคุณรุ้ง”
   ตุลาบอกด้วยสีหน้าลำบากใจ ทำให้พาทิศที่เฝ้ามองอยู่ต้องมาช่วยคนรักพูดอีกเสียง
   “อย่าทำให้ตุลลำบากสิรุ้ง เธอก็น่ารู้ดีไม่ใช่หรือ ว่าตุลให้ความสำคัญกับพวกเราแค่ไหนน่ะ”
   รุ้งพรายชะงัก ปีศาจสาวในร่างแมวเมินมองไปอีกทาง แล้วทำเสียงฮึในลำคอเบา ๆ
   “ฉันเข้าใจ แต่แล้วไงล่ะ พวกเราก็อยากใช้ช่วงเวลาพิเศษร่วมกับเขาเหมือนกันนี่!”
   “แค่มีตุลอยู่ด้วยทุกวันก็เป็นวันพิเศษแล้วล่ะ เทียบกับทางนั้นที่ตุลจะได้กลับไปหาแค่นาน ๆ ครั้ง หรือช่วงเทศกาลสำคัญแล้ว เธอไม่คิดว่าพวกเราจะมีความสุขกว่าเขาหรือ”
   พาทิศเตือนสติ ทำให้รุ้งพรายนึกขึ้นมาได้ ปีศาจแมวสาวเดินเข้ามาคลอเคลียไถขาของตุลา ทำให้ตุลายิ้มออกและอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมากอด
   “ขอโทษนะตุล ฉันนี่แย่จริง ๆ พาลใส่ตุลแบบนี้”
   “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจดี”
   รุ้งพรายซุกศีรษะซบกับอกของอีกฝ่ายนิ่งสักพัก แต่แล้วก็ต้องหลุดร้องเมี้ยวดังลั่น เมื่อถูกมือของใครบางคนจับหลังคอเธอ และหิ้วขึ้นมา
   “ซบพอแล้ว นานกว่านี้มีเคืองแน่”
   “ปล่อยฉันนะ! ไอ้ซอมบี้ขี้อิจฉาเอ๊ย!”
   รุ้งพรายโวยวายลั่นออกไปข้างนอก ทำให้ราตรีที่นั่งคุยกับปิ่นสุดาต้องเหลือบไปมองตามทิศที่มาของเสียง แล้วสั่นศีรษะอย่างเอือมระอาแทบจะพร้อม ๆ กัน
   “อีกปีแล้วสินะ ที่ตุลมาอยู่กับพวกเรา เวลานี่มันผ่านไปเร็วจังเลยนะ”
   ราตรีเปรยเบา ๆ ซึ่งปิ่นสุดาที่นั่งเล่นอยู่ปากบ่อก็ยิ้มรับ
   “นั่นสิคะ จะว่าไปฉันยังจำตอนคุณตุลเป็นเด็กได้อยู่เลยนะคะเนี่ย ตอนนั้นคุณตุลน่ารักมาก แก้มงี้ยุ้ยน่าดึง
เล่นเชียว”
   ราตรีหัวเราะเบา ๆ อย่างเห็นด้วย ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นกริชกับอธิปออกมาเดินเล่นด้วยกันที่สวน
   “คู่นั้นก็เหมือนกันนะปิ่น ตอนแรกไม่คิดว่าจะลงเอยแบบนี้ แล้วดูเข้าสิ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าอีตาหมอผีลามกนั่น จะไปคู่กับคุณกริชได้ เสียของจริง ๆ ผู้ชายดี ๆ ยิ่งมีน้อยอยู่ ถึงจะเป็นวิญญาณก็เถอะ”
   ราตรีบ่นอุบ เพราะเธอไม่ค่อยชอบความทะลึ่งทะเล้นที่อธิปมี แต่พอได้กริชเป็นแฟน หมอผีหนุ่มก็ดูเพลาพฤติกรรมเหล่านั้นลงไปมากทีเดียว
   ทางด้านอธิปนั้นกระแอมเบา ๆ อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะดันหูดีได้ยินผีสาวนินทาเอาเข้าเต็มเปา
เขาเหลือบมองราตรีที่พอเห็นหน้าเขาเข้าก็ค้อนขวับให้ทันที
   “ฉันไปทำอะไรให้หล่อนโกรธนะ ถึงได้คอยตั้งแง่เป็นไม้เบื่อไม้เมาแบบนี้ตลอด”
   อธิปบ่นอุบ ทำเอากริชหันมาเหลือบตามองอย่างนึกหมั่นไส้
   “ทีงี้ทำเป็นไม่จำ ไปจีบ ไปแซว ไปลวนลามผ่านคำพูดกับเขามาเป็นปี เขาไม่ด่าให้ทุกครั้งที่เจอหน้าก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
   กริชเปรยเรียบ ๆ ทำเอาอธิปสะดุ้ง แล้วรีบโอบร่างโปร่งมากอดหลวม ๆ อย่างประจบ
   “โธ่เอ๊ยนายกริช นั่นมันวิธีตีสนิท ไม่ได้ตั้งใจจีบจริง ๆ ซักหน่อย ใช่มั้ยจ๊ะ แม่ผีคนสวย”
   อธิปรีบหันไปหาราตรีเพื่อให้ช่วยพูด ราตรีเหลือบมามองอีกฝ่าย แล้วซ่อนยิ้มในสีหน้า ก่อนจะหันมาทางกริช แล้วเอ่ยขึ้น
   “ก็คงอย่างที่เขาว่าล่ะค่ะคุณกริช ...คุณอธิปคงไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ถึงได้เคยแกล้งทำเป็นเนียนกอดฉัน แล้วบอกว่าเข้าใจผิดเป็นคุณน่ะ”
   กริชชะงักกึก แล้วหันมามองอธิปเขม็ง จนหมอผีหนุ่มหน้าซีดเผือด
   “ง่า...นั่นมันเรื่องเมื่อปีที่แล้วตอนที่ฉันเข้ามาใหม่ ๆ แถมหัวใจก็ยังว่างอยู่นะนายกริช ...ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ ไม่มีอีกแล้วแน่นอน”
   “แสดงว่าเรื่องจริงสินะ”
   “มันก็จริง...”
   อธิปบอกเสียงอ่อย แต่ก็ต้องรีบแก้ตัวตามมาเมื่อกริชเมินใส่เขาด้วยความงอน
   “โธ่เอ๋ยนายกริช นายก็รู้นิสัยฉันดี เห็นผู้หญิงสวย ๆ ก็อดหยอกล้อนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้ แต่ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเกินเลยไปกว่านั้นนี่นะ”
   “ใช่...ฉันรู้จักนายดี ไม่ทำอะไรเสียหายเกินเลย ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดไฟเขียวให้ใช่ไหมล่ะ!”
   กริชประชด ทำให้หมอผีหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ ราตรีเห็นดังนั้นก็ลอบยิ้มนิด ๆ สะใจที่เห็นอธิปโดนเล่นงานกับเขาบ้าง ถึงแม้เธอจะไม่ได้เกลียดอะไรอีกฝ่ายนัก แต่ก็ขอแก้แค้นคืนเรื่องที่เคยโดนแกล้งเมื่อก่อนบ้างล่ะ
   “ไม่เอาน่าอย่างอนสิ ใกล้ปีใหม่แล้วนะ คนดี๊คนดียกโทษให้สามีผู้น่ารักคนนี้เถอะนะ”
   กริชหน้าแดงวาบต่อคำพูดของอีกฝ่าย ปิ่นสุดานั้นหลุดกรี๊ดเบา ๆ แล้วหันไปซุบซิบกับราตรีทันที
   “ดูสิราตรี เรียกแทนตัวว่าสามีด้วย แสดงว่าเมื่อคืนก่อนที่ผ่านมา ที่ฉันได้ยินแว่วใครเรียกเมียจ๋าอย่าโกรธผัวเลยอะไรนั่น ก็ไม่ได้หูฝาดล่ะสิ”
   กริชกับอธิปสะดุ้งเฮือก หันขวับไปที่เงือกสาวแทบจะพร้อมกัน ดูเหมือนว่าปิ่นสุดาจะรู้ตัวเธอแสร้งทำเป็นยิ้มหวานแล้วกระโดดลงไปหลบในบ่อของตน จนคนมองต้องทำตาปริบ ๆ
   “เฮ้อ! ยังไงก็น่าเสียดายจริง ๆ นั่นล่ะ  เอาเถอะ ฉันเข้าใจนะคะคุณกริช ว่าคนเรามักชอบอะไรที่ตรงข้ามกับตัวเอง ...แต่ยังไงมันก็เหมือนสาวสวยกับสัตว์ป่าลามกอยู่ดีล่ะนะ”
   ราตรีพึมพำแล้วหายตัววับกลับเข้าซุ้มดอกราตรีของเธอ เหลือแต่เพียงชายหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่ แล้วเป็นกริชที่หันขวับมามองอธิปเขม็ง
   “ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าเรียกแบบนั้น ถ้าจะเรียกให้กางเขตแดนก่อนไง เจ้าหมอผีบ้า!”
   “ก็ลืมไปนี่นาว่าบ้านหลังนี้มันหูผี จมูกมด กันทั้งนั้น”
   อธิปบอกพลางยิ้มเจื่อน ๆ แล้วก็รีบวิ่งตามง้อเมื่อกริชหายตัวหนีไปด้วยความโมโหปนอาย ซึ่งกว่าวิญญาณหนุ่มจะหายงอนได้ อธิปก็ต้องไปเรียกตุลาให้มาช่วยกล่อมด้วยอีกคน
   ตกบ่ายของวันนั้น ตุลาก็ออกเดินทางจากคฤหาสน์ม่านราตรีกลับไปร่วมงานเลี้ยงสิ้นปีกับครอบครัวที่บ้านเดิมของเขา ทำเอาสมาชิกที่เหลือมีสีหน้าห่อเหี่ยวไปตาม ๆ กัน
   “แล้วทำไมไม่ชวนพวกพี่ชายกับพี่สะใภ้นายมาอยู่เสียด้วยกันเลยล่ะนายกริช เจ้าหนูนั่นจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา”
   อธิปเสนอความเห็น ทำเอารุ้งพรายในร่างแมวหูกระดิก แล้วมองไปที่กริชอย่างสนใจ
   “นายจะหาเรื่องให้พี่ชายกับพี่สะใภ้ฉันหัวใจวายตายหรือไง...อีกอย่างถ้ารู้ว่ามีภูตผีอยู่เป็นฝูงแบบนี้พี่ไกรมีหวังลากตัวตุลกลับ แล้วจ้างหมอผีมาทำพิธีขับไล่พวกนี้หมดแน่”
   “พี่ชายนายไม่ชอบผี?”
   “เออ! ถึงไม่แสดงออกเท่าตุล แต่รายนั้นทั้งเกลียดทั้งกลัวผีมากเลยทีเดียว ส่วนพี่สะใภ้ฉัน ไม่แสดงออกอะไรเลยว่ากลัว แต่บทจะเป็นลมก็เป็นไปเลยโดยไม่มีเตือนล่วงหน้าน่ะ”
   อธิปกับคนอื่น ๆ มองกริชตาปริบ ๆ แล้วต่างก็พึมพำนินทากันเบา ๆ
   “แสดงว่าสายเลือดกลัวผีนี่เป็นกรรมพันธุ์สินะ”
   อธิปเปรยค่อย ๆ แต่ทำให้คนที่เล่าเรื่องสะดุ้งเฮือก ก่อนจะแสร้งทำเป็นกลบเกลื่อนท่าทีด้วยการวางเฉย ทว่าปฏิกิริยาเมื่อครู่นั้นอยู่ในสายตาของทุกคนหมดเรียบร้อย
   “อืม...หวังว่าอาการกลัวผีของครอบครัวนั้น คงไม่ได้เกิดจากกรณีเดียวเหมือนที่ตุลเคยโดนใช่ไหมครับ”
   พาทิศเปรยถามอย่างสงสัย ทำเอาคนอื่นหันมองผีดิบหนุ่มและกริชสลับไปมา
   “เอ๋? เกี่ยวอะไรกับตุลด้วยหรือ มันเรื่องอะไรกันคะ คุณกริช”
   รุ้งพรายถามอย่างแปลกใจ แต่กริชนั้นเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่ยอมตอบ ทำให้อธิปที่เฝ้ามองอยู่และรู้นิสัยอีกฝ่ายดีพอจะเดาได้ในที่สุด
   “หรือว่า นายไปแกล้งจนพวกเขาจากที่เฉย ๆ เลยกลายเป็นกลัวผีฝังใจไปน่ะ”
   กริชสะดุ้ง แล้วเงียบไป ทว่าพอถูกสายตากดดันของทุกคนที่มองมา เขาก็เม้มปากแน่นก่อนจะหันมาโพล่งใส่อย่างหงุดหงิด
   “ก็ใช่! ก็ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นอยากรู้อยากลองอยู่นี่นา แล้วก็สนุกด้วยที่เห็นพี่ชายกับพี่สะใภ้กลัวน่ะ ส่วนตุลก็แค่อยากแหย่หลานเล่น ๆ ใครจะรู้ว่าจะกลัวกันขนาดนี้เล่า!”
   คนอื่น ๆ เงียบกริบ ภาพพจน์ดี ๆ ที่เคยสะสมมาของอีกฝ่ายเริ่มพังทลายลงช้า ๆ อธิปถอนหายใจเบา ๆ แล้วลูบศีรษะคนรักค่อย ๆ
   “ช่วยไม่ได้ นายมันชอบเล่นชอบทดลองอะไรห่าม ๆ มาตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่แล้วนี่เนอะ”
   “เชอะ! คนเรามันก็เคยมีเรื่องที่ทำผิดพลาดกันบ้างสิ ตอนนี้ฉันก็เสียใจอยู่เหมือนกันนะ กับเรื่องที่เคยทำลงไปน่ะ”
   กริชรีบแก้ตัว แต่อธิปและคนอื่น ๆ มองมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะหวนนึกถึงตอนทดสอบความกล้า
ครั้งก่อนโน้นที่อีกฝ่ายเป็นคนวางแผน แม้จะบอกว่าทำไปเพื่อลองใจตุลา แต่สีหน้าระรื่นยามที่แผนการสำเร็จนั่น มันก็ทำให้พวกเขาพูดอะไรแทบไม่ออก และไม่อยากบอกตุลาให้รู้ด้วย เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะน้อยใจ
อีกอย่างถึงจะพูดออกไป แต่กริชก็มีวิธีกลับดำเป็นขาว ทำให้ตุลาชื่นชมตนเองได้เสมออยู่แล้ว
   “อธิป...ไม่เชื่อที่ฉันพูดหรือ”
   กริชสบตากับคนรักแล้วทำเสียงอ้อน ๆ จนอธิปต้องกลืนน้ำลายลงคอ แล้วรีบบอก
   “เชื่อสิ จะไม่เชื่อได้ไงล่ะ”
   กริชลอบยิ้มน้อย ๆ ทำเอาพาทิศ ราตรี และ รุ้งพราย ต้องมองตากันปริบ ๆ ก่อนจะสั่นศีรษะอย่างระอา
แล้วแยกย้ายกันไปคนละทาง เพราะดูเหมือนทั้งคู่จะเริ่มสร้างโลกส่วนตัวของพวกเขาขึ้นมาเสียแล้ว
   เสียงเพลง เสียงดนตรี จากในหมู่บ้านดังแว่ว ๆ มาจนถึงคฤหาสน์ม่านราตรี ที่ตอนนี้ค่อนข้างจะเงียบเหงา เพราะสมาชิกในคฤหาสน์ไม่มีแก่ใจจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์อย่างคนอื่นเขาเลยสักนิด
   “ป่านนี้ตุลคงกำลังสนุกอยู่แน่ ...ฮึ!”
   รุ้งพรายบ่นพึมพำ เธอและคนอื่น ๆ มานั่งเล่นกันที่ซุ้มดอกราตรี เพราะขี้เกียจนั่งเหงาจับเจ่าอยู่แต่ในคฤหาสน์นั่นเอง
   “อืม...หรือไม่ก็กำลังถูกสาว ๆ หลีอยู่ ญาติฝั่งแม่เด็กนั่น มีแต่สาวเอ๊าะ ๆ ทั้งนั้นเลยไม่ใช่หรือ”
   อธิปที่พอจะจำได้เอ่ยกระเซ้าผีดิบหนุ่ม แต่กริชนั้นลอบมองคนรักแล้วเปรยขัด
   “สาวเอ๊าะ ๆ ที่นายเห็นเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้ก็กลายเป็นรุ่นป้ากันหมดแล้วมั้งนั่น”
   หมอผีหนุ่มชะงักกึก แล้วทำท่ากอดอกสยองเมื่อจินตนาการถูกทำลายจนย่อยยับ
   “หมดกันนายกริช นายทำฉันสยองส่งท้ายปีเลยนะเนี่ย”
   อธิปบ่นอุบเรียกเสียงฮึเบา ๆ จากวิญญาณหนุ่ม พร้อมกับเสียงเปรยประชดตามมา
   “อยากเห็นสาว ๆ สวย ๆ ก็ไปเรียกพวกนางไม้กิ๊กเก่านายมาสิ!”
   “แหม ๆ บอกแล้วไงว่าเลิกหมดแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนสเป็คมาเป็นแบน ๆ ขาว ๆ เร่าร้อน เซ็กซี่ใกล้ ๆ นี่แทน
แล้วล่ะ”
   อธิปหยอดคำหวานแต่ดูเหมือนจะทำให้คนฟังโมโหเสียมากกว่า เพราะหมอผีหนุ่มเล่นพูดจาไม่ดูสถานที่เลยว่ามีคนอื่นนั่งอยู่ด้วยหรือไม่
   “คืนนี้อย่าหวังจะได้ยุ่งด้วยเลย!”
   กริชกระซิบขู่อย่างหมั่นไส้ ทำเอาหมอผีหนุ่มต้องรีบอ้อนประจบ ภาพที่เห็นทำให้พาทิศรู้สึกคิดถึงตุลาขึ้นมาบ้างเช่นกัน
   “ไม่โทรไปหาล่ะพาทิศ ถ้าแค่คุยโทรศัพท์คงปลีกตัวมาได้หรอกนะ”
   ราตรีเสนอเพราะหันไปเห็นใบหน้าหมอง ๆ ของเพื่อนชายเข้าพอดี
   “อ๊ะ! จริงด้วย พวกเราก็เคาท์ดาวน์ผ่านทางโทรศัพท์กับตุลก็ได้นี่นา เร็วเข้า ไปโทรกันเถอะ!”
   รุ้งพรายรีบขัดอย่างดีใจ ทว่าอธิปกลับเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือ แล้วหันไปมองปีศาจแมวสาว
   “นี่แม่เหมียว นี่เพิ่งสี่ทุ่มเองนะ ถ้าใช้เบอร์บ้านโทรเข้ามือถือหมอนั่น รับรองเดือนนี้เจ้าหนูจ่ายค่าโทรศัพท์
ตรึมแน่”
   อธิปรีบแย้ง ทำเอารุ้งพรายต้องหันกลับมามอง
   “งั้นใช้มือถือของลุงโทรแทนได้เปล่าล่ะ”
   รุ้งพรายบอกแล้วยิ้มหวาน แต่อธิปนั้นกลับแค่นหัวเราะแล้วเปรยไปมองที่กริชซึ่งทำเฉไฉมองไปทางอื่น
   “ฉันโดนยึดโทรศัพท์ไปแล้ว แถมโดนหักซิมทิ้งอีก แค่มีสาวโทรมาคุยด้วยตามประสาคนคุ้นเคยแท้ ๆ”
   “คุ้นเคย? คนคุ้นเคยเขาไม่จ๊ะจ๋ากันหวานฉ่ำอย่างนั้นหรอกนะ อีกอย่างหักซิมทิ้งไปก็ดีแล้วนี่ จะได้ไม่ต้องคอยเติมเงินให้สิ้นเปลืองไง แล้วนายก็เลิกอาชีพหมอผีแล้วด้วย ไม่เห็นจำเป็นต้องพกโทรศัพท์เอาไว้กับเขาเลย...
จริงไหม”
   กริชบอกแล้วยิ้มหวานเย็นชาให้ ทำเอารุ้งพรายต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ แล้วขยับไปห่างอย่างนึกกลัว
ส่วนอธิปได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน ๆ แล้วพยักหน้ารับอย่างขัดไม่ได้
    “จ้า ที่รัก นายพูดถูกทุกอย่างเลย ไม่ผิดเลยสักนิดเดียว”
   กริชทำเสียงฮึในลำคออย่างหมั่นไส้เพราะรู้ดีว่าถูกประชด จากนั้นเขาจึงหันไปทางพาทิศแล้วบอกกับอีกฝ่าย
   “ใกล้ ๆ เที่ยงคืนแล้วโทรไปสิ เพราะพอใกล้เที่ยงคืน พวกผู้ใหญ่ทางโน้นก็คงเมาแอ๋กันหมดแล้วล่ะ ตุลก็คงจะว่างพอดี”
   ผีดิบหนุ่มยิ้มรับอย่างขอบคุณ จากนั้นรุ้งพรายก็ชวนปิ่นสุดา และราตรี คิดคำอวยพรปีใหม่ที่จะใช้พูดกับอีกฝ่ายตอนเที่ยงคืนของวันนี้ ทั้งหมดกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อธิปกอดเอวกริชหลวม ๆ แล้วหอมแก้มวิญญาณหนุ่มฟอดใหญ่ ระหว่างที่ยืนดูทุกคนนั่งคิดคำอวยพร ทำเอากริชหน้าแดงแล้วหยิกแขนหมอผีหนุ่มแรง ๆ
โทษฐานทำรุ่มร่ามไม่เข้าท่า จนสาว ๆ ต้องหันมาอมยิ้มน้อย ๆ แล้วหันกลับไปนั่งคิดคำอวยพรของพวกหล่อนกันต่อไป
   พอถึงเวลาเกือบเที่ยงคืน พาทิศก็ต่อสายไปหาคนรักของเขา โดยมีคนอื่น ๆ ล้อมวงโทรศัพท์ ที่ตอนนี้เปิดลำโพงให้ได้ยินเสียงปลายสายกันถ้วนหน้า
   “สวัสดีครับ ตุลาพูดครับ”
   ตุลารับโทรศัพท์อย่างแปลกใจที่เห็นเบอร์จากคฤหาสน์ม่านราตรีโทรเข้ามา แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทักทายดังขึ้นหลายเสียง
   “เอ๋...เกิดอะไรกันขึ้นหรือครับนั่น”
   “ทุกคนอยากเคาท์ดาวน์ไปพร้อมกับตุลน่ะ ตุลยุ่งอยู่หรือเปล่า”
   พาทิศเอ่ยถาม เสียงปลายสายเงียบไปสักพัก พวกเขาได้ยินเหมือนตุลาคุยอะไรบางอย่างกับใครสักคน จากนั้นจึงมีเสียงดังขึ้น
   “ตอนนี้ไม่ยุ่งแล้วล่ะครับ ...คุยได้ตามสบายเลย”
   “สนุกไหมงานเลี้ยง”
   “สนุกดีครับ แต่ถ้ามีทุกคนอยู่ด้วยคงยิ่งสนุกกว่านี้”
   ตุลาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้คนฟังแต่ละคนอมยิ้ม โดยเฉพาะผีดิบหนุ่มยิ่งอยากเห็นหน้าคนรัก
แล้วหอมแก้มสักฟอดใหญ่ ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณความน่ารักของอีกฝ่าย
   “ตุล! พวกเราคิดคำอวยพรปีใหม่เอาไว้ให้นายด้วยนะ”
   เสียงรุ้งพรายแทรกขัดเข้ามา แล้วก็ตามมาด้วยราตรี กับปิ่นสุดา ที่บอกให้ตุลากลับบ้านพรุ่งนี้ไว ๆ พวกเธอจะได้จัดปาร์ตี้งานปีใหม่ให้กับชายหนุ่มตั้งแต่เช้า
   “ครับ ๆ อยากกลับให้ถึงบ้านจะแย่อยู่แล้ว คิดถึงทุกคนที่สุดเลยครับ”
   ตุลาบอกตามมาอย่างร่าเริง แล้วหลุดร้องอ๊ะเบา ๆ ก่อนเงียบไป ทำให้ทุกคนตกใจถ้วนหน้า
   “เป็นอะไรไปตุล!”
   กริชรีบถามอย่างเป็นห่วง เสียงหัวเราะแห้ง ๆ ดังเข้ามาก่อน แล้วปลายสายจึงดังขึ้นอีกครั้ง
   “หกล้มน่ะครับ พอดีมัวแต่คุยไม่ได้มองทาง”
   กริชกับคนอื่นขมวดคิ้วยุ่ง ส่วนอธิปถอนหายใจเฮือกใหญ่
   “ระวังหน่อยสิเจ้าหนู เดี๋ยวทางนี้ก็รีบหายตัวแจ้นไปหาเพราะห่วงหรอก”
   หมอผีหนุ่มเอ่ยพาดพิงคนใกล้ตัว ทำให้กริชหันมาค้อนขวับ แล้วคุยกับหลานชายต่อ
   “พวกพี่ไกร กับพี่สาเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”
   “สบายดีทั้งคู่ครับ พ่อยังบ่นถึงอาให้ผมฟังอยู่เลย ว่าถ้าอายังอยู่คงได้มาฉลองด้วยกัน”
   กริชรับฟังยิ้ม ๆ เขารู้ว่าพี่ชายรักเขามาก และเขาเองก็รู้สึกผิดต่อพี่ ที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตนี้โดยไม่ได้ปรึกษาอีกฝ่าย ถ้าเกรียงไกรรู้ คงโกรธและผิดหวังในตัวเขามากทีเดียว
   “ตอนนี้คุยอยู่ที่ไหนเนี่ย ถ้าอยู่นอกบ้านก็เข้าบ้านไปก่อน อากาศค่อนข้างเย็นนะวันนี้ ระวังจะเป็นหวัด”
   กริชถามอย่างเป็นห่วง เสียงหัวเราะอ่อย ๆ ดังขึ้นปลายสายชวนให้สงสัย แต่พอจะถาม รุ้งพรายก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
   “คุณกริช! อย่ามัวแต่ชวนคุยสิคะ ตุล! อีกห้านาทีเองนะ มาเตรียมนับถอยหลังกันได้แล้วเร็วเข้า!”
   กริชชะงักกึก ก่อนจะยอมปล่อยให้สาว ๆ ล้อมวงโทรศัพท์และตัวเขาถอยออกมายืนห่าง ๆ เช่นเดียวกับพาทิศและอธิป
   “โดนแย่งเจ้าหนูไปแล้วนะนาย”
   อธิปเอ่ยแซวพาทิศที่ยืนยิ้มมองสาว ๆ ที่กำลังแย่งกันคุยกับตุลาอยู่ ผีดิบหนุ่มหันกลับมาแล้วบอกพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ
   “ไม่เป็นไรหรอกครับ นาน ๆ ที”
   “เหอะ ๆ นั่นสิ  ปกติเจ้าหนูก็ขลุกอยู่แต่กับนายทั้งกลางวันกลางคืนนี่นะ”
   อธิปเปรย ทำเอาคนข้าง ๆ คิ้วกระตุกขึ้นมานิด ๆ ด้วยความหวงหลานชาย แต่ก็ต้องหันกลับไปอีกทางเมื่อได้ยินเสียงอุทานอย่างตื่นเต้นของรุ้งพรายดังขึ้น
   “ต๊าย! อีกนาทีเดียวเท่านั้น เอาล่ะนะ เริ่มนับถอยหลังกันล่ะ ....ตุล ยังฟังอยู่หรือเปล่า!”
   รุ้งพรายตะโกนถามด้วยความแปลกใจ เพราะคุย ๆ กันอยู่เสียงตุลาก็หายไปจากโทรศัพท์เสียเฉย ๆ แถมยังได้ยินเสียงลมแว่ว ๆ เข้ามาในสายอีกต่างหาก
   “ตุล! เป็นอะไรยังฟังอยู่หรือเปล่า”
   กริชถามขึ้นบ้าง แม้แต่พาทิศเองก็เริ่มชักจะวางเฉยไม่ไหว
   “ตุล...ได้ยินพวกเราไหม”
   เสียงเงียบไปจนทุกคนใจคอไม่ดี และก่อนที่กริชจะตัดสินใจหายตัวกลับไปดูหลานชายที่บ้านเดิม เขาก็ต้องชะงักกึก เช่นเดียวกับทุก ๆ คนที่อยู่ในคฤหาสน์นั่น เมื่อได้ยินเสียงรั้วบ้านเปิดออก พร้อมกับร่างหนึ่งที่เพิ่งมาถึง
   “ตุล!”
   ทุกคนทิ้งโทรศัพท์วิ่งไปที่หน้าบ้าน พวกเขาเห็นตุลายิ้มกว้าง แล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นมา
   “ยังเหลืออีกสิบวินะครับ”
   ตุลาโชว์นาฬิกาบนมือถือของเขาให้ทุกคนเห็น รุ้งพรายชะงักก่อนหันไปสบตากับคนอื่น ๆ ทุกคนมีรอยยิ้มกลับมา แล้วเริ่มนับถอยหลังตามเวลาที่เหลืออยู่
   “5... 4 ... 3...2 ...1  สวัสดีปีใหม่!”
   เสียงประสานด้วยความยินดีดังกังวานไปทั่วคฤหาสน์ม่านราตรี  และหลังจากที่ต่างคนต่างอวยพรปีใหม่กันเรียบร้อย ตุลาก็ถูกพาเข้ามาในบ้าน ส่วนพาทิศก็ไปชงนมอุ่น ๆ มาให้ชายหนุ่มดื่มแก้หนาว เพราะทั้งหน้า
และทั้งมือของอีกฝ่ายนั้นเย็นเฉียบไปหมด
   “ดูสิ มือเย็นเชียว เหลวไหลจริง ๆ  ทำไมถึงกลับมาคนเดียวดึก ๆ แบบนี้  รู้ไหมว่ามันอันตรายมากน่ะ”
   กริชบ่นใส่หลานชาย เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่รุมดุชายหนุ่มราวกับเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ตุลายิ้มแห้ง ๆ แล้วบอกเสียงอ่อย
   “ก็ผมคิดถึงทุกคนนี่ครับ อย่างน้อยก็อยากจะมาร่วมเคาท์ดาวน์ด้วยกัน เลยขออนุญาตพ่อกับแม่ออกมาก่อน”
   พอได้ยินคำพูดของตุลา คนอื่น ๆ ก็พากันโกรธไม่ลง และต่างมีรอยยิ้มให้เหมือนเดิมก่อนหน้านั้น
   “แล้วพี่ไกรยอมปล่อยหลานมาง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ”
   กริชถามอย่างสงสัย ซึ่งตุลาก็หันไปยิ้มให้กับผู้เป็นอา แล้วบอกออกไปตามตรง
   “ผมบอกว่ามีคนสำคัญรออยู่ครับ...พ่อกับแม่ก็ไม่ซักอะไรมาก แต่พวกท่านบอกว่า ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็เล่าให้ฟังบ้างแล้วกัน”
   คำพูดของตุลาทำเอาทุกคนตาเบิกกว้าง แม้แต่กริชเองก็ยังตกใจด้วยเช่นกัน
    “หรือว่าทั้งคู่พอจะรู้ระแคะระคายบ้างแล้ว”
   กริชพึมพำ แต่อธิปนั้นเหลือบไปมองคนรัก แล้วเปรยขึ้นบ้าง
   “ถ้าได้อ่านนิยายของเจ้าหนูเรื่องแรกนั่น แล้วไม่คิดว่ามันเป็นแค่นิยายก็คงพอจะเดาอะไรออกได้บ้างล่ะ”
   คำพูดของอธิปทำให้คนอื่นหันมาสบตากันอย่างเป็นกังวล แต่ตุลานั้นกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน
   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าพวกท่านไม่ยอมรับ ผมก็จะพยายามอธิบายจนกว่าพวกท่านเข้าใจ ...แต่ผมเชื่อ
นะครับ ว่าพวกท่านจะต้องชอบพวกคุณเหมือนกับผมแน่นอน”
   สมาชิกในม่านราตรีหันมาสบตากัน แล้วต่างมีรอยยิ้มมอบให้กับเจ้าของบ้านคนปัจจุบันกันถ้วนหน้า
   “แน่นอน ก็พวกท่านเป็นพ่อแม่ของเธอนี่นะ”
   พาทิศบอกพร้อมรอยยิ้ม ตุลายิ้มน้อย ๆ ตอบคนรัก จากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันถึงการเตรียมตัวต้อนรับพ่อแม่ของชายหนุ่ม ซึ่งตุลาก็รีบร้องห้ามเสียงหลง เพราะรุ้งพรายเตรียมเสนอการต้อนรับแบบจัดหนักเพื่อเสริม
ภูมิต้านทานให้ทั้งคู่ ทางด้านกริชนั้นหัวเราะเบา ๆ แต่ก็แอบนิ่งคิดอะไรเงียบ ๆ อย่างสนใจเช่นกัน ทำเอาตุลาต้องหันมามองอาของตนตาปริบ ๆ เลยทีเดียว
   จากนั้นเวลาก็เริ่มล่วงเข้าสู่ตีหนึ่ง ตุลาหาวขึ้นเบา ๆ เพราะความง่วง ทุกคนจึงแยกย้ายกันไป และปล่อยให้ตุลาขึ้นไปนอนพักผ่อน ชายหนุ่มเอ่ยลาและกล่าวสวัสดีปีใหม่ทุกคนอีกครั้ง เขาเดินขึ้นชั้นสองไปพร้อมกับพาทิศ ก่อนจะหยุดมองลงมารอบ ๆ ทั่วคฤหาสน์ พลางพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา
   “สวัสดีปีใหม่นะม่านราตรี  ปีนี้ก็ขอฝากตัวด้วยอีกเหมือนเดิมนะ”



นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
52
Zenny
153
ออนไลน์
2 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-8-9 18:06:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1720
Zenny
700
ออนไลน์
252 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-2 20:03:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
10067
Zenny
2602
ออนไลน์
705 ชั่วโมง
โพสต์ 2018-1-10 15:40:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
27
พลังน้ำใจ
3954
Zenny
3459
ออนไลน์
832 ชั่วโมง
โพสต์ 2018-2-20 23:58:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-27 12:02 , Processed in 0.098338 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้