{นิยาย} ร.ด. หฤโหด โดย หนุ่มน.ศ

หนุ่มบ้านนา

รื่อง   ร.ด. หฤโหด
โดย    หนุ่มน.ศ.
=================================

สวัสดี ครับทุกท่าน ผมกลับมาแล้วครับ กลับมาพร้อมกับเรื่องจริงระทึกใจเรื่องใหม่ ที่คุณสามารถติดตามได้ตลอดช่วงต้นปีนี้ ก่อนที่จะไประเบิดความมันส์กับภาคต่อของ ฟุตบอลสื่อรัก พร้อมๆ กับต้อนรับฟุตบอลโลก 2006 กลางปีนี้

อ่านชื่อเรื่องแล้วอย่าเพิ่ง ตกใจนะครับ เรื่องนี้เป็นบันทึกประสบการณ์จริงของการฝึกร.ด. ปี 3 ของผม ที่เขาชนไก่ ซึ่งหลายท่านคงจะเคยมีประสบการณ์สุดโหดนี้มาแล้ว แต่เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของการฝึกที่นั่นที่น้อยคนจะล่วงรู้ เป็นการตีแผ่ชีวิตและการฝึกของนศท. ปี 3 อย่างละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมีการเล่ามา ซึ่งสนุกจริงๆ ครับ และขอย้ำว่า ทุกเรื่อง เป็นเรื่องจริงทั้งหมด เพียงแต่เปลี่ยนชื่อตัวละครไปตามความเหมาะสม น้องๆ นศท. ที่จะต้องเข้ารับการฝึกทุกคน ถ้าอยากทราบรายละเอียดในการไปฝึกเพื่อที่จะเตรียมตัวในการไปฝึกล่วงหน้าก็ สามารถอ่านเป็นแนวทางได้ครับ
เรื่องนี้อาจจะไม่เน้นเซ็กส์เท่าไหร่ แต่จะเน้นมากในเรื่องของความเป็นลูกผู้ชาย และความแข็งแกร่งอดทนตามวิสัยของชายชาตินักรบ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในชีวิตของลูกผู้ชาย ถ้าคุณชอบอ่านเรื่องแนวๆ นี้ล่ะก็ ขอเชิญติดตามอ่านได้เลยครับ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ

ตอนที่ 1
" ตอนเรียงสิบ มาหาข้าพเจ้า ! "
สิ้น เสียงคำสั่งของครูฝึกหนุ่ม นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 3 ทุกคนก็รีบลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปยังที่รวมพลทันที ต่างก็รีบเข้าแถวเรียงตามลำดับไหล่เป็นแถวตอน 10 แถวด้วยความรวดเร็ว และในขณะเดียวกันก็ยกมือซ้ายเท้าสะเอว พร้อมกับสะบัดหน้าไปทางหัวแถว ทุกคนยืนหลังตรง ขาทั้งสองตึง ยกอกจนผึ่งผายด้วยท่าทางที่องอาจแข็งแรงยิ่งนัก ครูฝึกหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะสั่งด้วยเสียงอันดังว่า
" นิ่ง ! "
ทุกคนลดมือลง พร้อมกับสะบัดหน้ากลับไปอยู่ในท่าตรง ตามองตรงไปข้างหน้า ครูฝึกหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าแถว พูดเสียงดังว่า
" ต่อไปจะให้ครูสุทัศน์ มาพูดเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปเข้าค่ายฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตั้งใจฟังด้วย นักศึกษา ตรงหน้า วันทยหัตถ์ ! "
นัก ศึกษาวิชาทหารทุกคนยกมือขวาขึ้นวันทยหัตถ์แสดงความเคารพ ครูสุทัศน์เดินมาหยุดตรงหน้าแถว แสดงการเคารพตอบ แล้วครูฝึกหนุ่มจึงสั่งต่อว่า
" มือลง ! "
ทุกคนลดมือขวาลง อยู่ในท่าตรง แขนทั้งสองข้างห้อยอยู่ข้างลำตัว
" นั่ง ! "
ทุกคนรีบทรุดตัวลงนั่งทันที เหลือครูสุทัศน์ยืนอยู่คนเดียว ครูสุทัศน์ยืนถือโทรโข่งอยู่ข้างหน้า แล้วเริ่มพูดช้าๆ
" อาทิตย์หน้าแล้ว ที่นักศึกษาจะต้องไปฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ครูอยากจะให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม เพราะฝึกภาคสนามไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ใครไม่แข็งแรงจริงฝึกไม่ไหวหรอก ไป 5 วันอย่านึกว่าจะสบาย ครูบอกไว้ก่อนเลยด้วยความหวังดี ร่างกายต้องฟิต จิตใจต้องโคตรแกร่ง จึงจะผ่านการฝึกครั้งนี้ไปได้ ช่วงนี้ก็ออกกำลังกายวะหน่อย ร่างกายจะได้แข็งแรง อย่ามัวแต่ชักว่าว มันไม่ดี "
นักศึกษาวิชาทหารบางคนแอบอมยิ้มเมื่อได้ยินคำนี้ ครูสุทัศน์หยุดนิดนึง แล้วจึงพูดต่อ
" เตรียมข้าวของไปให้พร้อม บัญชีรายชื่อของที่ต้องเตรียมไป ครูก็แจกให้ทุกคนไปแล้ว ก็หวังว่าจะไม่มีใครลืมอะไรนะ เอาไปแต่ของที่จำเป็น จะได้ไม่หนัก ใครมีโรคประจำตัวอะไรก็เตรียมหยูกยาไปให้พร้อม เผื่อเป็ยอะไรขึ้นมาจะได้มียากิน ทุกคน ทราบ ! "
" ทราบ! "
ทุกคนตอบพร้อมกัน
" เอ้า ใครมีอะไรจะถาม ถามมาได้ "
นักศึกษาวิชาทหารคนหนึ่งยกมือขึ้น ตะโกนถามว่า
" เอากล้องถ่ายรูปไปด้วยได้มั๊ยครับ ! "
นัก ศึกษาคนที่ถามนั้นนั่งอยู่เกือบหลังสุด ครูสุทัศน์จึงได้ยินไม่ชัดนัก ก็เลยถามคนข้างหน้าว่ามันถามว่าอะไร พอรู้คำถามแล้วก็ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบว่า
" ไปฝึกนะ ไม่ได้ไปเที่ยว เอาไปทำเจิ๋ม้ยไรล่ะ ไม่มีเวลาถ่ายหรอก "
นักศึกษาหลายคนหัวเราะเบาๆ ครูสุทัศน์พูดต่อ
" แล้วก็อีกเรื่องนึง เรื่องนี้ครูเห็นมาทุกปี เรื่องแอบมุดเต็นท์เพื่อนตอนกลางคืน ขอเลยนะ อย่าทำ ถึงพวกครูจะไม่รู้ จับไม่ได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องดีเลย มันทุเรศ มุดไปเย็ดตูดกัน หรือไม่ก็อมจู๋น้อยกัน เห็นประจำ อย่านึกว่าครูไม่รู้ ครูทุกคนรู้ แต่ไม่อยากยุ่ง เตือนไว้ก่อนเลยนะ อย่าคิดจะทำเด็ดขาด แต่ครูเชื่อว่ากองร้อยนี้คงไม่มีใครทำเรื่องวิตถารแบบนี้หรอก ดูหน้าก็เห็นว่าเป็นผู้ชายกันทั้งนั้น คงไม่มีใครโง่เอาจู๋น้อยไปยัดตูดหรอก สกปรกจะตายห่า เก็บเอาไว้เย็ดจิ๋มดีกว่า จริงมั๊ย "
ทุกคนยิ้ม แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เงียบไปพักนึง ครูสุทัศน์ก็พูดขึ้นมาว่า
" เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนเข้าใจดีกันแล้ว ก็ขอให้โชคดีในการฝึกภาคสนามกันทุกนายก็แล้วกัน ทั้งหมด ลุก ! "
ทุกคนรีบลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว ครูสุทัศน์สั่งต่อ
" จัดแถว ! "
ทุกคนยกมือซ้ายขึ้นเท้าสะเอว สะบัดหน้าไปทางหัวแถว แล้วตะโกนว่า " เฮ้ ! " แล้วครูสุทัศน์ก็สั่งต่อไปด้วยเสียงดังมาก
" นิ่ง ! "
ทุก คนลดมือลง พร้อมกับสะบัดหน้ากลับไปอยู่ในท่าตรงอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ต่างก็ยืนนิ่งไม่กระดุกกระดิกเลย เมื่อครูสุทัศน์เห็นว่าทุกคนเรียบร้อยดีแล้วก็สั่งว่า
" เลิกแถว ! "
สิ้นคำสั่งนี้ นักศึกษาวิชาทหารทุกคนก็แยกย้ายกระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทางทันที

.................................


ตอนที่ 2
ที่โรงอาหารในศูนย์ฝึกร.ด.
" ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอไอ้หนุ่ม "
เสียง ทุ้มๆ ของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังผม ผมหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นไอ้อ๊อต เพื่อนสนิทของผมกำลังเดินเข้ามาหา ผมยิ้มให้มันก่อนจะพูดว่า
" เดี๋ยวค่อยกลับว่ะ เมื่อย อยากจะนั่งพักซักหน่อย นั่งคุยกันก่อนสิวะ "
ไอ้ อ๊อตนั่งลงข้างๆ ผม ผมเพิ่งเห็นมามันไม่ได้มาคนเดียว แต่มีเพื่อนตามมาด้วยอีก 3 คน แต่พวกเขาไม่นั่ง กลับยืนอยู่ตรงหน้าผม หนึ่งในสามคนนั้นพูดขึ้นมาว่า
" วันนี้ซวยชิบหายเลยว่ะ โดนตัดผมเลย พวกมึงดูสิ แม่งครูฝึกแม่ง-เอี้ย-จริงๆ ผมกูก็ยังไม่ยาวซะหน่อย แต่ก็โดนซะงั้น อีช่าง-เอี้ย-นั่นก็ตัดซะสั้นเลย หมดหล่อเลยกู "
ขณะที่เขาพูด เขาก็ถอดหมวกออก เผยให้เห็นหัวเกรียนๆ ขาวสะอาดที่เพิ่งตัดมาใหม่ๆ ไอ้อ๊อตมองหัวของเพื่อนแล้วก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า
" 5555 กบาลขาวเชียวนะมึง แต่ก็เท่ห์ดีนี่หว่า ดูแมนดี แมนกว่าตอนที่มึงไว้ผมรองทรงแบบยาวๆ ซะอีก มึงรู้มั๊ย มึงตัดผมแบบนี้ดูเป็นผู้ชายแท้ๆ ขึ้นเยอะเลย ไอ้เทพ "
ไอ้เทพเบ้ปาก พลางเอามือเกาตูดไปด้วยอย่างไม่อายสายตาคนที่เดินผ่านไปมา
" ควย ไม่เกี่ยวสัด กูว่าหัวเกรียนๆ แบบนี้ดู-เอี้ย-มากกว่า ดูไม่ได้เลย กูไม่ชอบทรงนี้เลยจริงๆ กูถือว่าตัดเตรียมไว้สำหรับเข้าค่ายที่เขาชนไก่ก็แล้วกัน อย่างน้อยไปที่โน่นจะได้ไม่มีครูฝึกคนไหนมายุ่งกับกบาลกูอีก "
ไอ้อ๊อตยิ้ม แล้วเอามือลูบต้นคอไอ้เทพเบาๆ ก่อนจะบีบช้าๆ ปากก็พูดไปด้วย
" เออ นี่ก็ใกล้จะไปเข้าค่ายแล้ว พวกมึงเตรียมตัวอะไรกันบ้างหรือยังวะ "
ผมซึ่งเงียบอยู่นาน เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ตอบขึ้นมาก่อนว่า
" เราออกกำลังกายทุกวันว่ะ ทั้งวิ่ง เล่นกล้าม ยกดัมเบลล์ เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนจะไปฝึก เรากินแบรนด์ด้วยนะ แล้วเราก็ว่ายน้ำ ไปตีเทนนิส แล้วก็... "
ผมยังพูดไม่ทันจบ ไอ้อ๊อตก็สอดขึ้นมาว่า
" พอ พอแล้วไอ้หนุ่ม รู้แล้วว่านายฟิต สุดยอดจริงๆ เราเองยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยเชื่อมั๊ย ทุกวันเรายังชักว่าว ดูหนังโป๊ เล่นเว็ปแคม อยู่เลยว่ะ จริงๆ นะเนี่ย "
ไอ้อ๊อตพูดน้ำเสียงจริงจัง เพื่อนของผมทุกคนจะพูดสุภาพกับผมเสมอ เพราะพวกเขาเห็นว่าผมพูดจาสุภาพ ก็เลยเกรงใจไม่กล้าพูดหยาบด้วย แต่กับเพื่อนคนอื่นๆ แล้วพวกเขาก็พูดมึงมาพาโวยตามปกติ หยาบๆ เถื่อนๆ ตามประสาผู้ชาย ถึงจะไม่ใช่ผู้ชายเต็มตัวก็เหอะ
ถูกแล้วครับ เพื่อนของผม 2 คนนี้เป็นเกย์ทั้งคู่ พวกเขาพิศมัยในเรือนร่างผู้ชายด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครมองออกว่าเขา 2 คนเป็นเกย์ เพราะเขาทั้ง 2 คนแมนสุดๆ เรียกวาแมนเกินล้านเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ ไอ้เทพโดนครูฝึกให้ไปตัดผมซะเกรียน ยิ่งทำให้มันดูแมนมากขึ้น ตัวของไอ้เทพใหญ่ กล้ามเป็นมัดๆ เพราะเล่นกล้ามด้วย หน้าตี๋ หัวเกรียน แถมยังเป้าตุงซะขนาดนั้น จึงไม่มีใครสงสัยเลยว่า มันจะเป็นเกย์ เพราะลักษณะทุกอย่างของมันเป็นลักษณะของชายแท้ชัดๆ
" แล้วมึงล่ะไอ้เทพ เตรียมตัวอะไรบ้าง "
ไอ้เทพเอามือออกจากตูดแล้วเอื้อมไปตบตูดเพื่อนอีกคนที่ยืนข้างๆ 1 ที แล้วจึงตอบเสียงดัง
" ของกูก็ไม่ได้เตรียมอะไรหรอก ก็แค่เตรียมร่างกายแบบเดียวกับที่ไอ้หนุ่มมันทำ แต่ของกูจะมีเพิ่มเติมนิดหน่อย คือกูจะแดกเยอะๆ น่ะ แดกแต่ของที่บำรุงร่างกายเท่านั้น งดแดกเหล้าชั่วคราว งดดูดหรี่ด้วย (บุหรี่) ร่างกายจะได้ฟิตๆ หน่อย แล้วก็งดชักว่าวชั่วคราว เดี๋ยวจะไม่มีแรงตอนไปฝึก จะไปเขาชนไก่ทั้งที ร่างกายกูต้องพร้อมว่ะสัด "
ไอ้อ๊อตยักคิ้วแบบกวนๆ แล้วหันไปทางเพื่อนอีกคนที่เมื่อกี้ถูกไอ้เทพตบตูด
" แล้วมึงล่ะ ปิงปิง "
ปิงปิงแยกเขี้ยว ก่อนจะพูดเสียงหวานว่า
" ฉันจะเตรียมถุงยางไปเยอะๆ เลย เพราะว่าฉันจะไปล่าไม้จ้ะ ขอบอก "
ทั้งผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพ ถึงกับตาเหลือกเมื่อได้ยินคำนี้ ผมอ้าปากค้างอยู่นาน แล้วก็ถามออกไปอย่างงงๆ ว่า
" แกว่าอะไรนะ เอาจริงเหรอวะปิง "
ปิงปิงเอามือปิดปากแล้วก็หัวเราะคิกๆ อย่างพอใจ ไม่ตอบคำถามผม เพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่พูดขึ้นแทนว่า
" ถูกแล้วล่ะ ปิงปิงกับฉันจะเอาถุงยางไปด้วย พวกแกไม่เข้าใจเหรอ ไปร.ด. เนี่ยผู้ชายเป็นฝูงเลยนะแก เยอะมากเลยแกก็รู้ ยิ่งผู้ชายเยอะควยก็ยิ่งเยอะ จริงมะ นี่แหละสวรรค์ของเกย์สาวอย่างพวกฉันล่ะ ดึกๆ พวกฉันก็จะมุดเต็นท์โน้น เข้าเต็นท์นี้ ออกเต็นท์โน้น เต็นท์ไหนเด็ดหน่อยก็มุดหลายๆ รอบหน่อย โฮะ โฮะ โฮะ แล้วฉันกับอีปิงก็จะแข่งกันด้วยนะแก ว่าใครจะกินควยได้มากกว่ากัน อุ๊ย! คิดแล้วเปรี้ยวปากม๊ากๆ ผู้ชายเป็นร้อยๆ ควยทุกขนาดเลยด้วย ฮิ ฮิ ฮิ สบายตูดแน่ๆ เลย "
ไอ้อ๊อตส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
" มึงอย่าบ้า ไอ้สัตว์ มึงอย่าลืมว่า ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ไปก็เป็นผู้ชายแท้ๆ กันทั้งนั้น แล้วมึงจะไปมุดเต็นท์เขาได้ไงวะ อีบุ๋งบิ๋ง เดี๋ยวก็โดนตีนหรอก เขาไม่เล่นกับมึงด้วยแน่ๆ และอีกอย่างฝึกแต่ละวันก็เหนื่อยจะตายห่า กูว่ามึงไม่มีแรงไปล่าไม้ล่าควยอะไรอย่างที่มึงอยากจะทำหรอก "
ปิงปิงสอดขึ้นมาว่า
" อีโง่ ฉันไม่มุดมั่วแบบนั้นหรอก ฉันวางแผนเอาไว้แล้ว ฉันจะถามพวกเขาก่อนว่าชอบแบบนี้หรือเปล่า ถ้าชอบฉันก็จะขอเบอร์เต็นท์เขาไว้ ถ้าไม่ชอบฉันก็ไม่ยุ่งด้วย และนี่นะ เพื่อนๆ โรงเรียนของเราน่ะ ฉันไปคุยมาแล้ว คนที่ชอบแบบเดียวกับพวกเราน่ะ เขาก็อยากจะสนุกเสียวแบบนี้เหมือนกัน โธ่! ครั้งเดียวในชีวิตเลยนะที่จะได้สนุกกันคืนละเยอะๆ แบบนี้ พลาดไปเสียดายตาย เขาให้ฉันกับบุ๋งบิ๋งมุดเต็นท์ได้ ยังไงถ้าเกิดหาเต็นท์ผู้ชายต่างโรงเรียนมุดไม่ได้ ก็มุดเต็นท์พวกเดียวกันก็ได้ พวกแกก็เอาด้วยใช่มั๊ย พวกแกก็ชอบแบบเดียวกับฉันนี่ "
" เออ เออ แต่กูไม่เอาตูดมึงหรอกนะ อีปิง อีบิ๋ง กูอยากเอาตูดพวกแมนๆ มากกว่า นี่กูว่านะ เอาเข้าจริงๆ ก็คงมุดได้เฉพาะเต็นท์เพื่อนๆ ของเราน่ะแหละ ผู้ชายโรงเรียนอื่นกูว่าหมดสิทธิ์ว่ะ มึงคิดเหรอว่าพวกมันจะบอกมึงว่ามันเป็นเกย์ ในกรณีที่มันเป็นจริงๆ อ่ะนะ ใครจะโง่บอกวะ ไม่มีใครกล้าบอกหรอกว่ะ บอกไปก็อายตายห่าสิวะ "
ไอ้เทพพูดซะยาวเหยียด ผมเลยพูดขึ้นมาบ้างว่า
" เราว่า อย่าไปคิดเรื่องพวกนี้เลยว่ะ จริงอย่างที่อ๊อตมันว่า ฝึกแต่ละวันเหนื่อยนะเว้ย ไม่มีแรงไปทำเรื่องแบบนี้หรอก เราไปแบบแมนๆ ดีกว่า ลืมความเป็นเกย์ของเราไว้ชั่วคราวเหอะ แล้วตั้งใจฝึกแบบแมนๆ ให้กลมกลืนไปกับผู้ชายคนอื่นเขาดีกว่า ว่ามั๊ยวะ อ๊อต เทพ ปิงปิง บุ๋งบิ๋ง "
" จริงของหนุ่มว่ะ "
ไอ้อ๊อตสนับสนุน แต่ปิงปิงกลับเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดเหยียดๆ ใส่ผม น้ำเสียงดูถูกอย่างมาก
" แมนเหรอ แมนแล้วไม่ล่าไม้ล่าควยทั้งๆ ที่มีควยให้ล่ามากมายขนาดนี้เหรอ ตามใจนะแก โอกาสมาถึงแล้วไม่คว้าไว้ก็ตามใจ อย่ามาอิจฉาพวกฉันก็แล้วกัน ถ้าพวกฉันได้กินควยชั้นดีที่หาไม่ได้ตามท้องตลาดแบบนี้ แกจะพูดยังไงก็ช่าง ยังไงฉันกับอีบิ๋ง และก็เพื่อนร่วมอุดมการณ์อีกเป็นสิบก็จะออกล่าไม้แน่นอน แล้วก็อย่าให้ฉันรู้นะ ว่าพวกแกที่ปากบอกว่าแมนๆ แต่พอตกดึกก็ออกหาควยใส่ปากเหมือนกัน อีพวกปากว่าตาขยิบ ชิ! "
" เออ เราไม่ทำแบบที่แกว่าแน่ เราไปฝึกวิชาทหาร ไม่ได้ไปหาประสบการณ์เสียว เรายืนยัน เราจะฝึกอย่างเดียว "
ผมพูดด้วยเสียงหนักแน่น ปิงปิงและบุ๋งบิ๋งมองหน้าผมอยางสมเพช จนผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมานิดๆ ก็พอดีบุ๋งบิ๋งพูดขึ้นมาว่า
" เดี๋ยว ฉันกลับก่อนดีกว่า เย็นมากแล้ว ไว้เจอกันวันเข้าค่ายนะแก ไปล่ะ ไปอีปิงไปได้แล้ว "
บุ๋งบิ๋งพูดจบก็ฉุดข้อมือปิงปิงเดินออกจากโรงอาหารไป ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็สะดุ้งนิดนึงเพราะว่าไอ้อ๊อตเอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบาๆ
" ปล่อยอีกะเทย 2 ตัวนั่นไปเถอะหนุ่ม อย่าไปสนใจเลย ชีวิตมันก็มีแค่นี้แหละ ในหัวมีแต่เรื่องผู้ชาย คิดแต่จะแดกผู้ชายอย่างเดียว สันดาน จะไปฝึกร.ด. เสือกคิดจะไปหาควยแดก `สวย` ! "
ผมยิ้มให้ไอ้อ๊อต ไอ้เทพก็บีบแขนผมเบาๆ ก่อนจะพูดออกมาอีกคนว่า
" เชื่อกูสิ อีกะเทย 2 ตัวนั่นจะต้องได้รับบทเรียนอะไรซักอย่างแน่ๆ ที่เขาชนไก่น่ะ ไม่โดนครูฝึกจับได้ก็ต้องโดนตีนผู้ชายแน่ๆ โทษฐานร่านตูดดีนัก ไม่เชื่อพวกมึงคอยดู "
ผมหัวเราะเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองไอ้อ๊อต กับไอ้เทพ แล้วถามว่า
" ถามจริงๆ เหอะ นาย 2 คนจะเล่นเสียวกันในค่ายหรือเปล่า นายจะล่าควยแบบที่ปิงปิง และบุ๋งบิ๋งทำหรือเปล่าเพื่อน ตอบเราหน่อย "
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมองหน้ากันแล้วก็อมยิ้ม ไม่ตอบผมซักคำ
...........................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 3
ก่อนจะถึงวันที่ไปเข้าค่าย 2-3 วัน ผมเตรียมฟิตร่างกายอย่างดี ทั้งเล่นกีฬา ยกดัมเบลล์ วิ่ง ทุกวันวันละ 1 ชั่วโมง จนมั่นใจว่าร่างกายพร้อมสุดๆ งดชักว่าวเหมือนที่ไอ้เทพทำ แต่ผมฟิตมากกว่าคือไม่ชักว่าวเลยเป็นเวลา 7 วัน วันแรกๆ ที่งดก็ยังไม่รู้สึกอะไร พอล่วงเข้าวันที่ 4 วันที่ 5 ผมก็เกิดอาการเงี่ยนอย่างมากตามประสาเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีความต้องการทาง เพศสูง แต่ผมก็อดทนไม่เอาน้ำออก จนเหลืออีกวันเดียวก็จะไปเข้าค่าย ผมเดินไปที่ร้านตัดผมใกล้บ้านเพื่อทำภารกิจสุดท้ายก่อนจะไปเข้ารับการฝึก จะฝึกทั้งทีขอไปแบบแมนๆ เลยแล้วกันกู!
" ทรงอะไรครับ "
ช่างตัดผมรูป หล่อถามพลางเอามือลูบต้นคอผมไปด้วย ผมรู้สึกสยิวกับการกระทำของเขามาก มือเขาทั้งนุ่มทั้งเย็น ลูบทีผมก็เสียวไปทั้งตัว ผมกระแอมนิดนึงแล้วตอบว่า
" ทรงนักเรียนครับ สั้นๆ เลยนะครับ "
ช่างหนุ่มทำหน้าประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาผมให้เขาตัดรองทรงสูงมาตลอด คราวนี้มาแปลกจริงๆ
" แน่ใจเหรอพี่ เอาทรงนักเรียนเลยเหรอ "
ผมพยักหน้าหงึกๆ
" ครับ ผมจะไปเข้าค่ายร.ด. ครับ "
" อ๋อ เข้าใจล่ะ "
ช่าง หนุ่มยิ้มยิงฟัน แล้วลูบต้นคอผมไปมาช้าๆ ทำเอาผมขนลุกซู่ เขาลงมือตัดทันที ครึ่งชั่วโมงผ่านไปก็เสร็จเรียบร้อย ผมเป็นกระจุกๆ กองอยู่ที่พื้น ภาพในกระจกดูแปลกตาไม่น้อย เป็นภาพที่ผมไม่ได้เห็นมานานแล้วตั้งแต่เรียนร.ด. ปี 2 เพราะพอเรียนปี 2 ก็ตัดผมแบบรองหวีแล้ว ไม่ได้ไถหัวซะเกรียนแบบนี้ แต่วันนี้ผมดูเหมือนตอนเพิ่งเริ่มเรียนร.ด. ปี 1 มาก ผมสั้นเกรียนติดหนังหัวรับกับหน้าตี๋ๆ ของผม ดูดีไม่เบาเลย ผมยิ้มให้กับตนเองในกระจกแล้วเอามือลูบหัวเกรียนเล่น มันสากๆ พิกล พลางคิดในใจ
" เหมือนทหารเกณฑ์ที่เขาเรียกว่าไอ้เณรเลยกู ไอ้หนุ่มเอ๊ย หัวเขียงชิบหาย "
................................

คืน นั้น ผมจัดข้าวของลงเป้สนามจนหมด ของไม่เยอะเท่าไหร่ มีชุดฝึกสำรอง 1 ชุด เอาไว้ใส่วันที่ 4 หรือ 5 ต้องเตรียมไปอีกชุดเพราะว่าใส่ชุดเดียวตลอด 5 วันไม่ไหวแน่ เน่ากันพอดี นอกจากนั้นก็มีกระติกน้ำทหารสีเขียวแก่ เข็มขัดสนามที่เอาไว้คาดกระติกน้ำ ยาแก้ไข้ (เผื่อฉุกเฉินเป็นไข้ขึ้นมา) ไฟฉายกระบอกเล็ก ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ยาดมตราโป๊ยเซียน 1 หลอด (ซึ่งตอนหลังของสิ่งนี้มีประโยชน์มหาศาลต่อชีวิตผม) ผ้าขาวม้าผืนเล็ก (ยืมของพ่อมาใช้) กางเกงใน ช้อน ถุงเท้าสีดำ กระดาษชำระ ผมเตรียมของไปแค่นี้จริงๆ ไม่อยากจะเอาไปมากเหมือนกับบ้าหอบฟาง เกือบลืมผ้าห่ม ผมเลือกผ้าห่มผืนที่เล็กที่สุดยัดลงไปในเป้สนามใบใหญ่ที่พ่อให้มา แล้วก็ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ อีกนิดหน่อยคือพวกสบู่ ขัน ยาสีฟันและแปรงสีฟัน ของอย่างอื่นผมไม่เอาไปเลยเพราะคิดว่าไม่จำเป็น อย่างยาสระผมก็ไม่เอาไป คิดว่าคงไม่สระหรอก หัวก็เกรียนขนาดนี้แล้วจะสระทำไม แป้งก็ไม่เอาไปเพราะผมไม่ชอบประแป้งอยู่แล้ว และอีกอย่างผู้ชายประแป้งมันดูตุ๊ดไปหน่อย ไปร.ด. จะทำสิ่งที่ตุ๊ดทำไม่ได้เด็ดขาด (ถึงแม้ว่าปกติผมก็ไม่ทำอยู่แล้ว) สบู่เอาไปก้อนเดียวก็พอแล้ว ฟอกได้ทั้งตัวตั้งแต่หน้าไปจนถึงตีน ผมตรวจดูข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดอีกครั้งหนึ่งก่อนจะหัดผูกเป้สนามจนคล่อง เวลาไปที่โน่นจะได้เอาของออกมาได้เร็วๆ เสร็จแล้วก็หัดคาดเข็มขัดสนามซึ่งก็คาดยากเหมือนกัน แต่ในที่สุดผมก็คาดได้
4 ทุ่ม
ผม มองตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย พร่งนี้แล้วสินะที่ผมต้องไปเผชิญกับความลำบากที่เขาชนไก่เป็นเวลา 5 วันเต็มๆ ผมเกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมานิดหนึ่ง กังวลว่าจะฝึกกับคนอื่นเขาไม่ได้ กังวลว่าร่างกายจะรับไม่ไหว แต่ผมก็สลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปทันที กังวลอะไรไม่เข้าเรื่องเลย เราเองก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกันนะ เราต้องทำได้สิ ถ้าคนอื่นทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ เราก็มี 2 มือ 2 ตีน 1 ควยเหมือนๆ กัน เขาทำได้เราก็ต้องทำได้สิวะ ผมคิดแล้วก็หันไปมองที่พื้น ชุดฝึกสำหรับใส่ไปวันพรุ่งนี้วางเตรียมไว้แล้ว ข้างๆ ก็มีกางเกงใน ถุงเท้า และเข็มขัดสนาม ที่วางอยู่ตรงมุมห้องคือเป้สนามสีเขียวแก่ใบเบ้อเริ่มที่บรรจุของของผมไว้จน เต็ม และผูกไว้อย่างเรียบร้อย มีหมวกเบเล่ย์สีเขียวแก่วางอยู่ด้านบน พร้อมจะหยิบมาใส่ได้ทันที
ทุกอย่างอยู่ในสภาพพร้อม
เสียงเคาะประตูดังก๊อก ก๊อก ผมเดินไปเปิดประตู พ่อของผมนั่นเอง เขายิ้มให้ผมแล้วถามว่า
" ไง พร้อมหรือยังลูกพ่อ ไอ้เสือ กับการที่จะไปรบที่เขาชนไก่ 5 วัน "
ผมหัวเราะ พ่อชอบเรียกผมว่าไอ้เสือเพราะอยากให้ผมเข้มแข็งเหมือนเสือ ผมก็ชอบให้พ่อเรียกแบบนี้เหมือนกัน
" พร้อมแล้วพ่อ พร้อมสุดๆ เลย ผมจัดของลงเป้หมดทุกอย่างแล้ว ไม่ลืมอะไรแล้วล่ะ "
พ่อมองดูข้าวของที่วางอยู่บนพื้นห้อง แล้วก็ยิ้มอย่างพอใจ
" ดีมากลูกพ่อ ไหนเข้ามาใกล้ๆ พ่อซิ "
ผมเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อ พ่อเอามือ 2 ข้างวางบนไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงหนักแน่น
" เต็มที่เลยนะลูก ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ลูกของพ่อเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ฝึกแค่ไม่กี่วันแบบนี้สบายอยู่แล้ว ใช่มั๊ยลูก จำเอาไว้ คนอื่นทำอะไรได้ ลูกก็ทำได้ เขาทำอะไรลูกก็ทำกับเขาด้วยนะ ผู้ชายทั้งนั้นไม่มีความแตกต่างกันอยู่แล้ว เราพวกเดียวกับเขา "
" ครับพ่อ "
ผมรับคำ พ่อเลื่อนมือจากไหล่ลงมาที่ต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของผม แล้วพูดต่อ
" ถ้าโดนครูฝึกด่าก็ไม่ต้องไปใส่ใจนะ อดทนไว้ ครูฝึกสั่งให้ทำอะไรก็ทำ เข้มแข็งเอาไว้ อย่าแสดงความอ่อนแอออกมาเด็ดขาด จะเหนื่อยจะเจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทนลูกเดียว มันไม่ถึงตายหรอกลูกก็รู้ พ่อเชื่อว่าลูกของพ่อต้องผ่านการฝึกนี้ไปได้ด้วยดี ใช่มั๊ยไอ้เสือของพ่อ "
ผมยืนตัวตรง ตอบด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
" ครับผม ! ผมจะตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ครับผม ! "
พ่อยิ้มเมื่อได้ยินผมตอบแบบนี้ แล้วพูดว่า
" พ่อภูมิใจในตัวลูกเหลือเกิน ไอ้เสือลูกรักของพ่อ "
ผมยังคงยืนนิ่ง ตามองตรงไปข้างหน้า พ่อตบต้นแขนของผมแรงๆ 2 ที เสียงดังป๊าบๆ แล้วจึงพูดต่อ
" แข็งแรงดีมาก เอาล่ะ นอนเถอะลูก พรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 นะ พ่อจะเป็นคนมาปลุกเอง แล้วพ่อจะไปส่งที่สวนเจ้าเชต "
" ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับพ่อ "
ผม พูด พ่อยิ้มให้ผมอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องไป ส่วนผมก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อแปรงฟัน แล้วจึงล้มตัวลงนอนบนเตียง ในใจก็ครุ่นคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
" พรุ่งนี้เราจะต้องเจอกับอะไรบ้างเนี่ย ไม่อยากจะคิดเลย แต่ยังไงเราก็สู้ตายอยู่แล้ว คนอย่างเราไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น เราจะสู้ สู้ให้เต็มที่ไปเลย แล้วเจอกัน เขาชนไก่ "
ผมนอนคิดแบบนี้ซ้ำๆ ไปจนหลับสนิท
.................................

ตอนที่ 4

พ่อ ปลุกผมตอนตี 4 ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งชุดฝึก และเตรียมเป้สนาม เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมก็ลงมากินข้าวเช้า ผมรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามาก พอๆ กับรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปฝึกภาคสนาม พอผมกินข้าวเสร็จก็หยิบหมวกมาใส่ แล้วก็มองตัวเองในกระจก ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือภาพของหนุ่มน้อยหน้าตี๋ใส่แว่นคนหนึ่งที่ดูแมนมากใน ชุดฝึกขนาดพอดีตัว หัวเกรียนขาว สวมหมวกเบเล่ย์สีเขียวแก่ที่ดึงปีกหมวกด้านขวาลงมาพองาม ใส่เสื้ออ่อนคอกลมสีกากีแกมเขียว ส่วนเสื้อชั้นนอกกับกางเกงขายาวเป็นสีเขียวแก่ ช่วงไหล่กว้างและช่วงอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ กล้ามอกและกล้ามแขนขึ้นเป็นมัดๆ อย่างเห็นได้ชัด หน้าท้องแบนราบ ช่วงต้นขาที่อยู่ภายใต้กางเกงสีเขียวแก่นั้นล่ำใหญ่มากได้สัดส่วนกับช่วง น่องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งๆ เช่นเดียวกับช่วงอก ตรงกลางลำตัวคาดเข็มขัดสายสีเขียวแก่ หัวเข็มขัดถูกขัดอย่างประณีตจนเป็นสีทองแวววาวสวยงามมาก และเสริมความเท่ด้วยเข็มขัดสนามเส้นใหญ่ที่ด้านขวามือมีกระติกน้ำทหาร 1 ใบที่เติมน้ำจนเต็มแล้วห้อยอยู่ด้วย ใส่รองเท้าหนังสีดำชนิดผูกเชือกที่ถูกขัดจนเป็นมันปลาบ ผมมองภาพตัวเองในกระจกอย่างภูมิใจ หล่อไม่เบาเลยเรา
" ลูกพ่อหล่อจริงๆ วันนี้ เท่มากๆ เหมือนทหารจริงๆ เลย "
พ่อผมพูดขึ้นมาดังๆ ผมยิ้มรับคำชมนั้น พ่อพูดต่อว่า
" เสร็จแล้วใช่มั๊ย งั้นออกมาไหว้ศาลพระภูมิก่อนจะไปนะ อย่าลืมขอพรให้ท่านคุ้มครองลูกให้เดินทางไปและกลับด้วยความปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายใดๆ ระหว่างที่รับการฝึกที่เขาชนไก่ "
ผมเดินไปที่ศาล พระภูมิแล้วก็ไหว้อย่างนอบน้อม พร้อมกับอธิษฐานขอพรท่านในใจว่า ขอให้ผมเดินทางไปและกลับด้วยความปลอดภัย ขอให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงระหว่างที่ไปฝึก 5 วันนี้ รวมทั้งขอให้ผมประสบความสำเร็จในการฝึกอะไรก็ตามตลอด 5 วัน
" เรียบร้อยแล้วพ่อ ไปกันเถอะครับ "
ผม หันไปพูดกับพ่อหลังจากที่ไหว้ศาลพระภูมิเรียบร้อยแล้ว พ่อพยักหน้าแล้วช่วยผมแบกเป้สนามขึ้นรถ ก่อนที่พ่อจะสตาร์ทรถ พ่อถามผมอีกครั้งว่า
" ไม่ลืมอะไรแล้วนะลูก เติมน้ำใส่กระติกรึยัง เอายาดมไปแล้วใช่มั๊ย เข็มขัดสนามคาดหรือยัง "
" ไม่ลืมแล้วครับ น้ำผมก็เติมเรียบร้อยแล้ว ยาดมผมก็เอามาแล้ว เข็มขัดสนามผมก็คาดแล้ว ทุกอย่างพร้อมหมดแล้วครับพ่อ เราออกเดินทางกันได้เลยครับ "
" ดีมาก งั้นเราไปกันเลย "
แล้วพ่อก็ ขับรถออกจากบ้านไป ขณะนั้นตี 5 กว่าๆ เรามุ่งหน้าไปสวนเจ้าเชต ผมนั่งตื่นเต้นไปตลอดทางว่าจะได้ฝึกแล้ว รอวันนี้มานาน อยากรู้จริงๆ ว่าจะได้ฝึกอะไรบ้างที่นั่น มันจะต้องสนุกแน่ๆ เลยครับ
................................
ผมถึงสวนเจ้าเชตเวลาประมาณเกือบ 6 โมง มีคนมาเยอะแล้ว พ่อจอดรถที่ข้างถนนตรงประตูทางเข้าสวนเจ้าเชต แล้วหันมาพูดกับผมว่า
" พ่อส่งหนูได้แค่นี้แหละ เดี๋ยวหนูต้องเดินเข้าไปเองนะลูก โชคดีล่ะครับ ไอ้เสือของพ่อ เต็มที่ไปเลยนะ พ่อขอให้ลูกโชคดี แล้วอีก 5 วันเราจะได้พบกัน "
ผมใจหายเมื่อได้ยินคำนี้ ผมจะต้องจากบ้านไปนอนที่อื่นถึง 5 วันเต็มๆ เลยเหรอเนี่ย ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยไปไหนนานขนาดนี้เลย อยู่ที่โน่นคงคิดถึงพ่อมากแน่ๆ แต่ยังไงผมก็ต้องอดทน เพื่ออนาคตของผมเอง ผมก็เป็นลูกผู้ชาย ผมจะอ่อนแอไม่ได้
" ครับพ่อ ผมไปก่อนนะครับ แล้วผมจะรีบกลับมาหาพ่อนะ "
พ่อ ยิ้ม แล้วก็ตบไหล่ผมเบาๆ ผมสวมหมวก ก้าวลงจากรถ แล้วเดินมาเปิดประตูหลังแบกเป้สนามอันหนักอึ้งลงจากเบาะหลังของรถแล้วสะพาย เอาไว้ข้างหลัง แล้วยืนนิ่งอยู่ตรงริมทางเท้า มองเข้าไปข้างในรถ ผมเห็นพ่อยังคงนั่งเกาะพวงมาลัยมองผมอยู่ด้วยสายตาที่ห่วงใยสุดที่จะบรรยาย เมื่อลูกชายคนเดียวจะต้องไปไกลบ้านนานถึง 5 วัน ผมยิ้มให้พ่ออีกครั้งหนึ่ง ยังคงยืนตรงไม่กระดุกกระดิก และทันใดนั้นเองผมก็ยกมือขวาขึ้นแตะขอบหมวกด้านขวาทำวันทยหัตถ์แสดงความ เคารพพ่อของผมทันที ก่อนจะลดมือลง เป็นภาพที่งดงามมากในความรู้สึกของผมที่ได้มีโอกาสแสดงความเคารพพ่อบังเกิด เกล้าแบบชายชาติทหารแบบนี้ พ่อของผมน้ำตาซึม มองผมด้วยความภาคภูมิใจ แล้วจึงยกมือตั้งฉากแสดงอาการรับรู้ ก่อนจะขับรถจากไป ผมมองตามหลังรถของพ่อจนรถลับหายไปจากสายตา
ผมเดินเข้าไปในสวนเจ้าเชต พยายามมองหาเพื่อน แต่ก็ไม่เห็นเพราะว่าคนเยอะไปหมด ก็เลยเดินไปเดินมาซักพักหนึ่ง ไม่นานก็เจอไอ้อ๊อต กับไอ้เทพ ผมถามมันก็เลยรู้ว่า มัน 2 คนเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง
" เรากับไอ้เทพขึ้นแท๊กซี่มาว่ะ ของนายพ่อมาส่งใช่มั๊ย เมื่อกี้เราก็เห็นนายด้วยล่ะ ตอนลงจากรถพ่อ แถมยังตะเบ๊ะให้พ่อด้วย แมนชิบหายเลยไอ้หนุ่ม เห็นแล้วโดนใจว่ะ "
ผมหัวเราะ แล้วพูดกับมันว่า
" ห่า ก็แมนสิวะ เราก็ผู้ชายเหมือนกันนะเว้ย ปกติเราก็แมนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คงต้องแมนเพิ่มขึ้นอีกเป็นล้านๆ เท่า เพราะว่าคงต้องฝึกหนักแน่ๆ ถ้าทำตัวอ่อนแอปวกเปียก คงไม่รอดแน่ว่ะ จริงมั๊ย "
ไอ้เทพพูดขึ้นมาบ้างว่า
" จริงของนายว่ะ อ้าวเฮ้ย เราเพิ่งสังเกตุเห็น หัวนายขาวมาเชียวนะ โห ตัดผมเกรียนเตรียมมาเลยเหรอวะเนี่ย โคตรฟิตเลย ไอ้อ๊อตดูหัวไอ้หนุ่มดิ สุดยอด ! เกรียน-เอี้ย-ๆ ไหน ถอดหมวกให้ดูหน่อยได้มั๊ยวะ หนุ่ม "
ผมไม่เคยอายอยู่แล้วเรื่องทำตัวแมนๆ ฟิตๆ แบบนี้ ก็เลยถอดหมวกออก ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเห็นแล้วก็ร้องด้วยความทึ่งปนขำ
" โห เย็ดเข้ สุดยอดแห่งหัวเกรียนเลย ไม่โกนซะล่ะวะ ผมก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว ฟิตจริงๆ เลยไอ้หนุ่ม กูยอมรับเลย ไอ้อ๊อตดูสิวะ หัวแม่งโคตรใสเลย 5555 เย็นกบาลมั๊ยวะถามจริง กะจะไม่ให้ครูฝึกยุ่งกับกบาลนายเลยใช่มั๊ยวะเนี่ย "
ไอ้อ๊อตพูดกลั้วหัวเราะว่า
" ไอ้หนุ่ม นายเนี่ยสุดยอดจริงๆ ว่ะ กล้าตัดผมถึงขนาดนี้ เรากับไอ้เทพยังไม่กล้าตัดสั้นเท่านายเลย "
ผมสวมหมวกเหมือนเดิมแล้วจึงพูดว่า
" พอ พอ ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเล้ย ทำตื่นเต้นไปได้ ก็ตัดทรงนักเรียนปกติน่ะแหละแต่ให้ช่างเขาตัดให้สั้นๆ หน่อย จะได้สบายๆ และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหัวอีกเลยตอนไปฝึกที่โน่น ใครๆ เขาก็ตัดกันเยอะแยะ ดูโน่นสิวะ คนนั้นก็ตัด นั่น คนนั้นก็ตัด หัวเกรียนพอๆ กับเราเลย "
ผม พูดแล้วก็ชี้ไปที่นักศึกษาวิชาทหารหลายคนที่เดินไปเดินมาแถวนั้น หลายคนก็ตัดผมเกรียนแบบเดียวกับผม ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพยิ้มๆ ไม่พูดอะไรต่อ ผมก็เลยถามมันว่า
" เออ แล้วนี่ปิงปิงกับบุ๋งบิ๋งอยู่ไหนวะ ยังไม่มาเหรอ หรือว่ามาแล้ว ถ้ามาแล้ว พวกมันไปไหนกันวะ ยังไม่เห็นเลย "
ไอ้เทพตอบเสียงเรียบๆ
" อ๋อ อี 2 ตัวนั่นน่ะเหรอ อีปิงปิงมาตั้งนานแล้ว แต่มันเที่ยวไปผูกมิตรกับผู้ชายหน้าตาดีๆ ของโรงเรียนอื่นอยู่น่ะ มันบอกว่าเผื่อโชคดีถ้าเผื่อรู้ว่าเขาเป็นเกย์ อาจจะได้มุดเต็นท์เขาด้วย แม่งกะหรี่ชิบหาย ส่วนอีบุ๋งบิ๋งยังไม่มาเลย ขานั้นน่ะชอบมาสายประจำอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวมันก็คงมาแล้วล่ะ มันก็กลัวตกรถเหมือนกัน "
ผมฟังแล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความ สมเพชในความ-เอี้ย-ของอีกะหรี่ปิงปิง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก หลังจากนั้น ผมก็ยืนคุยกับไอ้อ๊อตและไอ้เทพต่ออีกครู่หนึ่ง อีปิงปิงก็วิ่งแท่ดๆ มาหา ปากก็ร้องตะโกนลั่นว่า
" นี่แก ผู้ชายโรงเรียนอื่นน่ะหล่อๆ เยอะมากเลยนะ แต่ไม่รู้ดุ้นจะใหญ่ด้วยรึเปล่า อะโฮ๊ะๆๆ ฉันไปคุยมาแล้วหลายคนล่ะ แต่ยังไม่กล้าถามเรื่องความชอบส่วนตัว กลัวโดนตีนน่ะ คนสวยอย่างฉันโดนตีนตั้งแต่วันแรกคงจะไม่ดีแน่ๆ ถึงผู้ชายพวกนั้นมันจะหล่อแต่ก็หล่อแบบถึกๆ -เอี้ย-ๆ เถื่อนๆ ตามประสาโรงเรียนบ้านนอกน่ะแหละ แกรู้ป่ะ ฉันเพิ่งรู้ว่าโรงเรียนที่จะมาเข้าค่ายกับเราน่ะมีแต่โรงเรียนบ้านนอกทั้ง นั้นเลย ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพเลยล่ะแก อี๊ย ฉันล่ะผิดหวังจริ๊งๆ โอ้ลาล้า "
ไอ้เทพขัดขึ้นมาทันที
" ไปว่าคนอื่นเขาอีก มึงนี่มัน-เอี้ย-จริงๆ โรงเรียนบ้านนอกมันไม่ดีตรงไหนวะ มันก็อยู่ในปริมณฑลแค่นั้นแหละ ไม่ถือว่าบ้านนอกหรอกอีปิง คือๆ กันทั้งนั้น กูรู้มึงหวังจะกินควยเด็กโรงเรียนในกรุงเทพใช่มั๊ยล่ะ "
" ถูกต้องนะคะ ! "
ปิงปิงขานรับเสียงแปร๋น ก็พอดีไอ้อ๊อตพูดขึ้นมาว่า
" เสียชาติเกิดหมดอีปิงปิง เกิดมาเป็นกะเทยทั้งที ไม่รู้เหรอว่า ควยเด็กต่างจังหวัดน่ะใหญ่และน่ากินกว่าควยเด็กในกรุงเทพเยอะ ดำด้วย ยาวด้วย กูรู้ดี เพราะกูก็มาจากต่างจังหวัดเหมือนกัน "
" อู๊ยยยย ฉันรู้ตั้งแต่รู้ตัวว่าเกิดมาเป็นกะเทยแล้วย่ะ ฉันแค่ผิดหวังนิดหน่อย หวังจะมากินควยเด็กกรุงเทพขาวๆ หล่อๆ แต่กลับได้กินควยดำๆ ของเด็กโรงเรียนต่างจังหวัดแทน ควยเปื้อนดินแบบนั้น แต่ถ้าจะให้ฉันกินฉันก็กินนะ ยังดีกว่าไม่มีกิน "
ไอ้อ๊อตยิ้มอย่างขำๆ ไม่พูดอะไร ผมก็เลยถามปิงปิงด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจะจริงจังว่า
" เออ แล้วแกเอาถุงยางมาเยอะหรือเปล่าปิง พอหรือเปล่าวะ "
ปิงปิงมองหน้าผม แล้วพูดเสียงหวาน
" เพียบ ดีนะที่เอามาแต่ไซด์ใหญ่ๆ โชคดีจริงๆ ที่ต้องเข้ากับเด็กต่างจังหวัด ควยน่าจะใหญ่กันทุกคน แกจะดูมั๊ยล่ะ "
ปิง ปิงทำท่าจะควักถุงยางออกจากเป้สนามที่ห้อยพวงกุญแจรูปตัวการ์ตูนซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์เอาไว้เก๋ๆ ผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพต่างรีบร้องห้ามเสียงหลง
" เฮ้ย ไม่ต้องเว้ย เดี๋ยวคนอื่นเห็น อายเค้า มึงเก็บเอาไว้เหอะ "
ปิงปิงก็เลยไม่ควักออกมา แต่มันก็พูดต่อว่า
" ถ้าพวกแกอยากจะได้ล่ะก็ ขอฉันได้นะ ฉันมีเหลือเฟือ "
ไอ้อ๊อตรีบบอก
" ขอบใจ แต่กูไม่เอาหรอกว่ะ "
ปิงปิงมองหน้าไอ๊อ๊อต แล้วเอามือปิดปากหัวเราะร่วน
" ต๊ายยยยย อย่าบอกนะว่า แกจะเล่นสดๆ กัน อี๊ โสโครกที่สุด "
ไอ้ อ๊อตกับไอ้เทพไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้มเหมือนเคย ผมเองไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยนิ่งเงียบ รู้สึกไม่ชอบการกระทำของปิงปิงเลย เป็นการกระทำของกะเทยชั้นต่ำแท้ๆ ที่อยากจะมีเซ็กส์กับคนอื่นเขาไปทั่ว ไม่ชอบเลยจริงๆ แต่ผมก็ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจอะไรออกมา ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจเฉยๆ
ถึงผมเป็นเกย์ แต่ผมก็มีความเป็นลูกผู้ชายพอ ที่ไปเขาชนไก่เพื่อฝึกวิชาทหารอย่างเดียว ไม่มีความคิดที่จะไปมั่วเซ็กส์แบบเดียวกับที่กะเทยบางคนในที่นี้คิด ไม่รู้ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพจะไปมีเซ็กส์กันที่นั่นหรือเปล่า มัน 2 คนไม่ปริปากพูดเรื่องนี้เลย ยิ่งทำหใผมสงสัยยิ่งขึ้นว่า มันทั้งคู่คิดจะทำอะไรกันแน่
ขณะนี้เวลา 6 โมง 15 นาที และจู่ๆ ทุกคนก็ได้ยินเสียงทหารพูดใส่โทรโข่งดังขึ้นจากที่ไกลๆ ว่า
" นักศึกษาวิชาทหาร ชั้นปีที่ 3 และปีที่ 4 รวมพล รวมพล "

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 5
" เฮ้ย เขาเรียกรวมแล้วเว้ย ไปเข้าแถวกันเร็ว "
ผมพูดกับ เพื่อนๆ แล้วรีบวิ่งไปตรงบริเวณที่รวมพลอย่างรวดเร็ว มีไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และปิงปิงวิ่งตามหลังผมมา นักศึกษาวิชาทหารจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศต่างก็วิ่งมาเข้าแถวกันอย่างพร้อม เพรียง ไม่นานทุกคนก็เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย นักศึกษาในวันนั้นมีมากมายจริงๆ เพราะมีทั้งปี 3 และปี 4 ทุกคนเงียบ ตั้งใจรอฟังคำสั่งต่อไป
" ทั้งหมด แถว - ตรง ! "
ทุกคนยืนตรง และนิ่ง
" ตามระเบียบ - พัก ! "
ทุกคนทำตามคำสั่ง ครูฝึกคนที่สั่งพูดต่อว่า
" จากนี้จะให้ไปพัก 10 นาที แล้วกลับมาขึ้นรถ จำหมายเลยคันที่นักศึกษาจะขึ้นเอาไว้ให้ดีๆ เกาะกลุ่มกับเพื่อนโรงเรียนเดียวกันไว้ด้วย จะได้ไม่หลงขึ้นรถผิดคัน เอาล่ะ ทั้งหมด แถว - ตรง ! "
" พักแถว "
ทุกคนสลายแถวชั่วคราว ต่างก็แยกย้ายกันไป ผมเดินไปนั่งพักที่ใต้ต้นไม้กับไอ้อ๊อต รอเวลาที่เขาจะเรียกให้ไปขึ้นรถ ไม่นานปิงปิงกับบุ๋งบิ๋งก็เดินเข้ามาสมทบ ปิงปิงถือถุงขนมห่อใหญ่มาด้วย พอมาถึงก็ตะโกนเสียงดังว่า
" นี่นี่ พวกแกดูสิ ฉันกับอีบิ๋งซื้อขนมมาเพียบเลย มีทั้งป๊อกกี้ เลย์ ปลาสวรรค์ทาโร่ โก๋แก่ ขนมปังไส้ถั่วแดง และก็ยังมีข้าวโพดคั่วด้วยล่ะ พวกแกดูสิๆ น่ากินมั๊ยล่ะ "
ไอ้เทพมองขนมที่ปิงปิงถืออยู่ในมือ แล้วก็พูดยิ้มๆ
" ซื้อมาทำ-เอี้ย-อะไรเยอะแยะวะมึง ทำยังกะจะไปปิกนิกแน่ะ นี่เรากำลังจะไปฝึกนะเว้ย "
" ฉันรู้ แต่ฉันกะจะเอามาตุนเอาไว้เป็นเสบียงไงล่ะ ไปตั้ง 5 วันเชียวนะ ฉันกลัวหิวไม่มีอะไรกินน่ะ ที่โน่นก็ไม่รู้ว่าจะมีของขายรึเปล่า ก็เลยต้องซื้อตุนเอาไว้ก่อน พวกแกจะกินมั๊ยล่ะ "
ปิงปิงถาม พลางหยิบป๊อกกี้กับเลย์ขึ้นมาจากถุง ทุกคนส่ายหน้า ผมพูดขึ้นมาว่า
" ไม่เอาหรอกว่ะ เรากินข้าวมาแล้ว แกเก็บเอาไว้กินกันเอง 2 คนก็แล้วกัน "
ปิงปิงยิ้มแก้มแทบปริ
" โอเค งั้นฉันจะเก็บเอาไว้กินบนรถก็แล้วกันนะ "
ยังไม่ทันที่จะมีใครพูดอะไรต่อ ก็พอดีได้ยินเสียงครูฝึกคนเดิมเรียก
" ทุกคน รวม ! เตรียมตัวขึ้นรถได้ "
ทุก คนก็เลยเดินกลับมาเข้าแถวที่เดิม แล้วก็เดินไปขึ้นรถหมวดละคัน หมวดของผมนอกจากจะมีโรงเรียนของผมแล้ว ยังมีโรงเรียนอื่นอยู่ด้วย ซึ่งเป็นโรงเรียนต่างจังหวัดที่ปิงปิงพูดถึง เด็กโรงเรียนอื่นส่วนใหญ่หน้าตาจะ-เอี้ย-มๆ ตัวใหญ่ๆ ล่ำๆ ดูเถื่อนๆ ผิวคล้ำ กล้ามเยอะ (เหมือนกับผม) ดูแล้วแมนมาก ไม่ดูเหมือนลูกคุณหนู แต่ดูเหมือนหนุ่มบ้านๆ มากกว่า ผมแอบดีใจลึกๆ ที่ได้นั่งรถคันเดียวกับหนุ่มๆ พวกนี้ เพราะผมชอบผู้ชายลักษณะนี้อยู่แล้ว ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็คงจะชอบเหมือนๆ กับผม สังเกตุได้จากมัน 2 คนมองคนโน้นคนนี้อยู่ตลอดเวลา แล้วก็แอบกลืนน้ำลายด้วยความอยาก
ไอ้อ๊อต นั่งคู่กับไอ้เทพ ปิงปิงนั่งคู่กับบุ๋งบิ๋งอยู่แถวหลังถัดจากไอ้เทพลงไป ส่วนผมนั่งข้างกับใครก็ไม่รู้ ตัวใหญ่ ดำๆ หน้าตาก็ธรรมดาๆ มีกลิ่นตัวนิดหน่อยแต่ก็พอทนได้ ผมก็เลยนั่งเบียดเขาจนชิดเพราะผมชอบใกล้ชิดกับผู้ชายอยู่แล้ว เขาก็นั่งเฉยๆ ไม่พูดอะไร รถออกจากสวนเจ้าเชตเวลา 7 โมงตรง
" อีบิ๋ง แดกเลย์หน่อยมั๊ย อร่อยนะแก "
ปิงปิงพูดกับบุ๋งบิ๋ง พลางยื่นถุงเลย์ที่เปิดแล้วให้ ปากก็เคี้ยวเลย์ไปด้วย บุ๋งบิ๋งอามือดันถุงเลย์กลับไปที่ปิงปิง แล้วก็พูดว่า
" พอทีเถอะแก แดกอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็อ้วกหรอก เก็บเอาไว้กินที่โน่นมั่งสิ แกคิดจะแดกจนหมดเลยรึไง พอๆ แดกถุงนี้เป็นถุงสุดท้ายนะ ที่เหลือเก็บไว้แดกต่อที่โน่น ตะกละจริงๆ "
" เออ เออ เอาอย่างนั้นก็ได้ "
ปิง ปิงรับคำอย่างรำคาญ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพหลับไปนานแล้ว ผมคิดว่ามัน 2 คนคงคิดที่จะหลับเอาแรงเอาไว้ก่อน เป็นความคิดที่ดีจริงๆ งั้นผมทำมั่งดีกว่า ผมหันไปมองข้างๆ เห็นหนุ่มนิรนามคนนั้นนั่งหลับเหมือนกัน เขาหลับได้แมนมากๆ นั่งหลับโดยผงกหัวลงเฉยๆ โดยที่ไม่เอนมาซบผมเลย (แน่นอน ผู้ชายแท้ๆ ที่ไหนเขาจะมาซบผู้ชายด้วยกันล่ะวะ 5555 )
ผมก็เลยไม่อยากจะรบกวนเขา หลับไปเถอะเพื่อน
มอง ไปรอบๆ ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ก็จะหลับกันทั้งนั้น (ยกเว้นปิงปิงและบุ๋งบิ๋ง ที่ยังคงนั่งคุยกันอยู่ ) งั้นผมหลับมั่งดีกว่า ผมค่อยๆ ผงกหัวลงแบบเดียวกับที่เขาทำ แต่แอบเอนไปทางด้านขวานิดๆ จนหัวผมเกือบจะติดกับหัวเขาอยู่แล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว หน้าของเรา 2 คนอยู่ใกล้กันมากจนผมได้กลิ่นใบหน้าของเขาเลย มันเป็นกลิ่นที่ยากจะบรรยาย แต่เป็นกลิ่นที่แมนสุดๆ ผมชอบจริงๆ ก้เลยถือโอกาสสูดกลิ่นนี้เข้าไปจนเต็มปอด ก่อนที่ผมจะเคลิ้มหลับไป
...................................
ผม สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะรู้สึกว่า รอบๆ ตัวมันร้อนอบอ้าวผิดปกติ ก็เลยเอามือขยี้ตา แล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ผมเห็นภูเขาสูงลูกหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ ตรงด้านบนของภูเขามีตัวอักษรตัวเบ้อเริ่มติดไว้ว่า " ร.ด. " ผมรู้ทันทีว่า เราเข้ามาในเขตจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว และกำลังจะถึงเขาชนไก่ในไม่กี่อึดใจนี้
ตอน นี้ทุกคนทยอยตื่นกันหมดแล้ว รวมทั้งหนุ่มนิรนามที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมด้วย ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนอบอ้าวของอากาศข้างนอกรถ สมแล้วที่เคยได้ยินใครต่อใครพูดกันว่า เมืองกาญจน์นี่อากาศโคตรร้อนจริงๆ ร้อนอย่างที่เขาว่าจริงๆ
ไม่นานรถก็มาถึงเขาชนไก่ ผมเหลือบดูนาฬิกา 10 โมงกว่าๆ เราใช้เวลาเดินทางตั้ง 3 ชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย พอรถหยุด ผมก็ได้ยินเสียงครูฝึกดังอยู่ข้างนอกรถว่า
" ลงจากรถ ไปที่รวมพล ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 เร็ว! "
ทุก คนรีบวิ่งลงจากรถ คว้าเป้สนามของตนเอง แล้วสะพายไว้ข้างหลัง วิ่งมาที่ลานรวมพลด้านหน้าทันที แต่กระนั้นก็ยังชุลมุนวุ่นวาย เพราะคนเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเข้าแถวกันไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเข้าแถวไหนดี ผมเองก็งงไม่แพ้คนอื่นๆ ไม่รู้ว่าจะเข้าตรงไหน ต่างคนต่างก็พยายามมองหาเพื่อนที่รู้จัก แต่ก็หายากจริงๆ เพราะคนเยอะละลานตาไปหมด และก็ต้องรีบเข้าแถวด้วยเพราะกลัวโดนทหารด่า ทำให้ทุกคนต้องวิ่งหาแถวกันแทบจะชนกันตาย
ทำให้การเข้าแถวเต็มไปด้วย ความยากลำบากอย่างยิ่ง แต่ไม่นานทุกคนก็เข้าแถวได้อย่างเรียบร้อย ครูฝึกยืนอยู่หน้าแถว พูดกรอกลงไปในโทรโข่งด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
" ช้ามาก ช้าจริงๆ ไม่มีระเบียบเลย ! ทั้งหมด วิดพื้นท่าเตรียม ! "
ทุกคนทำท่าวิดพื้นท่าเตรียม ปากก็พูดว่า
" เตรียม ! "
ครูฝึกสั่งต่อ และทุกครั้งที่ครูฝึกสั่ง ทุกคนก็จะต้องตะโกนทวนคำสั่งทุกครั้ง แบบนี้
(ครูฝึก) " 50 ครั้ง "
(นศท. ทุกคน) " 50 ครั้ง "
(ครูฝึก) " 20 ครั้ง "
(นศท. ทุกคน) " 20 ครั้ง "
(ครูฝึก) " ปฎิบัติ ! "
ทุกคนวิดพื้นพร้อมกันด้วยความรวดเร็ว ปากก็นับไปด้วย
" 1-2-3-4-5-6-7-8-9-10-11-12-13-14-15-16-17-18-19-20 "
หลัง จากนั้น ครูฝึกก็ทำการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 และทำพิธีเปิด เสร็จแล้วก็เรียกขึ้นรถ ไม่นานรถก็แล่นไปถึงบริเวณที่พักของเรา พอรถจอด ครูฝึกก็เรียกทุกคนลงมาจากรถอีกครั้ง แล้วสั่งให้ทุกคนเข้าแถว พอทุกคนเข้าแถวเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็พูดเสียงดังว่า
" นี่คือที่พักของเรา กองพัน 32 "
ผม มองไปรอบๆ บริเวณนี้มันช่างแห้งแล้งเหลือเกิน ผมยืนเข้าแถวอยู่กลางลานโล่ง พื้นเป็นดินแข็งๆ แห้งๆ มีต้นไม้ขึ้นอยู่ไม่กี่ต้น อากาศร้อนอบอ้าวมาก ด้านหน้าเป็นบ้านพักของเหล่าครูฝึก ส่วนด้านหลังเป็นเต็นท์จำนวนมากมายเป็นร้อยๆ หลัง เต็นท์ที่ผมจะได้นอนในคืนนี้ และอีกหลายๆ คืนต่อไป
ระหว่างที่ผมยืนอยู่ นั้น ครูฝึกก็จัดการ แบ่งหมวด แบ่งหมู่ ให้พวกเรา การแบ่งใช้เวลานานและขลุกขลักพอสมควรเนื่องจากหลายคนเข้าหมวดเข้าหมู่ไม่ถูก ต้องถามต้องเรียกชื่อกันให้วุ่น ครูฝึกถือโอกาสเช็คชื่อและนับยอดจำนวนคนไปด้วยเลย ครูฝึกไม่ได้แบ่งหมวดหมู่ตามโรงเรียน แต่เอาคละกันเลย ทำให้ในแต่ละหมวดและแต่ละหมู่มีนักศึกษาวิชาทหารจากโรงเรียนปนกันไปหมด อย่างหมู่ของผมมี 3 คนที่มาจากโรงเรียนเดียวกับผม (มีไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และเพื่อนอีก 1 คน) นอกนั้นมาจากโรงเรียนอื่นทั้งสิ้น แต่รวมๆ แล้ว ในหมวดของผม ส่วนใหญ่จะมาจาก 3 โรงเรียน คือโรงเรียนของผม (โรงเรียนในกรุงเทพฯ) และโรงเรียนต่างจังหวัดอีก 2 โรงเรียน ( แต่ก็อยู่ในเขตปริมณฑล ) เพื่อนจากโรงเรียนอื่นดูแมนๆ กันทั้งนั้น ก็ดี ผมชอบแมนๆ อยู่แล้ว ผมไม่เห็นปิงปิงกับบุ๋งบิ๋งเลย สงสัยอยู่หมวดอื่น แต่ทุกคนในที่นี้ต่างก็อยู่ในกองพันเดียวกันหมด นั่นคือกองพัน 32
ครู ฝึกยังแต่งตั้งหัวหน้าหมู่ หัวหน้าหมวด และหัวหน้ากองพันด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาวิชาทหารจากโรงเรียนอื่น ( ดีที่ไม่ใช่ผม ค่อยสบายหน่อย ) พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็เดินมายืนอยู่ที่หน้าแถวแล้วประกาศก้องว่า
" ลำดับต่อไป จะเป็นการตรวจอาวุธ ! "

ตอนที่ 6
ทุก คนมองหน้ากันเมื่อได้ยินคำว่า " ตรวจอาวุธ " แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ครูฝึก ( ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า หัวหน้าชุดฝึก เพราะใหญ่ที่สุดในกองพัน) พูดต่อ
" เดี๋ยวครูประจำหมวดจะเข้าไปตรวจอาวุธในแต่ละหมวด ให้ทุกคนเอาของออกจากเป้สนามให้หมด เทออกมากองไว้ที่พื้นเลย ให้ครูเดินตรวจดูทีละคนๆ ใครมีขนม อาหารแห้ง พวกของกินทุกอย่างน่ะ ให้ช่วยกันรวบรวมเอามากองไว้ที่หน้าแถวของตนเอง ทุกคน ทราบ ! "
" ทราบ ! "
ทุกคนขานรับพร้อมกัน หัวหน้าชุดฝึกจึงสั่งว่า
" เอาล่ะ เริ่มทำการตรวจอาวุธได้ "
ครู ฝึกที่ดูแลแต่ละหมวดต่างก็เดินเข้ามายังหมวดของตนเอง นักศึกษาวิชาทหารทุกคนต่างก็รีบเทของทุกอย่างที่อยู่ในเป้สนามออกมาทันที แล้วก็ยืนรอรับการตรวจจากครูฝึกอย่างเงียบๆ ผมเทของออกจากเป้สนามด้วยความรวดเร็วแล้วก็ยืนรอ ผมเองไม่ได้เอาขนมหรืออาหารแห้งมาเลยซักอย่าง ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็ไม่ได้เอามาเหมือนกัน แต่ผมเห็นหลายคนเอามา ครูฝึกประจำหมวดเดินดูข้าวของที่กองอยู่บนพื้นทีละคนช้าๆ แล้วบอกให้ช่วยกันรวบรวมของทุกอย่างเอาไปกองไว้หน้าแถว หลายคนทำหน้าเสียดาย แต่ก็ขัดคำสั่งครูฝึกไม่ได้ จึงต้องทำตามคำสั่ง
ไม่นานการตรวจอาวุธก็ เสร็จเรียบร้อย ทุกหมวดมีกองของกินอยู่หลายกอง โดยเฉพาะหมวดที่ 3 มีของกินเยอะมากจริงๆ จนหัวหน้าชุดฝึกต้องร้องออกมาด้วยความทึ่ง
" โห แม่ง ทำไมหมวดนี้มีของกินเยอะจังวะ ครูสุชาติ ของกินพวกนี้ส่วนใหญ่มาจากใครวะ "
ประ โบคสุดท้ายหัวหน้าชุดฝึกหันไปถามครูสุชาติ ครูฝึกประจำหมวด 3 ครูสุชาติยิ้มกว้าง แล้วชี้ไปที่ปิงปิง ที่กำลังนั่งหน้างอด้วยความเสียดายขนม
" จากอีนั่น แม่งพกของมาแดกเพียบเลย "
" 5555 หมวดมึงได้แดกกันเพลินแน่ๆ "
ครู พิชิต ครูประจำหมวด 2 พูดขึ้น ครูพิชิตเป็นครูฝึกหนุ่มรูปหล่อ ผิวคล้ำ หุ่นดีมาก กล้ามอกแน่น กล้ามท้องขึ้นเป็นลอนๆ กล้ามแขนเป็นมัดๆ เส้นเลือดปูดโปนขึ้นเป็นริ้วๆ เลย ผมมองครูพิชิตอย่างพอใจ หล่อชิบหายเลย ชอบผู้ชายลักษณะนี้จริงๆ
ต่อจากนั้น ครูฝึกก็จัดการแจกจ่ายขนมที่รวบรวมมาให้คนในหมวดกินกันเลย ทุกคนกินกันคนละนิดคนละหน่อยแล้วก็รีบส่งต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานขนมก็ถูกกินจนหมด
หลังจากนั้น ครูฝึกก็ให้ทุกคนพัก 30 นาที เพื่อเอาของไปเก็บที่เต็นท์ของตนเอง เข้าห้องน้ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ผม ลุกขึ้นสะพายเป้สนาม กำลังจะเดินไปที่เต็นท์ของตนเอง ก็พอดีมีมือสากๆ มาบีบไหล่ผมไว้แน่น ผมหันไปมองก็เห็นครูพิชิตกำลังมองหน้าผมอยู่ด้วยสายตาแปลกๆ
" เดี๋ยวมึงเอาเป้ไปเก็บ แล้วมากับกูหน่อย "
" ครับผม "
ผม ตอบรับไปด้วยใจหวั่นๆ เพราะไม่รู้ว่าครูพิชิตให้ผมไปกับเขาเพราะอะไร ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ผมก็ทำหน้างุนงงไม่แพ้กัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมรีบเอาเป้สนามไปเก็บที่เต็นท์ ไอ้อ๊อตพูดขึ้นว่า
" เหนื่อยแน่นาย ไอ้หนุ่ม ครูฝึกแม่งต้องเอานายไปใช้งานแน่ๆ ซวยชิบหายไอ้หนุ่ม แทนที่จะได้พักกลับต้องไปทำงานซะนี่ "
" เออ ช่างเหอะ เขาคงไม่ใช้งานอะไรเรามากหรอก คงแป๊ปเดียวน่า เออ เดี๋ยวเรามานะ "
ผม พูดกับไอ้อ๊อต และก็รีบเดินมาที่หน้าที่พักของครูฝึกด้วยความรวดเร็ว ครูพิชิตยืนรออยู่แล้ว ผมเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เขายิ้มให้ผมแล้วก็โอบไหล่ผมเอาไว้เหมือนสนิทสนมกับผมมานาน ก่อนจะพาผมเดินเข้าไปยังด้านหลังของที่พักเหล่าครูฝึก
ผมเดินเคียงข้าง เขาอย่างงงๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน ก็พอดีเดินมาถึงด้านหลังของที่พัก ผมถึงได้เข้าใจว่า ด้านหลังของที่พักเป็นห้องน้ำที่สร้างขึ้นอย่างง่ายๆ มี 2 ส่วน ส่วนที่เป็นรางเอาไว้ยืนเยี่ยว และส่วนที่เป็นห้องๆ สำหรับนั่งถ่าย
" ครูพาผมมาที่นี่ทำไมครับ "
ผมรวบรวมความกล้าถามออกไป ครูพิชิตไม่ตอบ แต่ผลักผมเข้าไปในห้องน้ำ ไม่มีคนเลย (เพราะเป็นห้องน้ำของครูฝึก ครูฝึกคนอื่นอยู่ที่ที่พักหมด) เขาเดินนำผมไปยังห้องน้ำห้องในสุด ผมเดินตามหลังครูพิชิตเข้าไปอย่างช้าๆ พอเรา 2 คนเข้าไปในห้องน้ำแล้วครูพิชิตก็หันมาคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงผม แล้วก็ลูบเบาๆ 1 ที ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เพราะนึกไม่ถึงว่าครูพิชิตจะชอบแบบนี้ แต่ก็รีบสนองตอบด้วยการโผเข้ากอดครูพิชิตทันที ครูพิชิตไซ้หน้าของเขากับหน้าของผมอย่างหื่นกระหาย ปากก็ครางว่า
" ไอ้แว่น ไอ้สัตว์ กูอยากทำแบบนี้มานานแล้ว ไอ้-เอี้ย- มึงแม่งน่ารักจริงๆ ทั้งหล่อทั้งขาว กูอยากแดกแบบนี้มานานแล้ว อา..... ซี๊ดดดด...... "
ครู พิชิตพูดจบก็เอาปากประกบปากผมด้วยความรวดเร็ว แล้วรีบเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากผมก่อนจะควานไปจนทั่ว ผมเสียววาบไปทั้งตัวเพราะคิดไม่ถึงว่าทหารหาญอย่างครูพิชิตจะใช้ลิ้นได้เก่ง ถึงขนาดนี้ มือของเขาก็รูดซิปกางเกงของผมลงแล้วก็ล้วงเข้าไปดึงควยขนาด 5 นิ้วครึ่งของผมออกมาจากกางเกงใน ก่อนจะถอกหัวควยลงจนสุด แล้วเขาก็ถอนปากออก ผลักผมไปจนติดฝาผนัง แล้วคุกเข่าลง และโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว ครูพิชิตก็คุกเข่าลงเอาปากครอบลำควยของผมไปทั้งลำ แล้วก็รูดปากขึ้นลงๆ มันทำให้ผมเสียวมาก ถึงกับครางออกมาอย่างสุดจะทน
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ดูดแรงๆ เลยครับผม "
ครู พิชิตดูดควยผมอยู่นาน แล้วจึงเลื่อนลงไปดูดไข่ 2 ใบของผม ก่อนจะเอาลิ้นแยงตรงรูเยี่ยวผม จนน้ำแทบแตก ผมหน้าเหยเกด้วยความเสียวปนมันส์ ร้องครางลั่น
จนครูพิชิตต้องถอนปากออกมาแล้วเตือนผม
" อย่าเสียงดัง ไอ้ตี๋ เดี่ยวคนอื่นได้ยิน ควยมึงแม่งแข็งจริงๆ กูโคตรชอบเลย ไหน ขอกูดูดอีกหน่อยซิ หัวควยมึงใหญ่ดี กูชอบ "
ครู พิชิตพูดแล้วก็ปลิ้นหัวควยผมลงมากกว่าเดิม ก่อนจะดูดเน้นๆ ที่หัวควยผม เสียงดังจ๊วบๆๆๆๆ ผมถึงกับร้องครางอย่างสุดจะทน แล้วก้มลงมองดู ภาพของทหารหนุ่มเดนตายกำลังใช้ปากกับควยผมอย่างขะมักเขม้น มันทำให้ผมเสียวสะท้านไปทั้งลำควยจนแทบจะทนไม่ไหว ผมรีบกดหัวครูพิชิตลงเพื่อให้เขาดูดได้มิดโคนควย แล้วพูดเสียงสั่นๆ ว่า
" เบาๆ หน่อยครับผม ผมเสียวหัวควย เดี๋ยวน้ำแตก "
แต่ ครูพิชิตก็ไม่สนใจ ยังดูดควยผมต่ออย่างเมามัน จนผมรู้สึกว่ากลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ผมหลับตาปี๋ รู้สึกเกร็งไปทั้งตัว และเสียวหัวควยมาก ควยของผมแข็งเป็นเอ็น เส้นเลือดปูดโปนออกมามากมาย และในที่สุด ผมก็ทนต่อไปไม่ไหว น้ำกามขุ่นข้นที่เก็บมานานก็กระฉูดออกมาจากรูควย พุ่งเข้าไปในปากของครูพิชิตด้วยความรวดเร็ว และหลั่งออกมามากมาย ครูพิชิตสะดุ้ง แล้วก้มลงเอาปากครอบลำควยผมไว้ถึงตรงโคนเพื่อดูดกินน้ำกามของผม เขาใช้ปากรีดน้ำกามออกจนหยดสุดท้าย ก่อนที่จะถอนควยของผมออก แล้วยืนขึ้น รูดซิปกางเกงของเขาลง ควักควยขนาด 7 นิ้วออกมา แล้วบอกให้ผมดูดควยเขาบ้าง
" ดูดควยกูที มึงอยากดูดนักไม่ใช่เหรอ กูรู้มึงชอบควย เต็มที่เลยไอ้สัตว์ นักศึกษา ปฎิบัติ ! "
ถึงเขาจะใช้คำหยาบๆ กับผม แต่ผมก็ยินดีทำให้เขา ผมขานรับทันที
" ครับผม "
ผม ก้มลงดูดควยที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นของครูพิชิตทันที ควยครูพิชิตใหญ่สะใจดี หัวควยถอกบานเป็นสีเลือดหมู ลำควยดำสนิทแข็งเป็นหิน มีกลิ่นนิดหน่อยตามประสาทหารที่ต้องอยู่กลางดินกินกลางทรายมานาน ทำให้ควยเปื้อนดินไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ รีบดูดควยเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย จะได้เสร็จๆ ไป
เสียงดัง จ๊วบๆๆๆๆๆๆ
" อา เสียวควยชิบหายเลย มึงเก่งมากไอ้ตี๋ อูยยยยยยยยยยยยยย มันส์ ดูดแรงๆ เลยสัดหมา อูยยยยยย มึงเจ๋งจริงๆ "
เขา ร้องครางด้วยความพอใจ ไม่นานน้ำกามของเขาก็กระฉูดออกมาเต็มปากผม มันคาวสุดๆ ผมรีบบ้วนทิ้งทันที เสร็จแล้วเรา 2 คนก็รีบล้างควยก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป พออกมาจากห้องน้ำแล้ว ครูพิชิตก็โอบไหล่ผมเหมือนเดิม แล้วกระซิบข้างหูผมว่า
" มึงห้ามบอกเรื่องนี้กับใครนะไอ้สัตว์ เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดยอดเลย แล้วมึงจะสบายตลอดการฝึก 5 วันนี้ กูจะไม่ทำโทษมึงตราบใดที่มึงไม่ปากโป้งเรื่องนี้ เข้าใจมั๊ย "
ผมพยักหน้า
" ครับ ผมไม่บอกใครแน่นอน "
ครูพิชิตยิ้มอย่างพอใจ แล้วตบไหล่ผมแรงๆ ทีนึง แล้วพูดว่า
" ดีมาก ตอนนี้มึงไปพักได้แล้ว ยังไม่หมดเวลาพักเลย แล้วตั้งใจฝึกต่อ โชคดีนะไอ้ตี๋แว่น ไอ้รูปหล่อ "
" ครับผม! "
ผมตอบ แล้วรีบวิ่งไปที่เต็นท์ของผมทันที ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพยืนรออยู่แล้ว พอผมวิ่งไปถึง ไอ้อ๊อตก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
" ไงนาย โดนใช้งานหนักเลยล่ะสิ ครูเขาเรียกนายไปทำอะไรวะ ดูดิเหงื่อเต็มหลังเลย คงจะเหนื่อยมากล่ะสิไอ้-เอี้ย- "
ผมแกล้งทำหน้าบึ้ง ก่อนจะตอบโกรธๆ
" ให้ไปล้างส้วมว่ะ ซวยชิบหาย ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย ส้วมก็เหม็น-เอี้ย-ๆ "
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอ้เทพพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นใจว่า
" ซวยของนายจริงๆ ว่ะ ไอ้หนุ่ม มาวันแรกก็โดนล้างส้วมเลย "
" ใช่ โคตรซวยเลย "
ผมตอบ แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 7
ไม่มีใครรู้หรอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับผมและครูพิชิตนั้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ผมยิ้มแล้วนึกไปถึงช่วงเวลาอันแสนสุขนั้น ถ้าไม่มีช่วงเวลานั้นแล้ว เรื่องระหว่างผมกับครูฝึกหนุ่มรูปหล่อนั่น คงไม่เกิด
........................
ใน ระหว่างที่ครูฝึกหมวด 1 กำลังแบ่งหมวด แบ่งหมู่ กันอย่างวุ่นวายนั้น หมวด 2 ของผมได้รับอนุญาตให้ไปพักได้ ทุกคนกำลังปวดเยี่ยวอย่างเต็มกำลัง ก็เลยวิ่งไปที่ห้องน้ำกันหมดทุกคน รวมทั้งผมด้วย
ขณะที่ทุกคนกำลังยืน เยี่ยวอยู่อย่างสบายอารมณ์นั้น ผมเองก็กำลังยืนชะเง้อมองควยของคนข้างๆ อยู่เงียบๆ โดยไม่ให้เจ้าของควยรู้ตัว ผมได้เห็นควยหลากหลายขนาด แต่ส่วนใหญ่จะดำๆ ยาวๆ บางอันก็ป้อมๆ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นควยของเด็กต่างจังหวัด น่ากินมากจริงๆ ผมก็มองซะเพลินตาไปเลย จนคนค่อยๆ ทยอยออกจากห้องน้ำ แต่ผมก็ยังคงยืนอยู่ที่โถเยี่ยว แล้วก็รุดควยขึ้นลงๆ อย่างเมามัน
ซักพัก นึง ผมก็รู้สึกตัวว่ามีผู้ชายผิวคล้ำๆ คนหนึ่งมายืนเยี่ยวที่โถข้างๆ เขาตัวใหญ่และล่ำมากเกินกว่าที่จะเป็นเพื่อนนักศึกษาวิชาทหารด้วยกัน พอเข้ามายืนก็รูดซิปลงแล้วดึงควยออกมาทันที ยืนห่างโถมากจนมองเห็นควยได้ชัดเจน ผมมองตาไม่กะพริบเพราะว่าควยเขาใหญ่มากจริงๆ ขนาดยังไม่แข็งเต็มที่นะครับ ควยกำลังผงกหัวหงึกๆ เป็นจังหวะ เขายืนอยู่นานแล้วแต่ก็ไม่เห็นเยี่ยวซะที ผมชักผิดสังเกตุ ก็เลยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของควย แล้วก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ
ครูพิชิตนั่นเอง ! เขากำลังมองหน้าผมอยู่ด้วย ส่วนมือก็กำลังสาวควยช้าๆ !
ผม ตกใจมาก กลัวโดนด่า และก็กลัวโดนทำโทษ รีบเก็บควยเข้ากางเกงด้วยความรวดเร็ว แล้วเดินมาที่อ่างล้างมือ ครูพิชิตก็เก็บควยเข้าที่เหมือนกันแล้วจึงเดินมาหยุดที่ข้างหลังผม ผมก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้รีบเดินออกจากห้องน้ำไป ไม่รู้หรอกว่า ครูพิชิตมองตามหลังผมจนผมเดินกลับไปเข้าแถวดังเดิม ยังตื่นเต้นไม่หายเลย ที่เห็นครูพิชิตทำเรื่องแบบนั้นให้ผมเห็น
เขาคงรู้ได้จากพฤติกรรมของผมแน่ๆ ว่าผมเป็นเกย์แน่นอน เขาถึงได้กล้าเรียกตัวผมเข้าไปดูดควยในห้องน้ำแบบนั้น ผมนี่โชคดีจริงๆ
ถ้าผมไม่แอบมองควยคนอื่นในห้องน้ำ เรื่องมันส์ๆ แบบนี้คงไม่เกิด
..................................
" คืนนี้นายจะนอนกับเราหรือเปล่าวะ ไอ้อ๊อต "
ผมถามไอ้อ๊อต เพราะไม่เห็นเป้สนามของไอ้อ๊อตในเต็นท์ของผม
" เอ้อ โทษทีว่ะหนุ่ม คือว่า เราอยากไปนอนเต็นท์เดียวกับไอ้เทพน่ะ "
ผมมองหน้ามันแล้วถามเบาๆ
" ไม่อยากนอนกับเราเหรอวะ "
ไอ้อ๊อตหลบตาผม แล้วตอบไม่เต็มเสียง
" เอ๊ย ไม่ใช่อย่างนั้นว่ะ แต่... แต่เราอยากนอนกับไอ้เทพจริงๆ นายก็รู้นี่หว่าว่า เรา 2 คนมีแผนจะทำอะไรกันตอนกลางคืน "
" ล่อตูดกันใช่มั๊ย "
ผมพูดตรงๆ ไอ้อ๊อตพยักหน้า
" เออว่ะ อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน "
" งั้นเราก็ต้องนอนคนเดียวสิวะ "
ผมพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความน้อยใจ ไอ้อ๊อตรีบตบไหล่ผมเบาๆ แล้วปลอบว่า
" เอาน่าเพื่อน นอนคนเดียวสบายจะตาย ไม่ต้องเบียดใคร ไม่อึดอัดด้วย ดีออก เรายังอยากจะนอนคนเดียวเลย ถ้าไม่ติดว่าอยากจะเล่นอะไรเสียวๆ กับไอ้เทพมัน "
ผมถามต่อ
" แล้วตอนแรกไอ้เทพต้องนอนกับใครวะ ครูฝึกเขาเป็นคนจัดให้พวกเราเองนี่หว่า เต็นท์ละ 2 คน ถ้านายไปนอนเต็นท์เดียวกับไอ้เทพ แล้วอีกคนจะไปนอนไหนวะ นอนกับเราแทนเหรอ "
" ตอนแรกไอ้เทพต้องนอนกับไอ้ป่าน แต่ไอ้ป่านขอไปนอนกับเพื่อนเต็นท์อื่นว่ะ มันอยากไปนอนกับเพื่อนสนิทของมันจริงๆ นายรู้เปล่า บางเต็นท์นอนกัน 3 คน 4 คนเลย แม่งสนุกชิบหาย เย็ดกันมันส์ไปเลย "
" นี่ยังไงๆ เราก็ต้องนอนคนเดียวจริงๆ ใช่มั๊ยวะ "
ไอ้อ๊อตยิ้มให้ผมแล้วตอบด้วยเสียงหนักแน่น
" เอาน่า อย่าซีเรียส บอกแล้ว นอนคนเดียวสบายจะตายห่า "
ผมอ้าปากจะพูดต่อ ก็พอดีได้ยินเสียงครูฝึกเรียกดังลั่น
" ทั้งหมด รวม!!! "
" ไปเว้ย เขาเรียกรวมแล้ว "
ผมพูดแล้วก็รีบวิ่งไปยังที่รวมพลทันที พอไปถึงก็รีบเข้าแถวตามลำดับที่ของตนเอง ไม่นานแถวก็เรียบร้อย
" ได้เวลากินข้าวกันแล้ว "
หัว หน้าชุดฝึกพูดเสียงดัง แล้วก็อธิบายถึงวิธีการกินข้าวของที่นี่ให้ทุกคนฟัง ที่นี่มีเขามีให้เลือก 2 แบบ คือ ข้าวหลวง กับข้าวราษฎร์ ข้าวหลวง คือเป็นข้าวที่ครูฝึกทำให้กินเอง เอาใส่จานหลุมๆ เตรียมไว้ให้เสร็จ อาหารก็มีหลากหลายแต่ส่วนใหญ่จะเผ็ดมาก ส่วนข้าวราษฎร์นั้น ข้างๆ กองพันจะมีร้านค้าขายอาหารหลายอย่างให้เลือกซื้อกินได้เต็มที่ จึงเหมาะกับพวกลูกคนมีกะตังค์ทั้งหลาย ข้าวหลวงนั้นเหมาะกับคนที่ไม่ได้พกตังค์มา และต้องการประหยัด ครูฝึกให้เลือกเองว่าจะกินข้าวแบบไหน เพื่อนๆ โรงเรียนอื่นส่วนใหญ่เลือกที่จะกินข้าวหลวง (คงอยากประหยัดเงิน และคงเป็นคนกินง่าย เขาถือว่ายัดๆ เข้าปากไปให้มันอิ่มๆ ก็พอแล้ว จะกินอะไรก็กินได้ทั้งนั้น แมนจริงๆ ) ส่วนผม ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และเพื่อนๆ โรงเรียนเดียวกันส่วนใหญ่เลือกกินข้าวราษฎร์ ผมลองถามเหตุผลหลายคนว่าทำไมไม่กินข้าวหลวง เหตุผลของพวกเขาทำเอาผมหน้าหงายเลย
" กินของแม่งทำ-เอี้ย-ไรล่ะ ซื้อแดกเองดีกว่า อร่อยกว่าเยอะ "
" กลัวไม่อร่อยว่ะหนุ่ม กลัวพวกทหารแม่งเอาตีนทำ "
" กูรวย กูก็อยากจะกินของที่กูอยากกินสิวะ จะไปกินข้าว-เอี้ย-ๆ ของพวกแม่งทำไม "
ตกลง พวกเราก็เลยไปซื้อข้าวกินที่ร้านค้ากันหมด อาหารที่ขายส่วนใหญ่เป็นข้างแกง กับข้าวเยอะมาก และให้ข้าวเยอะสุดๆ จนผมกินไม่หมด ผมกินได้แค่ครึ่งจานก็ต้องเลิกกินเพราะกินไม่ไหวจริงๆ แต่ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพกินจนเกลี้ยง แม่งกินโคตรเก่งเลย
บริเวณร้านค้ายังมี ตู้โทรศัพท์แบบใช้บัตรด้วย มีคนต่อแถวโทรกันยาวเหยียด ผมก็อยากโทรไปหาพ่อด้วย แต่คิดไปคิดมาไม่โทรดีกว่า เพราะมีคนรอโทรกันเยอะแล้ว ขี้เกียจรอ
เรา 3 คนกินข้าวกันหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดเวลาพัก ไอ้อ๊อตก็เลยชวนไอ้เทพไปห้องน้ำ
มัน 2 คนไม่ทันสังเกตุว่า ตอนที่มันกำลังเดินไปห้องน้ำอยู่นั้น มีนักศึกษาวิชาทหารตัวเล็กๆ คนหนึ่งเดินตามหลังพวกมันไปด้วย!
..............................

ตอนที่ 8
ไอ้ อ๊อตกับไอ้เทพเดินเข้าไปในห้องน้ำ มีนักศึกษาวิชาทหารอยู่ในนั้นหลายคน มัน 2 คนก็เลยทำเป็นเดินไปเดินมาเพื่อรอให้คนอื่นๆ ใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วก็ออกไป ซักพักคนอื่นๆ ก็ออกจากห้องน้ำไปเกือบหมด เหลืออยู่ไม่กี่คนที่กำลังยืนเยี่ยวอยู่ ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเห็นลู่ทางสะดวกดีแล้วก็เลยเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ ห้องในสุด และรีบผลุบเข้าไปในนั้นทันที
"   คนเยอะชิบหาย นึกว่าจะเข้ามาในนี้ไม่ได้ซะแล้ว "
ไอ้เทพกระซิบข้างหูไอ้อ๊อตเบาๆ ไอ้อ๊อตรีบกระซิบตอบ
" เออน่า ยังไงเราก็เข้ามาในนี้ได้แล้ว อย่าเสียเวลาเลยไอ้ห่า เร็วๆ รีบทำกันเหอะ กูเงี่ยนแล้ว "
ไอ้ อ๊อตพูดยังไม่ทันจบ ไอ้เทพก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากกับไอ้อ๊อตทันที แล้วเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากจนลึก ไอ้อ๊อตไม่รอช้ารีบเอามือเค้นคลึงเป้ากางเกงตุงๆ ของไอ้เทพแล้วรูดซิปลง งัดควยดุ้นใหญ่ยาวของไอ้เทพออกมาจากกางเกงในแล้วถอกหัวเข้าออกๆ อย่างมันส์มือ   ควยของไอ้เทพสู้มือมากๆ ไอ้เทพหลับตาปี๋ด้วยความเสียวก่อนจะถอนปากออกแล้วรูดซิปกางเกงไอ้อ๊อตลงบ้าง ก่อนจะควานหาควยของเพื่อนรักด้วยหวังที่จะถอกควยเพื่อนเล่นบ้าง ก็พอดีไอ้อ๊อตโน้มตัวมาตรงแก้มดำๆ ของมันแล้วหอมเสียงดังฟอด! และเลื่อนปากไปที่ติ่งหูพร้อมกับขบเบาๆ ด้วย การกระทำของไอ้อ๊อตยิ่งเพิ่มความเสียวให้กับไอ้เทพเป็นทวีคูณ จนมันต้องร้องครางออกมา
" ซี๊ดดดดดดด เสียวดีจริงๆ ว่ะเพื่อนเอ๊ย มึงมันเจ๋งจริงๆ เลย ซี๊ดดดดด ไหน ขอกูดูดควยมึงหน่อยสิ กูอยากดูดควยมึงมานานแล้วไอ้-เอี้ย-เอ๊ย "
ไอ้อ๊อตผละจากไอ้เทพแล้วถอยหลัง ไปจนชิดผนังห้องน้ำ เตรียมตัวที่จะควักควยออกมาให้เพื่อนดูด แต่แล้วมันก็ต้องทำหน้าตกใจสุดขีด พร้อมกับชี้ไปที่พื้นห้องน้ำห้องข้างๆ แล้วพูดเสียงสั่นๆ ว่า
" เฮ้ย นั่นมือใครวะ !!!! "
ไอ้เทพตกใจ รีบมองไปตามที่ไอ้อ๊อตชี้ มือสีดำป้อมๆ มือหนึ่งยื่นออกมาจากห้องน้ำห้องข้างๆ มือนั้นกำลังกวักอย่างช้าๆ คล้ายกับตั้งใจจะกวักเพื่อเรียกไอ้อ๊อตกับไอ้เทพ มือนั้นกวักอยู่ 2-3 ทีก็ผลุบหายไป
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไอ้อ๊อตกระซิบข้างหูไอ้เทพว่า
" มือครูฝึกป่าววะ ชิบหายแล้วคราวนี้ พวกเราโดนจับได้เหรอวะเนี่ย "
ไอ้เทพกระซิบตอบ
" เฮ้ย กูว่าไม่ใช่มือครูฝึกว่ะ มือมันป้อมๆ เนียนๆ ไม่เหมือนมือครูฝึกเลย มือครูฝึกต้องเหี่ยวและกร้านกว่านี้ กูว่ามันอาจจะเป็นมือนักศึกษาวิชาทหารด้วยกันก็ได้นะ "
" แล้วมันจะยื่นมือมาทำไมวะ กูไม่เข้าใจ มันต้องมีอะไรซักอย่างแน่ๆ เฮ้ย ไอ้เทพ กูชักใจไม่ดีแล้วว่ะ แม่งต้องรู้แน่เลยว่าเรา 2 คนมาทำ-เอี้ย-อะไรในห้องน้ำ เกิดแม่งเอาไปบอกครูฝึกจะทำไงวะ ซวยแน่ๆ เลยกู "
" เฮ้ย อย่าเพิ่งคิดอะไรมากสิวะ มันอาจจะไม่ใช่แบบที่มึงคิดก็ได้ บางทีกูว่ามันอาจจะอยากมาร่วมแจมกับพวกเราด้วยก็ได้นะ "
ไอ้เทพพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ไอ้อ๊อตยังมีสีหน้ากังวล ไอ้เทพก็เลยพูดต่อ
" เอางี้ กูจะเปิดออกไปดูแล้วกัน แล้วจะไปดูห้องข้างๆ ว่ามันเป็นใครกันแน่ ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย "
ไอ้อ๊อตพยักหน้า
" เอางั้นก็ได้ กูก็จะไปด้วย แต่ถ้าไม่มีอะไร เราเลิกทำก่อนแล้วกันนะ ชักไม่ปลอดภัยแล้วว่ะ กลัวมีคนจับได้ "
ไอ้ เทพค่อยๆ แง้มประตูออกมา ตอนแรกไม่เห็นใครก็เลยเปิดอ้าออกมาจนกว้าง แล้วมันก็เห็นนักศึกษาวิชาทหารหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้ามัน เขาเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างเล็ก แต่ล่ำ หัวเกรียนมาก ผิวคล้ำมีแววกร้านแดด หน้าตาหล่อแบบไทยๆ กล้ามใหญ่มากและมีเส้นเลือดขึ้นที่แขนเพียบ เป้ากางเกงตุงแน่นและพองออกมาจนเห็นได้ชัด ไอ้เทพอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เด็กหนุ่มคนนี้คือ " ไอ้เด่น " หัวหน้าหมู่ของมัน เป็นเพื่อนใหม่จากต่างโรงเรียน ไอ้เทพขยับปากจะพูด แต่ไอ้เด่นเอานิ้วชี้แตะที่ปากของมันเป็นสัญญาณว่า ไม่ให้พูด แล้วดันตัวไอ้เทพเข้าไปในห้องน้ำดังเดิม มันเองก็เข้ามาด้วย
ไอ้อ๊อตซึ่งยังอยู่ในห้องน้ำเห็นไอ้เด่นเข้ามากับไอ้เทพก็ตกใจไม่แพ้กัน มันรีบถามไอ้เด่นทันที
" เฮ้ย ไอ้-เอี้ย-เด่น นี่มึงเข้ามาทำ-เอี้ย-ไรวะเนี่ย "
ไอ้เด่นยิ้มแล้วพูดเบาๆ พอได้ยินกัน 3 คนว่า
" กูเล่นด้วย กูเห็นพวกมึง 2 คนเข้าห้องน้ำห้องเดียวกัน กูคิดว่าพวกมึงจะต้องมาเล่นเสียวกันแน่ๆ ขอกูเล่นด้วยคนนะ "
" ไอ้-เอี้ย- แล้วเมื่อกี้มึงใช่มั๊ยที่เป็นคนยื่นมือออกมา "
ไอ้เทพถาม ไอ้เด่นทำเสียงงึมงำในคอเป็นเชิงตอบรับ
" มึงนี่มันเหลือเกินจริงๆ ชอบแบบนี้ก็ไม่บอกกู กูก็นึกว่ามึงเป็นชายแท้ เห็นแมนชิบหาย ที่แท้ก็ชอบแบบเดียวกับพวกกูนี่เอง ร้ายนักนะไอ้ห่า "
ไอ้เทพพูดยิ้มๆ แล้วหันไปพูดกับไอ้อ๊อตเบาๆ
" ไอ้อ๊อต ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว รุมมันเลยดีกว่า กูก็เล็งไอ้-เอี้ย-นี้มานานแล้ว หล่อซะขนาดนั้น เล่นแม่งให้น้ำแตกเลย "
ไอ้ อ๊อตยิ้ม แล้วพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะจ้องหน้าไอ้เด่นเขม็ง แล้วจึงโถมเข้าไปกอดรัดไอ้เด่นจนแน่นโดยที่มันยังไม่ทันตั้งตัว แล้วระดมจูบปากไอ้เด่นอย่างหื่นกระหาย เสียงดังจ๊วบๆๆๆ ไอ้เด่นสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมรวดเร็วขนาดนี้ แต่มันก็ไม่ขัดขืนกลับกอดรัดไอ้อ๊อตแน่นพอๆ กันพร้อมกับเอาลิ้นของมันพันกับลิ้นไอ้อ๊อตไปด้วย ซักพักไอ้อ๊อตก็พลิกตัวออกทางด้านข้าง แต่ยังคงดูดปากไอ้เด่นอยู่ ไอ้เทพรีบรูดซิปกางเกงไอ้เด่นลงแล้วดึงควยดุ้นยาวของไอ้เด่นออกมาชมโลกภาย นอก  ควยของไอ้เด่นดำมาก และยาวพอสมควร เส้นเอ็นปูดโปนเต็มไปหมด ไอ้เทพรีบก้มลงดูดทันที อีกมือก็ดึงกางเกงของไอ้เด่นลงไปกองแทบเท้า  ควยของไอ้เด่นค่อยๆ ขยายขนาดขึ้นจนแข็งตัวเต็มที่ มันใหญ่จนคับปากไอ้เทพเลยทีเดียว ขาของไอ้เด่นสั่นพั่บๆ ด้วยความเสียว ระหว่างนั้นไอ้เทพก็เอามือขวาเล่นพวงไข่แฝดของไอ้เด่นไปด้วย มือซ้ายก็บีบตูดไอ้เด่นแรงๆ ด้วยความเงี่ยน ส่วนไอ้อ๊อตรีบเลื่อนปากลงมาที่หัวนมดำๆ ของไอ้เด่นแล้วเอาลิ้นฉกเร็วๆ เพื่อเพิ่มความเสียวให้กับมัน มือก็ลูบไล้แผ่นอกเนียนๆ ที่มีกลิ่นสาปชายของไอ้เด่นไปมา นานๆ ก็หอมลงไปบนแผ่นอกของไอ้เด่นซักครั้งหนึ่ง แผ่นอกที่เต็มไปด้วยกล้ามของไอ้เด่นหอมมาก ไอ้เด่นครางเสียงหลง น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเสียวสุดๆ ถูกจู่โจมทั้งข้างบนข้างล่างพร้อมกันแบบนี้ ใครล่ะจะทนไหว
" อูยยยยยยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดดดด พวกมึง....พวกมึงรุมกูเหรอ...... ซี๊ดดดดดด...... ไม่ไหวแล้วแม่ง............ กูเสียวน้ำจะออกแล้ว ........ ซี๊ดดดดดดด.........จะออกแล้วโว้ย.......... โอยยยย......... "
ไอ้เทพ ได้ยินอย่างนั้นก็รีบเอามือบีบตูดแน่นๆ ของไอ้เด่นเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ปากก็ครอบลำควยลงไปจนมิด  ควยไอ้เด่นกระตุกเบาๆ แล้วน้ำกามเหนียวข้นก็กระฉูดออกมาจากรูจู๋น้อยอย่างไม่ยั้ง ไอ้เด่นรีบพูดด้วยเสียงกระเส่า
" ออกแล้ว กูออกแล้ววววววววว........... "
ไอ้ เทพรีบเอาปากรองน้ำกามของเพื่อนจนน้ำกามของไอ้เด่นออกมาหมดเกลี้ยง แล้วจึงค่อยๆ เอาปากรูดควยเน้นๆ อีกทีนึงเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำของมันออกมาหมดแล้ว ก่อนจะถ่มทิ้งไป แล้วจึงยืนขึ้นมองหน้าไอ้เด่นซึ่งกำลังยืนหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อยปนมันส์ ไอ้เด่นเหงื่อออกท่วมตัวเลย สีหน้าของมันดูมีความสุขมาก ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพยิ้มแล้วตบไหล่ของไอ้เด่นเบาๆ คนละข้าง ไอ้เด่นก็ยิ้มตอบแล้วพูดว่า
" ขอบใจมากนะพวกมึง ที่ทำให้กูมีความสุข กูจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย เพื่อนรัก กูขอออกไปก่อนนะ ในนี้มันร้อน "
ไอ้เด่นพูดจบก็ตบไหล่ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเบาๆ คนละทีสองที แล้วจึงเปิดประตูออกจากห้องน้ำไป
" โชคดีจริงๆ ที่ได้เล่นเสียวกับหัวหน้าหมู่ มึงว่ามั๊ย "
ไอ้อ๊อตพูดขึ้น ไอ้เทพอมยิ้ม ไม่ตอบอะไร ไอ้อ๊อตเห็นไอ้เทพไม่ตอบก็เลยพูดว่า
" พวกเราก็ออกไปกันบ้างเหอะ เดี๋ยวก็คงหมดเวลาพักแล้ว จะได้ไปฝึกต่อในภาคบ่าย "
ทั้ง 2 คนจึงแต่งตัว แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
..................................
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียง นกหวีดเรียกรวมแถวดังขึ้นอีกครั้ง ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งมาเข้าแถวบริเวณที่รวมพลทันที ไม่นานแถวก็เสร็จเรียบร้อย หัวหน้าชุดฝึกยืนจังก้าอยู่หน้าแถว เป้าของหัวหน้าชุดฝึกตุงมากจนผมแอบกลืนน้ำลาย เขาตะโกนใส่โทรโข่งว่า
" ต่อไปเราจะทำการซ้อมยิงปืนที่สนามยิงปืน ต้องเดินไปไกลพอสมควร หมวด 1 เดินไปก่อน แล้วหมวดที่เหลือก็เดินไปตามลำดับ เว้นระยะระหว่างหมวดด้วย ไม่ต้องรีบเดินมากนัก รอเพื่อนบ้าง ทุกคน ทราบ ! "
" ทราบ ! "
ทุกคนตอบพร้อมกัน
แล้วหมวด 1 ก็เริ่มออกเดิน ตามด้วยหมวด 2 ของผม และปิดท้ายด้วยหมวด 3

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 9
ขณะนั้นเป็นเวลาบ่าย อากาศกำลังร้อนจัด เปลวแดดอันร้อนระอุแผ่กระจายครอบคลุมทั่วอาณาบริเวณที่เรากำลังเดินอยู่ ทำให้ผมและเพื่อนๆ รู้สึกร้อนมาก ทุกย่างก้าวของผมมีแต่ความร้อนและความเหน็ดเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นอยู่ทุก วินาทีที่ผ่านไป พื้นดินร้อนมาก ร้อนจนผมรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่บนกะทะที่ใส่น้ำมันเดือดๆ เอาไว้จนเต็ม พร้อมที่จะทอดนักศึกษาวิชาทหารทุกคนให้สุกได้ทุกเมื่อ บริเวณ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยไม้ยืนต้นแห้งๆ บ้าง พุ่มไม้และกอไม้บ้าง ล้วนแต่โดนแดดเผาจนไหม้เกรียม ยิ่งเดินก็ยิ่งร้อนจนแทบทนไม่ไหว ผมกับเพื่อนๆ กัดฟันเดินไปอย่างสุดทรมาน เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน แถมคอแห้งอีก ไม่รู้จะทำยังไงดี น้ำในกระติกก็เหลืออีกไม่มากเท่าไหร่แล้ว
ไอ้อ๊อตซึ่งเดินตามหลังผมมา ไอแรงๆ 2-3 ทีแล้วพูดเสียงแหบ
" ไอ้-เอี้ย- ร้อนชิบหายเลย ทำไมมันร้อนอย่างนี้วะ หนุ่ม เราร้อนจังว่ะ "
ผมได้ยินไอ้อ๊อตบ่นก็เลยตอบไปว่า
" เราก็ร้อนเหมือนกันว่ะ แม่ง ตอนนี้อุณหภูมิคงซัก 40 องศาล่ะมั๊ง ร้อนโคตรๆ "
" อีกไกลมั๊ยวะ กว่าจะถึงสนามยิงปืน "
" ถามเราแล้วเราจะรู้มั๊ย เดินไปเหอะว่ะ พูดมากเดี๋ยวคอแห้งนะสัด "
ผม พูดแล้วหยิบกระติกน้ำที่ห้อยอยู่ที่เอวด้านขวาขึ้นมาเปิดฝาออก กระดกน้ำเข้าปากอึกหนึ่ง แล้วรีบปิดฝาห้อยไว้ที่เดิม แดกแค่นี้ก็พอแล้ว เราต้องประหยัดน้ำหน่อย เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเติมน้ำครั้งต่อไปเมื่อไหร่
" รู้งี้เราอยู่บ้านชักว่าวดีกว่า สบายกว่ามาเดินในนรกแบบนี้เยอะเลย "
ไอ้อ๊อตพูดขึ้นมาอีก ผมยิ้ม
" เออ เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้เราว่านายหยุดพูดแป๊ปนึงเหอะ แฮ่ก แฮ่ก (เสียงผมหอบ) เราเหนื่อยว่ะ ไม่มีแรงจะคุยกับนายแล้ว "
ไอ้อ๊อตก็ เลยเงียบ ไม่พูดอะไรอีก ผมนั้นรู้สึกเหนื่อยแทบขาดใจ เดินเท่าไหร่ๆ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะถึงซักที ระยะทางไกลโคตรๆ ทั้งกองพันไม่มีใครคุยกันเลย ต่างก้มหน้าก้มตาเดินกันอย่างเดียว เดิน..เดิน และก็เดิน.. จนในที่สุดก็ถึงสนามยิงปืน
" ถึงซะที เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้ว "
ผม พูดกับตนเอง พลางกวาดสายตาไปรอบๆ ที่ตรงนี้โล่งกว้างมาก แต่ก็ร้อน และนั่น! มีร่มคันใหญ่กางอยู่ด้วย ดีล่ะ ขอหลบแดดซักพักก็แล้วกัน ผมและเพื่อนๆ ก็เลยวิ่งเข้าไปหลบแดดใต้ร่มคันนั้น ต่างก็เบียดเสียดกันเพื่อที่จะได้ยืนอยู่ใต้ร่มคันนั้น ได้หลบแดดซักพักทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น แต่ยังไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงครูฝึกตะโกนขึ้นมาว่า
" ทั้งหมด รวม ! "
" เอาอีกแล้วเหรอวะ -เอี้ย- กูยังไม่หายเหนื่อยเลย เรียกอีกแล้ว "
ผมคิดในใจ แต่ก็รีบวิ่งไปเข้าแถวด้วยความรวดเร็ว อากาศในตอนนี้ยิ่งทวีความร้อนยิ่งขึ้นจนผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
" ทั้งหมด แถว ตรง ! "
ทุกคนยืนตรง และนิ่ง รอฟังคำสั่งต่อไป
" นั่ง ! "
ทุก คนทรุดตัวลงนั่งทันที แล้วก็ต้องกัดฟันเพราะพื้นสนามร้อนมาก แทบจะต้มไข่สุกได้เลย แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมควักยาดมออกมาดม แล้วก็สูดหายใจลึกๆ 1 ที แต่กระนั้นก็ไม่อาจคลายความเหนื่อยได้ มันเหนื่อยเหลือเกิน แถมร้อนด้วย แต่ยังไงก็ต้องอดทน
ครูฝึกให้พวกเรา นั่งพักแป๊ปนึง แล้วก็สั่งให้ยืน และให้แต่ละคนวิ่งไปรับปืนมาคนละ 1 กระบอก ปืนหนักมาก หลังจากนั้นก็ให้วิ่งไปบริเวณที่ทำการยิงปืนเพื่อทำการฝึกตามสถานีต่างๆ สถานีแรกที่ผมรับการฝึกคือสถานีฝึกการยิงปืนด้วยกระสุนจริง 18 นัด แต่วันนี้เป็นแค่การซ้อมจึงยังไม่บรรจุกระสุนจริง 18 นัดนั้นจะเป็นการยิงปรับทางปืน 3 นัด และยิงบันทึกแต้ม 15 นัด แบ่งเป็นท่านอนยิง 5 นัด ท่านั่งสูงยิง 5 นัด และท่านั่งคุกเข่ายิง 5 นัด แต่พอผมไปถึงสถานที่ฝึกยิง ครูฝึกประจำสถานีก็ให้ทุกคนนั่งพักก่อน ผมรีบนั่งลงไปตรงนั้นเลยเพราะเมื่อยมาก ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็นั่งลงไปเหมือนกัน ไอ้เทพพูดขึ้นว่า
" กูว่า เรารีบไปเติมน้ำกันก่อนเถอะว่ะ เดี๋ยวจะไม่มีเวลาเติมนะมึง "
ผม กับไอ้อ๊อตเห็นด้วย ก็เลยวิ่งไปเติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม ที่นี่เขามีแท็งค์น้ำใหญ่ๆ ให้เราเติมน้ำได้สะดวก พอเติมน้ำเสร็จ ไอ้อ๊อตก็พูดกับผมว่า
" ไปเยี่ยวกันมั๊ย เราปวดว่ะ "
" นายไปก่อนเหอะ เรายังไม่ปวด "
ผม ตอบเสียงแผ่วเพราะยังไม่หายเหนื่อย ไอ้อ๊อตก็เลยวิ่งไปเข้าส้วม ส้วมที่นี่เป็นส้วมซึม กั้นด้วยสังกะสีเตี้ยๆ แบบง่ายๆ พอให้ถ่ายทุกข์ได้ แต่สกปรกมากจริงๆ เป็นส้วมที่ไม่ถูกสุขลักษณะเลย น้ำก็ไม่มีราด กลิ่นงี้เหม็นหึ่งอย่างสุดจะทนทาน แต่ทุกคนก็ฝืนใช้เยี่ยวให้เสร็จๆ ไป ทำไงได้ล่ะครับ ในป่ามีส้วมแบบนี้ก็ดีแล้ว จะไปเยี่ยวตรงอื่นก็ไม่ได้
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียง นกหวีดเรียกรวมแถวดังขึ้นอีกแล้ว ผมรีบวิ่งไปเข้าแถวทันที ไอ้อ๊อตซึ่งเยี่ยวยังไม่ทันสุดดีก็จำต้องรีบสะบัดๆ ควยแล้วเก็บเข้าที่ก่อนจะวิ่งกระหืดหระหอบมาเข้าแถว
เมื่อทุกคนเข้าแถว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มทำการฝึกยิง ในการยิงจะมีพลยิงและคู่ฝึก พลยิงจะเป็นคนยิง ส่วนคู่ฝึกจะทำหน้าที่บรรจุกระสุนใส่ในปืนของพลยิง แต่วันนี้เป็นแค่การซ้อมดังกล่าวแล้ว เราจึงแค่ฝึกทำท่ายิงเท่านั้น ในขั้นแรกครูฝึกแประจำสถานีพูดกับทุกคนในหมู่ของผมว่า
" วันนี้หัดทำท่ายิงให้ถูกต้องก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องยิงจริงๆ จะได้ทำท่าถูก ก่อนอื่นให้ทุกคนในหมู่ไปประจำตามช่องยิงก่อน ช่องยิงละ 2 คน คนนึงเป็นพลยิง อีกคนเป็นคู่ฝึก แต่วันนี้คู่ฝึกก็เป็นพลยิงด้วย ฝึกทำท่ายิงเหมือนกัน เอ้า ไปได้ ! "
ทุกคนในหมู่รีบวิ่งไปประจำตามช่องยิงของตนเอง แล้วยืนนิ่งอยู่ ผมได้คู่กับไอ้อ๊อต ครูฝึกสั่งต่อว่า
" นอน เตรียมยิง ! "
ทันที ที่ได้ยินคำสั่งแรก ผมก็ทำกึ่งขวาหันด้วยความรวดเร็วแล้วแยกเท้าซ้ายออกไปครึ่งก้าว มือขวากำด้ามปืนแน่น แล้วย่อเข่าทั้งสองลงจดพื้นพร้อมกับล้มตัวลงอยู่ในท่านอนคว่ำ ลดศอกขวาลงกับพื้น ยื่นศอกซ้ายไปข้างหน้าแล้วกำกระบอกปืนเอาไว้ พร้อมๆ กับดันพานท้ายปืนเข้าร่องไหล่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม กางขาทั้ง 2 ข้างออก
ผม รู้สึกเจ็บที่ข้อศอกมากขณะที่เอามือขวากำด้ามปืนเอาไว้แน่นจนเส้นเลือดที่ แขนปูดพองออกมา เนื่องจากตอนนี้ศอกทั้ง 2 ข้างของผมอยู่บนพื้นดินแข็งๆ พอดี แต่ก็พยายามอดทน กระชับด้ามปืนไว้ให้มั่น มองตรงไปข้างหน้า ไอ้อ๊อตซึ่งนอนทำท่ายิงอยู่ข้างๆ ผมก็ทำแบบเดียวกับที่ผมทำ ได้ยินเสียงครูฝึกตะโกนอยู่ข้างหลังว่า
" ขาน่ะกางออกเยอะๆ สิโว้ย ไม่ต้องหนีบ แหกๆกว้างๆ เลยมึง "
แล้ว ก็รู้สึกเหมือนมีตีนหนักๆ เตะขาผมเบาๆ ให้ผมกางขาออกให้มากกว่านี้ ผมรีบกางขาออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้เป้าควยและพวงไข่ของผมสัมผัสพื้นดินร้อนๆ อย่างเต็มที่ แต่ผมก็องนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่นานครูฝึกก็สั่งต่อ
" ต่อไป นั่งสูง นั่ง - เตรียมยิง ! "
ผม ยืนขึ้น แล้วทำท่ากึ่งขวาหัน ก้าวเท้าซ้ายไปทางซ้ายครึ่งก้าว แล้วนั่งยองๆ เท้าทั้งสองแบนราบติดกับพื้น แขนซ้ายท่อนบนวางบนเข่าซ้าย มือขวากำพานท้ายปืนเข้าร่องไหล่ เสร็จแล้วจึงเลื่อนมือขวามากำด้ามปืนไว้จนแน่น ลดข้อศอกขวาลงยันไว้กับเข่าขวาด้านในโดยเอาเข่าบีบข้อศอกไว้ ท่านี้เผยให้เห็นเป้ากางเกงอันอวบอูมของนักศึกษาวิชาทหารได้ชัดเจนมากหากมอง จากทางด้านข้าง แต่ก็ไม่มีใครมองเห็นเพราะต่างก็เห็นแต่แผ่นหลังของคนอื่น (เนื่องจากทุกคนนั่งหันหลังให้กัน)
ผมนั่งทำท่านี้อยู่นานจนรู้สึกปวด ตุบๆ ที่โคนขา ครูฝึกก็ยังไม่สั่งให้เปลี่ยนท่าซักที ก็เลยต้องทำท่านี้ค้างไว้ก่อน ไม่นานครูฝึกก็เริ่มสั่งต่อ
" นั่งคุกเข่า นั่ง - เตรียมยิง ! "
ผม ลุกขึ้นยืนอีกครั้งหนึ่ง แล้วทำท่ากึ่งขวาหัน ทรุดตัวลงนั่งบนส้นเท้าขวา ในท่าคุกเข่า แล้วเอามือขวายกพานท้ายปืนใส่ไหล่ขวา ก่อนจะอัดพานท้ายเข้าร่องไหล่แรงๆ มือซ้ายรองรับปากกระบอกปืน ยกศอกขวาขึ้นเสมอแนวไหล่ แขนซ้ายท่อนล่างตั้งตรง พร้อมกับโนม้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ตามองตรง
ไม่กี่อึดใจต่อมา ครูฝึกก็สั่งว่า
" ทั้งหมด ยืน ! "
ทุกคนยืนขึ้นด้วยความรวดเร็ว แล้วทำท่าตรง ถือปืนด้วยมือขวาไว้ข้างลำตัวด้านขวา
" ตามระเบียบ พัก ! "
ผม แยกเท้าซ้ายออกไปทางด้านซ้าย เอามือขวากำศูนย์หน้าของปืนแล้วผลักปืนออกไปข้างหน้าในแนวเฉียง ส่วนมือซ้ายวางไว้ทางด้านหลังในลักษณะหงายมือแล้วแตะไว้ตรงบริเวณเข็มขัด ผมไม่ลืมที่จะยืดอกขึ้นอย่างสง่าผ่าเผย
" แถว ตรง ! "
ผมรีบชักเท้า ซ้ายกลับดังเดิมพร้อมกับดึงปืนเข้ามาลำตัว เอามือซ้ายแนบไว้ข้างลำตัว ส่วนมือขวาก็จับด้ามปืนไว้แน่น เมื่อครูฝึกเห็นว่าทุกคนเรียบร้อยดีแล้ว ก็พุดขึ้นมาว่า
" การฝึกในสถานีที่ 1 เสร็จสิ้นลงแล้ว ต่อไปขอให้ไปฝึกต่อยังสถานีที่ 2 "
ครูฝึกนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งต่อด้วยเสียงอันดังว่า
" เฉียงอาวุธ ! "
ทุกคนยกปืนขึ้นให้เฉียงผ่านไปทางข้างหน้า แล้วยืนนิ่ง
" วิ่ง หน้า - วิ่ง ! "
ทุกคนออกวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว มุ่งหน้าสู่สถานีที่ 2
.....................................
" แถว หยุด ! "
เสียง ครูฝึกตะโกนไล่หลังมา ทุกคนหยุดวิ่งและรีบจัดแถว ทุกคนต่างก็หอบแฮ่กๆ เพราะความเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากวิ่งมาไกลพอสมควร ผมเองก็เหนื่อยไม่แพ้คนอื่นๆ เหมือนกัน
" เหนื่อยว่ะ-เอี้ย-อ๊อต เราเหนื่อยชิบหายเลย "
ผม พูดกับไอ้อ๊อต ซึ่งกำลังยืนหอบอยู่เหมือนกัน ไอ้อ๊อตไม่ตอบได้แต่พยักหน้าเฉยๆ ผมควักยาดมออกมาดมอีกครั้งหนึ่งก่อนจะรีบเก็บใส่กระเป๋า เพราะครูฝึกประจำสถานี (คนใหม่) กำลังเดินตรวจความเป็นระเบียบเรียบร้อยของแต่ละแถวอยู่ ผมก็เลยต้องยืนนิ่งจนครูฝึกตรวจเสร็จทุกแถวแล้วจึงสั่งให้ทุกคนนั่ง
สถานี ที่ 2 เป็นการฝึกยิงปืนด้วยแสงเลเซอร์ ผมกับเพื่อนๆ ก็นั่งดูนิดๆ หน่อยๆ ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ได้เวลาพักอีกแล้ว หนนี้ผมกับไอ้อ๊อตเหนื่อยมากแล้ว ก็เลยพากันมานั่งลงตรงโคนต้นไม้ข้างๆ ที่ฝึกเลย ไม่มีแม้แต่แรงจะอ้าปากพูดกัน ผมนั่งเฉยๆ อยู่ครู่หนึ่ง ไอ้เทพก็เดินมานั่งข้างๆ ผม แล้วพูดว่า
" เฮ้ย เป็นไรวะหน้าซีดเชียว เหนื่อยมากเหรอวะ "
ผมฝืนยิ้มให้มัน แล้วตอบเสียงแหบ
" เออ โคตรเหนื่อยเลย ร้อนด้วย อากาศร้อนๆ แบบนี้ทำเราหมดแรงได้ง่ายๆ ว่ะ เราไม่ถูกกับอากาศร้อน "
ไอ้เทพยิ้มแล้วตบต้นแขนผมล่ำๆ ของผมเบาๆ
" ไรวะไอ้หนุ่ม นี่แค่วันแรกเองนะ จะหมดแรงแล้วเหรอ อย่าลืมสิว่านายจะต้องฝึกอีก 4 วันเต็มๆ เลยนะเว้ย เราได้ยินพวกผลัดก่อนๆ ที่ไปมาแล้วเล่าให้ฟังว่า วันแรกนี่เบาสุดแล้วนะ รู้ป่าว "
" นี่เบาสุดแล้วเหรอวะเนี่ย ชิบหาย ขนาดเบาสุดยังขนาดนี้แล้ว แล้ววันต่อไปจะขนาดไหนวะเนี่ย เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยที่ทำให้เราต้องมาตกระกำลำบากถึงขนาดนี้ ซวยชิบเป๋ง "
ผมพูดอย่างปลงๆ ไอ้อ๊อตมองหน้าผมแล้วพูดขึ้นมาบ้าง
" สู้ๆ สิเว้ยหนุ่ม นายต้องผ่าน 5 วันนี้ไปให้ได้ นาย เรา และก็ไอ้เทพ จะต้องผ่านไปด้วยกัน เราต้องทำได้ เพราะเราเป็นลูกผู้ชาย "
" เออ เราจะสู้ เราต้องทำได้แน่ๆ "
ผมพูดยิ้มๆ รู้สึกได้กำลังใจในการฝึกกลับคืนมาอีกเยอะเลย ขอบใจนะเพื่อนที่พูดให้กำลังใจเรา เราจะสู้ สู้ไปด้วยกัน เพื่ออนาคตของเรา
....................................
ตอนที่ 10

ขณะเดียวกัน ที่สถานีที่ 1
" นี่แกทำอะไรอยู่น่ะ อีปิง "
ปิงปิงเงยหน้าขึ้นจากกระดาษที่ถืออยู่แล้วมองหน้าบุ๋งบิ๋ง แล้วยิ้มแยกเขี้ยว
" จะอะไรซะอีกล่ะอีหัวโปก ก็ดูหมายเลขเต็นท์ที่ฉันไปล่ามาได้ล่ะสิ ดูสิแก ดูๆ ได้มาเพียบเลย เจ้าของเต็นท์พวกนี้เขาอนุญาตให้ฉันไปมุดได้ด้วยล่ะ บางเต็นท์ก็โรงเรียนเดียวกัน บางเต็นท์ก็ต่างโรงเรียน บางเต็นท์ก็เป็นเกย์ แต่บางเต็นท์ก็ไม่ได้เป็น แต่อยากลองเสียบตูดดูบ้าง โอแม่เจ้า สวรรค์จริงๆ ลองคิดดูสิ คืนนี้ฉันจะมุดแม่งทั้งคืนเลย เอาให้แม่งบานกันไปข้างหนึ่ง "
บุ๋งบิ๋งมองหน้าเพื่อน แล้วก็พูดเบาๆ
" นี่ น้อยๆ หน่อย จะหมกมุ่นอะไรกันขนาดนั้น ฉันว่าแกไม่มีทางจะไปมุดได้หมดทุกเต็นท์หรอก เก็บเอาไว้มุดวันอื่นบ้างก็ได้ ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย ล้าจริงๆ ชักไม่อยากจะมุดเต็นท์แล้วคืนนี้ อยากจะนอนอย่างเดียว "
" ไม่อยากก็เรื่องของแก ฉันมุดของฉันคนเดียวก็ได้ โง่ ! มีKให้แดกมากมายเสือกไม่ยอมเอา แล้วอย่ามาอิจฉาฉันล่ะ "
ปิงปิงด่าตรงๆ บุ๋งบิ๋งฟังแล้วก็พูดยิ้มๆ
" เออ ไม่อิจฉาหรอก อยากจะทำอะไรก็ทำไปเหอะ เฮ้อ ฉันล่ะหน่ายกะเทยร่านKแบบแกจริงๆ เลย "
ปิงปิงไม่พูดต่อ พอดีเพื่อนหนุ่มต่างโรงเรียนเดินผ่านมาพอดี ปิงปิงรีบวิ่งไปคุยกับเขาทันที
.......................................
พอ หมดเวลาพัก ผมกับเพื่อนๆ ก็เดินต่อไปยังสถานีที่ 3 การฝึกเล็ง แต่เราโชคดีที่ทหารสถานีนี้ใจดี เเลยไม่ต้องฝึก ผมก็เลยนั่งคุยกับไอ้อ๊อตและไอ้เทพไปเรื่อยเปื่อย ตอนนี้บ่ายแก่แล้ว อากาศเริ่มคลายความร้อนลงมาก ผมและเพื่อนๆ รู้สึกดีขึ้น (คงเป็นเพราะได้นั่งพักนานพอสมควร) ก็เลยคุยเล่นกับเพื่อนๆ ได้สนุกขึ้น นั่งคุยไปได้ซักพัก ไอ้เด่น หัวหน้าหมู่ของผมก็เดินมาคุยด้วย (ตอนนั้นผมยังไม่ทราบว่าไอ้เด่นเป็นเกย์) มันเป็นคนนิสัยดีและคุยสนุกมาก มาพร้อมกับเพื่อนชายแท้อีกหลายคน เราคุยกันอย่างเฮฮาสนุกสนาน ไม่นานก็ได้เวลาพักอีก ผมก็เลยนั่งคุยกับเพื่อนๆ อยู่ตรงนั้นเองโดยที่ไม่ลุกไปไหน
ไอ้เด่นแนะนำเพื่อนชายแท้ของมันให้ผม ไอ๊อ๊อต และไอ้เทพรู้จัก แต่ละคนหล่อๆ แมนๆ ตัวใหญ่ๆ และล่ำๆ ทั้งนั้น น่าแดกมากๆ ผมคุยไปก็ใจเต้นรัวเพราะชอบแบบนี้อยู่แล้ว
" พวกมึงมีใครจะเรียนร.ด. ปี 4 ปี 5 บ้างมั๊ยวะ "
ไอ้เด่นถาม ไอ้อ๊อตรีบตอบมาก่อน
" ไม่ไหวว่ะ กูไม่เรียนแน่ๆ กูเรียนไม่ไหว มึงจะเรียนเหรอ "
ไอ้เด่นพยักหน้าก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัด
" กูเรียนแน่นอน กูชอบ กูสนุกของกู กูชอบร.ด. ร.ด. สอนให้กูเป็นลูกผู้ชาย "
ไอ้อ๊อตและไอ้เทพแอบยิ้มโดยที่ผมก็ไม่รู้สาเหตุที่มันยิ้มแบบนั้น เพื่อนชายแท้คนอื่นๆ ก็พูดขึ้นมาบ้าง
" กูก็จะเรียน สนุกดี มาเข้าค่ายครั้งนี้สนุกมากเลย กูชอบว่ะ แม่งเท่ห์ด้วย กูอยากเรียนให้ถึงปี 5 เลย "
" กูก็เรียนด้วย "
" กูก็เรียนเหมือนกัน "
ผมโพล่งออกไปว่า
" เราเองไม่อยากเรียนว่ะ เพราะคงเรียนไม่ไหวแน่ๆ มันหนัก "
ไอ้เด่นและเพื่อนชายแท้ทุกคนมองหน้าผม นิ่งไปอยู่เป็นนาน ก่อนที่ไอ้เด่นจะรวบรวมความกล้าถามผมว่า
" มึงแทนตัวเองว่า เรา เหรอ ไอ้หนุ่ม "
ผมพยักหน้า แล้วทำหน้างง เพื่อนชายแท้คนหนึ่งมองหน้าผมแล้วพูดว่า
" นี่มึงเป็นตุ๊ดเปล่าวะ ตุ๊ดมันจะแทนตัวเองว่าเรานะ "
ผม ฉุนโกรธขึ้นมาทันทีเพราะไม่ชอบให้ใครมาถามผมแบบนี้อยู่แล้ว มันเหมือนเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีผมอย่างมาก ผมเองรู้ตัวว่าไม่ใช่ตุ๊ดแน่นอน ผมเป็นเกย์ ผมเกือบจะหลุดปากพูดออกไปว่า " เราไม่ใช่ตุ๊ดนะ เราเป็นผู้ชายเต็มตัว " แต่สามัญสำนึกทำให้ผมต้องรีบหุบปากแน่น ไม่พูดประโยคนั้นออกไป ผมจะพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าพูดแบบนั้นไอ้เด่น และเพื่อนชายแท้ของมันอาจจะคิดว่าผมแก้ตัวแน่ๆ และเขาจะยิ่งปักใจเชื่อไปใหญ่ว่า ผมเป็นตุ๊ด เห็นได้ว่า ไอ้เด่น และเพื่อนชายแท้ของเขามีความคิดว่า ผุ้ชายเต็มตัวต้องพูดคำหยาบ ถ้าไม่พูดก็ดูเรียบร้อยเกินไป อาจจะดูเหมือนตุ๊ดได้ เขามีความคิดแบบนี้นี่เอง เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือ ทำตัวให้ดูเหมือนผู้ชายเต็มตัวในความคิดของเขา และแสดงให้เห็นว่า ผมก็เป็นพวกเดียวกับเขา ใช่แล้ว ! ต้องทำแบบนี้อย่างเดียวเท่านั้น
ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอื้อมมือไปตบบหลังเพื่อนชายแท้คนที่พูดเมื่อกี้ดังป้าบๆ หลังเขาแข็งมาก ผมชอบจริงๆ แล้วพูดเสียงดัง
" กูไม่ได้เป็นตุ๊ดนะมึง กูเป็นผู้ชายทั้งแท่ง "
เพื่อนชายแท้คนนั้นค่อยยิ้มออก แล้วแซวผมว่า
" ทั้งแท่งเหรอมึง 5555 แสดงว่ายังไม่มีเมียใช่มั๊ย ผู้ชายทั้งแท่งหมายถึงผู้ชายที่ยังไม่ได้เย็ดกับใคร ยังไม่มีเมีย ยังไม่แต่งงาน "
" เออว่ะ "
ผมตอบส่งๆ ไป แต่เพื่อนชายแท้รวมทั้งไอ้เด่นคงจะเชื่อแล้วว่าผมไม่ได้เป็นตุ๊ด เพราะไอ้เด่นพูดขึ้นมาว่า
" เออ ดีดี พูดแบบนี้ค่อยคุยกัยรู้เรื่องหน่อย ดูแมนขึ้นมาหน่อยมึง กูชอบแบบแมนๆ อยู่แล้ว "
ถ้า ผมจะฉุกคิดซักนิดนึงว่า คำพูดประโยคนี้ของไอ้เด่น มันเป้นคำพูดแนว " เกย์ " อย่างเห็นได้ชัด ผมก็จะรู้ทันทีว่า ไอ้เด่นแม่งเป็นเกย์ !
แต่ตอนนั้น ผมไม่ทันคิด เพราะมัวตื่นเต้นกับตัวตนใหม่ของผมที่เพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อกี้นี้เอง
ไอ้อ๊อตกอดคอผมแล้วกระซิบถามผมเบาๆ
" เฮ้ย คุณชาย พูดมึงพูดกูแบบนี้ไม่กระดากปากเหรอวะ เดี๋ยวคุณหญิงแม่รู้เข้าแย่เลยนะ 5555 "
ผมตบหลังไอ้เด่นแรงๆ เป็นเชิงหยอก แล้วตอบเสียงดัง
" ห่าเห้อะไรของมึงวะเนี่ย กูพูดได้อยู่แล้ว กูก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ทำไมกูจะพูดไม่ได้วะ "
ไอ้เทพกระซิบข้างหูผมบ้าง
" ถ้าฝืนก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะเว้ย เรารู้นายอึดอัด "
" เฮ้ย เราพูดได้อยู่แล้ว เอ๊ย กูพูดได้อยู่แล้ว มา ต่อไปกูจะพูดภาษาระดับเดียวกับนาย เอ๊ย มึงแล้ว ต่อไปเราจะได้สนิทกันมากกว่านี้ ไม่ต้องมาใช้เราๆ นายๆ แบบเดิมอีก มา มาพูดหยาบกันดีกว่า มึง "
ผมพูดอย่างคึกจัด แล้วเริ่มต้นคุยกับด้วยภาษาหยาบคายอย่างสนุกปาก การกระทำนี้ทำให้ผมสนิทกับเพื่อนๆ มากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะเราพูดกันได้อย่างเปิดเผยไม่ต้องมานั่งเกรงใจกันอีกต่อไป ขณะที่ผมกำลังคุยจ้ออยู่นั้น ไอ้อ๊อตก็สะกิดไอ้เทพแล้วพูดเบาๆ ข้างหูมันด้วยความทึ่ง
" ไอ้หนุ่มมันปรับตัวเก่งชิบหาย กูล่ะนับถือมันจริงๆ ในที่สุด มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเราแล้ว "
" นี่แหละ การปรับตัวของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เกย์ ล่ะ ต่อไปนี้ก็ไม่มีใครมองว่า ไอ้หนุ่มเพื่อนกูเป็นเกย์เป็นตุ๊ดอีกแล้ว เพราะจะดูแม่งไม่ออกอีกต่อไป "
ไอ้เทพพูดเบาๆ
........................................
ไม่ นานก็หมดเวลาพัก ตอนนี้เย็นมากแล้ว ครูฝึกเรียกรวมแล้วก็ให้เดินกลับที่พัก ขากลับรู้สึกสบายกว่าขามาเพราะแดดหมดแล้ว อากาศก็ไม่ร้อน และทุกคนต่างก็คลายความเหน็ดเหนื่อยลงไปเยอะแล้ว แป๊ปเดียวหมวดของเราก็ถึงที่พัก ครูฝึกให้พวกเรานั่งพักผ่อนเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้ไปอาบน้ำ
ครูฝึกกำหนดเวลาว่า ต้องอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว ให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง แล้วจะเรียกรวม เวลาเหลือเฟือ ผมจึงกลับไปที่เต็นท์ ถอดชุดฝึกออกแล้วนุ่งผ้าขาวม้าแทน หยิบขันและสบู่วิ่งไปที่โรงอาบน้ำ ที่นี่มีโรงอาบน้ำ 3 หลัง สำหรับ 3 หมวด แยกกันอาบตามหมวด ผมหมวด 2 ก็อาบโรง 2 โรงอาบน้ำก็เหมือนกับของทหาร คือเป็นอ่างน้ำใหญ่ๆ ใส่น้ำจนเต็มให้ทุกคนตักอาบได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการจำกัดขัน มีคนอาบกันเยอะมากจนกลายเป็นชุลมุนวุ่นวาย ต่างก็แย่งกันตักแย่งกันอาบกันเต็มที่ ทุกคนนุ่งกางเกงในอาบกันหมด ตอนนั้นผมร้อนเห้ๆ ทำให้ต้องลืมความเป็นเกย์ไปชั่วขณะ เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้ามันไม่ได้เร้าอารมณ์ผมเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้ชายตัวใหญ่ๆ ดำๆ ผิวมันๆ หัวเกรียนๆ นุ่งกางเกงในอาบน้ำกันเป็นฝูง หน้าตาก็Hๆ ทั้งนั้น และก็เบียดเสียดกันยุ่งอีรุงตุงนังไปหมด แต่ละคนก็ตัวเหม็นHๆ เหงื่องี้เต็มตัวไหลเยิ้มไปทั้งตัวเลย ผมเองก็อยูในสภาพที่ไม่ต่างกับพวกมัน ก็เลยไม่คิดเรื่องอื่น เราพวกเดียวกัน ขออาบด้วยคนนะเพื่อน ว่าแล้วก็เดินเข้าไปทั้งตัก ทั้งจ้วง ทั้งเทน้ำจากอ่างราดตัวอย่างเต็มที่เพราะมันทนไม่ไหวแล้ว ผมตักน้ำอาบไปหลายสิบขัน เพื่อนๆ ของผมก็อาบกันอย่างเมามันมากจริงๆ เขวี้ยงขันก็มี สาดน้ำกันก็มี ผมก็โดนสาดจนหัวหูเปียกไปหมด ไม่ว่ากันเพราะมาเข้าค่ายที่นี่มันก็เถื่อนๆ แบบนี้อยู่แล้ว สะใจดีออก บางคนก็สระผมด้วย สำอางชิบหายเลยมึง แต่ผมไม่สระ เอาน้ำราดตัวแล้วถูสบู่ก็พอแล้ว เสร็จแล้วก็จ้วงอาบต่อ คนเยอะแบบนี้ไม่เห็นไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเลย แต่มันก็ต้องอยู่ในนี้แน่ๆ ผมใช้เวลาอาบน้ำล้างKอยู่นานก็เสร็จ รีบวิ่งมาเช็ดตัวที่เต็นท์แล้วแต่งชุดครึ่งท่อน ( ไม่ใส่เสื้อนอกใส่แต่เสื้ออ่อนแกมเขียว ) แต่งแบบนี้สบายดี เพราะเสื้ออ่อนมันบาง และเย็น อาบน้ำแล้วผมรู้สึกสดชื่นขึ้น รู้สึกมีความสุขขึ้นมากเลย พอแต่งตัวเสร็จแล้วก็เอาของเข้าเต็นท์ โชคร้ายมากที่ผมไม่ได้เอาผ้าปูรองนอนมา เลยต้องเอาผ้าห่มสีเขียวปูแทน ยอมเลอะก็คราวนี้แหละ ปูเสร็จแล้วกลับคิดว่าดีกว่าใช้ผ้าปูรองนอนอีก เพราะผืนผ้าห่มมันใหญ่และก็นุ่มกว่าผ้าปูรองนอนตั้งเยอะ แต่ก็เสียดายผ้าห่มที่ต้องเลอะเศษใบไม้ แต่ก็คงไม่เป็นไรหรอก
จัดของ เสร็จออกไปหาไอ้อ๊อต คุยกันนิดหน่อยแล้วก็พามันมาดูเต็นท์ผม มันบอกว่าใช้ผ้าห่มปูดีเหมือนกันเพราะใหญ่ดี เรียบร้อยแล้วเราไปกินข้าวกันที่ร้านค้าที่เดิม ผมกินหมูปิ้งกับข้าวไปนิดหน่อยเพราะไม่กล้ากินข้าวมากกลัวจะอืดและปวดท้อง มื้อเย็นนี้มีคนซื้อข้าวกันคึกคักกว่ามื้อกลางวัน (แต่โรงเรียนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ยังนิยมกินข้าวหลวงอยู่) ป้าแกก็ยังตะโกนว่า " อยากขายค่ะ... อยากขาย.... " ไม่ยอมหยุดเหมือนเดิม
ช่างเป็นคุณป้าที่ไฟแรงเสียนี่กระไร ผมนับถือเลย
กิน เสร็จผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพก็นั่งเล่นอยู่แถวนั้นนั่นเอง ผมเห็นคนต่อคิวโทรศัพท์กันยาวกว่าเมื่อกลางวัน ทำให้ผมคิดถึงบ้านจับใจ อยากจะโทรไปหาพ่อ แต่ก็ต้องตัดใจ ไม่โทร
ตอนนี้ได้แต่รอเวลาที่ครูฝึกจะเรียกรวมพล........
ผมเริ่มรู้สึกสนุกกับการมาเข้าค่ายฝึกร.ด. ขึ้นมาซะแล้วสิครับ
..............................................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 11
ตกกลางคืนครูฝึกเรียกรวมที่หน้ากองบก. เพื่อฟังการบรรยายเรื่อง " สิทธิและหน้าที่ของกำลังสำรอง " 2 ชั่วโมง ตอนแรกคิดว่าจะน่าเบื่อ แต่พอฟังไปนานๆ ก็รู้สึกมันส์ดีเหมือนกัน ไม่นานการบรรยายก็จบลง ตอนนั้นเกือบๆ จะ 3 ทุ่มแล้ว ครูฝึกให้เราไปพักแป๊ปนึง ก่อนจะเรียกรวมอีกครั้งเพื่อสวดมนต์ แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับเข้าเต็นท์
.....................................
กลางดึก
บุ๋งบิ๋ง หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนนานแล้ว ส่วนปิงปิงกำลังเตรียมตัวจะออกไปมุดเต็นท์อื่นๆ เพื่อแดกควย แต่ก็ไม่ลืมที่จะสะกิดเรียกเพื่อนเบาๆ
" นี่แก ไม่ไปจริงๆ เหรอ ฉันจะไปแล้วนะ "
พอปิงปิงเห็นว่าบุ๋งบิ๋งไม่มีทีท่าว่าจะตื่นแน่ๆ ก็เลยตัดสินใจมุดออกไปจากเต็นท์ แล้วย่องไปที่เต็นท์ที่เล็งไว้ทันที
" เต็นท์เบอร์ C 12 อืมมมม เกย์แมนไม่แสดงออก ต่างโรงเรียน โอเค ประเดิมด้วยเต็นท์นี้แล้วกัน อิอิ "
ปิงปิงพูดกับตนเองเบาๆ ก่อนจะมุดเข้าไปในเต็นท์นั้นทันที
......................
นาน กว่าที่ปิงปิงจะคลานออกมาจากเต็นท์นั้นด้วยท่าทางอ่อนระโหยโรยแรง แต่นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความสุข
" ต่อไป เบอร์ C 46 ไอ้ปัด เพื่อนฉันเอง อยากจะลองกินมานานแล้ว คราวนี้ล่ะ ได้อิ่มแน่ๆ "
มัน คิดแล้วก็แล้วย่องไปที่เต็นท์นั้น แล้วผลุบเข้าไปในเต็นท์นั้นอย่างไม่รอช้า ปิงปิงทำแบบนี้ทั้งคืน มุดเต็นท์โน้นเต็นท์นี้ไม่ยอมหยุด ไม่แปลกใจเลยว่า คืนนั้น จะเป็นคืนที่ปิงปิงมีความสุขที่สุดในโลก เพราะได้ลิ้มลองของชอบแบบไม่อั้นเลยจริงๆ
แต่.... ปิงปิงไม่รู้หรอกว่า ท่ามกลางความมืดมิดแห่งราตรีกาลคืนนั้น มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องการกระทำของมันอยู่ พร้อมกับยิ้มอย่าง-เอี้ย-มเกรียม
..............................
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง
ทันที ที่ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพผลุบเข้าไปในเต็นท์ และเปิดไฟฉายกระบอกเล็กวางทิ้งไว้ใต้ผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว ไอ้เทพก็เปิดฉากรุกทันที มันโถมเข้าใส่ไอ้อ๊อตแล้วกอดไอ้อ๊อตไว้แน่น มือก็เค้นคลึงบริเวณเป้ากางเกงของไอ้อ๊อตอย่างหื่นกระหายราวกับไม่ได้สัมผัส ควยมาเป็นแรม ปี ไอ้อ๊อตขยับปากจะพูดแต่ไอ้เทพรีบประกบปากเข้ากับปากไอ้อ๊อตแล้วเอาลิ้นสอด เข้าไปจนลึก แล้วเริ่มควานปากของไอ้อ๊อตช้าๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความเร่าร้อน ไอ้อ๊อตสะดุ้งแต่ก็รีบตอบสนองทันที ลิ้นของ 2 หนุ่มแตะกันแล้วเริ่มพันกันพัวเนีย ก่อนที่จะพันกันเร็วขึ้นๆ ซักพักไอ้เทพก็ถอนปากออก แล้วถลกเสื้อสีกากีแกมเขียวของไอ้อ๊อตขึ้น เผยให้เห็นกล้ามอกแข็งๆ และหัวนมสีดำของไอ้อ๊อต มันน่าดูดจริงๆ ไอ้เทพไม่รอช้ารีบก้มลงดูดหัวนมเพื่อนทันที เสียงดังจ๊วบๆ ไอ้อ๊อตหลับตาปี๋ด้วยความเสียว
" อูยยยยยยย ซี๊ดดดดดด เสียวจังเลยว่ะเพื่อน ไอ้เทพ ไอ้-เอี้ย- ดูดแรงๆ ว่านี้อีกสิวะ อูยยยย "
ไอ้ เทพดูดหัวนมข้างซ้าย ก่อนจะย้ายไปดูดข้างขวา แล้วค่อยๆ เลื่อนปากลงมาตามเนินกล้ามอกที่เรียบๆ แต่แข็งแกร่งของไอ้อ๊อต พร้อมกับสูดกลิ่นสาปชายเข้าไปจนเต็มปอด หอมเหลือเกิน กูทนไม่ไหวแล้ว-เอี้ย-อ๊อต
เร็วเท่าความคิด ไอ้เทพปลดหัวเข็มขัดของไอ้เด่นออกแล้วกระชากสายเข็มขัดโยนทิ้งไป ปลดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิปลง กางเกงในสีดำที่ตรงส่วนเป้านูนตุงออกมามากจนแทบล้นปรากฏอยู่ตรงหน้ามัน ไอ้เทพรีบซุกหน้าลงไปตรงนั้นแล้วงับลำนูนๆ เล่นอย่างเมามัน ไอ้อ๊อตถึงกับครางเสียงสั่นๆ
" ไอ้เทพ มึง มึงดูดควยกูเร้ว กูไม่ไหวแล้ว ซี๊ดดดด ....... "
ไอ้ อ๊อตพูดแล้วก็กดหัวเกรียนๆ ของไอ้เทพลงไปจนแนบเป้าควย น้ำใสๆ ซึมออกมาเลอะเป้ากางเกงในจนเห็นเป็นหยดๆ บอกให้รู้ถึงระดับความเงี่ยนของไอ้อ๊อตที่พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว ไอ้เทพรีบรูดกางเกงในของไอ้อ๊อตลงแล้วขว้างทิ้ง พร้อมกับดึงกางเกงขายาวออกด้วย ตอนนี้ท่อนล่างของไอ้อ๊อตเปลือยเปล่าแล้ว ขาของมันมีขนขึ้นยุ่บยั่บแถมน่องยังโตด้วย ท่อนควยขนาดใหญ่สีดำสนิทที่มีเส้นเลือดขึ้นเต็มลำตั้งโด่เด่อยู่ตรงหน้า กำลังผงกหัวหงึกๆ รอรับการดูดอยู่ ไข่ของไอ้อ๊อตใบใหญ่มากแถมยังดำสนิท หมอยดกดำเป็นเงาแถมยังเยอะมาก ไอ้เทพเห็นแล้วก็เอ่ยปากชมว่า
" โห ของมึงนี่สุดยอดไปเลยเพื่อน "
ไอ้อ๊อตหลับตาพริ้ม ขณะที่ควยยังคงผงกหัวอยู่ตลอดเวลา แล้วตะคอกใส่ไอ้เทพ
" เลิกเห่าได้แล้วไอ้-เอี้ย- รีบจัดการกับควยกูเร็ว กูไม่ไหวแล้ว "
" ได้เลยเพื่อน "
ไอ้ เทพพูดจบแล้วก็ก้มลงเอาปากครอบลำควยของไอ้อ๊อตจนเกือบมิดโคน แล้วดูดอย่างสะใจ สลับกับเอาลิ้นแยงรูเยี่ยวด้วย ไอ้อ๊อตร้องซี๊ดดดดดดด แล้วเอามือกดกบาลของไอ้เทพลงอีกเพื่อให้ดูดได้ถึงโคนควย  ไอ้เทพดูดควย เพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย ลีลาการดูดของมันเจ๋งมาก เล่นเอาไอ้อ๊อตเบ้ปากด้วยความเสียว น้ำแทบแตก
" อูยยยยย ดูดเก่งชิบหายเลยมึงเนี่ย แม่ง กูเสียวจนใจจะขาดอยู่แล้วเจิ๋ม้ยเอ๊ย อูยยยยยย นั่น อย่างนั้นนนน ดูดเน้นๆ ที่หัวควยกูเลยมึง "
ไอ้เทพเงยหน้า ขึ้นมองไอ้อ๊อตนิดนึงแล้วตั้งหน้าตั้งตาดูดต่อ มันดูดเน้นๆ ที่หัวควยสีชมพูสดของไอ้อ๊อตหลายทีจนไอ้อ๊อตครางเสียงหลง ไอ้เทพยิ่งได้ใจ มันถอนปากขึ้นจนควยยเกือบหลุดจากปากแล้วกลับครอบปากลงไปจนมิดลำควยอีกครั้ง เสียงดังป๊อก! มันทำแบบนี้ติดต่อกันหลายครั้ง ส่วนมือก็บีบตูดของไอ้อ๊อตแน่น ตูดของไอ้อ๊อตแข็งมาก ไอ้เทพเอานิ้วแยงรูตูดไอ้อ๊อตทีนึง รูตูดของไอ้อ๊อตยังไม่หลวมมาก แบบนี้แหละกำลังดี ไอ้เทพคิดในใจ
ซักพัก ไอ้เทพก็ถอนปากออก แล้วจับไอ้อ๊อตนอนคว่ำ มันเอามือแหกตูดของไอ้อ๊อตออกแล้วก้มลงใช้ลิ้นเลียรูตูดให้อย่างไม่นึก รังเกียจ ไอ้อ๊อตรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียว ไอ้เทพเลียรูตูดเสียงดังแผล่บๆ จนรูตูดของไอ้อ๊อตชุ่ม แล้วมันก็พูดว่า
" ขอเสียบตูดหน่อยนะมึง กูทนไม่ไหวแล้ว "
ไอ้อ๊อตยิ้ม แล้วพูดว่า
" ไม่มีปัญหา แต่มึงเอาเควายทาก่อนนะ.. ไม่งั้นกูเจ็บตายเลย "
" กูไม่ได้เอาเควายมา ไม่เห็นต้องใช้เลยไอ้-เอี้ย- ใช้ไอ้นี่ก็พอแล้ว ลื่นๆ ดี มึงไม่เจ็บหรอก มึงก็รู้ควยกูไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย มึงก็เคยมาแล้วนี่ ใช่มั๊ยวะ "
ไอ้เทพพูดแล้วก็ถ่มน้ำลายลงไปที่รูตูดของไอ้อ๊อตหลายๆ ครั้ง แล้วก็แก้ผ้าออกจนหมด มันชักควยขึ้นลงๆ จนควยแข็งได้ที่ ก่อนจะค่อยๆ เอาควยไปถูตรงรูตูดของไอ้อ๊อต แต่ยังไม่ได้เสียบเข้าไป
" เบาๆ นะไอ้.. อย่าทำแรง กูขอร้องล่ะ "
ไอ้อ๊อตร้องคราง ไอ้เทพยิ้มแล้วตอบเสียงแผ่ว
" เออน่า กูเอาเล่นๆ กูไม่เสียบจริงจังหรอกเพื่อน ขอกูแค่ถูๆ ไถๆ ตรงรูตูดมึงก็พอแล้ว กูรู้ถ้ากูเย็ดมึงแรงๆ จริงๆ มึงคงไม่มีแรงฝึกวันต่อๆ ไปแน่ๆ กูเล่นๆ แค่นี้ก็พอ กูเข้าใจ เพื่อน กูรักมึงนะ "
ไอ้เทพเอาหัว ควยถูๆ ไถๆ ตรงรูตูดช้าๆ แต่ไม่เสียบพรวดเข้าไปเพราะกลัวเพื่อนเจ็บ ทำแค่เอาลำควยคาไปที่รูตูดเท่านั้น แต่หัวควยที่สัมผัสกับรูตูดก็ทำเอาไอ้อ๊อตเสียวไม่ใช่เล่น มันร้องครางด้วยความเสียว ไอ้เทพรีบพลิกตัวไอ้อ๊อตให้นอนหงายเหมือนเดิม หัวควยยังคงถูเข้าออกๆ อยู่ตรงรูตูดของไอ้อ๊อต แต่ปากกลับครอบลงไปที่ลำควยเหมือนเดิม แล้วดูดขึ้นๆ ลง คราวนี้ไอ้อ๊อตสุดจะทนไหวแล้ว
" มะ ไม่ไหวแล้วไอ้เทพ กะ กูเสียวควยจะตายอยู่แล้ว ไอ้สัตว์ น้ำกูจะออกแล้วนะมึง ไอ้-เอี้ย-เอ๊ย ซี๊ดดดดดด ให้กูแตกคาปากมึงเลยนะเพื่อน อูยยยย มึงอย่าเลียรูควยกูแบบนั้นสิ มันเสียว กูทนไม่ไหวแล้วววววว "
ไอ้เทพได้ยินดังนั้นก็เอาหัวควยเสียบ เข้าไปในรูตูดของไอ้อ๊อตลึกกว่าเดิมอีกนิด แต่ก็ไม่ทำให้ไอ้อ๊อตเจ็บ แล้วครอบปากลงไปจนมิดลำควย ร่างกายของไอ้อ๊อตเกร็งแน่น มันตัดสินใจจะไม่ทนอีกต่อไป น้ำกามขุ่นข้นพุ่งกระฉูดออกมาจากรูควยของไอ้อ๊อตอย่างรวดเร็ว และแรง พร้อมๆ กับเสียงครางอย่างสะใจของมัน
" อูยยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดดดดด ออกมาแล้วโว้ย ยยยยย "
น้ำ กามของไอ้อ๊อตหลั่งออกมาเยอะมาก ไอ้เทพรีบเอาปากรองรับน้ำกามของเพื่อนรักทันที  ควยของไอ้อ๊อตกระตุกๆ 4-5 ทีก็หยุด ไอ้เทพยังคงดูดควยไอ้อ๊อตต่อเพื่อให้แน่ใจว่าไอ้อ๊อตหลั่งออกมาหมดแล้ว พอน้ำกามออกมาจนหมดไอ้เทพจึงเอาปากออก แล้วบ้วนน้ำกามของไอ้อ๊อตทิ้งลงพื้น
" แฮ่ก แฮ่ก โอยมันส์จริงๆ เพื่อน สุดยอดเลยว่ะ "
ไอ้ อ๊อตพูดพลางหอบไปด้วย ไอ้เทพล้มตัวลงนอนบ้าง ควยของมันชี้ขึ้นฟ้าชูคอเริงร่า หัวควยถอกบานแดงโร่ ไอ้อ๊อตมองแล้วก็ก้มลงเอามือถอกควยไอ้เทพเล่นแรงๆ
" ถอกแรงๆ ไอ้-เอี้ย- อา...... กูเสียวปลาชะโดกูจริงๆ นั่นอย่างงั้น.... จะแตกแล้วโว้ยยยย มันส์ควยจริงๆ "
ไอ้ เทพโดนถอกควยไม่กี่ทีน้ำกามของก็พุ่งกระจายขึ้นข้างบน แล้วย้อนลงมาเปรอะหน้าท้องของมันเอง กลิ่นคาวน้ำกามของไอ้เทพคละคลุ้งไปทั้งเต็นท์ แต่มัน 2 คนก็ไม่ได้นึกรังเกียจ ไอ้เทพนอนหอบบ้างแล้วพูดว่า
" โอยยยย เสียว-เอี้ย-ๆ "
ไอ้ อ๊อตล้มตัวลงนอนกอดเอวไอ้เทพ แล้วใช้ลิ้นเลียน้ำกามของไอ้เทพจนหมด แล้วทั้งคู่ก็นอนกอดกันกลมดิก ในสภาพเปลือยกายล้อนจ้อน  ควยที่ยังเปื้อนน้ำกามอยู่สัมผัสกันอย่างจัง
" กูรักมึง ไอ้อ๊อต "
ไอ้เทพพูดเบาๆ แล้วหอมแก้มไอ้อ๊อตช้าๆ แล้วเอามือดึงลำควยนิ่มๆ ของไอ้อ๊อตเล่น
" กูก็รักมึง เพื่อน "
ไอ้อ๊อตพูดขึ้นบ้าง แล้วเอามือกุมไข่ไอ้เทพอย่างทะนุถนอม พร้อมกับหลับตาด้วยความเหนื่อยอ่อน
ไม่นานทั้งคู่ก็หลับสนิท
...................................
ในขณะเดียวกัน ที่เต็นท์ B23
ผม นอนพลิกไปพลิกมา มันเหงาจริงๆ ที่ต้องนอนคนเดียวแบบนี้ ไม่มีเพื่อนจะคุยด้วย แต่ก็ดีเพราะนอนคนเดียวสบายมาก จะเหยียดแข้งเหยียดขาก็ทำได้ตามสบายไม่มีใครว่า ได้ยินเสียงคนในเต็นท์อื่นคุยกันเสียงดัง ร้องครางกันก็มี (สงสัยคงกำลังเย็ดกันอยู่) ไม่ได้รู้สึกอิจฉาเขาหรอกครับ เพราะผมไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ยังไงผมก็โชคร้ายมากที่ไฟฉายเกิดเสีย จะไปยืมคนอื่นก็เกรงใจ ก็เลยต้องทนควานหาของในที่มืดคนเดียว เลอะเหมือนกันแต่ก็ไม่มาก ควานไปควานมาเจอน้ำส้มที่แอบซื้อมาเมื่อตอนเย็นก็เลยดื่มเงียบๆ จนอิ่มแล้วก็นอนราบลงไป ผมรู้สึกร้อนมากก็เลยเปิดเต็นท์ ถอดรองเท้าถุงเท้ายื่นตีนออกมา ค่อยรู้สึกเย็นขึ้น นอนพลิกไปพลิกมาอยู่ตั้งนานก็ยังไม่หลับซักทีก็เลยนอนฟังเต็นท์อื่นคุยกัน แต่ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่นานก็ได้ยินเสียงครูฝึกเป่านกหวีดนอนก็เลยพยายามนอนข่มตาเพื่อให้หลับ ผมรู้สึกทรมานมาก เหนื่อยแบบสุดขีด แถมยังคิดถึงบ้านด้วย แต่ก็ต้องอดทน ผมนอนคิดไปคิดมาอยู่หลายตลบก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ลืมความทุกข์ทั้งหลายแหล่ในวันนี้ เตรียมรับศึกหนักในวันต่อไป

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 12
ผมรู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคนคุยกันที่เต็นท์อื่นเบาๆ ก็คิดว่าคงจะเช้าแล้ว ควานหานาฬิกาแล้วเปิดท้ายเต็นท์ส่องกับไฟด้านนอกเห็นเวลาตี 4 กว่าๆ เต็นท์อื่นเริ่มลุกออกไปล้างหน้าแปรงฟันกันบ้างแล้ว ผมยังไม่อยากรีบลุกก็เลยนอนต่อเงียบๆ อีกแป๊ปนึง จนคนเริ่มลุกไปที่โรงอาบน้ำมากขึ้นก็เลยลุกตามเขาไปด้วย ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้วก็กลับมาแต่งชุดฝึก พอตี 5 ครูฝึกก็เป่านกหวีดให้ตื่น ตี 5 กว่าๆ ก็เรียกรวม
" ทั้งหมด แถว ตรง ! "
ทุก คนยืนตรง หลายคนยังดูงัวเงียอยู่ ผมเองตื่นเต็มที่แล้วแต่ก็ไม่หายเมื่อย แถมหิวจัดเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งคืน (กินแต่น้ำส้ม) ครูฝึกให้แยกย้ายไปกินข้าว ผมรีบไปซื้อหมูปิ้งข้าวเหนียวกินไป 3 ไม้ กำลังจะไปซื้ออีกก็ได้ยินเสียงครูฝึกเป่านกหวีดเรียกแถวอีกครั้งหนึ่ง ก็ต้องรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาเข้าแถว คนอื่นก็รีบวื่งมาเหมือนกัน ทำให้การเข้าแถววุ่นวายพอสมควร หัวหน้าชุดฝึกดูจะไม่พอใจมาก แผดเสียงดังลั่น
" ช้าชิบหายเลย ยังกะเต่า ใช้ไม่ได้ ทั้งหมดวิดพื้นท่าเตรียม ! "
" เตรียม ! " ทุกคนขานรับ พร้อมกับนอนราบลงเตรียมวิดพื้น
" 20 ครั้ง ปฏิบัติ ! "
ทุก คนทำตามคำสั่งจนครบ โดนทำโทษแต่เช้าเชียววันนี้ พอวิดพื้นเสร็จ หัวหน้าชุดฝึกก็พาทุกหมวดเดินไปที่สนามยิงปืน (ที่เดียวกับเมื่อวาน) ตอนนนั้นยังเช้ามืดอยู่ ทางก็ยังมืดตื๋ออยู่เลย มองทางก็ไม่ค่อยเห็น ผมเดินไปเรื่อยๆ กว่าจะถึงสนามยิงปืนท้องฟ้าก็สว่างโร่แล้ว ครูฝึกจัดแบ่งหมวดหมู่เข้าทำการยิงปืน ผมเป็นหมวดสุดท้ายที่จะได้ยิงปืน ก็เลยมานั่งคุยกับเพื่อนๆ กลางพื้นทรายไปก่อน ผมรู้สึกเบื่อและเหนื่อยมากๆ ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็ดูเหนื่อยไม่แพ้กัน มัน 2 คนไม่ค่อยพูดอะไร ได้แต่นั่งเฉยๆ แบบเซ็งๆ มีแต่ไอ้เด่นที่ยังดูกระตือรือร้นอยู่ เรานั่งรอกันนานมากจนผมสงสัยว่าทำไมหมวดแรกๆ ถึงได้ยิงปืนกันช้าขนาดนี้ ก็ดีเหมือนกัน พวกผมจะได้พักยาวๆ ผมนั่งต่ออีกซักพัก ครูฝึกก็เรียกผมไปบริเวณยิงปืน เราต้องรับปืนแบบเดียวกับเมื่อวานและทำการยิงในท่าต่างๆ เหมือนที่ฝึกไปเมื่อวาน แต่วันนี้เป็นการยิงด้วยกระสุนจริงๆ มีเป้าเรียงรายอยู่ด้านหน้า ไกลน่าดู มีพลยิงและคู่ฝึกเหมือนเดิม ตอนแรกผมต้องไปนั่งรอดูชุดแรกๆ ยิงก่อน เขายิงกันเสียงดังมาก จนผมต้องใส่ที่ครอบหูและเอาสำลีอุดหูไว้ พอถึงเวลาที่ผมต้องยิงเอง มันยากกว่าที่คิดไว้ซะอีก ตอนแรกผมเป็นคู่ฝึกก่อน คู่ฝึกมีหน้าที่บรรจุกระสุนให้พลยิง วันนี้ไม่ได้คู่กับไอ้อ๊อต แต่คู่กับใครก็ไม่รู้ หน้าHereมาก ผิวดำท่าทางนักเลง แต่ก็ดูแมนดี ผมบรรจุกระสุนอย่างทุลักทุเลเต็มทนเพราะไม่เคย จนพลยิงต้องพูดว่า
" ห่า เสร็จยังวะ เร็วๆ ดิมึง ช้าชิบ "
" เออ พยายามอยู่ ใจเย็นๆ อย่าเร่งดิวะ "
ผม ตอบ แล้วก็พยายามบรรจุกระสุนจนสำเร็จ แล้วนั่งดูพลยิงยิง พอมันยิงเสร็จ ผมก็เปลี่ยนมาเป็นพลยิงแทน ไอ้คู่ของผมก็บรรจุกระสุนผิดๆ ถูกๆ เหมือนกัน เวรกรรมจริงๆ ก็มันบรรจุง่ายซะที่ไหนล่ะ ยากจะตายห่า แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน พอมันบรรจุกระสุนเสร็จแล้วผมก็เริ่มยิง ตอนยิงเสียงดังมากๆ และเกิดปัญหาคือ ตอนผมเล็งผมก็คิดว่าเล็งแม่นแล้ว โดนเป้าแน่นอน แต่พอยิงจริงๆ ความแรงของการยิงทำให้ปากกระบอกปืนเชิดขึ้นด้านบนเกือบทุกครั้ง และทำให้ยิงพลาดเป้า แต่ผมก็ยิงไปจนหมด 18 นัดด้วยความยากลำบาก ยิงแต่ละครั้งก็มีปลอกกระสุนกระเด็นออกมาด้วย ไอ้คู่ฝึกของผมก็ต้องพยายามตามเก็บปลอกกระสุนใส่ไปในหมวกมันให้หมดทุกอัน ตามคำสั่งของครูฝึกที่ให้เก็บปลอกกระสุนด้วย
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" ตรวจเป้าได้ "
ครู ฝึกพูดขึ้น ผมมองไปที่เป้าสีขาวที่อยู่ไกลลิบข้างหน้าผม เป้าที่ผมยิงไปเมื่อกี้นี้ ความจริงตรงเป้านี้ ด้านล่างจะมีหลุมยิง และมีคนนอนอยู่ในหลุมยิงด้วย พอทุกคนยิงกันหมดแล้ว เขาก็จะเลื่อนเป้า (แผ่นที่ทุกคนยิง)มาดูแล้วเลื่อนกลับที่เดิม ใช้ไม้ที่ตรงปลายติดกระดาษสีขาวชูขึ้น เวลาครูฝึกขานแต่ละนัด อย่างเช่นขานว่า " นัดที่ 1 นัดที่ 2 " ถ้านัดไหนยิงเข้า เขาจะชูไม้ขึ้นไปตรงเป้าจุดที่เรายิงถูก ถ้าไม่ถูกเลย ยิงไปไหนก็ไม่รู้ก็จะโบกไม้ไปมา (หมายถึงยิงไม่ถูก) เป้าของผมมีทั้งชูไม้ขึ้นครั้งหนึ่ง (หมายถึงยิงถูก แต่ไม่โดนเป้าตรงกลาง) และมีการโบกไม้ไปมาด้วย (ยิงไม่ถูก) แต่รวมๆ ทั้ง 18 นัด ผมยิงเข้าเป้าไปไม่กี่นัด นอกนั้นยิงไปที่ไหนก็ไม่รู้ เออ Hereจริงๆ ผมคงเป็นนักแม่นปืนไม่ได้แล้วแน่ๆ ฝีมือยิงห่วยบรมเลย
พอยิงปืนเสร็จผม รู้สึกโล่งขึ้นมาก คิดว่าผ่านด่านความยากลำบากมาได้ด่านหนึ่งแล้ว ครูฝึกให้ไปพัก ผมก็นั่งพักอยู่แถวนั้นนั่นเอง ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็นั่งลงเป็นเพื่อนผม
" ไงนาย ยิงเข้ากี่นัดวะ "
ผมถามทั้งคู่ มัน 2 คนมองหน้าผมอย่างประหลาดใจ แล้วไอ้อ๊อตก็ถามขึ้นเบาๆ
" อ้าว ไม่พูดภาษาพ่อขุนแล้วเหรอวะ เห็นเมื่อวานจ้อใหญ่เลย "
" ไม่ดีกว่าว่ะ เรากระดากปากจริงๆ ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน และเราก็ไม่ชอบด้วย เอาเหอะ ขอเราพูดแบบเดิมดีกว่านะ ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ "
ไอ้เทพยิ้มแล้วหันไปพูดกับไอ้อ๊อต
" กูนึกแล้วเชียว อย่างไอ้หนุ่มเนี่ยจะพูดภาษาพ่อขุนได้ซักกี่น้ำกัน ที่พูดเมื่อวานก็เห็นแล้วล่ะว่าดูฝืนๆ เอาว่ะ ตามใจ ไม่พูดก็ดีเหมือนกัน มันแปลกๆ ว่ะที่เห็นคนที่เรียบร้อยมาตลอดแบบนายมาพูดกูๆ มึงๆ แบบนี้ มันดูแล้วตลกๆ ยังไงพิกล "
" แต่เราว่านะ ถึงไอ้หนุ่มมันจะไม่พูดคำหยาบก็ดูไม่เหมือนตุ๊ดแต๋วอะไรหรอก หน้าตาออกจะแมนHereๆ ขนาดนั้น ไม่มีใครสงสัยหรอกว่ะ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเป็นแค่ผู้ชายเรียบร้อยเท่านั้นแหละ จริงมะหนุ่ม "
ไอ้อ๊อตพูดกับไอ้เทพก่อนที่จะหันมาถามผม ผมหัวเราะเบาๆ
" ถูกต้องSad คนจะเป็นแมนไม่ได้หมายความว่าจะต้องพูดหยาบเสมอไปหรอกนะ ไม่พูดหยาบก็แมนได้ 5555 "
" จริงๆ "
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพรีบสนับสนุน
...............................
หลัง จากพักแล้ว หมวดของผมก็เดินกลับเต็นท์ด้วยความเหนื่อยอ่อน กลับมาถึงเป็นหมวดแรก เพราะหมวดอื่นๆ ต้องไปนอนในหลุมตรวจเป้า ครูพิชิต ครูฝึกประจำหมวดของเราก็เลยให้ช่วยกันเก็บขยะ ผมเก็บขยะไปนิดหน่อยแล้วก็นั่งลงคุยกับเพื่อนๆ ต่อ จนเกือบเที่ยงครูพิชิตก็ปล่อยให้พวกเราไปกินข้าว ตอนนี้หมวดอื่นก็ยังไม่มา ผมก็เลยซื้อข้าวมานั่งกินกับไอ้เทพ ไอ้อ๊อต และไอ้เด่น พร้อมกับคุยกันอย่างสนุกสนาน นั่งไปไม่นานหมวดอื่นๆ ถึงได้กลับมา และต่างก็แยกย้ายไปกินข้าว
....................................
ตอนบ่ายทหารเรียกรวมพลอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำการฝึก เป็นการฝึกเข้าฐานข้ามเครื่องกีดขวาง มี 10 ฐาน ดังนี้
1. กำแพง 6 ฟุตแกว่งตัว ให้ทุกคนวิ่งเร็วๆ กระโดดขึ้นกำแพงแล้วโหนเชือกลงพื้น
2. หลังคาอกไก่ เป็นแบบทางเดินลาดขึ้นแล้วก็ลาดลง ไม่สูงมาก
3. กำแพง 8 ฟุต ต้องช่วยกันดึงให้ขึ้นไปและดันตูดเพื่อให้ผ่านไปได้
4. กำแพง 10 ฟุต สูงขึ้นมาอีกหน่อย
5. แท่นกระโดด 6 ฟุต เป็นทางลาดขึ้นไปแล้วให้กระโดดลงมา
6. คูกระโดด เป็นทางเดินสูงๆ ยาวๆ เว้นร่องไว้ให้กระโดด
7. ตาข่ายทหารราบ เป็นตาข่ายสูงๆ ไว้ปีนขึ้นปีนลง
8. ชิงช้าข้ามคู 10 เมตร โหนเชือกข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง
9. สะพานต้นซุง ต้องเดินทรงตัวไปบนท่อนซุงยาวๆ
10. สะพานลอย เป็นทางไม้กระดานแผ่นเดียวสูงๆ เดินขึ้นไปหน่อยแล้วเดินลงมา สั่นได้ด้วย เสียวตก
พอฟังครูฝึกบรรยายถึงการฝึกในแต่ละฐานจบ ครูฝึกก็แผดเสียงดังลั่นว่า
" ทุกคนต้องข้ามฐานทั้ง 10 ฐานให้ได้อย่างเร็วที่สุด ! วิ่งไปแล้วห้ามหยุดนะ ถ้าครูเห็นใครหยุด หรือไม่ยอมฝึกอันไหนล่ะก็ จะให้หมอบซะให้เข็ด "
ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ก็ฐานแต่ละฐานน่ะง่ายซะที่ไหนกัน ยากHereๆ แต่ก็ต้องฝึก ครูฝึกกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะสั่งว่า
" ทั้งหมด ยืน ! "
ทุกคนลุกขึ้นยืน
" วิ่ง หน้า - วิ่ง ! "
คน หัวแถวเริ่มออกวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว ผมก็วิ่งตามไป และเริ่มผ่านไปทีละฐาน แต่ละฐานก็ห่างกันพอสมควร กว่าจะวิ่งไปถึงก็เหนื่อยใช่ย่อย ถึงฐานที่เป็นกำแพงผมก็หงายเงิบแล้ว เพราะข้ามไปไม่ได้จริงๆ ก็เลยแอบลักไก่วิ่งอ้อมไปอย่างไม่คิดชีวิต ไอ้อ๊อตวิ่งอยู่หน้าผม และวิ่งทิ้งช่วงห่างผมไปทุกทีๆ ผมวิ่งตามมันไม่ทัน จะตะโกนเรียกให้รอผมด้วยก็ไม่มีแรง ก็เลยต้องกัดฟันวิ่งต่อไป
" เร็วๆ ซิเว้ยไอ้ตี๋ เพื่อนมึงวิ่งไปโน่นแล้ว อย่าช้าสิSad เร็วๆๆๆๆ กูไม่อยากสั่งหมอบมึงนะ ! "
เสียง คุ้นๆ หูดังขึ้นข้างๆ ตัว ผมหันไปมองขณะที่ตีนก็กำลังวิ่งอยู่ แล้วผมก็เห็นว่า ครูพิชิตนั่นเองที่กำลังวิ่งขนาบข้างผมอยู่ ผมฝืนยิ้มให้เขา แต่ไม่มีแรงจะพูดตอบ
" อดทนหน่อย ไอ้ตี๋ สู้ๆ กูล่วงหน้าไปก่อนนะ "
ครู พิชิตพูดอีก แล้วออกวิ่งนำผมออกไปจนห่าง ผมวิ่งจนหน้าซีด ปากคอสั่น เหนื่อยจนแทบจะขาดใจ ร้อนก็ร้อน แต่ก็พยายามวิ่งไปเรื่อยๆ พอมาแท่นกระโดด 6 ฟุต ผมเกิดนึกสนุกอยากข้ามขึ้นมาบ้าง ก็เลยกระโดดข้ามขึ้นไปถึงด้านบน แต่พอไปยืนก็ตกใจมากเพราะไม่มีทางปีนลงมา ก็เลยตัดสินใจจะกระโดดลงมา แต่แล้ว
ตุ๊บ !
ผมเกิดเสียหลักหล่นตุ๊บลงมากระแทกพื้นดินที่เต็มไป ด้วยทรายอย่างจัง หน้าคะมำคว่ำลงไปกับพื้นเลอะทรายไปหมด แถมตรงนั้นยังมีกองหินคมๆ อยู่เพียบ ผมถึงกับร้องลั่นด้วยความเจ็บเพราะโดนหินบาดแขน แถมเมื่อกี้หล่นลงมาผิดท่า ทำให้ข้อตีนบิดไปทางซ้ายด้วย รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที
" โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ตีนกู ๆ "
ด้วยความเจ็บทำให้ผมลืมตัวหลุดคำหยาบออกมาเต็มๆ ไอ้อ๊อตซึ่งวิ่งอยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงผมร้องก็ตะโกนว่า
" เฮ้ย ไอ้หนุ่ม เป็นไรมากมั๊ยวะ "
และมันก็หันมาเตรียมจะวิ่งมาช่วยผม ก็พอดีครูฝึก(ที่ไม่ใช่ครูพิชิต) วิ่งตามมาเห็นเข้า ก็เลยตะโกนว่า
" ไม่ต้องไปช่วยมัน ! แม่งไม่เจ็บหรอก ร่วงลงมาแค่นั้นน่ะ วิ่งต่อ ไป เร้ว ! "
ไอ้ อ๊อตมองหน้าผมอย่างเห็นใจ ใจหนึ่งอยากจะช่วย แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวครูฝึก ก็เลยตัดสินใจหันหลังวิ่งต่อไป ผมกัดฟันลุกขึ้นช้าๆ ครูฝึกคนนั้นมองมาที่ผม แล้วตรงเข้ามาเขกกบาลผมแรงๆ 1 ที แล้วตะคอกใส่ผมว่า
" ไปต่อได้แล้ว อย่าทำสำออย ไอ้แว่น เจ็บนิดเจ็บหน่อยทำหน้ายังกะปวดขี้ รีบไปเลยมึง ก่อนที่กูจะสั่งหมอบ เร็ว ! ไอ้ห่านี่ "
ผม หน้าบึ้งทันที แต่ก็รีบวิ่งกะเผลกกะเผลกต่อ รู้สึกเจ็บที่ข้อตีนอย่างมาก สงสัยข้อตีนจะแพลงซะแล้ว ผมวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปถึงฐานต่อๆไปด้วยความยากลำบาก มันเจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้ว หลังก็เคล็ด ไหล่ก็บิดเพราะตอนหล่นลงมามันหล่นแบบไม่เป็นท่าเลย ทำให้ทุกส่วนในร่างกายบิดเบี้ยวไปหมด ผมวิ่งๆ ไปไม่นานขาก็ขัดกัน ทำให้ผมล้มลงเสียงดังป้าบ ! หน้าคะมำไปกับพื้น ทรายร้อนๆ ทะลักเข้าปากผม
" อา..... แหวะ.... เค็มๆ โอ๊ยยยย ไอ้Here ใครก็ได้ช่วยกูที ข้อตีนกูหักแล้วแน่ๆ กูวิ่งไม่ไหวแล้ววว "
ผม พูดเสียงแผ่วด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย คนอื่นๆ วิ่งนำหน้าผมไปหมดแล้ว ทิ้งให้ผมอยู่รั้งท้ายคนเดียว แต่ผมก็กัดฟันลงนอน " คลาน " ไปช้าๆ ไม่กี่ก้าวพอให้รู้สึกดีขึ้น ก่อนจะสปริงตัวขึ้นเดินกะเผลกๆ ต่อ วิ่งไม่ไหวแล้ว ต้องเดินอย่างเดียว ระยะทางก็ไกลแสนไกล ฐานหลังๆ ผมไม่ได้ฝึกเลย เพราะแค่เดินผ่านก็จะเดินไม่ไหวแล้ว ต้องเดินลากขาอย่างกับคนขาหักเพราะเจ็บตีนมากๆ ตีนเคล็ดแล้ว ในที่สุดก็ผ่านมาได้หมดทุกฐาน ผมรีบเดินช้าๆมาเข้าแถวและล้มเผละลงไปตรงนั้นเลย แล้วเอามือนวดข้อตีนช้าๆ ผมรู้สึกเหนื่อยสุดขีด เจ็บตีนก็เจ็บ ปวดหลังก็ปวด หน้ามืดเหมือนจะเป็นลม ต้องควักยาดมออกมาดม สารรูปของผมตอนนี้ดูไม่ได้เลย เละเทะมากเพราะคลุกดินคลุกทรายมาเพียบ แถมยังเคล็ดไปทั้งตัว คิดในใจว่าถ้าวิ่งมากกว่านี้ผมคงกระอักเลือดตายไปแล้วแน่ๆ ไม่ไหวแล้วเหนื่อยเหลือเกิน ผมคิดแล้วก็หลับตาลงด้วยความเหน็ดเหนื่อย ไอ้อ๊อตหันมามองผมแล้วพูดว่า
" เป็นไรมากมั๊ยวะ หนุ่ม หน้าซีดเชียว "
ผมลืมตาขึ้นแล้วส่ายหน้า ก่อนจะตอบเสียงแหบ
" ไม่เป็นไร เรายังไหว "
ไอ้อ๊อตไม่รู้หรอกว่า ความจริงผม "เป็นไร " อย่างมาก เจ็บไปทั้งตัว หลังก็เคล็ด ไหล่ก็บิด แขนก็เคล็ด แถมข้อตีนยังเคล็ดอีกด้วย
เวรกรรมอะไรของผมวะเนี่ย ถึงต้องเป็นแบบนี้ !

หนุ่มบ้านนา

.................
ตอนที่ 13
ผมนั่งพักยังไม่ทันจะหายมึนครูฝึกก็สั่ง ให้ลุก แล้วก็พาเดินไปที่ลานหอโดด แล้วก็ให้นั่งฟังครูฝึกคนใหม่พูดเรื่องการส่งข่าวหรืออะไรผมก็จำไม่ได้เพราะ ตอนนั้นไม่ได้สนใจฟังเขาพูดแล้วเพราะเจ็บตีนมาก พอครูฝึกคนใหม่พูดจบ หัวหน้าชุดฝึกก็บอกว่า
" เห็นหลายคนเหมือนจะป่วย ไม่ไหวเลยเด็กสมัยนี้ อ่อนแอชิบหาย ลำดับต่อไป ทุกคนจะต้องเดินขึ้นเขาไปยังศาลของร. 1 อีกหลายกิโล ! "
ผม ฟังแล้วลมแทบจับ เหนื่อยจะตายอยู่แล้วยังจะต้องเดินไปขึ้นเขาอีกเหรอเนี่ย แถมตีนก็เจ็บขนาดนั้น ไม่ไหวแน่ๆ ความรู้สึกของผมตอนนั้นคิดว่า ถ้าไม่ไปจะได้มั๊ยนะ ก็พอดีได้ยินหัวหน้าชุดฝึกพูดต่อว่า
" สำหรับใครที่คิดว่าป่วย จะไม่ไปก็ได้ ให้แยกออกมาทางนี้ ไปหาครูพิชิต แล้วครูพิชิตจะให้นายสิบพยาบาลตรวจดูว่าเป็นอะไร แต่ถ้าใครยังไหว ก็ลุกขึ้น ! เดินมาทางนี้เลย เราจะขึ้นเขาไปด้วยกัน "
ผมคิดว่าผมคงเดินระยะไกลๆ แบบนั้นไม่ไหวแน่ๆ เพราะเจ็บตีนมากจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ก็เลยรีบเดินกะโผลกกะเผลกแยกออกมา ปรากฏว่ามีคนป่วยเกือบๆ 40 คนที่สมัครใจไม่เดินขึ้นเขา (โรงเรียนผมป่วยกันเกินครึ่ง โรงเรียนอื่นแทบไม่มีเลย ) ทุกคนมานั่งรวมกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพซึ่งไม่ได้ป่วยด้วย และตอนนี้กำลังจะเดินขึ้นเขา ก็หันมามองผม ผมยิ้มให้มันนิดนึงคล้ายๆ กับจะบอกว่า โชคดีนะเพื่อน ! มัน 2 คนก็ยิ้มตอบผมแล้วก็รีบเดินขึ้นเขา ไม่นานทุกคนก็เดินขึ้นเขาจนหมดและลับหายไปจากสายตา
ครูพิชิตเดินเข้าไป ถามทีละคนว่า ป่วยเป็นอะไร ผมได้ยินแต่ละคนตอบว่า ปวดหัวบ้าง เป็นไข้หวัดบ้าง ขาเจ็บบ้าง สารพัดจะสรรหามาหลอกครูฝึก แต่ครูพิชิตก็จะพูดว่า " ไม่จริงหรอก ฟอร์มแล้วล่ะมึง " จนครูพิชิตมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม แล้วเขาก็ลงนั่งยองๆ พูดกับผมว่า
" ตีนมึงเป็นไงบ้าง ไอ้ตี๋แว่น "
ผมแกล้งทำหน้านิ่ว แสดงอาการว่าเจ็บปวดมาก ก่อนตะตอบไปว่า
" สงสัยจะขาแพลงครับ "
" ไหน ถอดรองเท้าถุงเท้าออกซิวะ ขอกูดูหน่อย "
ผม ดึงเชือกรองเท้าออกแล้วจัดการถอดรองเท้าถุงเท้า ครูพิชิตเอามือจับข้อตีนผมเบาๆ ถูไปถูมาซักพัก แล้วก็กวักมือเรียกนายสิบพยาบาลให้เดินมาหา นายสิบพยาบาลเดินมาพร้อมกับถือตลับยาอะไรมาซักอย่างมาด้วยและยื่นให้ครู พิชิต ครูพิชิตส่งตลับยาให้ผม แล้วพูดว่า
" เอายานี่ทาซะ แล้วนั่งนวดไป นวดเบาๆ นะมึง เดี๋ยวก็หาย "
ผม รับยามาแล้วจัดการทาทันที ครูพิชิตยืนขึ้นแล้วเดินไปดูคนอื่นต่อ จนมาถึงคนสุดท้ายของแถวผม มันชื่อ ไอ้แมน เป็นเด็กหนุ่มผิวขาวแบบตี๋ๆ หน้าใส หุ่นล่ำ ก้นใหญ่ ครูพิชิตเดินมาหยุดตรงหน้ามัน แล้วลงนั่งยองๆ ก่อนจะจ้องตามัน ไอ้แมนไม่กล้าจ้องตาครูพิชิต มันรีบหลบสายตาทันที แต่ครูพิชิตเอามือเชยคางมันขึ้น มันสะดุ้งทันที ครูพิชิตยิ้มแล้วถามเบาๆว่า
" แล้วมึงล่ะ เป็นอะไร "
ไอ้แมนอึกอัก แล้วตอบไม่เต็มเสียง
" ไข้หวัดครับ "
ครูพิชิตเอามือแตกหน้าผากไอ้แมนเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปจับแก้ม ไอ้แมนสะดุ้งอีกครั้ง ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
ครูพิชิตยิ้มอย่างมีเลศนัย
" เฮ้ย ไม่เห็นต้องตัวสั่นขนาดนั้นเลย ไอ้ห่า ไม่ต้องกลัวเว้ย อืมมมม แต่กูว่ามึงไม่ได้เป็นไข้หวัดหรอก กูว่ามึงฟอร์มมากกว่า "
" ผมเป็นจริงๆ นะครับ "
ไอ้แมนแย้ง แล้วแกล้งไอเบาๆ ครูพิชิตไม่พูดต่อ รีบยืนขึ้น แล้วเดินกลับไปที่หัวแถว ก่อนจะตะโกนว่า
" เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนเป็นคนป่วย ก็ไม่ต้องไปขึ้นเขา เราจะกลับที่พักกันเดี๋ยวนี้ ทั้งหมด จัดแถว ! "
ทุกคนรีบจัดแถว พอเรียบร้อยแล้วครูพิชิตก็สั่งต่อ
" นิ่ง ! " ทุกคนนิ่ง
" หน้า - เดิน ! "
ทั้งหมดออกเดินกลับที่พัก
..................................
ผม เดินช้าๆ รู้สึกดีขึ้นเพราะได้ยาดีจากครูพิชิต แต่ก็ยังมีอาการเจ็บๆ อยู่บ้าง โชคดีที่ตอนขากลับ ครูพิชิตสั่งให้ทุกคนเดินช้าๆ เพราะเห็นใจคนที่ขาเจ็บอย่างผม และอีกหลายๆคนที่ขาเจ็บเหมือนกัน เราจึงใช้เวลาเดินทางกลับที่พักนานกว่าตอนขาไป แต่ในที่สุดเราก็ถึงที่พัก พอถึงที่พัก ครูพิชิตก็เรียกรวมแถว แล้วแบ่งนักศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม และมอบหมายงานให้แต่ละกลุ่มทำ
กลุ่มแรกครูพิชิตให้ไปกวาดลานข้างห้องน้ำ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง (มีผมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย) ให้ตักน้ำมาราดพื้นดินให้ชุ่มเพื่อให้พื้นดินเย็น และนักศึกษาสามารถนั่งได้ (เพราะปกติพื้นจะร้อนมากๆ ) ผมใช้วิธียืนต่อแถวจากโรงอาบน้ำออกมา หัวแถวใช้ถังตักน้ำจากอ่างน้ำจนเต็มถัง แล้วส่งถังต่อกันมาเรื่อยๆ จนถึงท้ายแถวคนสุดท้าย ก็เอาน้ำไปราดพื้น ผมมีหน้าที่ส่งถัง นานๆ ก็สลับหน้าที่เป็นคนราดน้ำกันบ้าง เพราะการราดน้ำลงพื้นก็สนุกดี แถมยังแอบเอาน้ำมาลูบเนื้อลูบตัวให้เย็นชุ่มฉ่ำได้อีกด้วย ผมทำงานนี้อยู่ถึง 3 ชั่วโมง ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย แต่ก็คิดว่า ก็ยังดีกว่าไปเดินตากแดดหัวแดงขึ้นเขาแบบคนอื่นๆ ล่ะวะ แบบนี้ดีกว่า สนุกกว่าเยอะ มองไปทางไหนก็เห็นแต่เพื่อนๆ ผู้ชายกำลังทำงานอยู่อย่างขยันขันแข็ง แต่ละคนก็หุ่นดีน่าแดกกันทั้งนั้น เห็นแล้วควยโด่เลย
ครูพิชิตเดินดูทุกคนทำงานอยู่เงียบๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงอาบน้ำ ไอ้แมนเป็นหัวแถว กำลังตักน้ำจากอ่างน้ำส่งให้เพื่อนอยู่อย่างขะมักเขม้น ครูพิชิตยิ้มที่มุมปากแล้วพูดกับไอ้แมนว่า
" ไหนว่าเป็นหวัดไงมึง กูไม่เห็นว่ามึงจะเป็นอะไรเลย "
ไอ้ แมนยิ้มเขินๆ แล้วมองหน้าครูพิชิต พลางนึกในใจว่า ครูพิชิตแม่งโคตรหล่อเลย กูชอบหน้าตาแบบนี้อยู่แล้ว ครูพิชิตเอื้อมมือไปตบไหล่ไอ้แมนเบาๆ แล้วหันไปพูดกับคนที่ยืนข้างหลังไอ้แมนว่า
" มึงมาเป็นหัวแถวแทนไอ้นี่หน่อย มันไม่สบาย กูจะพามันไปกินยา "
" ครับ "
ไอ้คนนั้นตอบแล้วก็ขึ้นมายืนแทนที่ไอ้แมน ไอ้แมนทำหน้างงๆ ครูพิชิตก้มลงกระซิบข้างหูไอ้แมนว่า
" มึงไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น มากับกูก่อน "
ไอ้ แมนก็เลยไม่พูดอะไร ครูพิชิตเดินนำหน้าไปก่อน มีไอ้แมนเดินตามมาทีหลัง ไม่มีใครมองไอ้แมนเพราะกำลังก้มหน้าก้มตากวาดพื้น หรือไม่ก็กำลังรับถังน้ำที่เพื่อนกำลังส่งต่อมาอย่างขะมักเขม้น จึงไม่มีใครมองใครอยู่แล้ว
ไอ้แมนเดินตามครูพิชิตมาที่หลังกองบก. (ที่พักของครูฝึก) ครูพิชิตยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ไอ้แมนสงสัยว่า ครูพิชิตจะพามันไปไหน ตอนนี้มันอยู่ห่างจากจุดที่เพื่อนๆ อยู่มาก ครูพิชิตพามันเดินต่อไปอีกหน่อย จนแน่ใจว่าไม่มีใครมองเห็นแล้วจึงหยุดเดิน ไอ้แมนมองไปรอบๆ บริเวณนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และสุมทุมพุ่มไม้จำนวนมาก ยากที่จะมีคนมองเห็น ครุพิชิตหันมาพูดกับไอ้แมนว่า
" มึงชอบแบบไหน "
" ชอบอะไรครับ "
ไอ้แมนถามอย่างงงๆ ครูพิชิตยิ้มแล้วตบตูดไอ้แมนเบาๆ
" รับหรือรุก "
ไอ้แมนตกใจตาเหลือก ตอบตะกุกตะกักว่า
" อ้า ผมไม่... ไม่... ไม่ได้ชอบแบบนั้นครับครู "
" โกหก ไอ้-เอี้ย- ! "
ครูพิชิตด่าตรงๆ ไอ้แมนหน้าซีด ครูพิชิตพูดต่อ
" มึงนึกว่ากูมองมึงไม่ออกเหรอ กูสังเกตุมึงมานานแล้ว ในห้องน้ำที่กลางป่าตรงสนามยิงปืนกูก็เห็นว่ามึงทำอะไร สายตามึงมันฟ้องว่า มึงชอบแบบเดียวกับที่กูชอบ อย่ามาปิดกูซะให้ยาก มึงชอบแบบนี้ กูรู้ "
ไอ้แมนตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ครูพิชิตเขยิบเข้ามายืนจนชิด เป้ากางเกงของเขาแนบกับเป้าของไอ้แมน แล้วครูพิชิตก็พูดช้าๆ
" จับเลยสิ ของชอบมึงนี่ จับเลย "
ไอ้ แมนค่อยๆ เอื้อมมือไปจับเป้ากางเกงของครูพิชิต มันตุงออกมามากจริงๆ ไอ้แมนบีบเบาๆ ก่อนที่จะรูดซิปกางเกงของครูพิชิตลง เผยให้เห็นกางเกงในสีดำที่ตรงเป้านูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด มันรีบดึงขอบกางเกงในลง แล้วงัดควยดุ้นยาวสีดำมะเมื่อมออกมาทันที แล้วถอกเข้าถอกออกอย่างสนุก
" อา... เสียววววววววว ดีมาก ถอกไปเรื่อยๆ เลยมึง อูยยยยยยยยยย "
ครู พิชิตห่อปากด้วยความเสียว ไอ้แมนก็ทนเงี่ยนไม่ไหวอีกต่อไป มันเอามือโอบไหล่ครูพิชิตให้โน้มตัวลง แล้วประกบปากเข้ากับปากของครูพิชิต เสียงดังจ๊วบบบบบ
ครูพิชิตรีบดูดปากตอบทันที แล้วเอาลิ้นพันกับลิ้นไอ้แมน ไอ้แมนหลับตาพริ้ม มือก็ยังคงถอกควยครูพิชิตอยู่ไม่ยอมหยุด ซักพักครูพิชิตก็ถอนปากออก แล้วเอามือถอกควยตัวเองเล่น พลางถามไอ้แมนว่า
" มึงยังไม่ได้ตอบกูเลย ว่ามึงเป็นแบบไหน "
ไอ้แมนซึ่งตอนนี้เงี่ยนจัด มันควักควยออกมาจากกางเกงแล้ว และตอนนี้กำลังถอกควยขึ้นลงๆ อยู่ ตอบเสียงสั่นๆ ว่า
" รับ ครับ ผม "
" ดี ดี งั้นมึงหันหลังเลย แล้วเดินมาที่ต้นไม้ตรงนี้ "
ครู พิชิตสั่ง ไอ้แมนทำตาม มันหันหลังแล้วเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ข้างหน้า ครูพิชิตดึงกางเกงของไอ้แมนลง ตูดขาวเนียนของมันปรากฏอยู่ตรงหน้าครูพิชิต ครูพิชิตถึงกับร้องคราง
" โหววว แม่ง ตูดมึงขาวเนียยนชิบหาย น่าเย็ดเป็นบ้า "
ครูพิชิตตบตูดไอ้แมนเบาๆ แล้วสั่งต่อ
" กอดต้นไม้เอาไว้ ไม่ต้องให้ชิดนะ อย่าให้ควยโดนต้นไม้ ถ่างขาออกเยอะๆ เดี๋ยวกูจะชักควยให้มึงไปด้วย "
ไอ้ แมนรีบกอดต้นไม้ใหญ่ไว้จนแน่น ครุพิชิตล้วงครีมตลับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วละเลงครีมนั้นลงไปตรงรู ตูดของไอ้แมนจนทั่ว แล้วจึงถอกควยลงจนสุด แนบร่างเข้าไปกับตูดของไอ้แมน มือซ้ายก็สอดผ่านเอวของไอ้แมนไปจับควยท่อนใหญ่ขาวจั๊วของมันที่กำลังผงกหัว หงึกๆ รอรับการถอกอยู่ แล้วครูพิชิตก็จัดการถอกควยขาวๆ ของไอ้แมนด้วยความรวดเร็ว หัวควยไอ้แมนแดงแปร๊ด น้ำใสๆ ซึมออกมาช้าๆ
" ถ่างขาออกไปให้มากกว่านี้อีกมึง ไม่มีอะไรต้องอายกันแล้ว แหกตูดกว้างๆ นั่นอย่างงั้น ดีมาก "
ไอ้แมนและครูพิชิตถ่างขาออกเต็มที่ ครูพิชิตค่อยๆ เอาควยแหย่เข้าไปในรูตูดไอ้แมน ไอ้แมนสะดุ้งเพราะเจ็บ ครูพิชิตรีบถามก่อน
" เจ็บมั๊ยวะ "
ไอ้แมนตอบเสียงสั่นๆ
" เจ็บครับ "
ครู พิชิตรีบถอนควยออกก่อน แล้วละเลงครีมลงไปที่รูตูดไอ้แมนมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า จนตอนนี้รูตูดของไอ้แมนเต็มไปด้วยครีม และลื่นๆ แล้วครูพิชิตก็ค่อยๆ เสียบควยเข้าไปใหม่ แบบช้าๆ ไม่พรวดพราดเสียบลงไป
" คราวนี้เป็นไง ยังเจ็บอยู่มั๊ย ถ้าเจ็บต้องบอกกูนะ "
" ไม่เจ็บแล้วครับ เอาเลยครับ เอาตูดผมแรงๆ เลยครับครู ครูครับ เร็วๆ "
ครู พิชิตได้ยินดังนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ชักควยของไอ้แมนไปด้วย ไอ้แมนมั้งมันส์ทั้งเสียวร้องครางลั่น ควยขยายขนาดขึ้นแข็งโด่เป็นลำยาว เส้นเอ็นเขียวๆ ปูดโปนออกมาเต็มลำควย
" อา........... เสียวววววววว ซี๊ดดดดดด ครูครับ แรงๆ ครับครู ซี๊ดดดดดดดด เสียวตูดจังเลยครับ โอยยยยยยยยย มันส์ชิบหายเลย "
ครูพิชิตก็ใส่ไม่ยั่ง เสียงดังป้าบๆๆๆๆ รูตูดของไอ้แมนฟิตมากจริงๆ ทำเอาครูพิชิตทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่นานครูพิชิตก็ร้องขึ้นมาว่า
" โอ๊กกกกก กูออกแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย "
ครู พิชิตพูดจบก็ชักควยออกมาจากรูตูดไอ้แมน แล้วหันควยที่กำลังแข็งโด่เต็มที่ไปอีกทาง ยืนจังก้าชักควยขึ้นลงแล้วปล่อยน้ำสีขาวขุ่นให้พุ่งกระจายปรี๊ดๆๆๆๆ ออกมาจากรูควยอย่างมากมาย ไอ้แมนมองตามด้วยความทึ่งปนเสียดาย ทำไมแม่งหลั่งเร็วจังวะ กระเด้ากูไปไม่กี่ทีเอง
พอครูพิชิตหลั่งออกมาจนหมด ก็หันมาทางไอ้แมนแล้วพูดว่า
" มา กูช่วย "
และ โดยที่ไอ้แมนยังไม่ทันตั้งตัว ครูพิชิตก็คุกเข่าลงดูดควยขาวๆ ของไอ้แมนทันที แล้วใช้ลิ้นเลียไปตามรูควยช้าๆ ก่อนจะแยงลงไปจนลึก ดูดหัวควยแดงๆ ของมันเร็วๆ และเน้นๆ จนไอ้แมนต้องร้องซี๊ดดดดดดด้วยความเสียวแทบจะขาดใจ
" อา..... ดีจังครับครู โอยยยยยยย เสียว วว ไม่ไหวแล้ววววววววว น้ำจะพุ่งแล้วครับ อูยยยยยยย "
ครู พิชิตได้ยินดังนั้นก็รีบครอบปากดูดลงไปจนมิดโคนควย ไอ้แมนเกร็งควยนิดนึงแล้วปล่อยน้ำหวานขาวข้นออกมาอย่างไม่ยั้ง มันพุ่งทะลุลงคอครูพิชิตอย่างรวดเร็ว ครูพิชิตรีบดูดกินน้ำกามของไอ้แมนทันที จนน้ำของไอ้แมนออกมาหมดเกลี้ยง ครูพิชิตจึงเอาปากออกจากควย แล้วกลืนน้ำกามที่ยังเหลือในปากลงคอจนหมด แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก พูดว่า
" แม่งงงง น้ำควยมึงนี่หวานจังนะไอ้ตี๋ อร่อยดี กูชอบ วันหลังมาให้กูแดกอีกนะ กูชอบแดกน้ำอาตี๋ "
" ได้เลยครับ ควยของครูก็ใหญ่ยาวใช่เล่นครับ แถมเย็ดเก่งอีกต่างหาก "
ไอ้แมนพูดขึ้นมาบ้าง มันกล้าพูดกับครูพิชิตมากขึ้น คงเพราะเห็นว่า เราเป็นพวกเดียวกันแล้ว แถมยังมีอะไรลึกซึ้งกันแล้วด้วย
" เออ "
ครู พิชิตพูดสั้นๆ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดปลายควยตัวเอง แล้วยังเช็ดปลายควย และรูตูดให้ไอ้แมนอีกด้วย จนควยและรูตูดของไอ้แมนสะอาด แล้วทั้งครูพิชิตและไอ้แมนก็แต่งตัวจนเรียบร้อยเหมือนเดิม ครูพิชิตหอมแก้มไอ้แมนทีนึง แล้วตบตูดไอ้แมนแรงๆ อีก 2 ที แล้วจึงพูดเบาๆ
" ไอ้ตี๋ มึงห้ามไปบอกเรื่องนี้กับใครนะ เก็บเอาไว้เป็นความลับสุดยอดเลย แล้วมึงจะสบายตลอดการฝึกที่เหลือนี้ กูสัญญาว่ากูจะไม่ทำโทษมึงตราบใดที่มึงไม่เอาเรื่องกูไปบอกใคร โอเคมั๊ย "
" ครับ ผมไม่บอกใครแน่นอน "
ไอ้แมนตอบ ครูพิชิตมองหน้าไอ้แมนแล้วพูดต่อ
" ไหนขอกูหอมแก้มมึงอีกทีซิ แก้มมึงนิ่มว่ะ หอมด้วย ไอ้-เอี้ย-เอ๊ยตี๋ๆ นี่มันน่ารักเป็นบ้าเลย กูชอบตี๋ๆ ชิบหาย เจอทีไรอดใจไม่ไหวทุกที รักมึงว่ะไอ้ตี๋ "
ครูพิชิตพูดจบแล้วก็หอมแก้มไอ้แมนติดต่อกันครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนแก้มไอ้แมนช้ำ พอครูพิชิตหอมจนหนำใจ ไอ้แมนก็ถือโอกาสขอหอมแก้มครูพิชิตบ้าง ครูพิชิตก็ให้หอม ไอ้แมนรีบหอมแก้มครูพิชิตดังฟอดใหญ่หลายครั้ง ถึงแก้มครูพิชิตจะสากๆ แต่หอมแล้วก็ให้ความรู้สึกแมนๆ ดี พอทั้งคู่เริ่มคลายความอยากลงแล้ว ครูพิชิตก็สั่งว่า
" เอาละ มึงเดินกลับไปที่พักกับกู ป่านนี้เพื่อนๆ มึงคงทำงานกันเกือบจะเสร็จแล้ว เดี่ยวพวกมึงก็ได้อาบน้ำกินข้าวแล้วว่ะ "
" ครับ "
ไอ้ แมนตอบสั้นๆ ครูพิชิตยิ้มแล้วเดินโอบไหล่ไอ้แมนไปจนถึงที่พัก ก่อนจะปล่อยให้ไอ้แมนไปหาเพื่อนๆ ตอนนี้ครูฝึกคนอื่นมาบอกทุกคนให้เลิกทำงานได้แล้ว ทุกคนก็เลยนั่งพักและหาที่นั่งคุยกันเงียบๆ
" ไปไหนมาวะแมน เห็นนายเดินไปกับครูพิชิต ครูพิชิตให้นายไปทำไรเหรอ "
ผมถามด้วยความสงสัย ไอ้แมนยิ้มๆ แล้วตอบว่า
" ไม่มีไรหรอกว่ะ เขาก็แค่ให้เราไปกวาดใบไม้หลังกองบก. ก็แค่นั้นเอง "
" เหนื่อยแย่เลยเนอะ "
ผมพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ ไอ้แมนได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข ไม่พูดอะไรต่อ
..................................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 14
5 โมงครึ่ง พวกเพื่อนๆ ที่เดินขึ้นเขาก็ทยอยกลับมา พวกคนป่วยที่นั่งคุยกันอยู่ก็แปลกใจว่า ทำไมกลับมาเร็วจัง เพราะตามกำหนดการเดิมที่ครูฝึกได้บอกไว้ จะต้องกลับมาราวๆ 6 โมง (ผมถามไอ้อ๊อตตอนหลังว่าทำไมกลับมาเร็ว มันก็บอกว่า ยังเดินไปไม่ถึงเลย ไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น นักศึกษาวิชาทหารทุกคนก็หมดแรงอ่อนล้าเดินไม่ไหวกันซะแล้ว ครูฝึกก็เลยให้เดินกลับ กลัวร่างกายจะรับไม่ไหว) เป็นอันว่าไม่มีใครขึ้นไปถึง ครูฝึกก็ให้พวกเราแยกย้ายกันไปอาบน้ำ การอาบน้ำก็เหมือนเมื่อวาน ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพียงแต่วันนี้ผมกล้ามองรูปร่างของเพื่อนๆ มากขึ้น เพื่อนๆ ส่วนใหญ่หุ่นจะดี กล้ามเนื้อเยอะ ผิวดำ และเป้าตุงๆ แต่ผมก็ไม่มีเวลามองนาน เพราะต้องรีบอาบน้ำให้เสร็จ ก่อนจะเดินใส่กางเกงในตัวเดียวกลับมาแต่งตัวที่เต็นท์ (ผมไม่นุ่งผ้าขาวม้า เพราะหมดความอายไปนานแล้ว ไม่มีใครนุ่งผ้าขาวม้าเดินกันซักคน ! นุ่งแต่กางเกงในเดินกันว่อนเลย ) พอแต่งตัวเสร็จก็ชวนไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และไอ้เด่นไปกินข้าว
............................
ตกกลางคืน ครูฝึกเป่านกหวีดรวมพลกันอีกครั้ง คืนนี้พวกเราต้องไปฟังการบรรยายต่อจากเมื่อวาน แต่ต้องเดินไปฟังใกล้ๆ ลานโดดหอ ก็เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่ ที่ลานโดดหอมีจอหนังกลางแปลงจอใหญ่มากอยู่ด้านหน้า วิทยากรที่มาพูดวันนี้พูดน่าเบื่อ ไม่สนุกเลย ตอนท้ายๆ ของการบรรยายมีการฉายสไลด์ และวีดีโอประกอบการบรรยาย ก็ดูกันเพลินๆ จำอะไรไม่ได้เลย อากาศกำลังเย็นสบายกำลังดี น่านอนมาก พอการบรรยายจบลง ทุกคนก็เดินกลับไปที่พัก ผมรู้สึกสบายขึ้นมาก คงเป็นเพราะเมื่อตอนบ่ายได้นั่งพักนานพอสมควร แต่ก็ยังมีความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง
กลับมาถึงที่พัก พักผ่อนนิดหน่อย ครูฝึกบอกพวกเราว่า คืนพรุ่งนี้ พวกเราจะต้องไปนอนในป่า ให้เอาแต่ของที่จำเป็นใส่เป้ไป ของที่ไม่จำเป็นให้เอาใส่ถุงพลาสติกแล้วผูก เขียนหมายเลขเต็นท์เอาไว้ แล้วเอามาฝากไว้ที่กองหมวด ผมก็เลยไปซื้อถุงพลาสติกที่ร้านค้ามา 2 ถุง และซื้อผ้าปูรองนอนเอาไว้ปูนอนในป่าด้วย ผมเก็บสิ่งของเกือบทุกอย่างใส่ถุงพลาสติก ตอนแรกคิดว่าจะเอาผ้าห่มไปด้วย แต่ผมเห็นว่ามันหนักและคิดว่า ในป่าคงจะไม่หนาวเท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจเอาฝากไว้ด้วย ผมเลยเอาของไปฝากไว้ 2 ถุงเลย (คนอื่นแค่คนละถุง) สิ่งที่ผมเอาใส่เป้ไปก็มีแค่ผ้าปูรองนอน และผ้าผืนเล็กๆ อีกผืนสองผืนเท่านั้น ไม่เอาอย่างอื่นไปเลยเพราะกลัวหนัก
2 ทุ่มกว่า ครูฝึกเรียกรวมอีกครั้ง สวดมนต์ แล้วแยกย้ายกันไปนอน คืนนี้ผมต้องเป็นยามด้วย ที่ค่ายนี้เขาจัดยามทุกวัน เมื่อคืนก็มียามแต่ผมไม่โดนเป็นเมื่อคืน แต่มาเป็นคืนนี้แทน เท่าที่ผมทราบ ยามจะมีหลายกะ กะละ 2 ชั่วโมง คนที่เป็นเวรกะแรกคือ 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม แล้วก็มีกะต่อไปเรื่อยๆ ไปจนกว่าจะเช้า ทุกคนต้องเป็นยาม ส่วนใหญ่ยามจะมีเป็นคู่ (เพราะนอน 2 คน) แต่ผมเป็นยามคนเดียว (ก็ผมนอนคนเดียว) คืนนี้ผมอยู่เวรยาม 5 ทุ่มถึงตี 1 ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพอยู่ยามกะที่เกือบจะเช้าเลย ก็ดี ถึงเวลาตื่นพอดี
ยามจะต้องอยู่ประจำจุดต่างๆ ดังนี้
1. หน้ากองบก.
2. รอบๆ เต็นท์ (ที่พักทั้งหมด)
3. ประตูหน้า (บริเวณถนนหลังที่พัก ร้านค้า ตลอดจนทางเดินรอบๆ เต็นท์ ) ( ผมประจำจุดนี้ครับ)
4. คลังอาวุธ
5. ห้องน้ำ (ที่เดียวกับโรงอาบน้ำ) (จุดนี้โชคดีชิบหาย ได้เข้าห้องน้ำตลอดเวลาโดยที่ไม่มีใครแย่ง ใครได้เป็นยามจุดนี้เนี่ย สบายจริงๆ)

ผมงีบไปนิดนึงจนได้ยินเสียงเพื่อนกะแรกมาเรียก เพื่อเปลี่ยนกะ ผมก็เลยถอดเสื้อนอกออก ใส่แต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียวมุดออกจากเต็นท์ไป (ร้อนครับ แต่งแบบครึ่งท่อนก็คงพอ) ผมเริ่มออกเดินตรวจรอบๆ เต็นท์ก่อน ก็เจอไอ้แมนกับเพื่อนของมันที่ต้องอยู่เวรประจำรอบๆ เต็นท์ ก็เลยทักทายกันนิดหน่อย ก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินตรวจต่อ ผมเดินไปเดินมาจนถึง 5 ทุ่มกว่าๆ เดินไปที่ร้านค้าเห็นเพื่อนๆ หลายคนแอบมาโทรศัพท์ตอนดึกๆ ด้วย ตอนแรกพวกเขาเห็นผมเดินมาก็ตกใจ นึกว่าครูฝึก (เพราะผมตัวใหญ่ ล่ำ เหมือนครูฝึก) แต่พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ทุกคนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ใครคนหนึ่งพึมพำออกมาว่า
" นึกว่าครูฝึก ที่แท้ก็ยามนี่เอง เอ้า โทรต่อเว้ยพวกมึง "
ผม ก็ไม่ได้สนใจอะไร อยากจะโทรศัพท์ก็โทรได้ตามสบาย (ยามจะไปทำอะไรได้) ก็เลยเดินกลับมาเดินตรวจแถวๆ เต็นท์อีก ผมเห็นบางเต็นท์มีรองเท้ากองอยู่นอกเต็นท์หลายคู่มาก ทำให้ผมนึกอย่างเสียวไส้ว่า ในเต็นท์กำลังทำอะไรกันอยู่ ต้องมีหลายคนอยู่ในนั้นแน่ๆ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของหัวหน้าชุดฝึกที่สั่งกับยามทุกคนว่า
" ถ้าพวกมึงเห็นเต็นท์ไหนดูเหมือนว่าคนในเต็นท์กำลังเย็ดกันล่ะก็ พวกมึงต้องปรามๆ มัน ให้มันนอนไปซะ ด้วยการทำแบบนี้ เตะเต็นท์แม่งเลย เชื่อเหอะ มันไม่กล้าออกมาทำอะไรพวกมึงหรอก เพราะพวกแม่งกำลังเย็ดกันอยู่ บางทีแม่งอาจจะแก้ผ้าอยู่ด้วย ไม่เชื่อพวกมึงลองทำดูสิ "
เต็นท์นั้นมี เสียงซู้ดซี๊ดดังออกมาด้วย ผมเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงเหมือนคนกำลังกินของเผ็ดเลย ซี๊ดซ๊าดๆ อย่างสะใจ อย่างนี้ชัวร์เลย กำลังเย็ดกันอยู่แน่ๆ ผมนึกสนุกอยากจะแกล้งพวกมันบ้าง ก็เลยเตะแรงๆ ไปที่ข้างๆ เต็นท์ เสียงดังปึ๊ก !
มีเสียงเอะอะออกมาจากในเต็นท์ว่า
" เฮ้ย -เอี้ย- ทำ-เอี้ย-อะไรของมึงวะไอ้สัตว์ "
ผมสะดุ้ง กลัวคนในเต็นท์จะออกมาต่อยผม ก็เลยยืนนิ่งรอดูท่าทีซักพัก ..... ปรากฏว่า คนในเต็นท์ไม่ออกมา ด่าผม แต่แม่งก็ไม่กล้าออกมา
ชัว ร์ กำลังแก้ผ้าอยู่เลยไม่กล้าออกมาแน่ๆ ผมนึกขำในใจ แต่ก็เข้าใจหัวอกเกย์ด้วยกัน ก็เลยเดินหนีไปเต็นท์อื่น อีกเต็นท์ได้ยินเสียงปับๆๆๆ อย่างชัดเจน แม่งเอ๊ย เย็ดกันดังชิบหาย ต้องปรามกันหน่อยแล้ว ผมก็เลยเตะไปตรงข้างๆ เต็นท์อย่างแรงทีนึง เสียงดังป้าบ!
" อีสัตว์ อี-เอี้ย- เตะหาพ่อมึงเหรอ "
" อย่ามาเสือกกับกูไอ้-เอี้ย- แม่ง "
เสียง ด่าด้วยถ้อยคำถ่อยๆ 2 เสียงดังออกมาจากในเต็นท์คนละที เสียงแรกเป็นเสียงกะเทย แต่เสียงที่ 2 เป็นเสียงผู้ชาย เกย์กับกะเทยเย็ดกันนี่เอง -เอี้ย-จริงๆ และแน่นอน ทั้งคู่ไม่กล้าออกมาจากเต็นท์เหมือนกัน ผมยิ้มแล้วตัดสินใจเลิกพฤติกรรมแบบนี้ ไม่อยากจะกวนใจแล้ว อยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ ตามสบาย ผมคิดแล้วก็นั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่แถวนั้น นั่งไปซักพัก ผมก็รู้สึกปวดเยี่ยวอย่างมาก ก็เลยตัดสินใจจะแอบหนีไปเข้าห้องน้ำที่โรงอาบน้ำ
.................................
" แม่ง ใครมาเตะนะ กำลังโดนเสียบมันส์ๆ เสียอารมณ์หมด "
ปิงปิงพูดแล้วรีบแต่งตัว ก่อนที่จะผลุบออกมาจากเต็นท์นั้น ด้วยท่าทางเซ็งๆ
" ต่อไปเต็นท์ไหนดีนะ เอ้อ "
ปิง ปิงพึมพำ ก็พอดีสังเกตุเห็นว่า มีร่างๆ หนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาหามัน มันมองร่างๆ นั้นอย่างแปลกใจ ใครเดินมาหาฉันวะ ในเวลาดึกแบบนี้เนี่ยนะ
พอ ปิงปิงมองเห็นร่างนั้นชัดเจน ปิงปิงก็แทบจะร้องออกมาด้วยความตกใจ หัวหน้าชุดฝึก นั่นเอง แต่งชุดครึ่งท่อนเหมือนปิงปิง กล้ามแขนเป็นมัดๆ พุงของหัวหน้าชุดฝึกโย้ออกมาอย่างน่าเกลียด หน้าของเขาแดงก่ำเนื่องจากฤทธิ์เหล้าที่เขาดื่ม หัวหน้าชุดฝึกมองหน้าปิงปิงแล้วตะคอกเสียงดัง
" มาทำ-เอี้ย-ไรดึกดืนป่านนี้ ไม่หลับไม่นอน วะ อีกะเทย "
ปิง ปิงไม่รู้จะตอบว่าอะไร ก็เลยคิดจะวิ่งหนี แต่พอขยับเท้าจะวิ่งหนีเท่านั้น หัวหน้าชุดฝึกก็ตรงเข้าล็อคคอปิงปิงทันที แล้วเอากำปั้นกระทุ้งแผ่นหลังปิงปิงแรงๆ ทีนึง ก่อนจะพูดเสียงอ้อแอ้ๆ
" มึงออกมาก็ดีแล้ววว ไม่นอน ไม่ง่วงใช่มั๊ยวะ กูกะลังต้องการคนช่วยอยู่พอดี กลางคืนเสือกไม่นอน ออกมาเพ่นพ่านเหมือนหมา งี้ก็เหมาะเลย มากับกู กูจะให้มึงทำอะไรให้กูหน่อย น้า 5555 มึงเนี่ย ขาวเนียนเหมือนผู้หญิงจริงๆ เลยว่ะ แบบนี้กูชอบ "
ปิงปิงขนลุกซู่ทันทีที่ได้ยินหัวหน้าชุดฝึกพูดแบบนี้ รีบพูดเสียงสั่น
" จ่าอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันง่วงแล้ว อยากไปนอน "
หัวหน้าชุดฝึกมองหน้าปิงปิงแล้วหัวเราะ
" ควย กูจะไปทำอะไรมึง อีตุ๊ด มึงไม่ใช่ผู้หญิง กูไม่ชอบล่อตูดที่มีแต่ขี้อย่างมึง กูแค่อยากให้มึงทำอะไรให้กูหน่อย กูรู้ว่าพวกมึงน่ะ เก่งเรื่องนี้ กูเองก็เคยให้พวกมึงทำมาแล้วหลายคน แม่งสุดยอดเลยยยย "
" จ่าจะให้ฉันทำอะไร "
ปิงปิงถาม แววตื่นตระหนกยังคงปรากฏอยู่ในตา หัวหน้าชุดฝึกยิ้มแล้วกระชากปิงปิงให้เดินตามเขาไป ปากก็พูดไปด้วย
" มาตรงนี้ดีกว่า มืดๆ หน่อย จะได้ไม่มีครายมองเห้น "
หัว หน้าชุดฝึกพาปิงปิงมาตรงมุมมืดข้างๆ กองบก. ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลย หัวหน้าชุดฝึกก็กดหัวปิงปิงให้นั่งคุกเข่าลง ตัวเขาเองยืนจังก้าตามวิสัยทหาร แล้วรูดซิปกางเกงลงดึงลำควยขนาดเกือบ 8 นิ้วออกมา ลำสีดำสนิท เส้นเลือดขึ้นเต็มทั้งลำ หัวควยถอกบานเป็นสีเลือดหมูคล้ำๆ แสดงให้เห็นว่าผ่านการใช้งานมาแล้วอย่างหนักหน่วง รูควยใหญ่โบ๋ ปิงปิงมองควยหัวหน้าชุดฝึกอย่างรังเกียจ กลิ่นเหม็นของคราบเยี่ยวโชยออกมาจากหัวควยแตะจมูกปิงปิง ทำให้ปิงปิงแทบอ้วก ครูฝึกถอกหัวควยเข้าออกๆ 2-3 ทีแล้วสั่งว่า
" ดูดควยกูสิไอ้-เอี้ย- ดูดเลย รอทำควยไรล่ะ "
ปิง ปิงไม่อยากดูดเลย แต่ก็จำต้องทำเพราะกลัวครูฝึก มันค่อยๆ อ้าปากออกจนกว้างแล้วครอบปากลงไปจนเกือบมิดโคนควย แล้วดูดขึ้นดูดลง ควยหัวหน้าชุดฝึกค่อนข้างมีกลิ่นเล็กน้อย แต่ปิงปิงก็ฝืนดูดไปเรื่อยๆ หัวหน้าชุดฝึกครางเสียงกระเส่า และกดหัวปิงปิงให้ดูดครั้งเล้วครั้งเล่า
ปิงปิงดูดพลางคิดในใจ
" ไม่น่าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลยฉัน เฮ้อ โดนเพื่อนเย็ดมาไม่รู้กี่ควยแล้วยังต้องมาดูดควยเหม็นๆ ของไอ้จ่า-เอี้ย-นี่อีก แม่ง ซวยชิบหาย "
ปิงปิงไม่รู้หรอกว่า มีสายตาคู่เดิมที่มองมาจากบ้านพักของครูฝึกหมวด 2 จับจ้องมาที่ร่างของปิงปิงที่กำลังดูดควยอย่างเอาเป็นเอาตายและร่างที่กำลัง บิดกระเส่าของหัวหน้าชุดฝึกด้วยความเสียว พลางอัดลำควยขนาดยักษ์เข้าปากจนลึก ปิงปิงปากแทบฉีกแต่ก็อดทนดูดต่อ สายตาคู่นั้นขยิบเล็กน้อย ก่อนจะฉีกยิ้มอย่างสะใจ
" สมควรโดนแบบนี้แล้ว อีกะเทยนรก เงี่ยนควยนักต้องเจอควยม้าของไอ้ชายซะบ้าง คงจะเข็ดไปอีกนาน "
.....................................
ผม เดินมาถึงโรงอาบน้ำ ไอ้เด่นยืนเงกอยู่ข้างหน้า ผมยิ้มด้วยความดีใจที่ได้เจอเพื่อน รีบเดินเข้าไปตบไหล่มันทันที ไอ้เด่นสะดุ้งตื่นแล้วจ้องหน้าผมด้วยสายตาแปลกๆ แล้วพูดว่า
" ไง ไอ้หนุ่ม เป็นยามเหรอมึง "
ผม พยักหน้า แล้วมองการแต่งตัวของไอ้เด่น มันแต่งครึ่งท่อนเหมือนผม เสื้อนอกไม่ใส่ ใส่แต่เสื้ออ่อนกับกางเกงขายาวสีเขียวแก่ เป้ากางเกงตุงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมก็ไม้ได้สนใจอะไร
" เออ กูอยู่ประตูหน้า มึงอยู่ห้องน้ำเหรอ สบายเลยนี่ จะขี้จะเยี่ยวทำได้ตลอด ไม่มีใครด่า "
ไอ้เด่นยิ้ม ก่อนจะตอบ
" เออ กูอยู่ห้องน้ำกับเพื่อน แม่งขี้อยู่ กูเองเมื่อกี้ลองขี้ดู แต่ก็ขี้ไม่ออก แม่ง-เอี้ย-สัดๆ อ่ะ ปวดขี้ชิบหายแต่ดันขี้ไม่ออก "
ผม ไม่พูดอะไร เดินเข้าไปที่โถเยี่ยวทันที เพราะปวดเยี่ยวจนท่อจะแตกอยู่แล้ว พอไปถึงก็รูดซิปควักควยออกมาปล่อยน้ำทิ้งออกจากร่างกายทันที เสียงดังจ๊อกๆ
ขณะที่ผมกำลังเยี่ยวอยู่อย่างสบายอารมณ์อยู่นั้น ผมก็รู้สึกเหมือนมีมือมาจับตูดผม มือไอ้เด่นแน่ๆ ผมก็เลยพูดเย้ามันว่า
" ห่าไอ้เด่น มึงอย่าแกล้งกูดิวะ จับตูดกูทำไม กูเสียวนะ อย่าแกล้งเว้ยๆ กูจะเยี่ยว เดี่ยวก็เยี่ยวรดซะเลยนี่ "
แต่ มือของไอ้เด่นไม่ยอมหยุด กลับจับตูดผมแน่นขึ้นแล้วบีบแรงๆ แถมยังควานหารูตูดผมด้วย จนผมแปลกใจ ร่างของไอ้เด่นค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนแนบเข้ากับแผ่นหลังและตูดของผม ผมรู้สึกได้ถึงร่างล่ำๆ อุ่นร้อนที่แนบอยู่ด้านหลัง ผมรีบร้องเสียงดัง
" เฮ้ย ไอ้-เอี้ย-เด่นมึงทำอะไรของมึงวะเนี่ย ปล่อยกูก่อน กูยังเยี่ยวไม่เสร็จ ทำอะไรวะเฮ้ย อย่าดิวะ "
ผม รีบสะบัดๆ ควยและกำลังจะเก็บเข้าไปในกางเกง ก็พอดีไอ้เด่นยื่นมือของมันมาดึงมือผมไว้ไม่ให้เก็บ จนมือผมหลุดออกจากควย แต่กลับเป็นมือของไอ้เด่นเองที่จับควยที่ห้อยต่องแต่งของผมเอาไว้ได้ และโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว ไอ้เด่นก็จับควยที่ยังอ่อนๆ ของผมชักขึ้นชักลงอย่างรวดเร็ว ผมตกใจมาก ขยับปากจะถามแต่ความเสียวที่ลำควยกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมพูดไม่ออก ควยอ่อนๆ ของผมกลับแข็งโด่ขึ้นอย่างเร็วและตั้งผงาดฟ้าอย่างท้าทาย เส้นเลือดปูดโปนออกมาเต็มที่ ลำควยยาวใหญ่ตรงปลายเป็นหัวดอกเห็ดแดงแจ๋ ไอ้เด่นเอามือถอกหนังหุ้มควยผมเข้าออกๆ อย่างสนุกมือ เผยให้เห็นหัวควยที่มันวาวอย่างชัดเจน จนผมถึงกับร้องครางไม่เป็นภาษา
" อา.......ซี๊ดดดดดดดดด เย็ดเคี่ยม เสียวควยโว้ยยยยย ไอ้เด่น ที่แท้มึงก็ชอบแบบนี้เองเหรอวะ เพื่อน นึกว่าชายแท้ซะอีกก ซี๊ดดดด เสียวควยชิบหายเลย ถอกแรงๆ เลย "
แทนคำตอบ ไอ้เด่นกลับบดขยี้ลำควยในกางเกงของมันเข้ากับตูดของผมอย่างจงใจ มือก็สาวลำควยผมไปด้วย จนน้ำผมจะออกอยู่แล้ว ผมรีบร้องห้ามเสียงหลง
" เฮ้ยยยย หยุดชักก่อนเว้ย ไอ้-เอี้ย-ยยยยยยยย น้ำกูจะไหล ทำนบกูจะแตก แม่งงงงงงง กูเสียวเหลือเกินว่ะ โอยยยยย ควยกูแข็งชิบหายเลย "
ไอ้ เด่นซุกหน้าลงไปตรงลำคอขาวๆ ของผมแล้วไซ้อย่างหื่นกระหาย พร้อมๆ กับขบติ่งหูผมเบาๆ ด้วย ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว มือของไอ้เด่นดึงกางเกงขายาวของผมลงไปกองกับพื้น แล้วรูดกางเกงในของผมลงเช่นกัน ก่อนที่จะลูบคลำไข่แฝด 2 ใบของผมเล่นอย่างมันส์มือ ผมเกร็งควยขึ้นด้วยความเสียว ควยของผมผงกหัวหงึกๆ อย่างเสียวจัด ไข่ 2 ใบที่ห้อยอยู่แกว่งไกวไปมา แต่ไอ้เด่นรวบไข่ทั้ง 2 ใบไว้ในอุ้งมือ แล้วสะกิดบอกผมว่า
" หันมาหน่อยสิมึง กูอยากกินไข่ "
ผม หันหลังกลับมา ไอ้เด่นรีบก้มลงคุกเข่าเอาปากห่อพวงไข่ของผมเข้าไปในปากหมดทั้งพวง ไข่ขาวๆ 2 ใบอยู่ในปากของมันแล้ว แล้วไอ้เด่นยังดุนไข่แฝดของผมเล่นอย่างสะใจอีกด้วย !
.........................................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 15
" อา...... เสียววววค_ยจังเลยมึงงงง ซี๊ดดดดด นั่น ดูดไข่กูเลย "
ผม ร้องครางด้วยความเสียว ไอ้เด่นดูดไข่ผมเล่นนานพอสมควรก่อนจะเอาปากออก แล้วถลกเสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียวของผมขึ้น บรรจงเอาลิ้นเลียที่หัวนมสีดำของผมอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน มันเลียหัวนมข้างซ้ายแล้วก็ข้างขวา ก่อนจะลากลิ้นจากหัวนมลงมาถึงสะดือ ผมถึงกับครางลั่นเมื่อไอ้เด่นเอาลิ้นฉกไปตรงสะดือและลากลิ้นลงมาตามไรขนจน ถึงหมอยนุ่มๆ ของผม มันเอามือลูบหน้าท้องแบนราบที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามของผมช้าๆ ผมรู้สึกผ่อนคลายมาก จึงหลับตาลงอย่างมีความสุข มือก็ลูบหัวเกรียนๆ ของไอ้เด่นไปด้วย ท่อนล่างของผมเปลือยเปล่าแล้วตอนนี้ รองเท้าถุงเท้าของผมถูกถอดเหวี่ยงออกไปจนหมดแล้ว
ปัง!
เสียงประตู ห้องน้ำเปิดออก ผมสะดุ้งเฮือก ไอ้ไก่ เพื่อนของไอ้เด่น (คนที่ผมคิดว่าเป็นชายแท้) ก้าวออกมาจากห้องน้ำ แล้วหันมาจ้องหน้าผม ผมตกใจมากรีบสะกิดหัวไหล่ไอ้เด่นให้หยุดการกระทำของมันชั่วคราวแล้วบอกว่า
" -เอี้ย- พอก่อน.. เพื่อนมึงมองกูอยู่ "
ไอ้ เด่นลุกขึ้นยืน แล้วกวักมือเรียกไอ้ไก่ให้เดินเข้ามาหา ไอ้ไก่เดินเข้ามาช้าๆ ตาจับจ้องไปที่ควยของผม และก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไรออกไป ไอ้ไก่ก็ยื่นมือมาดึงควยผมเล่นเบาๆ แล้วพูดกับผมว่า
" ชอบแบบนี้ด้วยเหรอวะหนุ่ม กูไม่ยักรู้มาก่อนเลย "
ผมอ้าปากค้าง คนที่ผมคิดว่าเป็นชายแท้ กลับกลายเป็นว่า ชอบแบบเดียวกับผมเหรอเนี่ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด !
ไอ้ ไก่ไม่รอช้า รีบคุกเข่าลงห่อปากดูดควยของผมทันที ผมก็รีบแอ่นควยกระแทกปากของมันด้วยความรวดเร็ว ไอ้ไก่ดูดหัวจควยผมเสียงดังจ๊วบๆๆ ก่อนจะอ้าปากกว้างดูดลงไปจนมิดลำควย
" อา.......... ดูดเก่งชิบหายเลยมึง "
ผม ร้องคราง ไอ้เด่นยืนมองยิ้มๆ แล้วเดินไปข้างหลังผม คุกเข่าลงเช่นกันแล้วแหกรูตูดผมออก แล้วใช้ลิ้นเลียรูตูดผมช้าๆ ก่อนจะรัวลิ้นเร็วขึ้นๆ เป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของผมให้มากขึ้นอีกเท่าตัว ผมทั้งเสียวทั้งจั๊กจี้ ถึงกับทนไม่ไหวอีกต่อไป
" อูยยยยยยยยย เสียวรูตูดชิบหายเลย มึงง..... ทำไมพวกมึงถึงได้เก่งกันแบบนี้วะ แสดดดด กูไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย "
ไอ้ เด่นเลียรูตูดผมไปซักพักนึงแล้วก็ยืนขึ้น สะกิดไอ้ไก่ ไอ้ไก่รีบถอนปากออก แล้วยืนขึ้นบ้าง แล้วโน้มตัวมาประกบปากกับผมทันที ลมหายใจร้อนๆ ของไอ้ไก่รดปากผม บ่งบอกถึงความเงี่ยนอันมากมายในตัวของมัน ไอ้ไก่ใช้ลิ้นสอดเข้าไปในปากผมจนลึก แล้วดูดปากผมอย่างเมามันส์ ส่วนไอ้เด่นก็คุกเข่าลงดูดควยผมต่อจากไอ้ไก่ ไอ้เด่นดูดไม่เก่งเท่าไอ้ไก่ แต่ก็ทำให้ผมเสียวควยได้มากขึ้นไปอีก สักพักไอ้เด่นก็ถอนปากออกจากควยผม ส่วนไอ้ไก่ก็ก้มลงไปดูดควยผมต่ออีกอย่างไม่นึกรังเกียจ ไอ้เด่นกระซิบที่ข้างหูผมว่า
" ขอกูเล่นตูดมึงหน่อยได้มั๊ยวะ "
ผมสะดุ้ง ขณะที่อัดควยเข้าปากไอ้ไก่จนมิดโคนอย่างสะใจ แล้วรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
" เฮ้ย ไอ้ห่า ไม่เอา กูไม่ให้เว้ย กูไม่ชอบให้ใครเล่นตูด "
" น่า นิดเดียวน่า ขอกูเถอะ "
" พูดไม่รู้เรื่องเหรอมึง กูบอกไม่เอาเว้ย "
ไอ้เด่นพยายามอ้อนวอนขอเล่นตูดผม แต่ผมไม่ยอมท่าเดียวเพราะไม่ชอบ จนในที่สุดไอ้เด่นก็ยอมแพ้
" เออ เออ ตามใจ ไม่ให้เล่นก็ไม่เป็นไร งั้นกูเล่นควยมึงอย่างเดียวก็ได้ "
ขณะที่ไอ้เด่นพูดอยู่นั้น ผมก็เสียวควยจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะไอ้ไก่ดูดเก่งเหลือเกิน ผมรีบพูดกับมันว่า
" เฮ้ย พอก่อน เลิกดูดก่อน เดี๋ยวน้ำกูออกก่อนจะไม่สนุก "
ไอ้ ไก่ได้ยินดังนั้นจึงยอมลุกขึ้น แล้วปลดเข็มขัดถอดกางเกงขายาวและกางเกงในรวมทั้งรองเท้าถุงเท้าออก จนท่อนล่างของมันเปลือยเปล่า  ควยยดำๆ ขนาดไม่ใหญ่นักตั้งโด่เด่อยู่ตรงหน้าผม ไอ้เด่นรีบก้มลงดูดควยไอ้ไก่ทันที
" อูยยยยยย เสียวววววว "
ไอ้ ไก่ร้องครางเบาๆ ผมมองหน้าไอ้ไก่ หน้ามันไม่ถือว่าหล่อ ออกจะชาวบ้านๆ ถึกๆ แต่ก็มีเสน่ห์พอสมควร รูปร่างมันก็ดี หุ่นสมส่วน ขายาวแขนยาว กล้ามขึ้นเป็นมัดๆ ผมอดใจไม่ไหวอีกต่อไป รีบถลกเสื้อของมันขึ้นแล้วดูดเลียหัวนมดำๆ ของมันทันที ก่อนจะลูบหน้าท้องกร้านแดดของมันไปมาด้วยความเงี่ยนจัด
ไอ้เด่นดูดควยไอ้ไก่อยู่นานก่อนจะถอนปากออก ผมรีบพูดเสียงดัง
" ขอกูมั่ง ! "
ว่า แล้วผมก็ดูดควยไอ้ไก่ต่อทันที  ควยไอ้ไก่ขนาดกำลังดีดูดง่ายมาก หัวควยเล็ก แต่ลำควยแข็งมาก ไข่ก็ลูกเล็กสีดำสนิทห้อยโตงเตงอยู่ตรงหว่างขา ผมทั้งดูดทั้งเลียควยมันก่อนจะฉกลิ้นไปตรงไข่ขวาของมันเร็วๆ ไอ้ไก่ยืนส่ายไปมาด้วยความเสียว ขาสั่นพั่บๆ
ไอ้เด่นซึ่งตอนนี้ถอดกางเกงและรองเท้าถุงเท้าออกหมดแล้ว กำลังยืนสาวควยขึ้นลงๆ จนแข็งเต็มที่ แล้วมันก็พูดว่า
" ไก่ มึงเกาะขอบอ่างได้แล้ว "
ไอ้ ไก่ดึงควยออกจากปากผม แล้วเดินไปที่อ่างอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่นักศึกษาทุกคนตักน้ำจากอ่างนี้อาบน้ำ ตอนเย็นทุกวัน ยืนถ่างขาเอามือเกาะขอบอ่างเอาไว้แน่น ผมนั่งขัดสมาธิข้างๆ ไอ้ไก่ มือก็จับควยของไอ้ไก่รูดขึ้นรูดลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความเสียวให้กับมัน ไอ้เด่นยืนอยู่ข้างหลังไอ้ไก่ มันเอามือแหกตูดไอ้ไก่ออก แล้วเอาเควาย (ที่มันเอาติดตัวมา) ละเลงจนทั่วรูตูด แล้วถอกลำควยลงจนสุด เสียบพรวดเข้าไปในรูตูดของไอ้ไก่ด้วยความรวดเร็ว มันเสียบง่ายมากจนผมแปลกใจ สงสัยตูดของไอ้ไก่ต้องหลวมมากแน่ๆ ถึงได้เสียบง่ายขนาดนี้ ไอ้เด่นเสียบเข้าไปจนสุดแล้วก็เริ่มโยกเข้าโยกออกช้าๆ ก่อนจะเริ่มโยกเร็วขึ้นๆ พวงไข่ใหญ่ๆ ของไอ้เด่นกระแทกง่ามตูดไอ้ไก่อย่างเร็วและแรง
เสียงควยกระแทกรูตูดดังปั่บๆๆๆๆๆ
ไอ้ ไก่ครางเสียงหลงด้วยความเสียว ไอ้เด่นรีบโยกควยเข้าออกๆ เร็วขึ้นๆ ผมมองด้วยความทึ่งปนเสียว ในขณะที่มือซ้ายก็ยังสาวควยไอ้ไก่ไปด้วย ไอ้เด่นได้จังหวะจึงเอาควยบดขยี้รูตูดไอ้ไก่ทันที ก่อนจะถอนควยออกมาช้าๆ แล้วยัดพรวดลงไปใหม่อีกครั้ง มันทำอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา ไม่นานมัน 2 คนก็เปลี่ยนท่า ไอ้ไก่นอนหงาย ยกขาทั้งสองพาดไว้บนไหล่ของไอ้เด่น ไอ้เด่นจับขาของไอ้ไก่ไว้แล้วเสียบรูตูดสดๆ จากทางด้านล่าง เสียงดังปั่บๆๆๆ ผมมองดูแล้วสุดจะทนไหว รีบถอกควยออกจนหัวควยสีชมพูดสดบานแดงเถือก แล้วเอาไปจ่อไว้ที่ปากของไอ้ไก่ แล้วพูดว่า
" รูล่างมึงโดนไปแล้ว รูบนก็โดนนี่มั่งนะ "
พูด จบผมก็ยัดควยเข้าปากไอ้ไก่ไปทั้งลำ แล้วกระแทกลำควยเข้าออกๆ ในปากของไอ้ไก่บ้าง ไอ้ไก่ก็ดูดควยผมช้าๆ ขณะเดียวกันก็รับแรงกระแทกของไอ้เด่นไปด้วย เวลาผ่านไปนาน ไอ้เด่นก็กลั้นต่อไปไม่ไหว หลังจากกระเด้าควยเข้ารูตูดไอ้ไก่มานานหลายสิบนาที มันรีบชักลำควยลื่นๆ ออกมาจากรูตูดของไอ้ไก่ แล้วก็ระเบิดน้ำกามขุ่นข้นหวานมันออกมาจากรูควยทันที น้ำกามพุ่งกระฉูดลงไปตรงหน้าท้องเปลือยของไอ้ไก่ที่นอนหงายอยู่อย่างแรง และแตกกระจายออกเป็นวงกว้าง กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่ว ไอ้เด่นรีดน้ำกามออกมาจนหมด แล้วหันไปจัดการกับควยไอ้ไก่โดยการถอกเข้าออกๆ อย่างมันส์มือจนควยไอ้ไก่แข็งเป็นหิน ส่วนผมก็รีบกระแทกลำควยเข้าปากให้ไอ้ไก่ดูดอย่างเอาเป็นเอาตาย จนในที่สุดน้ำกามของผมก็กำลังจะแตก ไอ้ไก่รีบคายจู๋น้อยผมออกมาทันที ไม่ให้น้ำผมออกในปาก ผมก็เลยเอารูควยไปจ่อไว้ที่หน้ามัน แล้วน้ำกามเหนียวข้นของผมก็ระเบิดออกเต็มหน้าของไอ้ไก่เลย ผมรีบชักจู๋น้อยเข้าออกๆ ให้น้ำกามหลั่งออกมามากที่สุด ไอ้ไก่มันนอนหงายอยู่ด้วย จะเอี้ยวหลบไปทางไหนผมก็จ่อควยไปที่หน้ามันได้ มันก็เลยต้องรับน้ำกามผมไปเต็มๆ ตอนนี้หน้าของไอ้ไก่จึงเต็มไปด้วยน้ำกามขาวๆ เหนียวๆ เยอะๆของผมเลอะเทอะไปหมด ไอ้ไก่ด่าลั่น
" ไอ้-เอี้ย-ยยยยยย เลอะหน้ากูหมดแล้วววววว "
วินาที นั้นนั่นเอง ไอ้ไก่ก็เกร็งควยด้วยความเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว น้ำกามคาวๆ ถูกปล่อยออกมาด้วยความรวดเร็ว ไอ้เด่นรออยู่แล้ว พอไอ้ไก่ปล่อยน้ำออกมาปุ๊บ มันก็ครอบปากลงไปที่ควยพอดี แล้วดูดกินน้ำกามของเพื่อนจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือเลยแม้แต่หยดเดียว ไอ้ไก่ครางลั่น
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด กูเสร็จแล้วววววววว "
ไอ้ เด่นดูดควยไอ้ไก่จนไอ้ไก่หลั่งออกมาหมดไส้หมดพุง แล้วควยเริ่มอ่อนลงแล้วจึงเอาปากออก ผมรีบยืนขึ้น มองหน้าไอ้ไก่ที่เลอะด้วยน้ำกามผมอย่างสะใจ แล้วพูดว่า
" ขอบใจมากนะพวกมึง กูสนุกมากเลย ไอ้ไก่ควยมึงหวานมาก กูชอบ ไว้ขอกูดูดอีกนะ "
แล้ว ผมก็วักน้ำในอ่างล้างควยผมจนสะอาด แล้วรีบใส่กางเกงนอกกางเกงใน รวมทั้งถุงเท้ารองเท้า แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำทันที ไอ้เด่นฉุดไอ้ไก่ให้ลุกขึ้น แล้วต่างคนต่างก็ล้างควยทำความสะอาดกันจนเสร็จ แล้วจึงแต่งตัว ไอ้ไก่ล้างหน้าเสร็จก็บ่นยิ้มๆ
" แม่ง เล่นปล่อยน้ำใส่หน้ากูเลย กว่าจะล้างออกหมดแทบตาย ไอ้-เอี้ย-เอ๊ย ชาติหมา "
" แต่มึงก็ชอบไม่ใช่เหรอวะ "
ไอ้เด่นถามยิ้มๆ เช่นกัน ไอ้ไก่หน้าแดงแล้วตอบเขินๆ
" รู้ทันกูไปหมดทุกอย่างเลยนะมึง เออ กูชอบ แม่งเสียวสะใจแบบแมนๆ ดี ไป ไปยืนยามต่อกันเหอะ "
ไอ้ไก่พูดแล้วก็กอดคอไอ้เด่นเดินออกจากโรงอาบน้ำเพื่อไปยืนยามต่อ
.................................
6 ทุ่มกว่า
ผม เดินไปเดินมาอีกหลายรอบ รู้สึกหนาวก็เลยกลับไปที่เต็นท์เอาเสื้อนอกมาใส่ เลยกลายเป็นว่าผมแต่งชุดฝึกเต็มยศเลย ค่อยหายหนาวลงหน่อย ผมรู้สึกดีขึ้นมาก เดินไปเดินมาหลายรอบจนชักเมื่อยก็เลยนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิม บรรยากาศเงียบและวังเวงมาก เวรยามคนอื่นๆ ที่เดินตรวจรอบเต็นท์ (ไอ้แมนและเพื่อน) หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ไม่เห็นเลย ยามตรงจุดอื่น (เช่นที่กองบก. และคลังอาวุธ) ก็ไม่รู้ว่ายังอยู่หรือเปล่าเพราะผมขี้เกียจเดินไปดู มองออกไปไกลๆ เห็นยามที่ห้องน้ำ (ไอ้ไก่และไอ้เด่น) ยังยืนอยู่ก็รู้สึกอุ่นใจ ผมนั่งเงียบๆ อยู่นาน รู้สึกเหงามากๆ เพราะเป็นยามประตูหน้าคนเดียว ก็เลยเดินตรวจรอบๆ เต็นท์อีกครั้งแก้เหงา เพื่อนๆ ส่วนใหญ่หลับกันหมดแล้ว ดูแล้วก็น่าสงสารคงจะเหนื่อยกันมาก ผมเองก็ทั้งง่วงทั้งเพลียจนจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อกี้หลั่งน้ำกามออกไปตั้งเยอะ ยิ่งรู้สึกเพลียมาก อยากจะหลับ แต่ก็ต้องฝืนถ่างตาไว้ไม่ให้หลับ ผมเดินกลับมานั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกครั้ง รอเวลาเปลี่ยนกะ ตรงนี้เงียบมาก ไม่มีเสียงใดๆ เลย ผมก็ได้แต่นั่งรอๆ และก็รอ อากาศก็หนาว ผมได้แต่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ รอเวลาเปลี่ยนกะอย่างเดียว
อีก 5 นาทีตี 1 จะหมดกะของผมแล้ว ผมรีบไปเรียกเพื่อนกะต่อไปให้มาอยู่เวรยามต่อ ส่วนผมก็กลับเข้าเต็นท์ ถอดเสื้อนอกออก ได้เวลานอนซะที ! คืนนี้ยืมไฟฉายไอ้อ๊อตมาก็เลยส่องหาของได้สะดวก ผมถอดรองเท้าถุงเท้าออกจนหมดเพราะว่ามันอับเหลือเกิน ผมล้มตัวลงนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียสุดชีวิต อยากจะพักผ่อนซะหน่อยเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินเข้าป่าแต่ช้ามืด
ผมหลับสนิทไปด้วยความรวดเร็ว ท่ามกลางความหนาวเหน็บของอากาศในคืนนั้น
...................................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 16
" อือออ กี่โมงแล้ววะเนี่ย "
ผมพูดพลางพลิกตัวไปมาช้าๆ แล้วเอามือขยี้ตาเพื่อให้หายจากอาการง่วง แล้วควานหานาฬิกาข้อมือที่ถอดทิ้งเอาไว้ก่อนนอน พอเจอแล้วก็หยิบขึ้นมาแล้วคลานออกไปส่องดูเวลานอกเต็นท์ ตี 4 แล้ว
ผม ยังอยากจะนอนต่อ แต่ก็กลัวจะนอนเพลินจนแต่งตัวไม่ทัน ก็เลยคว้าแปรงสีฟันและยาสีฟันลุกออกจากเต็นท์เดินไปที่โรงอาบน้ำด้วยความรวด เร็ว
ที่โรงอาบน้ำมีคนยืนอยู่พอสมควร ทุกคนยังอยู่ในชุดครึ่งท่อน ต่างก็กำลังแปรงฟันและล้างหน้ากันอย่างขะมักเขม้น ผมก็รีบล้างหน้าแปรงฟันเหมือนกัน ไอ้เด่นซึ่งแปรงฟันเสร็จแล้วและกำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่หันมาเห็นผมเข้าก็ ร้องทัก
" ไง ไอ้หนุ่มหัวเกรียน แปรงฟันเสร็จแล้วเหรอวะมึงน่ะ วันนี้ต้องไปลุยป่ากันแล้วนะเว้ย พร้อมยัง ๆ "
ท่าทางและน้ำเสียงขึงขังของไอ้เด่น ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
" พร้อมแล้วว่ะ เออ มึงมานี่หน่อยสิ กูอยากจะถามอะไรซักหน่อย "
ไอ้เด่นเดินเข้ามาหาผม ผมกอดคอมันแล้วหันหลังให้กับคนอื่นๆ ก่อนจะกระซิบถามมันเบาๆ ว่า
" ถามจริงๆ เหอะ เรื่องเมื่อวานน่ะ มึงรู้ได้ไงว่ากูเป็น "
ไอ้เด่นยิ้มแก้มแทบปริ แล้วตอบช้าๆ
" โด่ ! นึกว่าจะถามอะไร กูมองตามึง กูก็รู้แล้วว่ามึงเป็น กูรู้ตั้งแต่วันแรกที่กูคุยกับมึงแล้ว สายตามึงปิดกูไม่ได้หรอกเพื่อน มันฟ้องออกมาว่า มึงน่ะ ชอบแบบเดียวกับกู "
" สุดยอดเลยมึง มึงดูกูออกได้ไงวะ กูล่ะเชื่อมึงเลย "
" ก็เรามันพวกเดียวกัน ทำไมจะดูไม่ออกวะ "
ผมยิ้มเมื่อได้ยินมันพูดแบบนี้ แล้วจึงหันหลังกลับ ก่อนจะตบไหล่ไอ้เด่นเบาๆ แล้วกระซิบที่ข้างหูมันช้าๆ แต่นุ่มนวล
" ไปแต่งตัวกันเหอะ เดี๋ยวก็ได้เวลาไปแล้ว "
" โอเค "
ไอ้เด่นตอบ แล้วทั้งผมกับไอ้เด่นก็แยกย้ายกันกลับไปแต่งตัวที่เต็นท์
................................
ปรี๊ดดดดดดดดด
เสียง นกหวีดเรียกรวมดังขึ้นในเวลาไม่นานนัก ทุกคนรีบวิ่งมายังลานรวมพลทันที หัวหน้าชุดฝึกให้ทุกคนไปรับปืนมาคนละ 1 กระบอก แล้วเริ่มออกเดินจากเต็นท์เข้าไปในป่าทั้งๆ ที่ยังมืดมาก ผมเดินไปด้วยความยากลำบากมากเพราะมันมืดจริงๆ มองทางก็ไม่ค่อยจะเห็น ทางที่เดินไปก็ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ต้นไม้ก็ขึ้นเยอะ บางช่วงต้องข้ามสะพานด้วย เสียวตกจริงๆ โชคดีที่ครูฝึกประจำหมวดเอาไฟฉายส่องที่พื้นไปตลอดทางเลยพอเห็นทางบ้าง เดินไปนานๆ ชักเมื่อยขา แต่ผมก็กัดฟันเดินต่อไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าไกลมาก เดินไปเดินมากลับหลงกับหมวดของตนเอง ทำไงดีเนี่ย ก็เลยเดินมั่วๆ ตามหมวดไหนไปก็ไม่รู้จนกระทั่งถึงที่หมาย พอถึงที่หมายก็พยายามหาหมวดของตนเองเข้า กว่าจะเข้าหมวดถูกก็แทบแย่ ครูฝึกให้เราวางสัมภาระไว้ที่ลาน แล้วให้ไปรับข้าวที่ " ตำบลจ่ายอาหาร " คราวนี้พวกเราทุกคนต้องแดกข้าวหลวงเพราะไม่มีร้านค้าอยู่แถวนี้แล้ว ก็เลยรับข้าวที่ใส่จานหลุมๆ มาให้เสร็จ เอามานั่งแดกกับเพื่อนๆ ตรงพื้นเลอะๆ ตรงนั้นเอง อาหารก็ไม่น่าแดกเลยซักนิด เป็นน้ำพริกเละๆ และข้าวแข็งๆ ผมกระเดือกแทบไม่ลง แต่ก็ฝืนยัดๆ เข้าปากไปเพื่อให้มีแรงฝึก แถมครูฝึกที่ตักข้าวให้ผมก็ตักให้ผมซะเยอะจนแดกไม่หมด แต่ผมก็พยายามยัดแต่ข้าวเปล่าๆ เข้าปากให้มากที่สุดเพื่อจะได้มีแรง แดกเสร็จแล้วก็ต้องล้างถาดเอง โดยเอาถาดไปจุ่มในน้ำ 1 และจุ่มน้ำ 2 ต่อ แล้วก็เอาไปล้างในกะละมังใส่ผงซักฟอก สุดท้ายก็เอาถาดที่ล้างแล้วไปจุ่มในน้ำร้อน ก่อนจะเอาไปวางไว้ตรงที่ใส่ถาด เสร็จแล้วก็เดินไปเติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม และนั่งรอเวลาทำการฝึกในภาคเช้า
เช้า นี้เราต้องทำการฝึก 3 สถานี แต่ละสถานีก็โหดๆ ทั้งนั้น เริ่มจากสถานีแรกคือ " บุคคลทำการรบในเวลากลางวัน " ซึ่งสถานีนี้จะแบ่งออกเป็น 3 สถานีย่อย คือ การจัดรูปขบวนรบ การพราง และการระวังข้าศึก ผมเข้าฝึกในสถานีการจัดรูปขบวนรบก่อน การจัดรูปขบวนรบเป็นการจัดการวางกำลังในสนามรบ แต่ละหมู่มีกำลัง 11 นาย ประกอบด้วย
- ผู้บังคับหมู่
- หัวหน้าชุดยิง ก
- หัวหน้าชุดยิง ข
- พลยิงปืนเล็ก
- พลยิงกระสุน 1
- พลยิงกระสุน 2
- พลยิงเครื่องยิงจรวด
- พลยิงเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. เอ็ม 203
- พลยิงปืนเล็กอัติโนมัติ (ปล./ อ)
- พลนำสาร 1
- พลนำสาร 2
เป็น การจัดกำลังพลที่แปลกๆ ไปหน่อย แตกต่างจากที่ผมเคยเรียนมา แต่ก็ช่างมันเถอะ แต่วันนี้เป็นแค่การซ้อมทำการรบ (จะรบจริงวันพรุ่งนี้!) ครูฝึกก็เลยยังไม่ได้กำหนดตำแหน่งให้เรา เพียงแต่พูดให้ฟังเฉยๆ หลังจากนั้นก็ต้องฝึกการเคลื่อนที่ในสนามรบ ครูฝึกตะโกนเสียงดังว่า
" ต่อไปเป็นการฝึกเดิน วิ่ง โผ หมอบ คลานสูง คลานต่ำ และลอดลวดหนาม ทุกคนต้องฝึกกับคู่ฝึกของตนเอง เรียกว่า " เงา " ไปไหนต้องไปด้วยกันตลอด จะทำอะไรต้องทำเหมือนๆ กันทุกอย่าง เริ่มจากจุดนี้ ไปสิ้นสุดที่ชายป่าด้านโน้น ทั้งหมด ลุก! "
ทุกคนลุกขึ้นยืนทันที ครูฝึกให้ทุกคนดึงแขนเสื้อที่พับขึ้นไว้เอาลงมาปิดแขนและข้อศอกให้หมดเพื่อ ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บตอนฝึก ตอนนี้เลยดูเหมือนทุกคนใส่เสื้อแขนยาวอยู่ แล้วครูฝึกก็เป่านกหวีดให้สัญญาณ แล้วตะโกนว่า
" ไปได้ ! "
ผมวิ่ง เข้าไปประกบคู่กับคู่ฝึกของผมทันที คู่ฝึกของผมเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆ ชาวบ้านๆ ออกแนวกร้านๆ ผิวดำๆ แต่ก็ไม่มีเวลามองหน้ากันนานเพราะต้องรีบฝึก ตอนแรกครูฝึกให้พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆก่อน แล้วจู่ๆ ครูฝึกก็ตะโกนว่า
" หมอบ ! "
ผมกับคู่ฝึกรีบล้มตัวลงนอนหมอบทันที แล้วครูฝึกก็สั่งต่อ
" คลานสูงไปจนถึงรั้วลวดหนามข้างหน้า เร็วๆ เลยมึง เร็วๆๆๆๆ !!!! "
ผม รีบคลานสูงโดยใช้ข้อศอกคลาน โดยขยับศอกซ้ายสลับกับศอกขวาคลานไปเรื่อยๆ เป้ากางเกงและร่างกายท่อนล่างแนบไปกับพื้นสากๆ ทำให้ผมรู้สึกทรมานยิ่งนัก ผมคลานสูงไปอย่างรวดเร็วจนถึงลวดหนาม เป็นลวดหนามจริงๆ เลยนะครับ มีแค่เส้นเดียว แต่ลวดหนามคมกริบจนผมขนลุก แล้วก็ขึงไว้สูงจากพื้นดินแค่นิดเดียวเท่านั้น พอทุกคนคลานมาหยุดอยู่ตรงหน้าลวดหนามแล้ว ก็ได้ยินครูฝึกสั่งต่อ
" นอนหงายลอดไป แล้วลุกขึ้นโผไปที่กอไม้ข้างหน้าของแต่ละคน เร็ว! "
ผม พลิกตัวเป็นนอนหงาย แล้วลอดผ่านลวดหนามไปอย่างทุลักทุเล (เสียวโดนควย) เสร็จแล้วก็รีบโผไปที่กอไม้ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังช้ากว่าคู่ฝึกของผม เขาโผมาถึงก่อนหน้าผมอีก พอผมมาถึงเขาก็พูดว่า
" อย่าช้าดิวะ เร็วๆ หน่อย กูอยากไปให้ถึงที่หมายจะแย่อยู่แล้ว กูเหนื่อย "
" เออ "
ผมตอบไปแค่นั้น ตอนนี้สภาพภูมิประเทศโล่งกว้างกว่าเดิม ไม่เหมาะกับการคลานสูงอีกต่อไปแล้ว
" คลานต่ำไปจนถึงลวดหนามเส้นต่อไป เร็วๆๆๆ อย่าช้า ไอ้ห่าเอ๊ย "
เสียง ครูฝึกสั่งต่อ ผมรีบนอนคว่ำแล้วลงคลานต่ำทันที คลานต่ำจะแตกต่างกับคลานสูงตรงที่ใช้ข้อศอกคลานไม่ได้ แต่จะต้องนอนคลานโดยทำตัวให้แนบกับพื้นดินมากที่สุด แล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยใช้แขนทั้ง 2 ข้าง ประกอบกับใช้ขาขวายันเพื่อให้ร่างกายเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เป็นการคลานที่ยากและเคลื่อนที่ไปได้ช้ากว่าคลานสูง ผมค่อยๆ คลานต่ำไปอย่างทุลักทุเลมากกว่าตอนคลานสูง จนถึงลวดหนามแล้วจึงพลิกตัวลอดไปได้อีกครั้ง
" เสร็จแล้วโผไปตามจุดที่ปักไม้เอาไว้ เร็ว ! "
ผม รีบโผไปยังพุ่มไม้ที่เขาปักไม้อาไว้ทันที การโผคือการวิ่งเป็นระยะทางสั้นๆ แบบเร็วๆ ไปตามจุดโน้นจุดนี้ พอวิ่งไปถึงพุ่มไม้นั้นก็รีบล้มตัวนอนราบไม่ให้ครูฝึกเห็นตัว ผมโผไปโผมาจนปวดไปหมดทั้งตัว แต่ก็ต้องอดทน พอพ้นจากเขตโผไปแล้วคราวนี้เจอรวมมิตรเลย เพราะครูฝึกออกคำสั่งให้พวกเราทำทุกอย่าง ทั้งวิ่ง หมอบ คลาน โผ คลานสูง คลานต่ำ ไปเรื่อยๆ ไม่มีการหยุดเลย สลับกับลอดลวดหนามที่มีอยู่ตลอดทาง
" คลานสูงสิวะ เร็วๆ สิไอ้ตี๋ มึงคลานหรือมึงกระเด้าพื้นอยู่วะเนี่ย ! "
" ลงคลานต่ำ เร็วๆ เอ้า หมอบ กูบอกให้หมอบยังจะคลานอยู่อีก มึงนี่ ! "
" โผมาที่จุดนี้ แล้วลอดลวดหนามไปเลยมึง อย่าช้า ! "
" คลานน่ะแหกขากว้างๆ ไปเลย นั่นอย่างนั้น ดีมากมึง เอ้าๆ เร็วๆ เข้าหน่อย เว้ย ! "
" หมอบสัดหมอบ หมอบลงไปก่อน ทำทีว่ากำลังหลบลูกระเบิดน่ะมึง แล้วเดี๋ยวค่อยคลานต่อ "
เสียง ครูฝึกที่วิ่งอยู่ข้างๆ สั่งผ่านโทรโข่งไม่ยอมหยุด ผมทั้งวิ่ง ทั้งโผ ทั้งคลานจนเจ็บระบมไปทั้งตัว ครูฝึกสั่งอะไรก็ต้องทำทุกอย่าง
" รอกูด้วยสิวะ "
ผมพูดกับคู่ฝึกของผมพลางหอบแฮ่กๆ ขณะที่วิ่งไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมวิ่งช้ากว่าเขา และกำลังวิ่งไล่หลังเขาอยู่
" มึงก็เร็วๆ ดิวะ "
คู่ฝึกของผมพูดแล้วก็ฉุดข้อมือผมให้วิ่งไปพร้อมๆ กับเขา ก็พอดีครูฝึกสั่งให้หมอบ เรา 2 คนรีบหมอบลงไปทันที เขามองหน้าผมแล้วพูดว่า
" เอางี้ มึงช้าแบบนี้ มึงวิ่งหน้ากูเลยดีกว่า "
พอ ดีครูฝึกสั่งให้วิ่งต่อ เขาก็เลยยืนขึ้นแล้วผลักผมให้วิ่งไปข้างหน้า แล้วเขาวิ่งประกบอยู่ข้างหลัง เวลาที่ผมวิ่งช้าลงเขาก็จะคอยดุนหลังผมไว้ไม่ให้ความเร็วตก ทำให้ผมวิ่งได้เร็วขึ้นๆ เพราะมีเขาคอยช่วยจี้หลังผมไว้ให้ ถ้าผมวิ่งเซ (เพราะเหนื่อย) เขาก็คอยดึงแขนผมไว้ไม่ให้ผมเซ ผมก็ช่วยเขาเหมือนกันเวลาที่เขาคลานช้าโดยการเอาแขนช่วยดันแผ่นหลังแข็งๆ ของเขาให้ตัวของเขาเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น เป็นอันว่าเรา 2 คนต่างคนต่างช่วยกันฝึกไปด้วยกัน ร่วมกันฝึกเคียงบ่าเคียงไหลกันตามวิถีแห่งคนกล้า
นี่แหละ น้ำใจของลูกผู้ชาย จะแสดงออกมาในยามคับขันแบบนี้เสมอ
ก่อน จะถึงที่หมายครูฝึกสั่งให้ทุกคนต้องวิ่งเป็นระยะทางไกลมากแบบเร็วๆ ไม่ได้หยุดพัก ( ประมาณว่ากำลังหนีข้าศึก) ผมวิ่งจนขาลาก เหนื่อยสุดขีด แต่ในที่สุดก็ถึงที่หมาย ระยะทางไม่ถึงกับไกลมาก แต่พอทุกคนไปถึงก็หมดแรงกันไปตามๆ กัน พอถึงที่หมายแล้ว ครูฝึกก็ให้นั่งพัก คู่ฝึกของผมถึงกับนอนแผ่หราลงไปเลยเพราะเหนื่อยมาก เขานอนกางแข้งกางขาอ้าซ่าแล้วหลับตา ผมรีบกระเถิบลงไปดูรอยต่อตรงเป้ากางเกงของเขาทันที เขาใส่กางเกงแบบพอดีตัวค่อนข้างฟิต ทำให้ผมเห็นเป้ากางเกงส่วนล่างของเขาอย่างชัดเจน มันตุงออกมามากผิดปกติ แสดงว่าไข่ของเขาต้องพวงใหญ่มากแน่ๆ มันถึงได้ตุงพองออกมาได้อย่างนี้ ผมมองแล้วก็กลืนน้ำลายดังเอื๊อก! ชอบแบบนี้จัง แขนขาของเขายาวเก้งก้าง ผมมองแล้วก็ยิ้มๆ ตอนแรกผมเองก็นั่งพักเฉยๆ ทำท่าว่าจะไม่หายเหนื่อยก็เลยนอนแผ่กับเขาบ้าง ยอมเลอะใบไม้ (เพราะตอนนี้ก็เลอะจะแย่อยู่แล้ว) เอาหมวกมาเป็นหมอน มีคนนอนแผ่ตามผมและคู่ฝึกกันหลายคน เรานอนแผ่ไข่กันอยู่แป๊ปนึง ครูฝึกก็เรียกให้พวกที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่ง ห้ามนอน พอลุกขึ้นมาครั้งนี้ผมรู้สึกสบายขึ้นมาก คราวหลังถ้าเหนื่อยมากๆ ผมจะนอนแผ่แบบนี้อีก ผมหันไปพูดกับคู่ฝึกที่กำลังหาวหวอดๆ อยู่ว่า
" ขอบใจมากนะมึง ที่ช่วยกูตอนกูอยู่ในสนามรบ "
คู่ฝึกของผมยิ้มแบบกวนตีน ก่อนจะตอบด้วยท่าทางที่กวนตีนไม่แพ้กัน
" เออ ไอ้สัตว์ ไม่เป็นไร มึงก็ช่วยกูไม่น้อยเหมือนกัน `คุณ`ตี๋ "
ผม หัวเราะแล้วเอามือลูบแผ่นหลังของเขาเบาๆ อย่างหลงใหล กลิ่นตัวแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ คนนี้ชายแท้แน่ๆ ผมคิดในใจ เขาก็ไม่ว่าอะไร ยอมให้ผมลูบหลังไปเรื่อยๆ ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งพักกันอย่างสบายใจ รอเวลาให้ครูฝึกเรียกไปฝึกต่อยังสถานีที่ 2
...................................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 17
นั่งพักกันพอหายเหนื่อย ผมและเพื่อนๆ ก็แบกปืนเดินไปที่สถานีที่ 2 การพราง ที่ตั้งของสถานีนี้อยู่ในป่าลึก สถานีนี้ไม่เหนื่อย ทุกคนนั่งฟังครูฝึกอธิบายวิธีการพรางหน้าพอเข้าใจ แล้วครูฝึกก็ให้พรางหน้า โดยใช้สีฝุ่นสีดำทาให้ทั่วหน้าจนดำพรืดไปหมด สีฝุ่นที่ใช้กันมี 3 สี คือ แดง ดำ และเหลือง ครูฝึกกำหนดให้แต่ละหมวดพรางหน้าด้วยสีที่แตกต่างกัน หมวดของผมใช้สีดำ ซึ่งผมไม่ชอบเลยเพราะมันสกปรกที่สุด ถ้าเป็นสีเหลืองยังจะพอสะอาดกว่า แต่ผมจะทำไงได้ ก็เลยจำใจเอามือกอบสีฝุ่นสีดำขึ้นมาจากอ่างจนเต็มกำมือแล้วโปะไปจนทั่วหน้า เน้นตรงโหนกแก้มและคาง ไอ้อ๊อตและไอ้เทพรวมทั้งเพื่อนๆ ทุกคนในหมวดก็ทำแบบเดียวกับผม ในไม่ช้าหน้าของทุกคนก็ดำปี๋ ครูฝึกยังสั่งอีกว่า ห้ามล้างออกจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ ! แย่จริงๆ เลย พอทุกคนพรางเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็ให้ทุกคนฝึกการซุ่มดูข้าศึกตามสุมทุมพุ่มไม้อีกซักพักใหญ่ แล้วจึงค่อยเดินไปสถานีที่ 3
สถานีที่ 3 เป็นสถานีการระวังข้าศึก ทุกคนต้องไปซุ่มดูข้าศึกที่กำลังจะมุ่งหน้ามาทางเรา เราฝึกกันเป็นคู่ คราวนี้ไอ้แมนเป็นคู่ฝึกของผม ครูฝึกให้ผมกับไอ้แมนเดินไปนั่งซุ่มเงียบๆ อยู่ที่พุ่มไม้ แล้วคอยสังเกตุข้าศึก เรา 2 คนต้องบันทึกรายละเอียดของข้าศึกที่กำลังจะเข้าโจมตีเราให้ได้มากที่สุด ทั้งลักษณะของข้าศึก เวลาที่ข้าศึกมา สถานที่ที่ข้าศึกอยู่ อาวุธที่ข้าศึกถือ ฯลฯ ผมกับไอ้แมนนั่งซุ่มดูอยู่เงียบๆ พักหนึ่ง เห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาหลายคน แต่เห็นไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ไกลมาก แต่พอจะรู้ว่า ข้าศึกเป็นนักศึกษาวิชาทหารด้วยกันนี่แหละ แต่ละคนถือปืนแบบเดียวกับที่ผมและเพื่อนๆ ถือ ผมพยายามเพ่งมองและพูดลักษณะของข้าศึกให้ไอ้แมนฟัง ไอ้แมนเป็นคนจดบันทึกในสิ่งที่ผมพูด
" มองไม่ค่อยเห็นเลยว่ะ สัด อยู่ไกลชิบหาย แต่รู้ว่าเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ ดำๆ หัวเกรียน เดินแบกปืนไปมา แล้วก็อีกคนเป็นผู้ชายผอม สูง แขนยาว อืมมมม เฮ้อ เดินไปเดินมาแบบนี้เวียนหัวว่ะ แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร แม่งตัวดำๆ เหมือนกันหมดเลย "
ไอ้แมนพยายามจดตามที่ผมพูด พอจดเสร็จมันก็เงยหน้าขึ้นจากกระดาษถามผมว่า
" แล้วพวกมันหล่อมั๊ยวะ เป้ามันตุงมั๊ย นายมองเห็นรึปล่าว "
ผมหัวเราะ แล้วตอบว่า
" 555 ถาม-เอี้ย-ไรวะ เออ หล่อทุกคนว่ะ ข้าศึกทุกคนคิ้วเข้ม หัวเกรียน หุ่นดี เป้างี้ตุงออกมาเป็นก้อนเลย เราชอบว่ะ อยากดูดควยแม่งทุกตัวเลย เฮ้ย ตรงนี้นายอย่าจดลงไปนะ "
ไอ้แมนยิ้มและเขยิบมานั่งจนชิดผม วางกระดาษกับปากกาลงกับพื้น แล้วเอามือโอบไหล่ผมแข็งๆ ของผมไว้ แล้วบีบเบาๆ ปากก็พูดช้าๆ
" แล้วเราล่ะหนุ่ม หล่อสู้พวกมันได้มั๊ย "
ผมสะดุ้ง กลัวคนอื่นเห็นว่าไอ้แมนกำลังโอบไหล่ผมอยู่ ก็เลยรีบแกะมือมันออกจากไหล่แล้วกระซิบเบาๆ
" เออ นายหล่อ แต่อย่าทำอย่างงี้ เดี๋ยวคนอื่นเห็นนะเว้ย จดต่อๆ "
ไอ้ แมนยอมหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมา ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครเห็นการกระทำของไอ้แมนเมื่อกี้ แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้งเพราะรู้สึกว่ามีมือสากๆ ล้วงจากทางด้านข้างมาคลำตรงเป้ากางเกงผมพอดิบพอดี เนื่องจากตอนนี้ผมกับไอ้แมนนั่งอยู่กับพื้นในท่า " นั่งกางขา " อันเป็นท่าที่ครูฝึกสั่งให้ทุกคนนั่ง คือนั่งแล้วยืดขาไปข้างหน้าแล้วจึงชันเข่าขึ้นและกางหว่างขาออกจนกว้างเพื่อ ให้ทรงตัวได้ดี ( แบบรูปตัว V กลับหัว ) ตรงหว่างขาจึงกางอ้าซ่า เมื่อทุกคนนั่งท่านี้ สิ่งที่อยู่ภายในเป้ากางเกงซึ่งก็คือท่อนเอ็นก็จะต้องโด่ขึ้นฟ้าและไข่ก็จะ ห้อยลงระพื้นตามธรรมชาติ เพราะว่าท่านั่งมันเปิดเผยแบบนี้ ไอ้แมนจึงล้วงมาจับของสงวนของผมได้อย่างง่ายดาย มันกำลังเอามือลูบไล้ไปมาตรงเป้ากางเกงผมพอดี คลำไปคลำมาจนเจอท่อนเอ็นทั้งท่อนตั้งเด่อยู่ในกางเกง มันรีบเอามือรูดท่อนเอ็นนั้นทันที จนผมต้องร้องครางเบาๆ
" ซี๊ดดดดดดด นายจับโดนท่อนควยเราจังๆ เลยเพื่อน โอยยย เสียวววววววว "
ผม เคลิ้มไปนิดนึง เพราะไอ้แมนรูดเป้าควยของผมเก่งมาก ยิ่งรูดก็ยิ่งเสียว ถึงบางทีจะรูดไม่ถูกนักเพราะเป็นการรูดผ่านเนื้อผ้า แต่ผมก็ตั้งสติได้ รีบดึงมือไอ้แมนออกทันที แล้วพูดเสียงเข้ม
" พอก่อนเว้ย เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น ไว้ค่อยเล่นกันใหม่ ตรงนี้ไม่เหมาะ "
ไอ้ แมนไม่พูดอะไร รีบหยิบกระดาษมาจดบันทึกต่อ ไม่นานครูฝึกก็ประกาศให้ปิดสถานการณ์ (จบการฝึกการระวังข้าศึก) แล้วทุกคนก็ออกเดินทางต่อไป
ผมและเพื่อนๆ เดินมาหยุดที่จุดต่อไปเพื่อพักเหนื่อย ครูฝึกประจำจุดให้พวกเรานั่งพัก อากาศร้อนมาก ครูฝึกประจำจุดนี้ใจดี หน้าตาท่าทางออกสาวนิดหน่อย เขาเล่าเรื่องตลกๆ ให้พวกเราฟัง สอนให้พวกเราดูฉี่ดูอึของคนให้เป็น โดยเขาพูดถึงความแตกต่างระหว่างฉี่ของผู้หญิงกับฉี่ของผู้ชาย และฉี่ของคนท้อง เขาสามารถแยกได้หมด ส่วนอึนั้นเขาก็ดูรู้อีกว่า อึกองนี้ผ่านมากี่วันแล้ว น่าแปลกมากที่เขารู้ได้ขนาดนั้น ผมและเพื่อนๆ นั่งฟังเขาเล่าเพลินๆ พอให้หายเครียด แล้วครูฝึกก็ให้พวกเราเดินกลับไปยังที่ตั้งกอง เพื่อกินข้าวหลวง ผมยังคงเหนื่อยอยู่ แต่ไม่เหนื่อยเท่าเมื่อเช้า สงสัยร่างกายคงจะปรับให้แกร่งขึ้นมาบ้างแล้ว ผมรู้สึกแข็งแรงขึ้นมาก ไม่ค่อยเหนื่อย ไม่ค่อยเพลียเหมือนวันแรกๆ ที่เริ่มฝึก
พอเรากินข้าว เสร็จ ครูฝึกก็ให้พวกเราใช้บริการของ " หน่วยบริการความสดชื่น " ซึ่งก็คือร้านขายน้ำ ร้านขายน้ำนี้ต้องถือว่าเป็นสวรรค์ของพวกเราจริงๆ เพราะมันทำให้พวกเราหายเหนื่อยและสดชื่นขึ้นมาก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุราวกับอยู่กลางทะเลทราย ผมซื้อน้ำมาดื่มขวดหนึ่ง รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก นั่งพักกันอีกแป๊ปนึง ครูฝึกก็เรียกรวม เพื่อทำการฝึกในภาคบ่าย
ช่วงบ่ายนี้เราต้องฝึกอีกสถานีหนึ่ง คล้ายๆ กับสถานีที่ 1 ต่างกันตรงที่สถานีนี้มีป้ายบอกหมายเลขให้ยืนตามตำแหน่ง และเคลื่อนพลทีละหมวดเป็นแถวหน้ากระดาน ไอ้เด่นอยู่หัวแถว ผมอยู่ท้ายแถว ทุกคนต้องโผ หมอบ คลานสูง คลานต่ำ วิ่ง และลอดลวดหนามอีกครั้งตามสัญญาณนกหวีด พื้นที่ที่ทำการฝึกเป็นที่โล่งแจ้งไม่เหมือนกับสถานีที่ 1 ที่เป็นป่าค่อนข้างทึบ พื้นก็เต็มไปด้วยหินทรายร้อนๆ สยองน่าดู แต่ก็ต้องฝึก
ปี๊ด !
ครูฝึกเป่านกหวีดสั้นๆ แล้วก็ตะโกนว่า
" คลานสูง ! "
ผม รีบนอนลงคลานสูงทันที รู้สึกได้ถึงทรายร้อนๆ ที่สัมผัสกับร่างกายท่อนล่าง มันร้อนสุดๆ เลย ผมกัดฟันคลานไปด้วยความยากลำบาก ไหนจะหนักปืนที่ถือมาตลอดตั้งแต่เช้า แม้แต่ตอนคลานก็ยังต้องถืออยู่ แล้วยังต้องดูเพื่อนๆ ที่คลานในระนาบเดียวกัน เพื่อให้คลานได้ระนาบพอดีกันไม่ล้ำหน้าอีก ลำบากจริงๆ
ครูฝึกเป่านกหวีดอีกครั้งหนึ่งแล้วสั่งต่อ
" ลุก ! วิ่ง ! "
ผมลุกขึ้นแล้ววิ่งด้วยความรวดเร็ว
" หมอบบบบบบบบบบบ ! "
ตอน นี้ไม่ว่าทุกคนจะวิ่งไปถึงตรงไหน ต่างก็รีบล้มตัวลงหมอบทันที แล้วครูฝึกก็สั่งให้ลุก วิ่ง แล้วก็ให้หมอบ คลานต่ำไปเรื่อยๆ และก็ลุกขึ้นวิ่งอีก ก่อนจะคลานสูงบ้าง ฯลฯ เป็นอย่างนี้ไปตลอดทาง ผมเหนื่อยแทบจะขาดใจ มือก็ถูกหินครูดเป็นแผลเลือดไหลหลายครั้งแล้ว เจ็บแต่ก็ต้องทน แถมอาการปวดขาเนื่องจากอุบัติเหตุในวันที่สองก็ยังไม่หายดีอีกด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานเหลือเกิน
" เหยาะแหยะชิบหายเลยเว้ย อะไรวะ จะหมอบจะคลานชักช้าอืดอาดจริงๆ คลานให้มันกว่านี้สิโว้ย เร็วๆ ๆๆๆ !! ไอ้แว่นมึงก็คลานเร็วๆ สิวะ ห่าเอ๊ย "
ครูฝึกเร่งผมใหญ่ ผมกัดฟันพยายามคลานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เหงื่อไหลย้อยลงมาจากหน้าผากลงมาเข้าตา 2 ข้างของผมไม่ยอมหยุด แสบตา-เอี้ย-ๆ แต่ก็ไม่มีเวลาแม้จะเอามือเช็ด หลังของผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหนื่อยสุดยอดจริงๆ ผมหันไปมองดูเพื่อนคนอื่นๆ ทั้งไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้เด่น ไอ้แมน และไอ้ไก่ ทุกคนกำลังตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ แม้ว่าทุกคนจะมีสีหน้าที่ไม่สู้จะดีนักก็ตาม คลานไปเรื่อยๆ จนถึงลวดหนามเส้นยาวเหยียด ปราการด่านสุดท้ายของการฝึก ผมรีบพลิกตัวนอนหงายเอาปืนวางไว้ที่ร่องหว่างขาแล้วลอดข้ามไปด้วยความคล่อง แคล่ว ทุกคนลอดได้อย่างพร้อมเพรียงกันจริงๆ ครูฝึกมองอย่างพอใจแล้วตะโกนว่า
" ถึงที่หมายแล้ว พักได้ ! "
ผม รีบลุกขึ้นยืนทันที ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพรีบเดินเข้ามาหา ผมคุยกับมันสองสามคำแล้วก็ชวนกันไปใช้บริการของ หน่วยบริการความสดชื่น กันอีกครั้ง เรา 3 คนซื้อน้ำมานั่งดื่มกันเงียบๆ ซักพักไอ้เด่น ไอ้ไก่ และไอ้แมนก็มานั่งคุยด้วย อากาศร้อนอบอ้าวมาก เราทุกคนรู้สึกเหนื่อยแบบสุดๆ หลังจากคุยกันไม่กี่คำแล้วก็พากันนั่งเงียบ เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น ครูฝึกเดินเข้ามาตรงที่ๆ เรานั่ง แล้วพูดว่า
" ไง หมดสภาพกันแล้วเหรอพวกมึง นั่งแผ่ไข่หราเชียว วันนี้แค่ซ้อมเข้าตีนะ ยังแค่เบาะๆ พรุ่งนี้แหละของจริง พวกมึงต้องเข้าตีจริงๆ ระยะทางไกลกว่านี้มากเลย กูบอกไว้ก่อน แล้วพวกมึงจะเห็นว่า ที่ฝึกไปวันนี้ ขี้ๆ มากเลยว่ะ "
ครูฝึกพูดจบก็ตบ ไหล่ผมเบาๆ เพราะผมนั่งอยู่ใกล้จุดที่เขายืนพูดที่สุด ก่อนจะเดินไปพูดแบบนี้กับกลุ่มอื่นต่อ ผมมองหน้าเพื่อนๆ ไม่มีใครพูดอะไรกัน ได้แต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อได้รู้ว่า พรุ่งนี้ต้องเหนื่อยกว่าวันนี้อีกหลายเท่า ตอนนี้พวกเราทุกคนเกือบจะหมดสภาพแล้วเพราะเหนื่อยมากจริงๆ เงียบไปพักหนึ่ง ผมก็เริ่มพูดกับไอ้อ๊อตว่า
" แม่ง พรุ่งนี้ตายแน่ๆ เลยสัด แค่วันนี้ก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว "
ไอ้อ๊อตมองหน้าผม แล้วพูดคำคมออกมาว่า
" ถ้ามึงตาย กูก็จะตายด้วย อย่างน้อย ตายในสนามรบก็ยังดีกว่าตายที่อื่นละวะ "
" กูเห็นด้วยกับไอ้อ๊อตว่ะ กูก็ยินดีตายเคียงข้างพวกมึง เพราะพวกมึงคือเพื่อนของกู "
ไอ้ เด่นพูด แล้วโอบไอ้ไก่ช้าๆ ไอ้ไก่รีบซบลงไปที่ร่องอกล่ำๆ ไอ้เด่นทันที ผมมองหน้าไอ้แมน เห็นมันยิ้มให้ผม ผมก็เลยยิ้มตอบ ไม่พูดอะไรต่อเพราะพูดไม่ไหว มันเหนื่อยจริงๆ พวกเราก็เลยนั่งเงียบๆ ไปจนหมดเวลาพัก
......................
พอหมดเวลาพัก ครูฝึกก็เรียกรวมแล้วก็พาพวกเราเดินเข้าป่าไปยังสถานีต่อไป นั่นคือ สถานีการดำรงชีพในป่า (SURVIVAL) มีครูฝึกพิเศษมาบรรยาย เขาพูดสนุกดี สอนให้พวกเราดูผลไม้ สัตว์ และพืชที่เป็นพิษให้เป็น และสอนวิธีการใช้ชีวิตในป่า แถมยังสาธิตการจับงูชนิดต่างๆ ให้ดูอีกด้วย เขาจับงูเก่งมาก ทุกคนฟังด้วยความตื่นเต้นเร้าใจอยู่ตลอดเวลา บางทีเขาก็แกล้งทำเป็นจะโยนงูมาทางคนฟัง เล่นเอาพวกที่นั่งข้างหน้าอย่างไอ้เด่นและไอ้เทพวิ่งกันกระเจิงเลย ทำแบบนี้หลายครั้งอีกต่างหาก ขำมากๆ ทุกคนสนุกสนานเฮฮากันมาก ค่อยคลายความเหนื่อยจากการฝึกรบลงได้บ้าง ก็ดีเหมือนกัน
พอการบรรยายอัน แสนสนุกจบลง ก็บ่ายแก่มากแล้ว ครูฝึกให้พวกเราทำอาหารแดกกันเอง เป็นการฝึกการทำอาหารแบบชาวป่า แต่ละหมู่ต้องทำอาหารแดกกันเองภายในหมู่ ครูฝึกให้หมูป่าและผักสดๆ มาหมู่ละ 1 กระป๋อง เอาไปทำกับข้าวกันเอง ผมกับไอ้แมนอาสาไปหาฟืน ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพไปหาน้ำ ส่วนไอ้เด่น ไอ้ไก่ และคนอื่นๆ ที่เหลือก็รับหน้าที่เป็นพ่อครัว ผมเดินกอดคอกับไอ้แมนไปหักไม้ฟืนที่กองสุมๆ กันอยู่แถวๆ นั้นมาเป็นจำนวนมาก เอามาทำเป็นฟืน ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเอากระป๋องไปรองน้ำจากแท็งค์น้ำ แล้วรีบกลับมาช่วยกันหุงข้าวโดยให้หม้อสนาม มีการดงข้าวด้วย ไอ้เด่นกับไอ้ไก่ช่วยกันหั่นหมูป่าเพื่อทำแกงหมูป่า คนอื่นๆ ก็ช่วยกันทำกับข้าวอย่างสุดฝีมือ ผมเองไมได้ช่วยทำกับข้าวเลยเพราะว่าผมทำกับข้าวไม่เป็น แต่ก็พยายามช่วยหั่นหมูและดงข้าว รวมทั้งเติมเชื้อฟืนให้ลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา ไม่นานข้าวก็หุงสุก แกงก็ทำเสร็จ แล้วพวกเราก็มานั่งล้อมวงตักข้าวตักแกงแดกกันตรงนั้นเลย ข้าวอร่อยดีแต่แฉะเกินไปหน่อย แกงมี 2 หม้อ หม้อหนึ่งเป็นแกงหมูป่า ไม่ค่อยอร่อยเพราะเค็มมาก อีกหม้อหนึ่งแกงอะไรก็ไม่รู้ ใส่แต่ผักเยอะมากๆ ผมกินไม่มากเพราะกินไม่ค่อยลง รสชาติของอาหารก็พิกล และผมก็ไม่คุ้นกับการกินอาหารแบบนี้ด้วย แต่ผมก็พยายามทำเป็นว่าอร่อยมาก เนื่องจากไม่อยากให้เพื่อนเสียใจ เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำกันสุดฝีมือทุกคน และดูๆ ไปเขาก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อยทั้งนั้น ก็เลยต้องรักษาน้ำใจกันหน่อย
" อร่อยว่ะแม่ง มึงนี่ทำกับข้าวเก่งนี่หว่า ไอ้เด่น "
ไอ้อ๊อตพูด ขณะตักแกงเข้าปากอีก 1 ช้อน
ไอ้เด่นยิ้มกว้างก่อนจะตอบว่า
" ไม่ใช่ฝีมือกูคนเดียวหรอก ฝีมือพวกมึงทุกคนด้วยแหละ ก็พวกเราช่วยกันทำนี่หว่า ถ้ากูทำคนเดียวคงไม่ออกมาอร่อยแบบนี้หรอก "
เพื่อนๆ คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย แต่ไม่พูดอะไร เพราะปากกำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ อยู่
" อย่ามัวแต่คุยเลยว่ะ แดกสัด แดก แดกเยอะๆ เลย ตอนนี้เป็นเวลาแดกว่ะ แม่งหิวชิบหายเลย "
ไอ้ แมนพูด เพื่อนๆ ทุกคนจึงไม่มีใครพูดต่อ ก้มหน้าก้มตาแดกอย่างตะกละตะกราม ผมมองเพื่อนๆ อย่างมีความสุข ตอนนี้พวกเรารักกันมากขึ้น สามัคคีกันมากขึ้น เพราะเราใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นวันที่ 3 แล้ว เราแดกด้วยกัน นอนด้วยกัน และมีอะไรด้วยกันแล้ว (มีกับบางคน) ก็เลยทำให้พวกเราสนิทกันมากกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะผมกับไอ้เด่น และไอ้ไก่ เราสนิทกันมากขึ้นจริงๆ
พอแดกข้าวเสร็จครูพิชิตก็เอากล้วยบวช ชีมาให้ 1 กระป๋องซึ่งอันนี้พวกครูฝึกทำกันเอง รสชาติจึงอร่อยมาก พวกเราเลยแบ่งกันแดกจนอิ่มตื้อ พอทุกคนแดกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไอ้เด่น ไอ้ไก่ และเพื่อนคนอื่นๆ อาสาเอาหม้อและช้อนไปล้าง ส่วนผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพช่วยกันแบกปืนของทุกคนไปรออยู่ตรงที่รวมพล
.........................
ไม่ นานครูฝึกก็เรียกแถว ตอนนี้เย็นมากแล้ว จากจุดที่พวกเราทำอาหารกัน เราต้องเดินกลับไปที่ตั้งของเราเพื่อไปเอาเป้สนามที่วางทิ้งเอาไว้ทาวางไว้ ที่ลานนอน ใต้ต้นไม้ คืนนี้เราต้องนอนในป่าเรียงกันเป็นแถวยาวเหยียด แบบหัวชนหัว ครูฝึกเป็นคนจัดที่นอนให้ว่าใครนอนตรงไหน ข้างซ้ายของผมเป็นไอ้แมน ส่วนข้างขวาเป็นเพื่อนโรงเรียนอื่น ผมรีบวางสัมภาระ ปูผ้าปูรองนอนสีเขียว เพื่อนโรงเรียนอื่นดูหรูมาก ผ้าปูเป็นแบบพิเศษหนานุ่มผืนใหญ่มาก กินที่ผมอีก แต่ก็ดีตอนดึกๆ จะได้อาศัยนอนบนผ้าปูด้วย (ท่าทางจะนุ่มน่าดูเลยนะ) ส่วนไอ้แมนก็พันธุ์เดียวกับผม ไม่หรูแต่ติดดิน และก็แมนสมชื่อ ปูผ้าปูรองนอนสีเขียวแบบธรรมดาๆ เหมือนของผมเลย ทุกคนต่างวางเป้สนามไว้ตรงหัวนอน กะจะใช้เป้สนามต่างหมอนหนุนหัว ผมพยายามทำเป้ให้เรียบๆ จะได้นอนได้สบายหัวไม่กระเดิก
ปูผ้าเสร็จ แต่ยังไม่ทันจะจัดสัมภาระ ก็ได้ยินเสียงนกหวีดเรียกอีกแล้ว ผมต้องทิ้งสัมภาระไว้อย่างนั้นแล้วรีบคว้าปืนวิ่งไปเข้าแถวทันที เดี๋ยวนี้ปืนกลายเป็นอาวุธประจำตัวของผมและของทุกคนไปซะแล้ว ต้องแบกต้องถือติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะมันสำคัญสุดชีวิตจริงๆ ผมเริ่มรู้สึกรักปืนขึ้นมาแล้วสิครับ จากเดิมที่เกลียดเข้าไส้เพราะมันหนักโคตร!
" แถว ตรง หน้า เดิน ! "
ครู พิชิตสั่งเสียงดังปานฟ้าผ่า ผมและเพื่อนๆ หมวด 2 ทุกคนรีบเดินไปยังพื้นที่ฝึกอีกจุดหนึ่ง พอพวกเราทุกคนไปถึง ท้องฟ้าก็มืดซะแล้ว ผมเหลือบดูนาฬิกา ทุ่มครึ่งพอดี
.......................................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 18
คืนนี้เราต้องฝึก " บุคคลทำการรบในเวลากลางคืน " เริ่มด้วยการบรรยายของครูฝึกเรื่องการดูหมู่ดาวต่างๆ มีเวทีตั้งอยู่ข้างหน้า และจัดแสงสีให้เป็นรูปดาวประกอบด้วย สวยดี และยังมีการแสดงละครสั้นๆ ของครูฝึกเป็นตอนๆ ให้พวกเราดู เช่น การเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้เหยียบกับระเบิด การเดินขบวนแบบเงียบๆ ในเวลากลางคืน และการตัดเหล็กที่กีดขวางทางเดินเวลาเดินทางในป่า ครูฝึกทุกคนร่วมแสดงละครอย่างเต็มที่ รวมทั้งครูพิชิตสุดหล่อของผมด้วย เขาแสดงเป็นนายทหารซุ่มซ่ามที่เผลอเหยียบกับระเบิดเข้า แล้วก็มีเอฟเฟ๊กส์เสียงตูม ! ดังขึ้นมาเหมือนเหยียบกับระเบิดเข้าจริงๆ (ทุ่มทุนสร้างน่าดู) ครูพิชิตก็ร้อง โอ๊ยๆๆๆๆ เสียงดังลั่นเหมือนเจ็บจริงๆ ดูแล้วแมนมากๆ ครูฝึกคนอื่นๆ ก็แสดงได้ดีไม่แพ้กัน ผมประทับใจรแสดงในคืนนี้จริงๆ เพราะมีความสมจริงในระดับหนึ่ง พอละครจบลง ก็มีการฝึกฟังเสียงในป่าแล้วให้ทายว่า เสียงที่ฟังนั้นเป็นเสียงอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสียงของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ พวกเราก็ทายถูกซะเป็นส่วนใหญ่เพราะมันง่าย สนุกดี ไม่มีใครหลับเลย เสร็จแล้วก็เริ่มการฝึกเคลื่อนขบวนในเวลากลางคืน ทุกคนเข้าแถวเป็นแถวตอนห่างๆ พอให้คลานได้ ตอนกลางคืนนี้เราจะเคลื่อนขบวนเหมือนตอนกลางวันไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดเสียงดังและจะทำให้ข้าศึกรู้ตัว ไม่มีการโผ คลานสูง และคลานต่ำแบบที่ต้องใช้เสียงดัง จะต้องเงียบให้มากที่สุด ทุกคนทำได้แค่ค่อยๆหมอบช้าๆ แล้วก็คลานแบบเงียบๆ สุดชีวิต แล้วก็ค่อยๆ หยุด หมอบต่ออีกพักหนึ่งแล้วก็ค่อยๆ คลานต่อแบบช้าๆ ครูฝึกสั่งว่าห้ามทำเสียงดังเด็ดขาด พวกเราก็พยายามทำอย่างเงียบๆ ที่สุด คลานเสร็จแล้วก็หมอบเงียบๆ อีกครู่หนึ่งตามที่ครูฝึกสั่ง พร้อมกับเอาปืนขึ้นมาเล็งไปข้างหน้า ทำทีว่ากำลังจะยิงข้าศึก น่าแปลกที่ทุกคนตั้งใจฝึกมากราวกับกำลังรบอยู่จริงๆ ผมก็ตั้งใจฝึกไม่น้อยไปกว่าคนอื่นเลย คลานและหมอบอย่างช้าๆ ไปบนพื้นดิน แล้วจึงนอนหมอบอย่างเงียบกริบ ทุกคนไม่มีใครพูดคุยกันเลย การฝึกทำกันสั้นๆ ไม่นานมาก แล้วจึงปิดสถานการณ์ ฝึกกันแค่นั้น ไม่มีการเคลื่อนพลไปไกลๆ เหมือนรบในเวลากลางวัน ผมรู้สึกว่า ฝึกรบในเวลากลางคืนนี้ สบายกว่าฝึกรบในเวลากลางวันเยอะเลย ไม่ต้องวิ่งต้องคลานระยะทางไกลๆ ให้เหนื่อย แค่คลานในระยะใกล้ๆ แล้วก็หมอบเงียบๆ เท่านั้นเอง
พอปิดสถานการณ์แล้ว ครูฝึกก็เรียกรวมพลเหมือนเดิม แล้วให้เดินกลับลานนอน
พอ เดินถึงลานนอน ก็มีการสวดมนต์ จัดเวรยาม แล้วก็เข้านอน เหล่าครูฝึกก็นอนอยู่แถวนั้นด้วย ผมวางปืนวางหมวกไว้ข้างลำตัวแล้วจึงล้มตัวลงนอน ไม่ได้ถอดรองเท้า นอนทั้งชุดฝึกนั่นเลย อากาศร้อนอบอ้าวมากๆ ผมคิดว่าจะหาอะไรมาห่มดีหรือเปล่า เพราะกลางดึกอาจจะหนาวก็ได้ เหลือบไปมองไอ้แมนที่นอนอยู่ข้างๆ ก็เห็นมันนอนไม่ห่มอะไรเลย แล้วก็หลับไปแล้ว ผมก็เลยหยิบหมวกขึ้นมากอด ไม่ห่มอะไรเลยเหมือนกัน ผมรู้สึกเหนื่อยมาก วันนี้ฝึกหนักจริงๆ ทั้งล้าทั้งเพลียเกือบจะกระอักเลือดตายเอาให้ได้ สุดยอดแห่งความทรมานเลย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องเจออะไรอีกบ้าง เสียงคุยของเพื่อนๆ เริ่มจะเบาลงๆ แสดงว่าคงจะทยอยหลับกันแล้ว ผมหลับตาลง ทั่วทั้งลานนอนเงียบสนิท ไม่นานผมก็เคลิ้มหลับไป
...................................
1 ชั่วโมงผ่านไป
" กูไม่ไหวแล้วว่ะ-เอี้ย- ดูสิพวกแม่งหลับกันเกือบหมดแล้ว แล้วทำไมพวกเราจะต้องมายืนยามห่า-เอี้ย-อะไรวะเนี่ย ดูสิ ครูฝึกแม่งก็หลับกันหมดแล้ว กูว่า พวกเราก็นอนมั่งดีกว่าว่ะ ครูฝึกแม่งไม่รู้หรอกว่ายามน่ะนอนหรือตื่น "
ยามกะดึกบ่นกับเพื่อนเบาๆ ขณะเดินตรวจไปรอบๆ ลานอน เพื่อนของมันพยักหน้าเห็นด้วย
" เออว่ะ ฮ้าววววววว (เสียงหาว) กูง่วงจนทนไม่ไหวแล้ว ยามเยิมอะไรกูไม่เป็นแล้ว นอนกันดีกว่า ไปมึง นอนสัดนอน ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว "
ทั้ง 2 คนเดินกลับไปยังที่นอนของตน แล้วล้มตัวลงนอนทันที ไม่ช้าทั้งคู่ก็หลับสนิท เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ถึงจะหมดกะของพวกมัน 2 คนแล้ว ยามกะต่อไปก็ไม่มาอยู่ยามต่อ เพราะต่างก็หลับไปหมดทุกคนเพราะความเหนื่อยล้า เป็นอันว่าคืนนี้ ไม่มียามเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนพากันหลับหมด
...............................
เที่ยงคืน
ไอ้ แมนพลิกตัวมานอนกอดผมไว้แน่น แล้วหอมแก้มผมเบาๆ 1 ที ผมรู้สึกตัวนิดนึงแต่ยังหลับตาอยู่ ไอ้แมนหอมแก้มผมช้าๆ แล้วประกบปากผมเบาๆ อย่างดูดดื่มๆ และพยายามเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากผม แต่ผมไม่สนองตอบเพราะอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ร่างกายกำลังอ่อนล้าเต็มทน ไอ้แมนเห็นผมยังเฉยก็เลยเอื้อมมือลงไปลูบคลำที่เป้ากางเกงผม ผมรู้สึกรำคาญไอ้แมนขึ้นมาซะแล้ว อะไรวะ คนจะหลับจะนอน เหนื่อยและก็ง่วงจะตายห่าอยู่แล้ว ตอนนี้กูยิ่งไม่อยากจะคิดถึงเรื่องเซ็กส์ด้วย ไอ้แมนยังคงคลำเป้ากางเกงผมไม่ยอมหยุด ผมก็เลยกระชากมือมันออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจปนรำคาญว่า
" อย่ามายุ่งกับเรา เราจะนอน ! "
พูด จบผมก็หลับต่อ ไอ้แมนเห็นว่าผมไม่เล่นด้วยก็เลยเลิกสนใจผม มันพลิกตัวไปสะกิดไอ้เทพที่นอนอยู่อีกด้านเบาๆ ไอ้เทพลืมตาตื่นขึ้นจ้องหน้าไอ้แมน ไอ้แมนกระซิบข้างหูมันว่า
" ไปเยี่ยวเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ป่ะวะ "
ไอ้ เทพหยีตา ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก มัน 2 คนค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากลานนอน เพื่อนๆ ทั้งหมวดหลับสนิทกันหมดแล้ว ไอ้แมนพาไอ้เทพเดินมาถึงบริเวณแท็งค์น้ำข้างๆ ลานนอน แล้วไอ้เทพก็พูดขึ้นมาว่า
" ตรงนี้ก็พอแล้วสัด จะเยี่ยวก็เยี่ยวซะ เร็วๆ กูเสียวมีคนมาเห็นว่ะ "
" ใครจะมาเห็นวะ แม่งหลับกันหมดแล้ว "
" มันก็ไม่แน่ อย่าพูดมาก เยี่ยวซะมึง "
ไอ้ เทพพูดแล้วก็หันหลังให้ไอ้แมน ไอ้แมนรีบรูดซิปกางเกงลง ควักควยขาวๆ ที่แข็งเต็มที่แล้วออกมาชมโลก แล้วก็รูดหนังหุ้มควยลงช้าๆ เผยให้เห็นหัวควยสีชมพูใสๆ สมวัยเด็กหนุ่มอายุ 17 มันรูดหนังหุ้มควยเล่น 2- 3 ที ไอ้แมนที่ยืนหันหลังให้รู้สึกผิดสังเกตุที่ไม่ได้ยินเสียงเยี่ยวซะที ก็เลยพูดเสียงดัง
" เยี่ยวซะทีสิวะเฮ้ย มัวทำ-เอี้ย-อะไรอยู่สัด "
และ ด้วยความที่ไอ้เทพก็สนใจควยไม่น้อยไปกว่าเกย์คนอื่นๆ ในโลกนี้ มันก็หักห้ามใจไว้ไม่ไหว รีบหันหลังกลับมาหาไอ้แมนทันที แล้วมันก็เห็นไอ้แมนกำลังยืนสาวลำควยอย่างช้าๆ จนลำควยตั้งโด่ เส้นเลือดปูดโปนเต็มลำควย ตอนนี้มันปลดตะขอกางเกงลงแล้ว ไอ้เทพเลยมองเห็นหมอยดำๆ ของมันกระจายอยู่รอบท่อนควย และลามลงไปถึงไข่ พอมันเห็นไอ้เทพหันมามองมันยิ่งแอ่นโชว์ควยอย่างเต็มที่ ไอ้เทพอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
" เฮ้ย ไอ้-เอี้ย- นี่มึงไม่ได้เยี่ยวนี่ สัด มึง.... มึงว่าวนี่หว่า ไอ้สันดาน ไอ้-เอี้ย- โห ว่าวเต็มๆ เลยมึง "
ไอ้แมนยิ้มแล้วถอกหนังหุ้มควยลงจนสุด ก่อนจะพูดเสียงสั่น
" แน่จริงมึงดูดควยกูสิ "
ไอ้ แมนยังพูดไม่ทันจบ ไอ้เทพก็คุกเข่าลงดูดควยไอ้แมนทันที มันดูดหัวควยไอ้แมนอย่างหื่นกระหายราวกับไม่ได้ดูดหัวควยผู้ชายมาหลายปี ไอ้แมนร้องครางเบาๆ
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดด มันส์เว้ยยยย "
ไอ้เทพเลื่อน ปากจากหัวจู๋น้อยลงมาถึงลำควยก่อนจะครอบปากลงไปจนมิดด้าม แล้วเอาลิ้นตวัดไปตรงพวงไข่ห้อยยานของไอ้แมน แล้วงับไข่ทั้ง 2 ใบของเพื่อนช้าๆ แถมยังดูดแรงๆ จนไอ้แมนน้ำลายไหลด้วยความเสียว
" อาซซซซซซซซ ลูกกระโปกกู มึงดูดลูกกระโปกกูได้เสียวดีเจงๆ โอยยย ทำไมมันมันส์อย่างนี้วะ สุดยอดดดดดเลยเพื่อน "
ไอ้ เทพดูดไข่ไอ้แมนต่ออีกซักพัก แล้วจึงยืนขึ้นประกบปากกับเพื่อนรักทันที ไอ้แมนก็ดูดปากตอบอย่างไม่รีรอแถมยังกอดรัดไอ้เทพด้วยความเงี่ยน มือก็รูดซิปกางเกงไอ้เทพลงและถลกกางเกงของเพื่อนลงไปกองที่ข้อเท้า ไม่นานควยท่อนใหญ่ของไอ้เทพก็กระแทกเข้าปากของไอ้แมนจนมิดลำ ก่อนจะซอยปากไอ้แมนยิกๆ จนไอ้แมนแทบสำลัก แต่มันก็พยายามดูดและเลียควยของไอ้เทพอย่างสุดความสามารถ
" ซี๊ดดดดดดดดด เสียวหัวควยว่ะ "
ไอ้ เทพครางแล้วก็ยิ่งอัดควยเข้าปากไอ้แมนลึกลงไปอีก แล้วก็แอ่นสะโพกร่าจนไข่แกว่งไปมา ไอ้แมนรีบเอามือคว้าไข่ไอ้เทพไว้แล้วบี้เล่นเบาๆ เพื่อเพิ่มความเสียวให้ไอ้เทพ ไอ้เทพยิ้มอย่างสะใจก่อนจะถอดเสื้อนอกออก
เหลือ แต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว แล้วสะกิดไอ้แมนให้ลุกขึ้นมาเลียหัวนมมัน ไอ้แมนก็ทำตามอย่างไม่รังเกียจ ขณะที่ไอ้แมนกำลังเลียหัวนมไอ้เทพอยู่อย่างเพลิดเพลินนั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังขึ้นมา
" เฮ้ย ! พวกมึง 2 ตัวทำอะไรกันอยู่วะ "
ไอ้ เทพตกใจมาก รีบผลักไอ้แมนออกห่างทันทีแล้วมองหาต้นเสียง ร่างๆ หนึ่งยืนอยู่ใกล้มัน 2 คนมาก และกำลังจ้องหน้าไอ้เทพและไอ้แมนอยู่ ร่างๆ นั้นสูงใหญ่ ล่ำ ใส่ชุดครึ่งท่อน แววตามีประกายแบบแปลกๆ ไอ้เทพมองหน้าร่างๆ นั้นแล้วก็หน้าซีดเผือด มันกระซิบข้างหูไอ้แมนเสียงสั่นๆ
" ซวยแล้วว่ะ ตายแน่ๆ เลย ครูฝึกแม่งดันมาเจอเข้าให้ วิ่งหนีกลับลานนอนกันดีกว่าว่ะ อยู่ไม่ได้แล้ว "
ไอ้เทพทำท่าจะวิ่งหนีไปจริงๆ แต่ไอ้แมนรีบฉุดข้อมือไอ้เทพไว้ สีหน้าไม่มีแววตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว
" ไม่ต้องหนี ครูพิชิตเป็นพวกเดียวกับเราเว้ย "
ไอ้เทพหันขวับมามองหน้าไอ้แมน
" มึงหมายความว่าไง "
ไอ้แมนไม่ทันจะตอบ ครูพิชิตก็มองลงไปที่ควยท่อนใหญ่ของไอ้เทพที่ยังไม่ได้เก็บเข้าที่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความพอใจ
" ควยใหญ่ดีนี่หว่า เอ่อ พวกมึงยังไมได้ตอบกูเลยว่าพวกมึงมาทำอะไรกันตรงนี้ "
" มาเยี่ยวครับ "
ไอ้แมนรีบตอบทันที ครูพิชิตมองหน้าไอ้แมนแล้วยิ้มแปลกๆ
" ดึกแล้วไม่ยอมหลับยอมนอน มาทำ-เอี้ย-อะไรก็ไม่รู้ อย่างนี้ต้องโดนทำโทษซะแล้ว "
ไอ้เทพหน้าซีด เอามือดึงกางเกงขึ้น แต่ครูพิชิตรีบพูดเสียงดัง
" ไม่ต้องใส่ กูจะทำโทษมึงทั้งอย่างนี้แหละ ไอ้-เอี้ย- มึงนี่ก็หล่อดีเหมือนกันนี่หว่า "
ครู พิชิตพูดจบก็เอามือลูบหน้าของไอ้เทพช้าๆ อย่างชอบใจ และก่อนที่ไอ้เทพจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ครูพิชิตก็เอาปากมาชนกับปากของมันซะแล้ว ไอ้เทพรีบกอดครูพิชิตไว้แน่น กลิ่นเนื้อหนุ่มของครูพิชิตลอยมาแตะจมูกไอ้เทพ มันหอมเหลือเกิน ครูพิชิตดูดปากไอ้เทพอย่างสะใจแถมยังเอาลิ้นควานไปจนทั่วปากของมันอีกด้วย ซักพักก็ถอนปากออก คุกเข่าลงดูดควยไอ้เทพต่อทันที ไอ้เทพอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึงที่ครูฝึกรูปหล่อจะมาดูดควยของมันแบบนี้ แถมดูดต่อจากไอ้แมนด้วย แต่ครูพิชิตไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจเลย เขาดูดควยเก่งมาก เล่นเอาไอ้เทพร้องครางเสียงหลง
" ซี๊ดดดดดดดดด ครูคร้าบบบบบบบบ ผมเสียวววววววครับผม "
ครูพิชิตดูดควยไอ้เทพอยู่นานจึงคายออก แล้วพูดช้าๆ
" ก็กูอยากให้มึงเสียวไงวะ กูถึงทำแบบนี้ ไอ้-เอี้ย-เอ๊ย ทำไมเด็กสมัยนี้แม่งถึงได้น่าแดกอย่างนี้วะ กูล่ะรักพวกมึงจริงๆ อยากจะแดกแม่งให้หมดทั้งหมวดเลย "
" ก็แดกเลยครับครู ผมยินดีให้แดกครับ "
ไอ้ เทพพูด ครูพิชิตยืนขึ้นแล้วถอดกางเกงออก  ควยท่อนใหญ่ของครูพิชิตแข็งโด่ชี้ขึ้นฟ้า ไอ้เทพมองแล้วก็ต้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากแผล่บๆ ด้วยความอยากดูด
" ดูดเลยมึง "
ครู พิชิตเหมือนจะรู้ความต้องการของไอ้เทพถึงได้สั่งแบบนี้ ไอ้เทพรีบคุกเข่าลงดูดควยครูพิชิตอย่างเร็ว ส่วนไอ้แมนก็เดินอ้อมไปข้างหลัง แล้วคุกเข่าลงเช่นกัน มันบีบตูดครูพิชิตแรงๆ แล้วก็แหกออก ก่อนจะแลบลิ้นเลียรูตูดอันแข็งแกร่งของครูพิชิตอย่างไม่นึกรังเกียจ เสียงดังแผล่บๆ โดนจู่โจมทั้งข้างหน้าข้างหลังแบบนี้ มีหรือที่ครูฝึกหนุ่มจะทนไหว เขาถึงกับร้องครางลั่นด้วยความเสียว
" โอยยยยยยยย เสียวจู๋น้อยว่ะ เสียวรูตูดด้วย กล้ารุมกูเหรอไอ้เด็กเวร ไอ้สัตว์ อย่างงั้นแหละ กูชอบบบบบบบบ "
ไอ้ แมนได้ทีรีบลุกขึ้นถลกเสื้ออ่อนของครูพิชิตออก แล้วเลียหัวนมสีดำที่แข็งเป็นไตของครูพิชิตแรงๆ ติดต่อกัน ครูพิชิตคงจะเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว เขาลูบหัวไอ้แมนพร้อมกับครางไปด้วย
" ไอ้ตี๋ มึงเลียหัวนมกูได้เจ๋งจริงๆ โอยยยย มันส์ มาขอกูดูดปากมึงหน่อย กูรักมึง ไอ้ตี๋ "
ไอ้ แมนรีบดูดปากครูพิชิตตามคำสั่ง ครูพิชิตก็ดูดตอบอย่างหื่นกระหาย ดูดกันไปซักพัก ครูพิชิตก็ถอนปากออกพูดกับไอ้เทพที่กำลังดูดควยของเขาอย่างเอาเป็นเอาตายว่า
" พอก่อนไอ้หนุ่ม เดี๋ยวน้ำกูออกก่อน เรามาเล่นซ้อน 3 กันดีกว่า กูจะอัดตูดมึง แล้วมึงก็อัดตูดไอ้ตี๋นั่นต่อ อัดตูดกันแบบ 3 คนรวดน่ะ มึงเข้าใจมั๊ย เสียวดี มาเล่นกันเลยมึง "
ไอ้เทพกับไอ้แมนพยักหน้าอย่าง เข้าใจ ครูพิชิตควักครีมออกมาทารูตูดของไอ้เทพกับไอ้แมนจนเยิ้ม แล้วให้มัน 2 คนยืนเอาตูดกัน ไอ้แมนเอามือยันแท็งค์น้ำเอาไว้ ไอ้เทพเริ่มเอาควยสอดเข้ารูตูดไอ้แมนช้าๆ แล้วครูพิชิตก็เอาควยสอดเข้ารูตูดไอ้เทพเช่นกัน ไม่นานทั้ง 3 คนก็เริ่มเย็ดกันแบบเมามัน
" เจ็บมั๊ยยยยย เจ็บมั๊ยยยยยยยย ตอบกูมาสิ อืออออออ ซี๊ดดดดดดดดดดดดด ตอบกูสิเว้ย "
ครูพิชิตถามขณะที่ซอยจู๋น้อยเข้ารูตูดดไอ้เทพอย่างเมามันส์
" ไม่เจ็บครับ " " ไม่เจ็บครับ "
ทั้งไอ้เทพและไอ้แมนตอบพร้อมกัน ครูพิชิตจึงอัดลำควยกระแทกเข้ารูตูดไอ้เทพจนลึกสุดๆ แล้วโยกเร็วขึ้นๆ
ปั่บๆๆๆๆ
ไอ้ เทพก็ใช่ย่อย ตอนนี้รูตูดของมันก็มันส์อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ลืมจะซอยตูดไอ้แมนอย่างไม่ยั้ง เพื่อให้ไอ้แมนได้รับรสความมันส์พอๆ กับมัน ไอ้แมนอ้าตูดรับอย่างรู้งาน ร้องอย่างสะใจ
" เร่งอีก เร่งอีก เร็วๆๆๆๆๆๆๆๆ เว้ย แรงๆๆ "
" แค่นี้แรงพอมั๊ยวะ "
ครู พิชิตตะโกนตอบแล้วเร่งกระแทกรูตูดไอ้เทพแรงขึ้นๆ ส่งแรงต่อให้ไอ้เทพกระแทกไอ้แมนได้แรงขึ้นเช่นกัน เสียงไอ้เทพหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ครูพิชิตก็เช่นเดียวกัน
" แฮ่กๆๆๆๆ เหนื่อย อดทนหน่อยนะพวกมึง กูจะเสร็จแล้ว ซี๊ดดดดดดดดดดดด โอยยยยยย -เอี้ย- กูจะออกแล้วนะ สัด โอยยยยย ไม่ไหวแล้วน้ำกูพุ่งแล้วววววววว ว วว ว "
ครู พิชิตพูดจบก็ดึงควยออกจากรูตูดไอ้เทพแล้วถอกหัวควยสีเลือดหมูลงจนหัวควยบาน แดงโร่ น้ำกามขาวๆ จำนวนมากทะลักออกมาจากรูควยอย่างไม่ยั้ง พุ่งกระฉูดออกไปอย่างแรงและไกลมาก ครูพิชิตร้องครางลั่นแล้วรูดลำควยเข้าออกๆ ไม่ยอมหยุด น้ำกามยังคงพุ่งปรี๊ดๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนน้ำออกมาหมด ไอ้เทพเองก็เร่งซอยรูตูดไอ้แมนอย่างไม่คิดชีวิต ไม่นานมันก็หมดความอดทน มันชักควยออกมาจากรูตูดไอ้แมนแล้วระเบิดน้ำกามขาวๆ ออกมาอย่างสุดจะอั้น ครูพิชิตรีบเอามือขวามาถอกหัวควยให้ไอ้เทพแล้วรูดขึ้นลงๆ อย่างมันส์มือ ส่วนมือซ้ายก็ลูบแผ่นอกของไอ้เทพไปด้วย น้ำกามของไอ้เทพกระฉูดออกมามากมายแถมยังกระจายเรี่ยราดไปหมด จังหวะที่ไอ้เทพน้ำแตกนั้น ครูพิชิตทั้งจูบทั้งหอมแก้มไอ้เทพพร้อมๆ กับถอกควยและลูบแผ่นอกของมัน จนไอ้เทพต้องหลับตาปี๋ด้วยความเสียว
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดด เสียวเว้ยยยยยย "
ไอ้เทพพูดเสียงดังลั่น ครูพิชิตรีบพูดขึ้นมาทันที
" เอาเลยมึง กูอยากให้มึงเสียว แตกออกมาเยอะะๆ เลย ไอ้-เอี้ย- นั่นอย่างนั้น โหย น้ำออกมาซะเยอะเชียวมึง เสียวล่ะสิไอ้สัตว์ โอยยย สะใจกูจริงๆ เวลาเห็นพวกมึงหลั่งน้ำกามเนี่ย กูชอบเหลือเกินว่ะ มันสะใจดี "
ครูพิชิต กอดจูบและถอกควยให้ไอ้เทพจนมันหลั่งออกมาหมด แล้วก็เอามือเช็ดน้ำกามที่เลอะตรงปลายควยให้ แล้วจึงหันมาจัดการกับไอ้แมน ครูพิชิตโถมเข้ากอดจูบมันแล้วถอกลำควยขาวๆ ของมันออกมาอย่างเร็ว เสียงดังปั่บๆๆๆๆ ไอ้แมนครางเบาๆ ด้วยความเสียว ครุพิชิตดูดปากไอ้แมนอย่างดูดดื่ม แล้วจึงพูดว่า
" เสียวมั๊ยไอ้ตี๋ ชอบล่ะสิ เอาเลย ถ้าชอบก็หลั่งออกมาเยอะๆ เลย ไอ้สัตว์ นี่แบบนี้เป็นไงสัด เสียวควยมั๊ย "
ครู พิชิตพูดพลางรูดลำควยไอ้แมนเร็วกว่าเดิมอีก จนไอ้แมนทนไม่ไหวอีกต่อไป   ควยท่อนขาวของมันกระตุกแรงๆ ก่อนที่น้ำกามขาวข้นจะกระฉูดออกมาอย่างรวดเร็ว ครูพิชิตรีบรูดลำควยขึ้นลงๆ เพื่อให้น้ำของไอ้แมนออกมาให้มากที่สุด
" อา............... น้ำผมออกแล้วครับครู "
ไอ้แมนพูด ขณะที่น้ำของมันยังพุ่งไม่ยอมหยุด
" เอาออกมาเยอะๆ เลยไอ้-เอี้ย- นั่นนน เออ ดีมาก พุ่งปรี๊ดดๆ เลย โห เยอะเหมือนกันนี่ ไอ้สัตว์ออกมาเยอะๆ 555555 สะใจ ออกแม่งให้หมดตัวเลย ดีๆ "
ครูพิชิตรีบหอมแก้มมันฟอดใหญ่ขณะที่มือยังคงถอกควยของมันไปเรื่อยๆ จนน้ำของไอ้แมนหลั่งออกมาหมด
" มึงนี่น้ำเยอะจริงๆ กูล่ะชอบมากเลย เด็กๆ วัยรุ่นเนี่ย น้ำแม่งเยอะกันทุกคน "
ครู พิชิตพูดอย่างพอใจ แล้วเอานิ้วป้ายน้ำกามที่เลอะตรงรูควยของไอ้แมนแล้วเอามาดูดกิน เสร็จแล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหัวควยของไอ้แมน และไอ้เทพจนสะอาด แล้วชี้ไปที่ห้องน้ำของครูฝึก ก่อนจะสั่งว่า
" ตรงโน้นเป็นห้องน้ำ มึงไปล้างตูดซะให้เรียบร้อย แล้วไปนอน พรุ่งนี้ต้องฝึกหนัก แต่มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ทำโทษพวกมึงแน่ๆ กูจะช่วยพวกมึงอยู่ห่างๆ แต่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครล่ะ โชคดีนะพวกมึง กูรักมึงทั้งคู่เลย "
ครู พิชิตหอมแก้มไอ้เทพและไอ้แมนคนละฟอด ก่อนจะตบไหล่มัน 2 คนเบาๆ แล้วเดินจากไป ไอ้เทพและไอ้แมนรีบเดินไปล้างตูดที่ห้องน้ำจนสะอาด แล้วจึงเดินกลับมานอนที่ลานนอนเหมือนเดิม
" สนุกมั๊ยวะไอ้แมน "
ไอ้เทพถามเบาๆ ไอ้แมนหลับตาแล้วตอบช้าๆ
" สนุกชิบหายเลย กูรักครูพิชิตจังเลยว่ะ โชคดีจริงๆนะที่ครูฝึกประจำหมวดของเราชอบแบบนี้ พวกเราก็เลยพลอยได้สนุกไปด้วย "
" กูไม่นึกเลยว่าครูฝึกของเรา จะชอบแบบนี้ เห็นแมนๆ แบบนี้ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเกย์ "
" อย่าคิดอะไรมาก เขาเป็นก็ดีแล้ว ทหารเป็นเกย์ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆ ก็เป็นเกย์ได้ อย่างน้อยเขาก็ทำให้กูกับมึงมันส์ได้ แต่ตอนนี้กูว่านอนดีกว่าว่ะ ดึกมากแล้ว กูเพลียว่ะ "
ไอ้แมนสรุป
" เออว่ะ งั้นกูนอนล่ะ ฝันดี "
ทั้งคู่จึงเลิกคุยแล้วนอน ไม่นานทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาวิชาทหารหรือครูฝึกที่นอนอยู่ในลานนอนแห่งนั้นก็หลับเป็นตาย
..................................

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 19
ปรี๊ดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดปลุกให้ผมลืมตาตื่น ขึ้น วันนี้ไม่มีใครตื่นก่อนนกหวีดเลยเพราะต่างก็หมดแรงกันทั้งนั้น ทุกคนตื่นเพราะเสียงนกหวีดพร้อมกันหมด ผมเหลือบมองดูนาฬิกา ตี 5 พอดี รีบเก็บผ้าปูที่นอนเข้าเป้สนาม หยิบหมวก หยิบปืนวิ่งมาเข้าแถวทันที สลัดความงัวเงียออกไปจนหมดสิ้น พอทุกคนเข้าแถวตามหมู่เรียบร้อยดีแล้ว ครูฝึกก็สั่งให้เดินไปรวมพลยังที่เดิม แล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าวเช้า พอทุกคนกินเสร็จ และล้างถาดเสร็จแล้ว ต่างก็รีบไปเติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม เตรียมเอาไว้ดื่มระหว่างทาง เพราะได้ข่าวที่บอกต่อๆ กันมาว่า วันนี้จะโหดที่สุด
ไม่นาน ครูฝึกก็เรียกรวมพล และพาทุกคนออกเดินไปจนถึงชายป่า แล้วจึงสั่งให้หยุดและนั่งลง ครูพิชิตยืนจังก้าอยู่หน้าแถว แล้วเริ่มต้นพูดด้วยเสียงอันดัง
" วันนี้จะเป็นการฝึกการเข้าตี ก่อนอื่นครูจะแบ่งกำลังพลออกเป็น 3 ส่วนตามหมู่ กำลังพลแต่ละส่วนจะมีชื่อเรียกเป็นของตนเอง ส่วนแรกชื่อว่า " เห่าดง " ส่วนที่ 2 ชื่อว่า " เห่าฟ้า " ส่วนที่ 3 ชื่อว่า " เห่าไฟ " แต่ละส่วนต้องทำการเข้าตี แต่จะเข้าตีไม่พร้อมกัน เห่าดงจะตีก่อน แล้วตามด้วยเห่าไฟ แล้วก็เห่าฟ้า เห่าดง ลุก ! "
กำลังพลหลายหมู่ที่ครู พิชิตจัดไว้ในชื่อของเห่าดง รีบลุกขึ้นทันที แล้วเดินตามครูพิชิตเข้าป่าไป ผมเองอยู่เห่าฟ้า เข้าตีทีหลังสุด ต้องรอก่อน ระหว่างที่รออยู่นั้น ครูฝึกคนอื่นก็สั่งให้ทุกคนเก็บขยะไปพลางๆ ก่อน ผมเดินเก็บขยะไปพลางนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้แปรงฟันเลย
" Hereแม่ง กูนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แปรงฟันเลยนี่หว่า หน้าก็ยังไม่ได้ล้าง ขี้ตากูยังมีอยู่เลย โสโครกชิบหายเลยว่ะ อ้วก ! ไอ้อ๊อต กูอยากรู้ว่าทำไมแม่งไม่ให้เวลาพวกเราแปรงฟันเลยวะ เหม็นปากชิบหาย "
ผมพูดกับไอ้อ๊อตขณะเดินเก็บขยะไปด้วย ไอ้อ๊อตยิ้มแล้วก็ตอบว่า
" กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ รู้แต่ว่ามันทำให้กูไม่กล้าดูดปากกับผู้ชายคนไหนเลยวันนี้ ไม่ว่าแม่งจะหล่อแค่ไหนก็ตาม กูทนกลิ่นไม่ได้จริงๆ "
" ไว้ถ้าทหารสั่งให้พักเมื่อไหร่ เราหลบไปแปรงฟันกันดีกว่านะมึงนะ "
ผม พูด ไอ้อ๊อตพยักหน้าแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ เราเก็บขยะกันต่อไปอีกซักพัก ก็ได้ยินเสียงครูฝึกเป่านกหวีดรวม ผมกับไอ้อ๊อตรีบวิ่งไปเข้าแถวอย่างไม่รอช้า ครูฝึกให้นั่งรออีกซักพัก แล้วครูพิชิตก็เดินมายืนจังก้าอยู่หน้าแถวของพวกเราอีกครั้งหนึ่ง แล้วตะโกนลั่น
" เอาละ เห่าฟ้า ได้เวลาเข้าตีแล้ว พร้อมจะรบกันหรือยังวะเฮ้ยยยยยยยยยยยยย ! "
" พร้อมมมมมมมมมมม "
ทุก คนตะโกนขานรับพร้อมกันดังสนั่น ผมแอบยิ้มอยู่ในใจ ครูพิชิตนี่บทจะแมน ก็แมนHereๆ จริงๆ ไม่นึกเลยว่าแมนๆ แบบนี้ จะเป็นเกย์ได้ ครูพิชิตยิ้มอย่างพอใจที่ได้ยินเสียงขานรับดังขนาดนี้ ก็เลยเริ่มต้นบรรยายวิธีการฝึกเข้าตีให้พวกเราฟัง
" การเข้าตี เป็นการรบด้วยวิธี รุก ที่เป็นการบุกเข้าจู่โจมข้าศึกแบบเข้าไปหาถึงที่เลย ต่างกับการรับที่เราจะตั้งรับอยู่แต่ในฐาน การรบแบบรุกนี้มีความมุ่งหมายเพื่อที่จะทำลายกำลังรบของข้าศึกให้ลดน้อยลง และเพื่อยึดภูมิประเทศที่ข้าศึกยึดครอง
ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งอยู่ที่ " ที่รวมพล " ซึ่งเป็นที่ที่ทหารทุกนายจะต้องมารวมพลที่นี่ เพื่อฟังคำสั่งของผู้บัญชาการ ต่อไปครูจะพาทุกคนไปยัง ฐานออกตี ทั้งหมด ลุก ! "
ทุกคนลุกขึ้น ครูพิชิตสั่งต่อ
" หน้า เดิน ! "
ครูพิชิตพาทุกคนเดินเข้าไปในป่าที่ยังไม่รกทึบมากนัก คงยังเป็นชายป่าอยู่ แล้วจึงสั่งให้นั่งอีกครั้ง ก่อนจะบรรยายต่อ
" ที่นี่คือ " ฐานออกตี " ห่างจากที่รวมพลในระยะทางที่ใช้เวลาเดินเท้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง เป็นที่ที่หมู่ทำการจัดขบวนเข้าตีและทำการติดต่อประสานงานเป็นขั้นสุดท้าย ก่อนจะเข้าตี ถัดจากจุดนี้จะเป็น " แนวออกตี " ซึ่งโดยปกติจะเป็นภูมิประเทศที่ตั้งฉากกับทิศทางที่เราจะเข้าตี อย่างเช่น ถนน หรือแม่น้ำ เวลาทุกคนเดินผ่านจุดนี้ ให้สังเกตแนวออกตีด้วย ไม่ใช่เดินเรื่อยเจื้อย ไม่มองอะไรเลย
เขตตั้งแต่แนวออกตีเป็นต้นไป จะเรียกว่า " เขตปฎิบัติการ " เขตนี้เต็มไปด้วยหิน ลำธาร ต้นไม้มากมาย ทุกคนต้องวิ่งและหมอบไปเรื่อยๆ ตามสัญญาณปืนที่ยิงอยู่ที่หอควบคุมเป็นระยะๆ ถ้าได้ยินเสียง ปัง ปัง ปัง ต้องหมอบทันที แล้วก็คลานสูงหรือคลานต่ำไปเรื่อยๆ เพราะเสียงปังปังนั่นหมายความว่า ข้าศึกมันกำลังยิงเรา ถ้าไม่หมอบ เราก็โดนยิงตายห่าแล้ว พอเสียงปืนเงียบจึงค่อยวิ่งได้ แล้วก็ต้องทำท่ายิงไปด้วยนะมึง คือมึงต้องเข้าใจว่า ในเขตปฏิบัติการนี้ ข้าศึกจะต้องถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่มีเหลือหลอ อ้อ แล้วก็อย่าลืมหา " จุดตรวจสอบ " ด้วย เพื่ออ้างในการรายงานที่ตั้งในฝ่ายของเรา แต่มึงต้องหาเอาเอง ครูจะไม่บอกว่า จุดตรวจสอบมันคืออะไร
พอพ้นเขตนี้ไปได้ ก็จะถึง " แนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้าย " ก่อนจะเข้าถึง " ที่หมาย " ตรงนี้แหละ ทุกคนจะต้องเข้าตะลุมบอนกับข้าศึก ซึ่งก็คือหมวดอื่น ทุกคนจะต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างเร็วสุดๆ ในรูปขบวนแถวหน้ากระดาน และจะต้องแหกปากตะโกนโห่ร้องให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิงกราดไปให้ทั่วๆ ให้แม่งตายห่าให้หมด เดี๋ยวถึงตรงนั้นแล้วครูจะบอกอีกที จำไว้ อย่ากินแรงเพื่อน ฝึกให้เต็มที่ แล้วมึงจะรู้สึกสนุกไปกับมันเอง เอ้า ลุก ! "
ครูพิชิตสั่งลุกแล้วจึงเริ่มชี้วางตัวกำลังพลในแต่ละหมู่ตามจุดต่างๆ หัวหน้าหมู่ (ไอ้เด่น) จะฟังตำแหน่งจากครูพิชิตแล้วชี้ตำแหน่งให้พวกเรา ทุกคนต้องจำตำแหน่งต่างๆ ให้ได้หมด ซึ่งตำแหน่งก็เหมือนกับที่เคยเรียนมาเมื่อวาน มีหัวหน้าหมู่ หัวหน้าชุดยิง ก ,ข พลปืนเล็ก พลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด ผมได้เป็นพลปืนเล็ก นอกจากนั้นก็ยังมีพลยิงกระสุน 1,2 พลยิงเครื่องยิงจรวด และพลนำสาร 1,2 ผู้ซึ่งนำข่าวสารจากหมู่อื่นๆ มาส่งอยู่เรื่อยๆ ซึ่งใครเป็นพลนำสารจะรับบทหนักมาก ต้องพูดเยอะ และต้องเดินไปเดินมาเหนื่อยน่าดู
หลังจากวางตัวเรียบร้อย พวกเราทุกคนก็ออกเดินเข้าป่าไปเรื่อยๆ ตามลำดับหมู่ แล้วจึงเริ่มวิ่ง วิ่งเร็วขึ้นๆๆ แล้วไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" ระวัง หมอบบบบบบบบ "
ครู พิชิตซึ่งเดินตามหลังมาห่างๆ ตะโกนลั่น ผมรีบล้มตัวลงหมอบทันที แล้วก็เริ่มต้นคลานไปเรื่อยๆ ผ่านสุมทุมพุ่มไม้ไปนับสิบ เมื่อเสียงปืนเงียบลง ผมจึงลุกขึ้นวิ่งต่อได้อีกครั้ง
" ถึงแนวออกตีแล้วววววว "
เสียงครูพิชิตตะโกนไล่หลังมา ผมมองหน้าเพื่อนๆ อย่างงงๆ ไอ้เด่นหันมาพูดกับคนในหมู่ว่า
" ไหนวะ แนวออกตี "
แล้วมันก็มองไปรอบๆ ผมมองไปที่ตีนของตนเองแล้วก็ร้องว่า
" นี่ไงSad แนวออกตี เป็นเส้นขีดบนพื้นนี่เอง หมายความว่า จากตรงนี้ เราก็เข้าเขตปฏิบัติการแล้วสิวะ "
ถูกของผมจริงๆ แนวออกตีเป็นเส้นที่ขีดอยู่บนพื้น เป็นสัญลักษณ์บอกว่าจากนี้ ต้องเหนื่อยของจริงแล้ว
" หยุดทำHereไร เห่าฟ้า วิ่ง หน้า วิ่ง ! "
ครู พิชิตตะโกนสั่ง ผมและเพื่อนๆ ทุกคนออกวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เราวิ่งไปนานมากๆ จนผมรู้สึกเหนื่อยแบบสุดๆ ก็พอดีได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก ผมก็ต้องหมอบลงไปอีกครั้ง แล้วก็คลานสูง หรือคลานต่ำ แล้วแต่สภาพภูมิประเทศ ผมวิ่ง วิ่ง วิ่ง และก็วิ่งจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว เสียงปืนก็ยิงไม่ยอมหยุด แต่ผมก็กัดฟันวิ่งต่อไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" หมอบบบบบบบบ คลานนนนนน "
เสียง ครูพิชิตดังซ้ำๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ เขตปฏิบัติการนี่พื้นที่มันช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน วิ่งเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ยอมถึงแนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้ายซะที ผมทั้งวิ่งทั้งคลานเป็นสิบๆ ครั้ง เหนื่อยเหลือเกิน ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้วะ
" เห่าฟ้า หาจุดตรวจสอบด้วย อย่าลืม ! "
ครูพิชิตตะโกน ไอ้เด่นฟังแล้วก็พูดเสียงดัง
" เออ เกือบลืม เฮ้ย! พวกเรา หาจุดตรวจสอบหน่อยเว้ย "
" แล้วมันคืออะไรวะ จุดตรวจสอบเนี่ย "
ไอ้เทพถามด้วยความสงสัย ไอ้ไก่นึกอยู่พักหนึ่งจึงพูดขึ้นมาว่า
" มันจะเป็นเส้นขีดแบบเดียวกับแนวออกตีรึเปล่าวะ "
" กูว่าไม่น่าจะใช่ว่ะ "
ผมพูดขึ้นบ้าง ทุกคนในหมู่หันมามองหน้าผม ไอ้เด่นถามผมทันที
" แล้วมึงรู้เหรอว่า จุดตรวจสอบคืออะไร "
" กูเคยอ่านในหนังสือว่ะ เขาบอกว่า จุดตรวจสอบจะต้องเป็นจุดที่เด่นๆ ที่ไม่มีลักษณะกลืนไปกับภูมิประเทศบริเวณนั้น "
" อะไรของนายวะ เรางง "
ไอ้แมนพูดเบาๆ ด้วยความงุนงง ผมเลยพูดต่อว่า
" กูว่าเราแยกย้ายกันหาดีกว่า "
ทุก คนในหมู่ก็เลยแยกย้ายกันหาจุดตรวจสอบ ไม่นานก็เจอ ที่แท้จุดตรวจสอบก็คือ กองหินกองเล็กๆ บริเวณที่ถนนตัดกันตรงนั้นนั่นเอง ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกที่หาจุดตรวจสอบเจอ จู่ๆ ไอ้ไก่ก็วิ่งกระหืดกระหอบมาหาทุกคนแล้วบอกว่า
" กูพลนำสาร 1 นะ เมื่อกี้ครูพิชิตแม่งเรียกกู แล้วฝากกูมาบอกพวกมึงว่า ให้รีบไปที่แนวประสานการปฏิบัติให้เร็วที่สุด ข้าศึกมารอนานแล้ว เราต้องเข้าตะลุมบอนกับแม่งแล้ว "
" ชิบหายแล้ว งั้นรีบไปเร็วพวกเรา "
ไอ้ เด่นพูดแล้วก็รีบวิ่งนำหน้าไปทันที ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้ไก่ ไอ้แมน และผม วิ่งตามไปเป็นพรวน ผมวิ่งแทบจะไม่ไหวอยู่แล้วเพราะรู้สึกปวดข้อตีนเต็มกำลัง รองเท้าที่ใส่ก็โคตรรัดข้อตีนเลย ยิ่งทำให้ผมปวดจนแทบจะทนไม่ไหว แต่ก็ฝืนวิ่งต่อไป ตอนนี้ผมวิ่งรั้งท้ายอยู่ ไอ้อ๊อตหันมามองผมแล้วก็เร่งยิก
" เร็วๆ สิวะหนุ่ม สู้ตายเว้ยมึง "
ไอ้อ๊อตคงลืมตัว เผลอพูดคำหยาบใส่ผม แต่ผมก็ไม่สนใจ ตอบมันไปว่า
" กูไปไม่ไหวแล้ว ตีนกูเจ็บจะตายห่าอยู่แล้ว เพื่อน กูคงไปไม่ถึงที่หมายแน่ๆ "
" ไหงพูดงั้นวะ อย่าอ่อนแอสิมึง มากูช่วยลากมึงไปเอง "
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็วิ่งเข้ามาพยุงผม แล้วลากผมให้วิ่งเคียงข้างมันไปเรื่อยๆ
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมและไอ้อ๊อตหมอบลงไปทันที ฝุ่นฟุ้งตลบเต็มไปหมด พอเสียงปืนเงียบลงไอ้อ๊อตจึงค่อยๆ พยุงผมขึ้น แต่ผมเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว
" กูไม่ไหวแล้วจริงๆ เพื่อน มึงไปเถอะ ทิ้งกูไว้ตรงนี้แหละ โอยยย กูเหนื่อยเหลือเกิน "
" ได้ไงวะ เราเพื่อนกัน จะทิ้งกันได้ไง เราไปไหนต้องไปด้วยกันสิวะ "
ไอ้ อ๊อตพูดแล้วก็ทรุดนั่งลงไปกับพื้น ประคองร่างผมไว้ แล้วเอามือบีบนวดร่างกายผมช้าๆ เพื่อให้ผมคลายความอ่อนล้าลงบ้าง ไอ้เทพ ไอ้เด่น และเพื่อนๆ ทุกคนในหมู่หันมามองผมกับไอ้อ๊อต แล้วต่างก็รีบวิ่งมาหาเรา 2 คนทันที
" สู้ๆ เว้ยไอ้หนุ่มเพื่อนรัก มึงต้องทำได้ "
ไอ้เด่นตะโกน ไอ้เทพก็พูดขึ้นมาบ้าง
" เข้มแข็งเข้าไว้Sad เข้มแข็งเข้าไว้ มึงเป็นลูกผู้ชายนะเว้ย "
ผม ได้ยินแล้วก็ฮึดสู้ ฝืนยืนขึ้นอย่างช้าๆ ตอนนี้แผลที่ข้อตีนผมต้องกำลังอักเสบหนักอยู่แน่ๆ มันถึงทำให้ผมเจ็บปวดจนสุดจะทนทานแบบนี้ แต่ผมก็ยังฝืนยิ้ม
" เออ กูไหวแล้ว ไปต่อได้ ขอบใจพวกมึงทุกคนนะ "
ผม ยืนขึ้นแล้วก็ออกวิ่งต่อ เพื่อนๆ ทุกคนก็ออกวิ่งไปเช่นกัน ผมพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ฝืนวิ่งต่อไปอย่างไม่คิดชีวิต แต่วิ่งๆ ไปไม่นานผมก็ล้มป้าบ ! หน้าคะมำลงไปบนพื้นดิน แว่นหลุดออกจากตากระเด็นไปไกล ผมถึงกับร้องด้วยความเจ็บปวด
" โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ! "
ไอ้อ๊อตตกใจ รีบวิ่งเข้ามาดูผมอีกรอบ
" เฮ้ย วิ่งอีท่าไหนวะ ล้มซะเต็มที่เลย เอ้านี่แว่น ใส่แล้ววิ่งต่อนะ อีกนิดนึงก็จะถึงแนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้ายแล้ว "
ไอ้อ๊อตเก็บแว่นแล้วเอาแว่นสวมให้ผม ผมหน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด ยังคงนอนคว่ำอยู่อย่างนั้น แล้วพูดเสียงสั่นๆว่า
" ทิ้งกูไว้ตรงนี้เหอะ กูไปต่อไม่ไหวแล้ววว "
" ไอ้Here ต้องไหวสิวะ มึงเป็นผู้ชายมึงต้องเข้มแข็งสิวะ มึงมีKรึเปล่าวะ มึงมีKมั๊ย  ไอ้Hereถ้ามึงไม่มีKกูจะทิ้งมึงไว้ตรงนี้จริงๆ ด้วย เพราะกูถือว่ามึงไม่ใช่ผู้ชาย มึงเป็นแค่คนอ่อนแอคนหนึ่ง ตอบกูมาสิเว้ย ถ้ามึงมีK   แสดงว่ามึงยังเป็นลูกผู้ชาย  มึงต้องไปต่อกับกู  และกับเพื่อนๆ Sad ไอ้หนุ่ม ลุกสิวะ "
คำพูดของไอ้อ๊อตทำให้ผมนึกถึงคำของพ่อขึ้นมาได้ว่า
" จะเหนื่อยจะเจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทนลูกเดียว มันไม่ถึงตายหรอกลูกก็รู้ ..... พ่อเชื่อว่าลูกต้องผ่านการฝึกไปได้ด้วยดี "
ใช่ แล้ว ผมต้องอดทน ผมจะอ่อนแอไม่ได้ ผมก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน ผมคิดแล้วก็พยายามลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้ง กัดริมฝีปากเพื่อข่มความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วตอบไอ้อ๊อตว่า
" กูมีK กูเป็นลูกผู้ชาย กูจะไปต่อกับมึง "
ไอ้อ๊อตยิ้มด้วยความดีใจ แล้วตบไหล่ผมแรงๆ ก่อนจะพูดเสียงดัง
" เจ๋งมากเพื่อนรัก กูนึกแล้วว่ามึงต้องทำได้ ไป เราไปต่อกันเลย "
เรา 2 คนรีบวิ่งต่อไปอย่างช้าๆ สลับกับหมอบ และคลาน ตามเสียงปืน น่าแปลกที่อาการเจ็บข้อตีนของผมทุเลาลงไปมาก คงเป็นเพราะผมมีกำลังใจที่เข้มแข็งขึ้นจากคำพูดของไอ้อ๊อต ผมวิ่งไปเรื่อยๆ นานเป็นชั่วโมง สุดท้ายก็ลอดลวดหนาม (คราวนี้เป็นเชือกขึง) และในที่สุดก็มาถึง " แนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้าย " (มีป้ายติดอยู่) รวมเวลาที่วิ่งมา 2 ชั่วโมง เห่าฟ้าทุกคนหยุดวิ่ง และหันซ้ายหันขวาไม่รู้จะทำอะไรต่อดี ครูพิชิตก็หายไปไหนก็ไม่รู้ ทุกคนต่างก็พูดกันเองว่า ทำอะไรต่อไปวะ
" ครูพิชิตหายไปไหนวะ แล้วต้องทำอะไรต่อวะเนี่ย "
ไอ้ เด่นพูดขึ้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไปเหมือนกัน ขณะที่ทุกคนกำลังหันรีหันขวางอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังมาจากหอบังคับการว่า
" ระวัง ระวัง ข้าศึกกำลังจะบุกมาแล้ว เห่าฟ้า เห่าฟ้า เตรียมเข้าตะลุมบอน หัวหน้าหมู่ ขว้างระเบิดนำร่องทำลายข้าศึกแนวหน้าไปก่อน ปฏิบัติ ปฏิบัติ "
ไอ้เด่นได้ยินดังนั้นก็ทำตามที่ได้เตี๊ยมกับครูพิชิตไว้แล้ว มันตะโกนดังลั่น
" ทุกคนหมอบ กูจะขว้างระเบิด ! "
ผม และทุกคนตกใจ รีบหมอบลงไปโดยเร็ว พอทุกคนหมอบและก้มหัวลงต่ำหมดแล้ว ก็สังเกตุเห็นว่า ข้างหน้ามีข้าศึกกำลังเดินขบวนมากันเยอะมาก เดินมาเป็นแถวรูปหน้ากระดาน ทุกคนถือปืนในท่ายิงใต้แขน ต่างก็กำลังเดินจ้ำเข้ามาหาพวกเรา ไอ้เด่นก็หมอบลงเช่นกันแล้วทำท่าดึงสลักระเบิดออก แล้วจึงทำท่าขว้างระเบิดออกไปทันที แล้วก็แหกปากลั่น
" ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ! "
ผม และทุกคนก็ช่วยกันร้องตะโกนว่า ตูมๆๆๆๆๆ เหมือนกับไอ้เด่น และสังเกตุว่า ข้าศึกทุกคนรีบหมอบลงอย่างรวดเร็ว จนแถวของข้าศึกหายวับไปเหลือแต่สีเขียวๆ ของเสื้อผ้าเท่านั้น ไม่นานไอ้เด่นก็ตะโกนว่า
" ลุก ! "
ผมรีบลุกขึ้น ข้าศึกก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ผมมองไปก็เห็นปิงปิงและบุ๋งบิ๋งยืนอยู่ก็สะกิดให้ไอ้อ๊อตดูแล้วพูดว่า
" แนะ มึงดูสิ กูต้องตะลุมบอนกับปิงปิงกับบุ๋งบิ๋งว่ะ มันส์แน่ๆ "
" เออ กูก็ว่างั้น เตรียมมันส์กันได้แล้วมึง "
ไอ้อ๊อตพูดยิ้มๆ ไอ้เด่นไม่รอช้ารีบตะโกนว่า
" ลุยยยยยยยยยยยยยยยยย เลย ! "

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่  20
สิ้นเสียงของไอ้เด่น    เห่าฟ้าทุกคนก็วิ่งมาเข้าแถวเรียงกัน เป็นแถวหน้ากระดาน   ทุกคนต่างก็ถือปืนในท่ายิงใต้แขน    และร้อง  “  ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  “  ไป ด้วย   เพราะว่าพวกเราไม่มีกระสุนจริงๆ  กัน  ก็เลยต้องใช้กระสุนปากแทน   ข้าศึกก็ค่อยๆ  เดินเข้ามาหาพวกเราอย่างช้าๆ    และทำท่ายิงกราดไปเรื่อยๆ   ด้วย   ไม่นานพวกเราก็เดินมาประจัญหน้ากับข้าศึกพอดี     ผมเห็นปิงปิงกับบุ๋งบิ๋งยืนถือปืนทำหน้ามุ่ยอยู่ไกลๆ    แต่มัน  2 คนไม่เห็นผม   ไม่นานทุกคนก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังมาจากหอบังคับการว่า
“  ยึดที่หมายได้แล้ว   ข้าศึกร่นถอย  ร่นถอย  “
ข้าศึกทุกคนค่อยๆ   หันหลังกลับแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ      ผมมองตามอย่างงงๆ  แล้วหันมาพูดกับไอ้อ๊อตว่า
“  อะไรวะ  ยึดได้แล้วเหรอ   ยังไม่ทันได้เข้าตะลุมบอนกับมันเลย  “
ไอ้อ๊อตมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม
“    แค่นี้ก็พอแล้วสัด    นี่เป็นแค่การฝึกเท่านั้นนะ  อย่าลืมสิวะ  “
“  ยัง ไม่มันส์เลยสัด  แม่ง   กูนึกว่าจะได้เข้าไปยิงตะลุมบอนใกล้ๆ กับพวกแม่งซะหน่อย   จะได้ถือโอกาสแอบจับตูดจับควยตอนมันเผลอซะเลย    ข้าศึกแม่งมีแต่หล่อๆ ทั้งนั้น  มึงก็เห็นใช่มั๊ย     แต่ละคนหล่อและก็ล่ำชิบหาย   กูชอบผู้ชายแบบนั้นมากเลยว่ะ   หน้าไทยๆ  กล้ามเยอะๆ  แบบนั้น    อูยยยย  นึกแล้วเสียวควย  “
“  พอไอ้สัตว์พอ   มึงนี่ทะลึ่งจริงๆ   เขาให้ไปตะลุมบอนกับข้าศึก  เสือกจะไปจับโน่นจับนี่ของข้าศึก   ไอ้-เอี้ย-  “
“  แล้วมึงไม่ชอบเหรอ  “
“  ชอบสิวะ  ถามได้  “
“  เออ   เหมือนกันเลย  เสียดายไม่ได้รบแบบถึงเนื้อถึงตัวกับพวกมัน   ทำได้แค่เดินเข้าไปประจัญหน้ากับพวกมันเอง    โคตรเสียดายเลย “
ไอ้อ๊อตมองตาผม   แล้วพูดเสียงหนักแน่น
“  กู ว่านะ  ถ้ามึงอยากรบแบบถึงเนื้อถึงตัวจริงๆ  อย่างที่มึงพูดเมื่อกี้    รอ ตอนปี  4 ละกัน  มึงจะได้ฝึกการตีโฉบฉวย  อันนั้นจะสมจริงขึ้นมาอีกหน่อย   มึงจะได้มีโอกาสรบแบบใกล้ชิดกับข้าศึกหล่อๆ  แบบที่มึงชอบแน่นอน    รบเลย ตัวต่อตัวเลยนะโว้ย  กลางวันตีกับข้าศึก  ส่วนกลางคืนก็นอนตีไข่กันเอง  “
ผมฟังแล้วก็หัวเราะลั่น
“  55555   ทะลึ่งจริงๆ มึงเนี่ย  พูดซะตรงเลย  แล้วมึงไปรู้เรื่องนี้มาได้ไง  “
“  พอดีกูรู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนจบปี  5 แล้ว  เคยคุยกับเขาเรื่องนี้  ก็เลยพอรู้มาบ้างว่าเขาฝึกอะไรกันบ้างตอนเข้าค่าย  “
“  พูดเหมือนมึงจะเรียนปี  4 ต่ออย่างนั้นแหละ  มึงจะเรียนเหรอวะ  “
“  กู น่ะไม่เรียนหรอก  กูเคยบอกมึงแล้วไง  ว่ากูเรียนไม่ไหวแน่ๆ  กูทนลำบากไม่ ไหวหรอก  กูขอแค่เรียนจบปี  3 ก็พอแล้ว  ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร   ที่กูพูดก็เผื่อว่ามึงอยากจะเรียนต่อ  “
“  โอ๊ย  กูก็ไม่เรียนต่อ หรอก  แค่ปี  3 นี่กูก็จะเอาตัวไม่รอดแล้ว  ลำบาก-เอี้ย-ๆ  ทรมานสุดๆ  กูเองก็ขอแค่จบปี  3 ก็พอแล้ว  ประสบการณ์แบบนี้  ขอแค่ครั้งเดียวในชีวิตก็พอแล้วว่ะ  “
“  ก็แล้วแต่มึงนะ  “   
ผมยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ  ก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“  ภารกิจเสร็จสิ้น  เห่าฟ้า    เห่าฟ้า   กลับที่รวมพลได้  ปฏิบัติ  “
ตอน นี้ครูฝึกคนใหม่ก็เดินออกมาจากไหนก็ไม่รู้   มาสั่งให้พวกเราเข้าแถว  และให้หันหลังเดินกลับไปตามทางเดิม   ครูฝึกเดินปิดท้ายแถวอยู่หลังสุด       ผมและเพื่อนๆ  เดินกลับอย่างอ่อนระโหยโรยแรง   มันเหนื่อยจริงๆ   เหนื่อยแบบสุดๆ  ไปเลย      แต่โชคดีที่แผลที่ข้อตีนไม่เจ็บมากไปกว่า นี้    คงเป็นเพราะผิวด้านไปเรียบร้อยแล้วเลยไม่รู้สึกเจ็บ   เดินไปได้ครึ่งทาง  แถวก็เริ่มเละ  ทุกคนเริ่มเดินกันตุปัดตุเป๋มากขึ้น เพราะความเหนื่อยล้า   ไอ้อ๊อตซึ่งเดินอยู่ข้างหน้าผม  ก็เดินช้าลงเพราะว่าเหนื่อย     จนกลายมาเป็นเดินเคียงข้างผมแล้วในตอนนี้   มันหันมาพูดกับผมเบาๆ   พร้อมกับหอบไปด้วย
“  เออ  ไอ้หนุ่ม    กูก็ลืมไป  กูขอโทษนะที่เผลอขึ้นมึงกูกับมึงมานานเลย   กูลืมไปว่ามึงไม่ชอบคนที่ใช้คำหยาบ  “
“  เฮ้ย  ไม่เป็นไรเว้ย    กูเองก็ลืมตัวพูดคำหยาบกับมึงมานานเหมือนกัน   กูไม่ถือหรอก  เราเพื่อนกัน   กูเลิกกระดากปากแล้ว  พูดหยาบได้   กูไม่อยากจะใช้สรรพนามแบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีกแล้ว  กูอยากจะพูดภาษาเดียว กับมึง  และกับเพื่อนในกลุ่ม  ในเมื่อเพื่อนในกลุ่มเราพูดกูมึงกันหมด  กูก็ ขอพูดด้วยคนสิวะ   แล้วกูว่า พูดแบบนี้มันดูจริงใจกว่าพูดแบบเก่าตั้งเยอะ  “
ไอ้อ๊อตยิ้มด้วยความดีใจที่ผมไม่ถือโทษโกรธมัน      ผมมองหน้ามันแล้วก็พูดต่อ
“  เออ  ไอ้อ๊อต  กูถามหน่อย  ตกลงมึงเชื่อแล้วใช่มั๊ยว่า  กูมีควย  “
“  กูเชื่อแล้ว    เพราะมึงแสดงให้กูเห็นว่ามึงมีความเข้มแข็งและอดทนตามวิสัยของลูกผู้ชาย   มึงก็ย่อมจะต้องมีควยแน่ๆ  “
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี     ผมพูดต่อ
“    แล้วมึงสนใจควยกูมั๊ยล่ะ  “      
ไอ้อ๊อตมองหน้าผมด้วยสายตาแปลกๆ     ก่อนจะตอบไม่เต็มเสียง
“  สนใจสิวะ     ถามทำ-เอี้ย-ไร  “
“   เปล่าว่ะ   อย่าสนใจคำพูดกูเลย    “
ผม พูดทิ้งไว้แค่นั้น    แล้วก็รีบก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป    ใจจริงผมอยากจะมี อะไรกับไอ้อ๊อตมาตั้งนานแล้ว   แต่ยังไม่มีโอกาส    ถึงเราจะเป็นเหมือนๆ  กันแต่ผมก็ไม่อยากทำอะไรกับมัน เพราะเราทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมานาน    ถ้ามันไม่เอ่ยปากขอ   ผมก็ไม่อาจจะทำมันได้    แต่ถ้ามันขอผมแค่คำเดียว  ผมยินดีจะสนองตอบอย่าง เต็มที่เลย    แต่วันนั้นยังไม่มาถึง   ผมก็เลยยังไม่ได้มีอะไรกับมันซักที   นี่ก็ลองถามลองเชิงมันดูเล่นๆ    มันก็มีทีท่าว่าสนใจควยผมเหมือนกัน   อย่างนี้ก็มีลุ้นนะเนี่ย !   เราไม่ได้คุยกันอีกเพราะยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อย   ไม่มีแรงจะคุยแล้ว     เพื่อนๆ  คนอื่นก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน   ไม่มีใครพูดกันเลย   ตั้งหน้าตั้งตาเดินอย่างเดียว   ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก   ผมรู้สึกคอแห้งมากก็เลยเปิดฝากระติกน้ำแล้วกระดกน้ำเข้าปากเป็นครั้ง ที่  3   ของวันนี้  น้ำในกระติกก็เหลืออีกไม่มากแล้ว   ต้องประหยัดหน่อย    ดื่มน้ำเสร็จก็เดินต่อไปเรื่อยๆ     ไม่นานเห่าฟ้าทุกคนก็เดินมาถึงที่รวมพลด้วยความเหนื่อยอ่อน     มีพวกหมวดอื่นที่ฝึกเสร็จก่อนมานั่งรออยู่ตั้งนานแล้ว    ครูฝึกให้นั่งพัก แป๊ปนึงแล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว     มื้อกลางวันนี้ก็เหมือนเดิม  ข้าวแข็งๆ  กับข้าว-เอี้ย-ๆ  ใส่มาในจานหลุมให้ เสร็จ   แต่มื้อนี้มีกล้วยบวชชีเป็นของหวานด้วย  (คงเหลือจากเมื่อวาน)  ผมกินข้าวไป นิดเดียวเพราะเหนื่อยจนกินไม่ลง   แถมข้าวยังแข็งมากๆ   แต่กินกล้วยบวชชีจนหมด อร่อยดี   เห็นไอ้อ๊อตไม่กินกล้วยก็เลยขอกินกล้วยมัน  มันก็ให้  ผมก็เลยกินกล้วยของ ไอ้อ๊อตจนหมดเหมือนกัน  ได้กินกล้วยอร่อยๆ แล้วทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น
กิน เสร็จแล้วพวกเราไปใช้บริการที่  “  หน่วยบริการความสดชื่น  “  กันอีก ครั้ง  ผมซื้อน้ำอัดลมมาดื่มขวดนึง   ดื่มแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น    ระหว่างที่ดื่มก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ  ไป เรื่อยๆ   ตอนนี้ทุกคนดูมีความสุขขึ้นมาก  คงจะดีใจที่ผ่านการฝึกที่ยากลำบากที่สุดไป แล้ว   การฝึกที่เหลือก็สบายแล้ว
ตอนบ่าย ครูฝึกเรียกรวมอีกครั้งเพื่อทำการฝึก  “  ตั้งรับ  “   มีครูฝึกคนใหม่ที่ไม่ใช่ครูพิชิตมาบรรยายทฤษฎีก่อน  คนนี้พูดไม่ค่อยรู้ เรื่อง  แต่จากที่ฟังๆ  มาผมก็พอจะเข้าใจว่า  การตั้งรับนั้นมีความมุ่งหมาย เพื่อออมกำลังเอาไว้ก่อน  และล่อข้าศึกเข้ามายังพื้นที่ที่เราต้องการ  และ เพื่อรอโอกาสกลับมาเป็นฝ่ายรุก  การตั้งรับนี้เป็นการตั้งรับในพื้นที่  คือ เป็นการยึดและรักษาภูมิประเทศที่ใดที่หนึ่งเอาไว้  พื้นที่ในการตั้งรับจะ มี  2 ส่วน  คือ  “  พื้นที่ส่วนระวังป้องกัน  “  เป็นพื้นที่ที่ผู้ที่ได้รับมอบ หมายให้เป็นยามจะต้องทำการระวังป้องกันในพื้นที่ส่วนนี้   และ  “ พื้นที่การรบ  “   พื้นที่การรบนั้นห้ามข้าศึกล่วงล้ำมาเด็ดขาด    ซึ่งพื้นที่การรบก็แบ่งออก เป็น 2 ส่วนคือ   “  พื้นที่การตั้งรับในแนวหน้า  “   อยู่ด้านหน้า  เป็นส่วนที่เราต้องไม่ให้ข้าศึกเข้ามาได้  และ  “  พื้นที่ กองหนุน  “  เป็นส่วนที่เตรียมเอาไว้กรณีที่พื้นที่การตั้งรับไม่สามารถต้าน ทานกำลังของข้าศึกได้  ในการตั้งรับเราต้องดัดแปลงภูมิประเทศให้เหมาะสมโดย การทำ  หลุมบุคคลคู่  หลุมบุคคลเดี่ยว  หรือคูยิง  แล้วแต่สภาพภูมิประเทศ นั้นๆ  พอการบรรยายจบลงก็ได้เวลาการฝึกปฏิบัติ   ครูฝึกให้ทุกคนไปวางตัวยังหลุมบุคคลคู่    เรียกเป็นล็อคๆ  ล็อคของผมมี  4 คน (ปกติหลุมบุคคลคู่ก็ต้องนั่งได้แค่  2 คน   แต่นักศึกษาวิชาทหารมีจำนวนมาก  ก็เลยให้นั่งกัน  4 คนเลย)     แบ่งเป็น 2 คู่   คู่แรกมีผมกับเงา (คู่ฝึกอีกหมู่)    คู่ที่  2 มีไอ้แมนกับเงา   ผมกับเงาได้เป็นยามระวังเหตุ  เรา 2 คนก็เลยต้องออกไปนั่งเงียบๆ หลังพุ่มไม้ที่สมมุติให้เป็นพื้นที่ส่วนระวังป้องกัน  ส่วนไอ้แมนกับเงาก็ นั่งอยู่ในหลุมบุคคลคู่เงียบๆ   บริเวณพื้นที่การตั้งรับในแนวหน้า  ส่วนครูฝึกและไอ้เด่นหัวหน้าหมู่นั่ง อยู่บริเวณพื้นที่กองหนุน   ระหว่างนั้นไอ้เด่นจะพูดสั่งการใส่โทรโข่งไปเรื่อยๆ   โดยสมมุติสถานการณ์ให้แก้ปัญหา   ตามคำสั่งที่ได้รับจากครูฝึก  เช่น  เกิดอุบัติเหตุต้องปฐมพยาบาลด้วย  ข้า ศึกบุกมาให้ยามทำหน้าที่ระวังป้องกันด้วย  ฯลฯ   ผมกับเงาก็นั่งฟังไอ้เด่นพูดไปเรื่อยๆ    ตอนนี้เรา 2 คนนั่งชิดกันมาก   ผมได้กลิ่นเนื้อหนุ่มของเงาเต็มๆ  มันหอมมากจริงๆ    เงาเป็นผู้ชายตัว เล็ก   หัวเกรียน  หน้าดำๆ  ขี้ก้าง  แต่ก็ดูดีมีเสน่ห์แบบชายไทยแท้    หน้าของเงา อยู่ใกล้ซะจนผมอยากจะหอมแก้มซักฟอด   แต่ก็ต้องอดใจไว้   เงานั่งเฉยๆ  อยู่นานก็พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า
“  เบื่อว่ะ  ตั้งรับ เนี่ย  ไม่มันส์เหมือนเข้าตีเลย  ว่าป่ะ  กูว่าเข้าตีสนุกกว่าเยอะ  ได้วิ่ง ได้หมอบได้คลาน  สนุกกว่าเยอะ   กูชอบบุกมากกว่ามานั่งรอข้าสึกแบบนี้ว่ะ  แม่งสะใจดี  ยิงกัน ปังๆๆๆๆๆ  ตูมๆๆๆ  5555   มันส์   สนุกดี   “
“  กูก็ว่างั้นเหมือนกัน  “
ผม ตอบสั้นๆ   คิดในใจว่าเงาเป็นผุ้ชายที่แมนมากเลย   ท่าทางจะชอบการฝึกครั้งนี้มากเลย   ดูท่าทางเขาก็ไม่โทรมมากด้วย    ร่างกายเขาคงจะแข็งแรงพอสมควรและเขาก็คงชอบ สนุกแบบนี้อยู่แล้วด้วย  เขาจึงฝึกด้วยความสนุก   ไม่ใช่จำใจฝึกแบบผม
ใช่ แล้ว  ถ้าเราฝึกด้วยความสนุก  เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย  ที่ผ่านมาผมฝึกแบบ จำใจต้องฝึก  ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่สนุกเลย  เหมือนโดนยัดเยียดให้ฝึก  ร่าง กายก็เลยไม่ไหวไปจริงๆ  ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น   ผมคงต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ซะแล้ว  คงต้องฝึกให้สนุก   แล้วผมจะสนุกไปจริงๆ  และไม่รู้สึกเหนื่อยมากแบบที่ผ่านมา
เอาละ  ต่อไปผมจะฝึกให้สนุกก็แล้วกัน
ผม กับเงานั่งต่อไปอีกซักพัก  ก็ปิดสถานการณ์   เรา 2 คนก็เลยเดินกลับไปรวมกับเพื่อนอีก 2 คนที่หลุมบุคคลคู่  หลังจากนั้นเราก็สลับตำแหน่งกันบ้าง  ผมกับเงานั่งใน หลุมบุคคลคู่  ส่วนไอ้แมนกับเงาไปเป็นยามบ้าง   ก็นั่งเฉยๆ  ไม่ได้ทำอะไรเหมือนเดิม   ไม่นานก็ปิดสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง  ครูฝึกเรียกรวมพล   ตอนนี้เย็นมากแล้ว  
“  พันไหน  “   ครูฝึกตะโกนถาม
“  32 !  “   ทุกคนตะโกนตอบพร้อมกัน
“  ไม่ได้ยิน !  พันไหน  !  “
“   32 !  “   ทุกคนตะโกนเสียงดังกว่าเดิม  
“    32   นั่ง !  “
ครู ฝึกให้พวกเรานั่งพักซักพัก  แล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว  เตรียมตัวฝึกต่อใน ตอนกลางคืน  พอผมกินข้าวเสร็จ  ก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ  ไปเรื่อยๆ  จนหมดเวลา พัก   ตอนนี้ทุกคนหายเหนื่อยกันแล้ว    ต่างก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น เพราะได้นั่งพักนานตอนที่ฝึกตั้งรับ
ตกกลางคืน    เราฝึกวางตัวในเวลา กลางคืน   ผม  เงา  ไอ้แมนและเงาของมัน  เดินกลับไปนั่งที่หลุมเดิม    ครูฝึกสั่งให้ พวกเรานั่งเงียบ ๆ    เราก็เลยนั่งเงียบกันอยู่อย่างนั้นนานมากๆ   นานจนคิดว่าครูฝึกลืมไปแล้วหรือเปล่า  ฟ้ามืดแล้ว     ทุกคนในหมวดผมนั่งกันเงียบกริบ   ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย  จนได้เวลาสมควร  ครูฝึกก็เป่านกหวีดเป็นสัญญาณให้ ปิดสถานการณ์   แล้วให้เดินเงียบๆ  มายังที่รวมพล   ตอนกลางคืนนี้ครูฝึกสั่งให้พูดกันเบาๆ  เดินกันเงียบๆ   เพราะข้าศึกจะได้ไม่รู้ตัวว่าเราวางตัวอยู่  เสร็จแล้วจึงยุติการฝึกตั้ง รับ    ให้พวกเราเดินเรียงแถวออกจากป่า  กลับที่พักได้     ผมและเพื่อนๆ  รู้สึกดีใจมากที่จะได้ออกจากป่าซะทีหลังจากทนลำบากในป่ามา นาน   ต่างก็รีบเดินจ้ำเอาๆ  เพื่อให้ถึงที่พักเร็วๆ  ขากลับนี้มีแต่แสงจันทร์นำ ทางไม่มีคนส่องไฟฉายให้เหมือนตอนขามา  แต่ก็พอมองเห็น    หมวดของผมรีบเดิน กันมากจนครูฝึกต้องบอกให้หยุดก่อน  ตรวจดูแล้วรู้สึกว่าจะมีคนหลงกัน ด้วย    ก็เลยต้องยืนรอหมวดอื่นๆ   ก่อนและตะโกนเรียกกันอยู่ตั้งนาน  กว่าหมวดอื่นจะเดินมาถึง    แสดงว่าหมวด ของผมเดินเร็วไปจริงๆ  ฟิตมากๆ  เลย  เดินเร็วจนหมวดอื่นตามไม่ทัน !    พอหมวด 1 และหมวด 3 เดินมาถึงแล้ว  ครูฝึกก็สั่งให้พวกเราเดินต่อไป   แต่ก็ไม่ลืมกำชับว่า
“  หมวด  2 มึงไม่ต้องรีบเดินขนาดนั้นก็ได้   ที่พักไม่หายไปไหนหรอก   รอเพื่อนมั่ง  ไอ้-เอี้ย- !  “
ผม และเพื่อนๆ  ในหมวด ก็เลยพยายามเดินให้ช้าลง     ผมหายเจ็บข้อตีนแล้ว  แถมกำลังวังชาก็กลับมาเต็มที่เหมือนเดิม  รู้สึกปลอด โปร่งโล่งใจขึ้นมากที่จะได้กลับที่พัก   ไอ้เทพที่ตอนนี้เดินข้างๆ  ผม  พูดขึ้นมาว่า
“  กูจะได้กลับไปนอนที่เต็นท์แล้ว  ดีใจชิบหาย   นอนในป่าแม่งไม่สบายเลย  สู้นอนเต็นท์ก็ไม่ได้  มึงว่ามั๊ย  “
ไอ้เทพหันมาถามผม  ผมพยักหน้า  ไอ้อ๊อตพูดขึ้นมาบ้างว่า
“  คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วสินะ  ที่ต้องนอนที่เขาชนไก่  พรุ่งนี้กูก็จะได้กลับบ้านแล้ว  เย้  “
“  เออ ใช่  คืนสุดท้ายแล้ว   คืนพรุ่งนี้กูก็ไม่ต้องมานอนกลางดิน  กินกลางทรายแบบนี้อีกแล้ว  กูจะได้นอน บนเตียงนุ่มๆ  ได้อาบน้ำเย็นๆ   ได้แดกอาหารฝรั่งหรูๆ   ไอ้-เอี้ย-เอ๊ย  พรุ่งนี้กูก็จะเป็นอิสระแล้ว  “
ไอ้เทพพูดยาวเหยียด  ผมสอดขึ้นมาว่า
“  หรู จังนะมึง  เออ    กูเองก็อยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว  มาที่นี่ร้อนก็ ร้อน  เหนื่อยก็เหนื่อย   สกปรกด้วย  วันๆ  คลุกดินคลุกทรายตลอด    ไม่ได้ลิ้มรสความสบายบ้าง เลย    เนี่ยพรุ่งนี้พอกูกลับไปถึงบ้านนะ   กูจะนอนแม่ง 2 วัน  2   คืนเลย    ให้สมกับที่กูเหนื่อยมานาน “
ไอ้อ๊อตฟังแล้วก็ตบไหล่ผมแรงๆ   ก่อนจะพูดกับผมและไอ้เทพว่า
“  เอา น่า   อดทนอีกนิดนึงเว้ยเพื่อนๆ   เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้พวกเราก็สบายแล้วว่ะ   การฝึกใกล้จะจบเต็มทีแล้ว  ว่าแต่คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายทั้งที    กูกับไอ้ เทพก็เลยคิดที่จะฉลองกันหน่อย   ไอ้หนุ่ม  มึงจะมาร่วมฉลองกับพวกกูด้วยมั๊ยวะ  “
“  ฉลองอะไรของพวกมึงวะ   แล้วฉลองที่ไหน   “
ผมถามด้วยความสงสัย   ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมองตากันแล้วก็ยิ้ม  
“  เดี๋ยวมึงก็รู้เอง   ว่าแต่มึงจะฉลองกับกูมั๊ยล่ะ  “
ไอ้เทพถาม   ผมยิ้มแล้วตบหลังไอ้เทพป้าบๆ   ก่อนจะตอบมัน
“  เอาไงเอากันเพื่อน    ฉลองก็ฉลอง   กูก็ชอบเรื่องสนุกๆ  อยู่แล้ว  “
“  ได้เลยเพื่อน  ตกลงเราจะฉลองกัน  3 คน นะ    มึงสนุกแน่ๆ  งานฉลองนี้คงไม่สนุก  ถ้าขาดมึง  “
ไอ้ เทพพูดยิ้มๆ   สายตาของมันมีเลศนัยบางอย่าง  แต่ผมไม่ทันสังเกตุ   ส่วนไอ้อ๊อตก็มองหน้าไอ้เทพแล้วแอบอมยิ้ม     เรา 3 คนตั้งหน้าตั้งตาเดินกันต่อไป   ผมคุยกับเพื่อนๆ  ไปตลอดทาง   ไอ้เด่น  ไอ้ไก่  และไอ้แมนก็เดินช้าลงและเกาะกลุ่มกันคุยกับผมเสียงดัง   ตอนนี้ไม่มีใครเดินเป็นแถวอีกแล้ว   ครูฝึกก็เดินรั้งท้ายอยู่ทำให้ไม่มีเวลาสนใจระเบียบแถว   ก็เลยปล่อยให้นักศึกษาวิชาทหารเดินกันตามสบาย     ผมคุยเรื่องทะลึ่งตึงตังกับเพื่อนๆ  ไปเรื่อยๆ  และหัวเราะกันสนุกสนาน     เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ     เราเดินกันประมาณ  2 ชั่วโมง    ไม่นานก็กลับมาถึงที่พัก
“   ถึงที่พักแล้วเว้ย  พวกเราออกจากป่าแล้ว  กลับมาถึงที่พักแล้วจริงๆ    นั่นไงเต็นท์ของพวกเรา  พวกมึงดูสิ  “
ผม พูดกับเพื่อนๆ  ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  เพื่อนๆ  ทุกคนมองไปที่เต็นท์ของตน เองด้วยความรู้สึกดีใจแบบสุดๆ  ในที่สุด  เราก็กลับมาถึงที่พักอันแสนสุขของ เราซะที  หลังจากที่ไปบุกป่าฝ่าดงมา  2  วันเต็มๆ  
คราวนี้ก็เหลืออีก  1 วันเท่านั้น ………
ลาก่อน !   ป่าที่ผมได้อาศัยฝึกมาตลอด  2 วัน  และนอนมา  1   คืน  ไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้กลับมาที่ป่านี้อีกหรือเปล่า
………………………………

หนุ่มบ้านนา

“  พวกมึงจะอาบน้ำกันเหรอ  “
ยามถาม  ผมพยักหน้าแล้วพูดว่า
“  เออ  ขอพวกกูอาบกันหน่อยเถอะ  นิดเดียวเท่านั้นแหละ  เหนียวตัวชิบหาย    พวกกูจะรีบอาบรีบไปว่ะ  “
ยาม ทำท่าเหมือนไม่อยากให้อาบ  เพราะครูฝึกคงจะสั่งว่าห้ามไม่ให้นักศึกษาวิชา ทหารมาอาบน้ำยามวิกาลแบบนี้  เพื่อตัดปัญหา  ผมก็เลยควักแบงค์  20  ที่ เตรียมมายื่นให้มัน  แล้วบอกว่า
“  แค่นี้คงอาบได้แล้วนะไอ้สัตว์  อย่าบอกใครล่ะมึง  “
ยาม รับเงินมาแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก  ผมกับเพื่อนๆ  รีบเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำ ล้างตูดล้างควยควยจนสะอาด  อากาศตอนดึกนี่หนาวเหมือนกัน  เรายังคงนุ่ง กางเกงในอาบกันเหมือนเดิม  ใจจริงผม  ไอ้อ๊อต  และไอ้เทพอยากจะแก้ผ้าอาบน้ำ แบบเดียวกับที่พวกทหารทำ  มันดูแมนๆ  ดี  แต่ก็ไม่กล้าเพราะเห็นยามกำลังยืน มองอยู่  พอเราอาบน้ำเสร็จก็เดินกอดคอกลับมาที่เต็นท์  พอถึงเต็นท์ผม  ผมก็ พูดว่า
“  ฝันดี  เพื่อนรักทั้งสอง  แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ สัด “
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพตอบเกือบพร้อมกัน
“  ฝันดี  เพื่อนหนุ่ม  เจอกันพรุ่งนี้โว้ย  “
ผม ยิ้มแล้วมุดเข้าไปในเต็นท์  ภายในเต็นท์มีกลิ่นคาวน้ำกามของเพื่อนทั้ง 2 คนคละคลุ้ง  แต่ผมก็ไม่นึกรังเกียจ  รีบล้มตัวลงนอนแผ่อย่างสบายใจ  สบายชิ บหายเลยได้นอนคนเดียวแบบนี้  ผมคิดแล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาหนุนแล้วหยิบหมวกมาก อด  คืนนี้เป็นคืนที่ผมประทับใจจริงๆ  ได้สนุกเสียวแบบสุดๆ กับเพื่อนรักทั้งคู่  แล้วยังได้บอกความในใจของผมออกไปจนหมดด้วย  ถึงแม้จะ รู้สึกละอายใจนิดหน่อยเพราะผมเคยตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนมาเข้าค่ายแล้วว่า  มา ที่นี่จะมาฝึกแบบแมนๆ  อย่างเดียว  ไม่ได้ต้องการจะมามีเซ็กส์  แต่ก็อดใจ ไม่ไหว  มีเซ็กส์ไปจนได้  แต่ก็ช่างเถอะ  อย่างไรมันก็เสียวดี  ผมนอนยิ้ม อย่างมีความสุข  คิดในใจว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่ประทับอยู่ในความทรงจำของผมไป ตลอดกาล  ไม่มีวันลบเลือนเลย  คืนนี้นอนเขาชนไก่เป็นคืนสุดท้าย  พรุ่งนี้ก็ ฝึกวันสุดท้ายแล้วด้วย  ไม่รู้จะต้องเจออะไรอีกบ้าง  แต่ผมก็สู้ตาย  จะฝึก แบบเต็มที่และจะสนุกไปกับมันด้วย  ผมนอนคิดไปยิ้มไปจนหลับสนิทไอ้อ๊อตตอบ แล้วนอนกอดไอ้เทพต่อ  ไอ้เทพก็กอดตอบ  ไม่นานทั้งคู่ก็หลับไป

หนุ่มบ้านนา

ที่เต็นท์ของไอ้เทพ  และไอ้อ๊อต   ไอ้อ๊อตยังไม่หลับ  มันพลิกตัวไปมาหลายครั้ง  สุดท้ายก็พลิกไปกอดไอ้อ๊อตเอาไว้แน่น  แล้วพูดเบาๆ  
“  ไอ้เทพ  ถามไรหน่อยดิ  “
“  มีไร  “     ไอ้เทพตอบเบาๆ  ยังหลับตาอยู่  มันคงง่วงแล้ว  
“  ตกลงมึงเป็นแบบไหนกันแน่  “
ไอ้เทพนิ่งไปครู่หนึ่ง  
“  มึงถามกูทำไม  “
“  มึง ลืมไปแล้วเหรอ  คืนนั้นมึงทำทีจะเอาตูดกู  แต่กูรู้สึกว่ามึงไม่ค่อยอยากจะ เอาตูดกูเท่าไหร่  แค่เอาหัวควยถูๆ ไถๆ  ตรงรูตูดกูนิดเดียวเอง  มึงอ้างว่าไม่อยากทำกูเจ็บ  กูก็ตะหงิดๆ  ว่า มันผิดวิสัยคนเป็นรุก  คนเป็นรุกแม่งไม่ทำแบบนี้หรอกมึงก็รู้ใช่มั๊ย  มัน ต้องเอาตูดแบบสุดๆ  ไปแล้ว  แล้วคืนนี้มึงก็ให้ไอ้หนุ่มเอาตูดเฉย เลย  เหมือนกับกู  กูเลยสงสัยว่า มึงเป็นรุกหรือรับกันแน่วะเพื่อน  “
ไอ้เทพนิ่งไปเป็นนาน  สุดท้ายก็พูดว่า
“  โอ เค  กูไม่ปิดบังมึงอีกแล้ว  กูก็เป็นรับเหมือนมึงน่ะแหละ  คืนนั้นกูแค่อยาก จะลองรุกดูบ้าง  แต่มันไม่มีความรู้สึกอยากทำจริงๆ ว่ะ  กลัวควยเปื้อนขี้  แล้วใจจริงกูก็เอาตูดมึงไม่ลงด้วย  กูก็เลยแค่เอา ควยถูๆ  ข้างนอกตูดมึงก็แค่นั้นเอง  หึ หึ  เข้าใจแล้วนะ  “
ไอ้อ๊อตยิ้มทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่  แล้วพูดต่อ  
“  แล้ว เรา 2 คนก็เป็นขั้วเดียวกันจนได้  555  ขอบใจที่พูดความจริงกับกูนะ  เพื่อน รัก  ต่อไปก็ไม่ต้องมาทำเป็นจะมาเอาตูดกูอีกแล้วนะ  เราพวกเดียวกันแล้ว  “
ไอ้เทพหัวเราะก่อนจะตอบไป
“  เออ  พวกเดียวกันก็พวกเดียวกัน  กูนอนล่ะ  เพลีย  พรุ่งนี้ปลุกกูด้วยนะ  “
“  โอเค  “

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่  22
ผมรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เช้ามืด  รีบลุกออกจากเต็นท์เดินไปที่ โรงอาบน้ำเพื่อแปรงฟันและล้างหน้าที่ยังดำจากสีพรางหน้าอยู่  ผมพยายามล้าง ด้วยน้ำเปล่า  ล้างตั้งนานก็ออกไม่หมดซะที  เพื่อนนักศึกษาวิชาทหารที่ยืน ล้างหน้าอยู่ข้างๆ  ก็เลยให้ผมยืมโฟมล้างหน้า  ผมขอบใจเขาแล้วก็ล้างหน้า ด้วยโฟมไม่กี่ครั้งหน้าก็หายดำ  แล้วผมก็รีบเดินกลับมาที่เต็นท์รีบเก็บของ ลงเป้สนามจนหมด  ก่อนจะออกมาทักทายเพื่อนๆ นอกเต็นท์  วันนี้ทุกคนดูมีความสุขมากเพราะจะได้กลับบ้านกันแล้ว  หลังจาก ที่ทนทรมานกันมาถึง 4 วันเต็มๆ
ตี 5  ครูฝึกเป่านกหวีดเรียกให้ตื่น  แล้วพอตี 5 15 นาทีก็เป่านกหวีดอีกครั้งเพื่อเรียกรวม  ทุกคนรีบวิ่งมาเข้าแถวทันทีพร้อม กับแบกเป้สนามมาด้วย  เสร็จแล้วครูฝึกก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว  ผมซื้อหมูปิ้ง ข้าวเหนียวกินนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยหิวเท่าไหร่  พอทุกคนกินข้าวเสร็จแล้วก็ กลับมารวมพลกันอีกครั้ง  หัวหน้าชุดฝึกยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าแถวเหมือน เดิม  ตะโกนเสียงดังลั่น
“  วันนี้เป็นการฝึกวันสุดท้ายแล้ว  ขอให้ทุกคนตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ด้วย  ทั้งหมด  ทราบ !  “
“  ทราบ!  “  ทุกคนตะโกนตอบพร้อมกัน
“  ลุก !  “
ทุก คนลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว  หัวหน้าชุดฝึกกวาดตามองไปรอบๆ  ด้วยความพอ ใจ  นักศึกษาวิชาทหารทุกคนดูมีระเบียบขึ้น  แข็งแกร่งขึ้น  4 วันของการฝึกวิชาทหารที่เขาชนไก่นี้  มันหล่อหลอมนักศึกษาทุกคนให้แกร่งสม ชายชาตรีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะจริงๆ  
“  หน้า – เดิน !  “
ทุกคนออก เดินตามครูฝึกไปเรื่อยๆ  ครูฝึกพาทุกคนเดินมาที่ลานโดดหอ ( ที่เดียวกับที่ฝึกฐาน 10 ฐานในตอนบ่ายของวันแรกนั่นเอง )  พอมาถึงแล้วก็เอาเป้วางรวมกันไว้  แล้วแยกย้ายกันไปฝึกตามหมวด  หมวดของ ผมต้องฝึก “ ข้ามลำน้ำ  “  ก่อน  ครูพิชิตพาผมและเพื่อนๆ  เดินไปถึงบึงใหญ่แห่ง หนึ่ง  มีเชือกขึงอยู่เต็มไปหมด  มีทั้งเชือกเส้นเดี่ยว  เส้นคู่  สะพาน ขึง  และเชือกแบบแปลกๆ อีกมากมาย  เราต้องไต่เชือกเหล่านี้ข้ามลำน้ำไปให้ได้  ครูพิชิตยืนอยู่หน้า แถวแล้วสั่งว่า
“  ให้ทุกคนวิ่งตามกันไปทีละหมู่  ไปตามเชือกเส้นต่างๆ ที่ขึงไว้รอบบึงนี้  แล้วก็ไต่เชือกข้ามไปทีละคน  ก่อนอื่นจะให้เพื่อนเรา สาธิตให้ดูก่อน  เอ้า ไอ้จักรพล  ออกมาไต่ให้เพื่อนดูซิ  “
ไอ้จักรพล หรือไอ้เด่น  รีบวิ่งออกมาหน้าแถวแล้วนอนคว่ำไต่เชือกเส้นเดี่ยวที่ขึงไว้ ระหว่างต้นไม้ 2 ต้นไปอย่างรวดเร็ว  มันไต่ได้คล่องแคล่วและเร็วมากเพราะตัวมันเพรียว  ไม่ เทอะทะ  แต่พอไต่ไปได้แค่ครึ่งทางก็เอามือกุมเป้ากางเกงด้วยความเจ็บ  เพราะ การนอนคว่ำแล้วไต่เชือกไปเรื่อยๆ แบบนี้  เชือกก็ย่อมรั้งเป้าอยู่แล้ว  แต่มันก็กัดฟันไต่ต่อไปจนถึงปลาย เชือก  ก่อนจะกระโดดลงมายืนที่พื้นทำหน้าเหยเกอย่างบอกไม่ถูก  ( คงเจ็บเป้าพอสมควร )  เพื่อนๆ ทุกคนปรบมือให้  แล้วฟังครูพิชิตพูดต่อ
“  ทำ ได้ดี   ทุกคนก็ต้องทำได้แบบมันนะ  ตอนฝึกจริงเชือกจะขึงอยู่เหนือบึงแบบนั้น  ทุกคน ดู ( ครูพิชิตชี้ไปที่เชือกที่ขึงอยู่เหนือบึงที่มีน้ำเต็มเปี่ยม  ทุกคนมองตาม แล้วก็ถอนหายใจ )  พยายามไต่ข้ามไปให้ได้ล่ะ  แต่ถ้าใครพลาดตกลงมาก็เรื่องของมึง  ยังไงก็ ฝึกให้ครบทุกอันแล้วกัน  เอ้า ทั้งหมด ลุก !  เริ่มฝึกได้  หมู่ 1 ไปก่อน  แล้วตามด้วยหมู่ 2, 3 ตามลำดับ  ระหว่างฝึกอย่าลืมร้อง  เอี้ย…เอี้ย….เอี้ย……  ไปด้วยล่ะ  ใครไม่ ร้องจะโดนหมอบ!  “
หมู่ 1  ลุกแล้ววิ่งไปยังเชือกเส้นแรก   เป็นเชือกเส้นเดี่ยว  ผมมองดูเพื่อนๆ  ไต่ข้ามไปทีละคน  บางคนก็ไต่คล่อง เหลือเกินแป๊ปเดียวก็ไต่เสร็จแล้ว  ส่วนใหญ่คนที่ไต่คล่องๆ  จะเป็นเพื่อน โรงเรียนอื่น  และจะเป็นพวกที่รูปร่างดี  ผอมเพรียว  แมนๆ  รูปร่างลักษณะ เหมาะกับการฝึกทหาร  พวกนี้ไต่ข้ามไปได้อย่างง่ายดาย  แต่เพื่อนโรงเรียน เดียวกับผมบางคนก็ไต่ข้ามไปได้ได้  บางคนไต่ไปครึ่งทางก็ร่วงลงน้ำซะ แล้ว  ผมมองแล้วกระซิบกับไอ้อ๊อตว่า
“  โห  แล้วอย่างนี้กูจะไต่ข้ามมั๊ยวะเนี่ย  ยากชิบหาย  เพื่อนๆ เราไต่แล้วร่วงซะเยอะเลย  “
ไอ้อ๊อตยิ้มแล้วหันมาจับมือผมไว้แน่น  แล้วพูดช้าๆ
“  สู้ๆ เถอะว่ะ  ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  คงต้องวัดดวงกันแล้วล่ะ  ตาดีรอด  ตาร้ายร่วง  “
ตอนนี้รอบๆ บึงได้ยินแต่เสียงตะโกนซ้ำๆ  แบบนี้
เอี้ย…….เอี้ย……….เอี้ย………
ถึง คิวของหมู่ผมแล้ว  ไอ้เด่นเป็นคนไต่คนแรก  แน่นอน  มันไต่ผ่านไปได้อย่าง ง่ายดาย  แล้วตามด้วยไอ้ไก่  ซึ่งก็ไต่ไปได้เช่นกัน  ถัดมาคือไอ้อ๊อต  มัน ไต่ไปได้แค่ครึ่งทางก็ร่วงลงน้ำซะแล้ว  ไอ้เทพก็เหมือนกัน  จนถึงตาผม  ผม ค่อยๆ ขึ้นไปนอนคร่อมเชือกเอาไว้  เอามือจับเชือกเอาไว้ซะแน่น  แล้วไต่ไปข้างหน้า ช้าๆ  มันยากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย  แถมผมเป็นคนตัวใหญ่แขนขาเบ้อเริ่มและ กล้ามเป็นมัดๆ  แบบนี้  เชือกเส้นเล็กๆ  เส้นนั้นจึงไม่สามารถรับน้ำหนักของ ผมได้  ผมไต่ไปได้ไม่ไกลร่างกายของผมก็เริ่มเอียงซ้าย  โงนเงนไปมา  แล้วมือ ก็เกิดลื่นขึ้นมาเฉยๆ  เพราะเหงื่อออกมามาก  ทำให้ผมยึดเชือกเอาไว้ไม่อยู่ อีกต่อไป  และวินาทีนั้น  มือทั้ง 2 ข้างของผมก็หลุดจากเชือก  พร้อมๆ กับร่างของผมที่ร่วงลงน้ำเสียงดังตูม!!  
“  ว๊ากกกกกกกกกกก  !   “
ผม ร้องลั่นทันทีที่หล่นลงไปในน้ำ  น้ำในบึงเย็นเฉียบมาก  แถมลึกถึงหน้าอก เลย  ผมรู้สึกเย็นยะเยือกแบบสุดๆ  เพื่อนๆ ที่ยืนมองอยู่บนฝั่งหัวเราะเยาะผมดังลั่น  แต่ผมก็ไม่โกรธอะไร  เราพลาดเอง นี่หว่า  ทำไงได้  ผมรีบเดินลุยน้ำขึ้นฝั่ง  ไอ้อ๊อตซึ่งอยู่ในสภาพเปียกปอน และตอนนี้ยืนรออยู่บนฝั่งรีบยื่นมือมาดึงผมขึ้นมา  แล้วพูดว่า
“  ตกน้ำเหมือนกูเลยเพื่อน  เอาน่า  ช่างมัน  ไปฝึกอันต่อไปกันเหอะ  “
“  เออ  ซวยชิบหายไม่น่าตกน้ำเลย  แม่งเปียกไปถึงรองเท้า  และกางเกงในเลย  แม่ง!  แฉะเลยกู  “
ผม บ่น  แล้วยืนรอไอ้แมนก่อน  ไอ้แมนเป็นคนสุดท้ายในหมู่ที่ฝึกข้ามเชือกเส้น เดี่ยว  มันก็ตกน้ำเหมือนผม  ผมรอจนมันลุยน้ำขึ้นฝั่งมาได้แล้ว  จึงวิ่งไป ฝึกเชือกอันต่อไป  แต่ผมและเพื่อนๆ  ก็ไม่ลืมที่จะตะโกน  เอี้ย ……….เอี้ย………..เอี้ย……………….
อันต่อไปเป็นเชือกเส้นคู่   ผมพอไต่ได้  และต่อด้วยสะพานขึง  อันนี้ต้องค่อยๆ  ปีนข้ามสะพานที่ทำด้วย เชือกล้วนๆ  ไปยังฝั่งตรงข้าม   ผมปีนได้ไม่ตกน้ำ  แต่ก็ปีนยากจริงๆ  สรุปก็คือผมและเพื่อนๆ  ส่วนใหญ่ตกน้ำ ตรงเชือกเส้นเดี่ยวอันเดียวเท่านั้น  เชือกเส้นคู่และสะพานขึงไม่ค่อยมีใคร ตก  ส่วนใหญ่จะข้ามไปได้  พอฝึกข้ามลำน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งฝึกผูกเชือกให้ เป็นเงื่อนแบบต่างๆ  ผมก็ผูกไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่  แต่ก็พยายามทำไปจน เสร็จ  แล้วก็พากันเดินกลับไปนั่งพักที่ลานโดดหอที่เดิม  ตอนนี้ผมเดินไม่ ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะตัวเปียกโชก  น้ำยังขังอยู่ในรองเท้าเต็มไปหมด  ครู ฝึกก็เลยสั่งให้พวกที่ตัวเปียกไปทำให้ตัวแห้งก่อน  ให้เวลา 45 นาที  ผมกับเพื่อนๆ  ก็เลยพากันไปนั่งตรงลานกว้างข้างๆ ลานโดดหอ  ถอดรองเท้าถุงเท้าออกผึ่งแดดแล้วนั่งตากแดดกันเป็นหย่อมๆ  ไอ้แมน ซึ่งตอนนี้นั่งอยู่ข้างๆ ผมพูดขึ้นมาว่า
“  พวกเราไม่น่าตกน้ำเลยนะ  แฉะไปหมดเลย  พวกที่ไม่ตกน้ำเขาไปเตรียมตัวโดดหอกันแล้ว  เรายังต้องมารอให้ตัวแห้งอีก  “
“  เอาน่า  อย่าสนใจเลย  ปล่อยให้พวกนั้นโดดไปก่อนเถอะ  พวกเราโดดหลังๆ  ก็ได้  “
“  แต่เราไม่อยากโดดเลยว่ะ  “  
ไอ้แมนพูดแล้วก็มองหน้าผม  พอมันเห็นว่าผมไม่พูดอะไรก็เลยถามผมบ้าง  
“  หนุ่ม  นายไม่กลัวการโดดหอเหรอวะ  “
ผมหัวเราะก่อนจะตอบมัน
“  ไม่หรอกว่ะ  เราว่ามันน่าสนุกดี  เราไม่กลัวความสูงอยู่แล้ว  อยากโดดจะตาย  ท่าทางจะเสียวดี  “
“  แต่มันสูงนะเว้ย  เรากลัวว่ะ  เราเป็นโรคกลัวความสูงอยู่ด้วย  เราไม่อยากโดดเลยให้ตายสิ  โคตรเสียวเลย  “
ผมตบไหล่ไอ้แมนเบาๆ  แล้วปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“  อย่า กลัวสิวะ  หลับหูหลับตาโดดไปเลย  ตอนโดดก็อย่ามองลงไปข้างล่าง  ปล่อยตัวตาม สบาย  เดี๋ยวก็โดดเสร็จแล้ว  เราเชื่อว่านายทำได้  “
ไอ้แมนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ  
“  ขอบ ใจนะที่ปลอบเรา  นายนี่เก่งว่ะ  ไม่กลัวอะไรเลย  เราสิขี้ขลาดชิบหาย  จะทำ อะไรก็กลัวไปหมด  มาฝึกร.ด. ที่นี่ก็ทำอะไรไม่ค่อยจะได้เลย  โดนครูฝึกด่าประจำ  เรามันคนอ่อนแอ  “
“  เอา น่าแมน  อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิวะ  นายไม่อ่อนแอและก็ไม่ขี้ขลาดหรอก  ถ้า นายอ่อนแอนะ  นายจะผ่านการฝึกร.ด. มาถึงวันสุดท้ายได้ไงวะ  สู้ๆ  นะเว้ย  อีกเดี๋ยวการฝึกก็จะจบแล้ว  “
ผม พูดให้กำลังใจไอ้แมนแล้วก็ลูบหลังมันเบาๆ  ไปด้วย  ไอ้แมนมองหน้าผมแล้วก็ สวมกอดผมทันที  ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ  รีบผลักไอ้แมนออกห่างแล้วบอกว่า
“  เฮ้ย  มากอดอะไรตอนนี้  เดี๋ยวคนอื่นเห็นหรอก  “
ไอ้แมนยิ้มที่มุมปาก  ก่อนจะพูดเบาๆ
“  งั้นไปกอดกันตรงโน้นกันดีกว่า  รองเท้าถุงเท้าถอดวางไว้ตรงนี้แหละ  ไม่มีใครเอาไปหรอก  มาเร็วๆ ไอ้หนุ่ม  เดี๋ยวเวลาหมดซะก่อน  “
“  ตรงไหนวะ  “
ผม ถาม  แต่ไอ้แมนไม่ตอบ  มันฉุดให้ผมลุกขึ้นแล้วพาผมเดินตีนเปล่าไปที่ห้องน้ำ สังกะสีใกล้ๆ  ลานโดดหอ  ระหว่างที่เดินไอ้แมนก็แอบชะโงกมาหอมแก้มผมไปตลอด ทาง  ผมก็พูดซ้ำๆ  ว่าอย่าทำแบบนี้  เดี๋ยวคนอื่นเห็น  แต่มันก็ไม่ยอมฟัง
“  ไม่มีใครมองหรอกน่า  อย่าทำปอดแหกไปเลย  เอ้า  ถึงแล้ว  “   
ห้อง น้ำแห่งนี้เป็นแบบเดียวกับห้องน้ำที่สนามยิงปืน  คืออยู่ในที่โล่ง แจ้ง  เป็นสังกะสีเตี้ยๆ  กั้นแยกเป็นห้องแคบๆ   ข้างล่างมีโถสำหรับให้ยืนเยี่ยวหรือนั่งขี้ก็ได้  คนที่มายืนเยี่ยว ข้างๆ  ก็จะเห็นร่างกายท่อนบนของเพื่อน   แต่ถ้าชะโงกลงมาดูก็จะเห็นควยอย่างชัดเจน  เวลานี้มีคนมายืนเยี่ยวอยู่ไม่ กี่คน  ไอ้แมนกระซิบบอกผมว่า
“  แถวนี้มันโล่งไปหมด  จะทำอะไรก็ลำบาก  มีแต่ที่นี่ที่เดียวแหละที่พอจะเล่นเสียวกันได้  เราจะทำให้นายเสียวเอง  ไอ้หนุ่ม  “
ผมยังไม่เข้าใจว่าไอ้แมนคิดจะทำอะไร  ยังไม่ทันได้ถาม  ไอ้แมนก็กระซิบต่อ
“  ขอ ดูดหน่อยเถอะนะ  อยากดูดมานานแล้ว  เดี๋ยวเราจะเข้าไปนั่งแอบๆ ในห้องน้ำก่อน  แล้วนายค่อยเดินตามเข้าไป  พอเข้าไปแล้วก็ยืนเฉยๆ  นะ  เรา จะดูดให้เอง  “
ผมตกใจมากพอรู้ว่าไอ้แมนคิดจะดูดควยผมในห้องน้ำสังกะสีเตี้ยๆ  แบบนี้  รีบละล่ำละลักพูดกับมัน
“  เฮ้ย  ไอ้ -เอี้ย-  เอาจริงเหรอวะ.. เรา…เราไม่เอาด้วยหรอกว่ะ  ถ้าคนอื่นมายืนเยี่ยวข้างๆ  แล้วชะโงกมาดู  ก็ เห็นนายกำลังดูดควยเราอยู่สิวะ  ห่าเราไม่เอาด้วยหรอกว่ะ  เสียว  ถ้าโดนจับ ได้ล่ะเสร็จแน่  “
“  ไม่มีใครชะโงกมาดูหรอกน่า  เชื่อเราสิ  ผู้ชายน่ะ เขาไม่อยากจะดูควยของผู้ชายด้วยกันหรอก  แล้วอีกอย่างคนมาเยี่ยวน้อยขนาด นี้  เขาไม่มายืนเยี่ยวข้างๆ  นายหรอก  คอยดูได้เลย  ขอดูดหน่อยเถอะว่ะ หนุ่ม  เราทนไม่ไหวแล้วว่ะ   ขอร้องล่ะ  เราอยากดูดควยนายใจจะขาดอยู่แล้ว  ไม่ต้องห่วงน่า  ไม่มีใครเห็น เราหรอก  เราจะนั่งแอบอย่างดีเลยล่ะ  “
ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อน  ในเมื่อเห็นมันอยากดูดควยผมขนาดนี้  ผมก็ต้องยอม  ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่หว่า  สบายตัวอีกต่างหาก  
“  เอางั้นเหรอวะ  เอาก็ได้  แต่แค่แป๊ปเดียวนะเว้ย  “
ผม ตอบตกลง  ไอ้แมนรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำห้องสุดท้ายทันที  นั่งคุดคู้อยู่บนโถ ส้วมพอไม่ให้คนอื่นมองเห็นแล้วเอื้อมมือมาปิดประตูแต่ไม่ลงกลอน  ผมรีบเดิน ตามเข้าไปทันที  เอามือกดไหล่ไอ้แมนลงไปให้มันก้มลงต่ำกว่าเดิมอีกนิดเพื่อ ไม่ให้คนมองเห็นตัวมัน  โชคดีที่ไอ้แมนเป็นคนตัวไม่ใหญ่  จึงสามารถนั่งคู้ อยู่ในห้องน้ำได้โดยที่ไม่มีคนเห็น  แต่ถ้ามีคนทะลึ่งมามองใกล้ๆ  ก็ต้อง เห็นอยู่แล้ว  แล้วผมก็ยืนเฉยๆ  อยู่อย่างนั้น   ทำเหมือนกำลังยืนเยี่ยวธรรมดาๆ  ไอ้แมนรีบถอดหัวเข็มขัด  ปลดกระดุม  และรูด ซิปผมลงอย่างเร็ว  ไม่ช้าควยขาวๆ  ท่อนใหญ่ของผมก็กระเด้งออกมาชี้หน้า มัน  มันรีบอ้าปากจนกว้างแล้วครอบปากลงไปจนมิดถึงโคนควย  แล้วรูดปากขึ้น ลงๆ  ช้าๆ  เป็นจังหวะ
ผมรู้สึกเสียวมาก  แต่ก็ยังกลัวคนจะเห็น  รีบมอง ไปรอบๆ  มีเพื่อนๆ ทยอยมาเยี่ยวกันมากขึ้น  แต่ส่วนใหญ่ก็จะยืนเยี่ยวห่างๆ  ผม  ไม่เข้ามายืน ใกล้ๆ  ดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นว่า  ผมกำลังถูกไอ้แมนใช้ลิ้นเลียหัวควย แผล่บๆ  ไม่ยอมหยุด  
“  อา…….  ควยมึงใหญ่ดีจัง  หวานด้วย  อร่อยดี  “
ไอ้ แมนเงยหน้าพูดกับผมแล้วครอบปากลงไปใหม่  ใช้ลิ้นตวัดรูควยผมแรงๆ  2 ที  ผมถึงกับซู้ดปากด้วยความเสียว  รีบอัดกระแทกลำควยเข้าปากไอ้แมนอย่างไม่ รีรอ  มือก็ขยี้กบาลเกรียนๆ  ของมันไปด้วย  เสียงควยถูกดูดดังจ๊วบๆๆๆๆๆ  
“  ไง  ไอ้หนุ่ม  เยี่ยวเหรอวะ  “
ไอ้ เทพที่เพิ่งเดินเข้ามาตะโกนทักผม  ผมหันไปมองมันแล้วก็ยิ้ม  มันเดินเข้ามา ยืนเยี่ยวตรงห้องที่ห่างจากผมไปอีก 1 ห้อง  ผมลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก  ดีที่มันไม่มายืนข้างๆ  ไม่งั้นได้เห็น อะไรดีๆ แน่   
“  เออว่ะ   ปวดชิบหายเลย  “
ผมตอบเสียงสั่นๆ  เพราะ ว่ากำลังเสียวหัวควยมากๆ  ไอ้แมนดูดควยเก่งจริงๆ ทำเอาผมขาสั่นพั่บๆ  ด้วยความเสียวแบบสุดๆ  หน้าตาเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความ เสียว  ไอ้เทพมองหน้าผมแล้วขมวดคิ้ว
“  มึงเป็นไรวะ  ตัวสั่นใหญ่เลย  แถมยังทำหน้าแปลกๆ  อีก  ยังกะเสียวอยู่แน่ะ  มึงเยี่ยวหรือมึงชักว่าววะเนี่ย  “
ผมใจหายวาบ  ไม่อยากให้ไอ้เทพรู้ในสิ่งที่ผมถูกไอ้แมนทำอยู่  ก็เลยรีบหัวเราะกลบเกลื่อนไป
“  ไอ้-เอี้ย-  เยี่ยวอยู่จริงๆ เว้ย  ใครจะมาชักว่าวที่นี่วะ  เหม็นก็เหม็น  ไม่มีอารมณ์ว่ะ  จริงมั๊ย  “
ไอ้เทพฟังแล้วก็หัวเราะบ้าง  ก่อนจะพูดต่อ
“  เออ เออ  กูพูดเล่นน่า  เยี่ยวเสร็จแล้วก็รีบไปที่ลานนะ  อย่ามัวแต่ยืนรูด ควย  เดี๋ยวต้องไปโดดหอแล้ว  อย่าช้าล่ะมึง  เดี๋ยวโดนหมอบไม่รู้ด้วยล่ะ  “
ไอ้ เทพพูดจบแล้วก็เดินออกไป  ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก  แล้วก็ต้องเกิดอาการเสียว วาบไปทั้งตัวเพราะไอ้แมนทั้งดูดทั้งเลียควยผมอย่างเมามันจนน้ำแทบแตก   เพื่อนบางคนที่เยี่ยวเสร็จแล้วต่างเดินออกมาจับกลุ่มกันห่างๆ  มองผมแล้วพูด กันเองว่า
“  ทำไมไอ้-เอี้ย-นั่นแม่งเยี่ยวนานจังวะ  กูเห็นมันยืนตั้งนาน แล้วยังไม่ยอมเสร็จซะที  ยืนมองควยตัวเองอยู่ได้  ไอ้-เอี้ย-  แถมยังทำตัว สั่นๆ ด้วย  ไม่รู้แม่งเป็นอะไรของมัน  “
แต่เพื่อนๆ  อีกหลายคนก็พูดสวนขึ้นมาว่า
“  อย่า ไปยุ่งกับแม่งเลย  แม่งอาจจะอั้นเยี่ยวไว้มากก็ได้  ก็เลยเยี่ยวนาน หน่อย  อย่าไปสนใจเลยว่ะ  เดินกลับลานกันเหอะ  มันจะเยี่ยวนานแค่ไหนก็ เรื่องของมัน  ไปเหอะว่ะ  “
แล้วทุกคนก็พากันเดินกลับไปที่ลานกว้าง  ตอน นี้นอกจากผมกับไอ้แมนแล้ว  ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย  ผมซู้ดปากด้วยความ เสียวเป็นครั้งที่ 2  แล้วเอามือขยี้กบาลของไอ้แมนอย่างสะใจ  ก่อนจะพูดเสียงสั่นๆ
“  คนไปหมดแล้วว่ะ  โอยยย  ซี๊ดดดดดดดด  เสียวควยจังเลยโว้ยยยยย  โอยยยยย   นายดูดเก่งชิบหายเลย “
พอ ไอ้แมนได้ยินว่าคนไปหมดแล้ว  มันก็ถอนปากออกจากควยผม  แล้วยืนขึ้นถอดกางเกง นอกกางเกงในออกด้วยความรวดเร็ว  แล้วจึงทรุดนั่งลงไปใหม่  แต่เป็นการนั่ง หันหลังให้ผม  แล้วจึงผงกหัวลงไม่ให้มองเห็น  ยกตูดขาวๆ  ขึ้นให้อยู่ใน ระดับเดียวกับควยผม    ก่อนจะพูดว่า
“  เย็ดตูดเราเลย  เร็วๆ  ตอนนี้ไม่มีคน  ทางสะดวก  เร็วๆ สิวะ  “
ผม ไม่อยากขัดใจมันก็เลยต้องยอมทำตามที่มันขอ  ทั้งๆ ที่กลัวคนอื่นเห็นจะแย่  ผมเอื้อมมือไปบีบตูดขาวๆ  ของไอ้แมน 1 ทีเป็นการปลุกเร้าอารมณ์  มันรีบโก้งโค้งยกตูดจนโด่งขึ้นกว่าเดิม  ผมเอา นิ้วแตะน้ำลายแล้วแหวกรูตูดมันออกช้าๆ  เอาน้ำลายทาจนชุ่ม  จนรูตูดของไอ้ แมนลื่นได้ที่  แล้วผมก็ถอกลำควยลงจนสุด  เอาหัวควยแดงเถือกจ่อตรงรูตูดไอ้ แมนแล้วค่อยๆ  ยัดหัวควยพร้อมด้วยลำควยเข้าไปช้าๆ  จนสุด  แล้วก็โยกเข้า โยกออกเบาๆ  ก่อนจะกระเด้าเร็วขึ้นๆ
ปั่บๆๆๆๆๆๆๆ
“  โอววววว  เสียวววว  มันส์ชิบหายเลย  แรงๆ  ไอ้หนุ่ม  แรงๆ  “
ไอ้แมนร้องครางเสียงหลง  ผมยิ่งเร่งอัดควยเข้าไปในรูตูดไอ้แมนแรงขึ้นๆ  จนร่างของไอ้แมนสั่นเทิ้มไปหมด
“  จับเอวเราแล้วเย็ดสิวะ  เน้นๆ เลย  เร็ว ๆๆๆ   แรงๆ ด้วย  โอยเสียวง่ามตูดชิบหาย  “
ผมรีบจับเอวของไอ้แมนเอาไว้  แล้วกระแทกลำควยเข้าออกอย่างไม่ยั้ง  ลำควย เสียดสีกับขนที่รูตูดอย่างจัง  ทำให้ไอ้แมนถึงกับร้องโอ้ก!  ด้วยความเสียว ปนมันส์  ผมกระแทกไปไม่กี่ทีก็รู้สึกว่าน้ำจะออกแล้ว  ก็เลยตบตูดไอ้แมน แรงๆ  2-3 ทีแล้วพูดว่า
“  เรารักนายนะ  ไอ้แมน  น้ำเราจะออกแล้วนะ  ให้เราออกยังไง  แตกในรูตูดนายได้มั๊ย  “
ผมยังคงกระเด้ารูตูดของไอ้แมนต่อไปเรื่อยๆ      มันร้องครางแล้วรีบตอบทันที
“  อูยยยยยยยยย  ซี๊ดดดดดดด  แตกในรูตูดเราได้เลย  นายเย็ดมันส์ชิบหาย  โอยยย   รีบแตกเร็วๆ สิเว้ย  เมื่อยแล้ว  “
ผม ได้ยินอย่างนั้นก็รีบอัดลำควยเข้าไปจนสุด  แล้วน้ำกามเหนียวๆ ใสๆ  ก็กระฉูดเข้าไปในรูตูดของไอ้แมน  พร้อมๆ  กับเสียงร้องครางอย่างสะใจ ของผม
“  โอยยยยยยยยยยยยย     ซี๊ดดดดดดด     น้ำกูแตกอีกแล้วโว้ยยยยยยยยย   “
ควย ผมกระตุกๆ  2-3 ทีก็หยุด  น้ำกามออกมาไม่มากเท่าไหร่  ผมรีบรูดลำควยช้าๆ   จนน้ำที่ค้างอยู่ในลำควยออกมาหมด   แล้วจึงถอนลำควยออกมาจากรูตูดของไอ้แมนทันที  น้ำกามของผมไหลยืดออกมาจากตูด ของไอ้แมน  มันหันหลังกลับมาทั้งๆ ที่ยังอยู่ในท่านั่งยองๆ  แล้วพูดกับผมว่า
“  ทำไมน้ำออกน้อยจังวะ  มาที่นี่เอาน้ำออกบ่อยเหรอ  แต่ก็ดี  ไม่ค่อยเลอะเท่าไหร่“
ผมยิ้มให้มันก่อนจะตอบ  พลางคิดในใจ  มันต้องน้อยอยู่แล้ว  ก็เมื่อคืนเพิ่งหลั่งมานี่เองวะ !  
“  คงงั้นแหละ  “
ไอ้ แมนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำกามออกจากตูดของมันจนสะอาด  แล้วลุกขึ้นยืนกอด ผมไว้แน่น  หอมซอกคอผมเบาๆ  ก่อนจะรีบปล่อย  แล้วกระซิบข้างหูผม  
“  ขอบ ใจมากนะที่ช่วยเรา  เรารักนายว่ะ   นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้เย็ดกับนายซะแล้ว  รอมาหลายวันแล้วนายก็ไม่มีทีท่าว่า จะสนใจเราเลย  วันนี้โชคดีมีเวลาว่างก็เลยได้มีโอกาสเย็ดกัน  ถึงแม้ว่าจะ เป็นแค่ช่วงสั้นๆ  อย่างว่ากลัวคนมาเห็นด้วยล่ะ  ก็เลยต้องรีบทำให้ เสร็จๆ  ไป  แต่เราก็สนุกว่ะ  ไว้กลับไปโรงเรียนแล้วเราหาเวลามาเย็ดกันแบบ นี้อีกนะ  คราวนี้ขอนานๆ  กว่านี้ล่ะ  “
“  ได้เลยเพื่อนรัก  แต่เราว่าตอนนี้  เราเดินกลับลานกว้างก่อนดีกว่า  เดี๋ยวก็คงได้เวลาโดดหอแล้ว  “
“  โอเค  ไปกันเลย  “
แล้วผมกับไอ้แมนก็แต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วก้าวออกจากห้องน้ำ   เดินกอดคอกันกลับไปที่ลานกว้าง
…………………………………………….
เรา ไปถึงลานกว้างแล้วก็รีบใส่รองเท้าถุงเท้าอย่างเร็ว  ไม่นานครูฝึกก็เรียกให้ เข้าแถว  เตรียมโดดหอ  ผมต้องใส่หมวกเหล็ก  แต่งตัวสำหรับโดดหอโดย เฉพาะ  ต้องผูกสายอุปกรณ์อะไรซักอย่างไว้กับตัว  แล้วเดินต่อแถวขึ้นไปบนหอ สูงทีละหมู่  ผมรู้สึกกลัวนิดหน่อยเพราะไม่เคยโดดหอมาก่อนเลยในชีวิต  อีก ทั้งเริ่มรู้สึกเวียนหัวและเพลียจนอยากจะอ้วกเนื่องจากเพิ่งหลั่งน้ำกามออก ไป  ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และไอ้แมนก็ดูจะกลัวเหมือนกัน  พวกมันหน้าซีดพอๆ กับผม  มีไอ้เด่นคนเดียวที่สีหน้าแช่มชื่น  ดูไม่มีความกลัวเลย  แต่ผมก็ พยายามทำใจให้เข้มแข็ง  สลัดความอ่อนเพลียออกไป  แล้วคิดว่า  ไม่มีอะไรต้อง กลัวอีกแล้ว  คนอื่นโดดได้เราก็ต้องโดดได้สิวะ!  
“  ไอ้หนุ่ม  เสียวมั๊ยวะ  กูเสียวว่ะ  แม่งสูงเหมือนกันนะเนี่ย  “
ไอ้ เทพพูดกับผมขณะเดินต่อแถวขึ้นบันไดหอสูงอย่างช้าๆ  ผมพยักหน้า  แต่พูดอะไร ไม่ออกเพราะกำลังตื่นเต้นมาก  พอดีครูฝึกหน้าใหม่ที่ยืนอยู่บนหอตะโกนลงมา ว่า
“  เฮ้ย  เงียบทำไมวะ  พันไหนวะเนี่ย  เงียบชิบหายเลย  ร้องเอี้ย…เอี้ย…ด้วยสิวะ  แม่ง  “
แล้วครูฝึกก็กระโดดลงมาเขกหมวกเหล็กของไอ้เด่น  ผม  ไอ้อ๊อต และไอ้เทพคนละที  ทุกคนในหมู่ก็เลยพร้อมใจกันร้องลั่น
“  เอี้ย…………เอี้ย………..เอี้ย……….เอี้ย…………  “
ครูฝึกยิ้มอย่างพอใจ
“  เออ  เจ๋ง  อย่างนี้ค่อยคึกคักขึ้นหน่อย  เอ้า  ขึ้นมาทีละคน  “
ไอ้ เด่นขึ้นไปคนแรก  แล้วยืนอยู่ตรงช่องที่จะโดด  ครูฝึกเอาอุปกรณ์ที่ติดอยู่ กับตัวของไอ้เด่นติดเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้โดด  เช็คความเรียบร้อยแล้วจึงตบ ไหล่มันเบาๆ  ก่อนจะพูดว่า
“  แหกปากร้องเอี้ย…. เอี้ย….ดังๆ  เลยนะมึง  ไม่ต้องอายใคร  ไปได้ !  “
ทันที่ที่ครูฝึกพูดจบ  ไอ้เด่นก็กระโดดลงไปทันที   พร้อมกับแหกปากลั่น
“  เอี้ย…………เอี้ย………เอี้ย………….  “
ผม กลืนน้ำลายดังเอื๊อกเมื่อเห็นร่างของไอ้เด่นทะยานลงสู่เบื้องล่าง  ไอ้อ๊อต โดดเป็นคนต่อไป  หลังจากติดอุปกรณ์ให้ไอ้อ๊อตเรียบร้อยแล้ว  ครูฝึกก็พูดกับ ไอ้อ๊อตแบบเดียวกับที่พูดกับไอ้เด่น
“  อย่าลืมแหกปากร้องเอี้ย…… ด้วยนะเว้ย   จะได้ลดความเสียวที่สูงลงไปได้บ้าง  ไปได้!  “
ว่า แล้วครูฝึกก็ผลักไอ้อ๊อตลงไปทันที  ต่อไปก็เป็นคิวของไอ้เทพ   ไอ้เทพหน้าซีดนิดหน่อย  พอติดอุปกรณ์ให้ไอ้เทพเสร็จแล้ว  ครูฝึกก็เลยตบไหล่ มันเบาๆ  แล้วพูดว่า
“  ไม่ต้องกลัวนะมึง  จับสายที่โดดให้แน่นๆ ล่ะ  ห้ามปล่อย  แล้วก็อย่าลืมร้องเอี้ย..เอี้ย…. ด้วยนะ  “
“  คะ..ครับผม  “  
ไอ้ เทพตอบตะกุกตะกักพลางเอามือจับสายที่ผูกติดกับตัวมันทางด้านบนไว้แน่น  เป็น ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด  ทุกคนที่โดดหอต่างก็จับสายเส้นนี้ไว้แน่นกัน ทั้งนั้น  เพราะกลัวจะตกลงมา  ทั้งๆที่ความจริงไม่มีทางที่จะร่วงลงมา แน่ๆ  เพราะสายถูกผูกไว้กับอุปกรณ์ที่แข็งแรงมาก  แต่ทุกคนก็รักตัวกลัวตาย กันทั้งนั้น  ก็เลยจับสายนี้ไว้ซะแน่นเพื่อให้อุ่นใจ
“  ไปได้ !  “
ครูฝึกพูดแล้วก็ผลักไอ้เทพเบาๆ  มันกระโดดลงไปทันที  ผมได้ยินเสียงตะโกน เอี้ย…เอี้ย……ห่างออกไปทุกทีๆ
“  คนต่อไป!  “
ครูฝึกเรียก  ผมก้าวออกไปยืนอยู่ต่อหน้าครูฝึกช้าๆ  
ในที่สุด  เวลาแห่งความเสียวก็มาถึงจนได้!
………………………………..   

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่  23
ผมก้าวไปยืนตรงช่องโดด  ครูฝึกเอาอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับตัวของ ผมติดเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้โดด  เช็คความเรียบร้อยแบบเดียวกับที่ทำกับทุก คน  แล้วจึงตบหลังผมเบาๆ   ก่อนจะพูดเสียงเข้ม
“  ไม่ต้องกลัวนะไอ้แว่น  หายใจเข้าลึกๆ  อย่าลืมร้องเอี้ย…เอี้ย….ด้วยล่ะ  ไปได้ !  “
พูด จบครูฝึกก็ผลักผมลงมาทันที  ผมกลั้นใจกระโดดลงมาเต็มที่  รู้สึกว่าตัวลอย อยู่กลางอากาศ  แล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเรื่อยๆ  มันโหวงเหวงมาก  เหมือนจะ หล่นลงไปข้างล่างให้ได้  ผมเอามือจับสายยึดเอาไว้จนแน่น  เป็นตายยังไงก็ไม่ ยอมปล่อยเด็ดขาด  ความรู้สึกตอนนั้นทั้งตื่นเต้นทั้งเสียว  แต่ก็รู้สึก มันส์ดี  ผมไม่กล้ามองไปข้างล่างเลยเพราะรู้ว่าผมอยู่ในตำแหน่งที่สูง มาก    ลมเย็นๆ  พัดมาปะทะหน้าผม  ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเสียวไส้มากขึ้น  
“  เอี้ย……เอี้ย………..เอี้ย…………  “
ผม แหกปากแบบนี้ไปเรื่อยๆ  ในขณะที่ตัวลอยแกว่งไปแกว่งมาอยู่กลางอากาศ  ไม่นาน ผมก็ลอยมาจนถึงนั่งร้านตรงจุดที่จะลงแล้ว  เพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่ข้างล่างตะโกนลั่น
“  งอขา  งอขาไว้ !  “
ผมรีบงอขาตาม ที่เพื่อนบอกทันที  เพื่อนคนหนึ่งที่ยืนรออยู่บนพื้นกระโดดขึ้นมาจับขาล่ำๆ ด้านขวาของผมเอาไว้  เพื่อนอีกคนจับขาขวา  แล้วยึดตัวผมที่กำลังหมุนเคว้ง อยู่เอาไว้จนตัวผมนิ่ง  ก่อนจะช่วยกันดึงตัวผมไปข้างหน้า  เพื่อนอีกคนเข็น นั่งร้านออกมาจากฉากหลังเพื่อให้ผมหย่อนขาลงไปบนนั้น  พอผมลงมายืนบนนั่ง ร้านเรียบร้อยแล้วเพื่อนที่นั่งอยู่บนนั่งร้านก็ช่วยผมแกะสายอุปกรณ์ออกจาก ตัวแล้วผูกเชือกอะไรซักอย่างให้  แล้วผมก็ไต่บันไดลงมาจากนั่งร้าน  แล้ว วิ่งถือสายอุปกรณ์ที่โยงกับสลิงไว้ด้านบนกลับมาที่จุดเริ่มต้น  ปากก็ร้อง เอี้ย ….เอี้ย…เอี้ย….. ไปด้วย
พอผมกลับมาถึงที่จุดเริ่มต้นแล้ว  ก็ต้อง ช่วยเพื่อนคนที่จะโดดต่อไปแต่งตัวให้เหมาะสมกับการโดดหอ  คนที่โดดแล้วต้อง ถอดอุปกรณ์ของตนเองส่งต่อให้เพื่อน  แล้วก็ต้องช่วยเพื่อนแต่งตัวด้วย  ตอน ที่ผมเตรียมตัวจะโดดก็มีเพื่อนมาช่วยผมแต่งตัวแบบนี้เหมือนกัน  พอผมโดด เสร็จแล้วจึงต้องมาช่วยเพื่อนคนอื่นแต่งตัวบ้าง  เป็นการแสดงความมี น้ำใจ  ผมถอดหมวกเหล็กออกแล้วสวมไปบนกบาลเพื่อนคนนั้น  ติดสายอุปกรณ์ ต่างๆ  ไว้ที่ตัวของเขาจนเสร็จเรียบร้อย  แล้วก็ตบไหล่เขาเบาๆ  เพื่อนคนนี้ หน้าตาหล่อ  ผิวดำ  แมนและเท่มาก  พอเขาเห็นว่าผมแต่งตัวให้เขาเสร็จ แล้ว  เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“  ขอบใจที่ช่วยแต่งให้เรานะเว้ย !  “
“  เออ  โดดดีๆ ล่ะ  “
ผม ตอบยิ้มๆ แล้วลูบหลังเขาเบาๆ อีก 1 ที  ก่อนที่เขาจะออกวิ่งไปยังหอสูง  ส่วนผมก็ไปนั่งพักเหนื่อยรวมกับ เพื่อนๆ  แล้วก็พูดคุยกันเรื่อยเปื่อย  ไม่นานครูฝึกอีกคนก็มาบอกว่า  คนที่ โดดแล้วให้ไปซื้อปีกซะ  ไอ้เด่นรับอาสาไปซื้อให้เพื่อนๆ  เอง  ไม่นานมันก็ กลับมาพร้อมกับปีกจำนวนมาก  (เพราะมีคนฝากซื้อเยอะ)  แล้วจึงแจกจ่ายให้ เพื่อนๆ  ผมเอาปีกสีทองมาติดไว้ตรงอกเสื้อด้วยความภาคภูมิใจ  นี่คือรางวัล แห่งความกล้าหาญแท้ๆ !  
“  ตอนโดดน่ะเสียวสุดยอดเลย  แต่พอโดดแล้วได้ปีกมาประดับเนี่ย  โคตรภูมิใจเลย  เนอะมึงเนอะ  “
ผมพูดกับเพื่อนๆ  ไอ้อ๊อตฟังผมพูดแล้วจึงพูดขึ้นมาบ้าง
“  เออ ว่ะ  กูก็คิดเหมือนมึง  ปีกนี่สวยดีนะ  กูชอบว่ะ  มันเป็นเครื่องหมายแห่ง เกียรติยศแท้ๆ เลย  เพราะมันต้องแลกด้วยความกล้าหาญแบบสุดๆ  ในการโดดหอว่ะ  พูดแล้วยัง เสียวไม่หายเลย  ตอนโดดน่ะกูเสียวชิบหาย ! “
ไอ้เด่นหัวเราะแล้วพูดเสียงดัง
“  5555  กู ว่าไม่เท่าไหร่ว่ะ  โดดหอเนี่ยกูยอมรับว่ามันส์ดี   แต่ก็จิ๊บๆ  ว่ะ  เทียบไม่ได้เลยกับปี 4 ปี 5  ที่กูจะต้องเจอ  กูเดาเอานะว่าถึงตอนนั้น  กูจะได้เล่นอะไร เสียวๆ  มากกว่าตอนนี้ซะอีก  กูชอบว่ะไอ้เรื่องเสียวๆ แบบนี้เนี่ย”
“  ไม่ยักรู้นะว่ามึงชอบเล่นเสียวๆ  ด้วย  “
ผมพูดยิ้มๆ  ไอ้เด่นมองหน้าผมแล้วหัวเราะร่วน
“  5555555   มึงไม่ต้องเลย พวกมึงทุกคนก็ชอบเล่นเสียวๆ  อยู่แล้วนี่  เล่นมาทุกคืนเลยไม่ใช่เหรอ  ไอ้พวก-เอี้ย-! “
ผม ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้ไก่ และไอ้แมนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน  ถูกของไอ้เด่นมันจริงๆ
หลัง จากเรานั่งพักกันพอหายเหนื่อยแล้ว  ก็พากันไปซื้อน้ำดื่มกันที่ “ หน่วยบริการความสดชื่น “  ผมซื้อน้ำนมถั่วเหลืองไวตามิลด์แบบขวดมาดื่มเพื่อชดเชยโปรตีนที่เสีย ไป  ดื่มแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาก  ดีจริงๆ  พอ ดื่มเสร็จ  เพื่อนๆ  ในกลุ่มก็ขอตัวไปเยี่ยวกันหมด  ผมก็เลยนั่งพักอยู่แถว นั้นรวมกับเพื่อนๆ คนอื่นในหมวด 2  ผมนั่งอยู่ครู่หนึ่ง  ครูฝึกคนเดิมก็เดินมาหาพวกเรา  แล้วก็ชี้มาที่ ผม  และชี้ไปเพื่อนคนอื่นๆ  อีก 3 คนที่นั่งอยู่ข้างๆ  ผมซึ่งผมไม่รู้จักชื่อ  แต่จำหน้าได้ว่าอยู่โรงเรียน เดียวกับผม  แล้วสั่งว่า
“  มึง  4 คน  มากับกู  กูจะให้มึงทำงานที่มูลดิน  “
ผม กับเพื่อนอีก 3 คนรีบลุกเดินตามครูฝึกไปทันที  ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องไปทำอะไร  แต่ที่ แน่ๆ  คือต้องเหนื่อยแน่นอน  ซวยจริงๆ  นึกว่าโดดหอเสร็จแล้วจะได้นั่ง พัก  กลับต้องไปทำงานอีกแล้ว
แต่ผมมาถึงที่มูลดิน  ซึ่งก็คือตรงลานโดด หอนั่นเอง  ผมถึงได้รู้ว่า  งานที่มูลดินไม่ได้แย่อย่างที่คิด  สำหรับ เพื่อนอีก 3 คนอาจจะคิดว่ามันเป็นงานที่ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน  แต่สำหรับผมไม่เลย  งานที่ มูลดินก็คือคนที่คอยช่วยพวกที่โดดหอลงมานั่นเอง  ผมมีหน้าที่กระโดดจับขาขวา ของคนที่โดดหอลงมาให้มั่น  เพื่อนอีกคนหนึ่งกระโดดจับขาซ้าย  แล้วเรา 2 คนก็ช่วยกันดึงเขาไปข้างหน้า  เพื่อนอีกคนซึ่งยืนอยู่หลังนั่งร้านก็รีบเข็น นั่งร้านออกมาจากฉากหลังเพื่อให้คนโดดหอหย่อนขาลงไปบนนั้น  แล้วเพื่อนอีกคน ที่นั่งอยู่บนนั่งร้านก็ช่วยเขาแกะสายอุปกรณ์ออกจากตัวแล้วผูกเชือกอะไรซัก อย่างให้  ก่อนจะปล่อยให้เขาไต่บันไดลงมาเอง  พอผมเริ่มทำงานก็มีคนกระโดดลง มาเรื่อยๆ  ผมกับเพื่อนๆ  ก็ต้องตะโกนเสียงดังซ้ำๆ ว่า
“  งอขาไว้ๆ ๆ งอขาด้วยเว้ย ! “  
เสร็จ แล้วก็กระโดดจับขาขวาของเขาไว้ด้วยความรวดเร็ว  ซึ่งต้องอาศัยพละกำลังมาก เพราะว่าตัวของเขาจะแกว่งไปแกว่งมาไม่หยุด  ผมต้องกะจังหวะดีๆ  เพื่อจะได้ กระโดดจับขาเขาไว้โดยไม่พลาด  ผมกระโดดจับขาล่ำๆ ของผู้ชายที่โดดหอมาเป็นสิบๆ  คน  เหนื่อยเหมือนกัน  ร้อนด้วย  แต่สนุก มากกว่าเพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบ ขาของผู้ชายน่ะล่ำๆ  แข็งๆ  กันทั้งนั้น  แถมได้จับคนละตั้งนานๆ แบบนี้  สวรรค์แท้ๆ  เลยครับ  เพื่อนบางคนกลัวโดดหอมาก  พอกระโดดลงมาถึงมูล ดิน  มองลงมาข้างล่างเห็นผมยืนรอจับขาเขาอยู่  ก็แหกปากลั่น
“  ไอ้หนุ่ม  ไอ้หนุ่ม  ช่วยกูด้วย  จับขากูที!  “
ผม รีบกระโดดจับขาเขาทันที  แล้วก็จับอยู่ตั้งนานจนเขายืนบนนั่งร้านเรียบ ร้อย  แล้วไต่ลงบันไดวิ่งออกไป  คนไหนหล่อๆ  ล่ำๆ  ผมก็จะจับขานาน หน่อย  แต่ถ้าไม่หล่อก็จับแป๊ปเดียว  ผมมีความสุขมาก  ทำหน้าที่อย่างขยัน ขันแข็งถึงแม้ว่าจะร้อนจะเหนื่อยล้าแค่ไหนก็สู้ตาย  ผมยังได้มีโอกาสจับขา ปิงปิง และบุ๋งบิ๋งด้วย  เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง  ผมทำงานจับขาเพื่อนๆ  จนไม่มีใคร โดดแล้ว  ก็ต้องเลิก  ทั้งๆ ที่ยังนึกเสียดายว่า  ยังจับขาไม่หนำใจเลย
ผม เดินกลับมาที่เดิมอย่างอ่อนระโหยโรยแรง  เห็นแต่ไอ้แมนและไอ้เทพนั่งอยู่ใต้ ต้นไม้แค่ 2 คนเท่านั้น  นอกนั้นก็เป็นเพื่อนหมวดอื่นๆ  ที่เพิ่งโดดหอเสร็จ  แล้วทยอยมา นั่งพักดื่มน้ำดื่มท่า  ถามพวกมันก็ได้ความว่า  เพื่อนคนอื่นๆ ในหมู่ แยกย้ายกันไปทำงานตามที่ครูฝึกสั่ง  บางคนก็ไปทำงานที่มูลดินอื่น  บางคนก็ ไปทำความสะอาดปืนและตรวจเช็คอาวุธต่างๆ   บางคนก็ไปช่วยครูฝึกทำงานอื่นๆ  ส่วนมัน 2 คนทำงานเสร็จแล้ว  ครูฝึกจึงให้พัก  และจะเรียกรวมทุกคนอีกครั้งในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า  ผมก็เลยนั่งลงข้างๆ มัน 2 คน รู้สึกเหนื่อยพอสมควรเพราะเสียพลังงานไปกับการทำงานที่มูลดินไม่น้อย  ก็เลย นั่งเงียบๆ อยู่เป็นนาน
ผมนั่งอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้  รู้สึกตัว อีกทีก็เห็นร่างสูงใหญ่ของครูพิชิตยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว  ผมรีบสวมหมวกแล้ว ลุกขึ้นยืนตรงทันที  แล้วสะกิดไอ้แมนกับไอ้เทพให้ทำแบบเดียวกับผมด้วย  พอ เรา 3 คนยืนกันหมดแล้ว  ครูพิชิตก็พูดช้าๆ
“  ตามสบายเถอะพวกมึง  ไม่ ต้องมากระเบียบนักก็ได้  ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวระหว่างกูกับพวกมึงๆ  กูแค่ อยากจะมาพูดอะไรกับพวกมึงเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนที่จะไม่ได้พูดอีก  “
ครูพิชิตพูดพลางมองหน้าผม  ไอ้แมน  และไอ้เทพ  แล้วเดินผ่านหน้าเรา 3 คนไปมา
“  อีกเดี๋ยวพวกมึงก็จะได้กลับบ้านไปนอนสบายแล้ว  ส่วนกู…ก็ยังต้องอยู่ที่เขาชนไก่นี้ไปอีกนาน  จนกว่าพวกมึงจะฝึกกันหมดทุกผลัด  “
ผมมองหน้าครูพิชิต  ครูพิชิตซึ่งตอนนี้เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้แมน  พูดต่อ
“  กู อยู่มาตั้งแต่ผลัดแรก  และก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว  พวกมึงลองคิดดูสิ  ว่า ครูฝึกอย่างพวกกูน่ะลำบากกว่าพวกมึงหลายเท่านัก  พวกมึงมาแค่ 5 วัน  แล้วก็กลับไปนอนตากแอร์สบายๆ  ที่บ้านแล้ว  แต่พวกกูต้องอยู่เป็น ปีๆ  แถมยังมีปี 4 ปี 5 อีก  แล้วก็ไม่รู้ตั้งกี่ผลัด  แถมยังต้องเตรียมการฝึกให้พวกมึงอีก  ต้อง ตะโกนเสียงแหบเสียงแห้ง  ทำกับข้าวให้พวกมึงแดก  ขุดหลุมให้พวกมึงลงไปนั่ง ตั้งรับ  เตรียมกระสุนให้พวกมึงซ้อมยิงปืน  เคลียร์พื้นที่ให้ก่อนที่พวกมึง จะเข้าตี  และก็อีกเยอะแยะที่กูทำให้พวกมึง  ฝีมือกูทั้งนั้น  หึ หึ  “
ครูพิชิตพูดแล้วยิ้มแห้งๆ
“  พวกมึงดูผิวกูสิ  “
ผมและเพื่อนอีก 2 คนมองผิวของครูพิชิต  มันดำเกรียมจนแทบไหม้  บ่งบอกว่าตากแดดมานาน  ครูพิชิตพูดต่อ
“  พวก มึงหลายคนน่ะ  เกลียดครูฝึกอย่างพวกกู  กูบังเอิญไปได้ยินมา  เพื่อนพวกมึง น่ะแหละ  ด่าพวกกูซะเละเลย  ด่าว่าบ้าอำนาจมั่ง  -เอี้ย-มั่ง  แกล้งลงโทษพวก มึงมั่ง  สารพัดจะด่าจริงๆ  กูก็ไม่โกรธหรอกนะ  กูเข้าใจพวกมึง  กูเองก็ไม่ ได้อยากจะทำโทษพวกมึงหรอก  ถ้าพวกมึงมีระเบียบนะ  กูจะไม่ทำโทษเลย  เพราะกู รักพวกมึง  “
ครูพิชิตตบไหล่ไอ้เทพเบาๆ  ก่อนจะพูดเสียงดัง
“  ใจจริง น่ะ  ครูฝึกทุกคนรักพวกมึงนะ  ไม่งั้นเขาไม่ทำเพื่อพวกมึงมากขนาดนี้ หรอก  อย่างที่กูบอกไปแล้ว  ครูฝึกน่ะลำบากกว่าพวกมึงหลายเท่านัก   พวกมึงรู้มั๊ย  แต่ทุกคนก็ยอมเหนื่อยเพื่อให้พวกมึงฝึกได้เต็มที่  และเข้ม แข็งสมชายชาตรี  ถึงแม้ว่าครูฝึกบางคนจะไม่ได้เป็นชายแท้ก็ตาม  “
ไอ้แมนแอบอมยิ้มเมื่อได้ยินครูพิชิตพูดแบบนั้น
“  กู คงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับพวกมึงอีกแล้ว  บางทีอาจจะเจอกันตอนปี 4 ปี 5  ถ้าพวกมึงคิดจะเรียนนะ  แต่มันก็คงยาก  โอกาสมันน้อย  ครูฝึกจะต้องหมุน เวียนมาฝึกให้พวกมึง  พวกมึงก็คงต้องเจอครูฝึกคนอื่นๆ  อีกเยอะแยะ  อาจจะ ไม่เจอกูอีกเลยตลอดชีวิตก็ได้  “
ครูพิชิตเดินมาหยุดตรงหน้าผม  เอามือ 2 ข้างบีบไหล่ของผมไว้แน่น  จ้องหน้าผม  แล้วพูดต่อ
“  ไหนๆ  จะ ต้องจากกันแล้ว  กูก็ขออวยพรให้มึงโชคดีนะ  ไอ้ตี๋แว่น  กูอยากให้มึงรู้ว่า กูรักมึงมาก  และกูจะไม่ลืมมึง  และเรื่องที่เกิดขึ้นในวันแรกที่มึงมา เลย  มึงต้องเข้มแข็งกว่านี้นะ  เกิดมาเป็นลูกผู้ชายทั้งที  อย่าอ่อนแอ ง่ายๆ จำคำกูไว้ล่ะ  สู้ต่อไปนะมึง  โชคดีว่ะ  “
“  ขอบคุณครับ  “
ผมพูดเสียงดังฟังชัด  ครูพิชิตยิ้มอย่างพอใจ  แล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้เทพบ้าง  ก่อนจะตบไหล่มันเบาๆ
“  โชค ดีนะ  ไอ้หนุ่มน้อย  กูรักมึงมากนะ  คืนนั้นกูมีความสุขมากจริงๆ ว่ะ  กูดีใจที่ได้สนุกกับมึง  และกูก็ดีใจที่เห็นมึงฝึกอย่างเข้ม แข็ง  องอาจ  สมชายชาติทหาร  ถึงมึงจะชอบเพศไหนก็ตาม  มึงก็ยังเป็นลูก ผู้ชายอยู่วันยังค่ำ  อย่าให้ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีมึงได้  เพียงเพราะว่ามึง เป็นเกย์  จำคำกูไว้ดีๆ ล่ะ  “
“  ขอบคุณครับครู  “
ไอ้เทพพูด  ครูพิชิตเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้แมน  แล้วบีบไหล่มันแรงๆ  ไอ้แมนสะดุ้งโหยงเพราะเจ็บ
“  สำหรับ มึง  ไอ้ตี๋  กูก็รักมึงนะ  กูจะไม่มีวันลืมเรื่องคืนนั้นเลย  มันเสียว มากๆ   ถึงใจจริงๆ  มึงเองก็หล่อน่ารักดีนะ  ขาวตี๋  แต่กูอยากให้มึงดูแมนกว่านี้ มากๆ  จริงอยู่ที่การกระทำของมึงจะแมน  แต่หุ่นมึงยังไม่แมนเท่าไหร่  มึง มันล่ำ  แต่ตัวมึงเล็กไปหน่อย  ล่ำแต่ตัวเล็กก็ไม่ไหวว่ะ  ดูไม่แมน  กูอยาก ให้หุ่นมึงดีกว่านี้  เอางี้  พอกลับไปถึงบ้านนะ  มึงออกกำลังกายให้มากกว่า นี้  แดกนมเยอะๆ  จะได้สูงๆ  ร่างกายมึงน่าจะยังโตได้อีกนะ  ใช่มั๊ย วะ  เด็กรุ่นๆ  มึงเนี่ย  กูว่ายังไม่ถึง  20  กันทั้งนั้น  ยังมีโอกาสสูง ได้  กูอยากเห็นเด็กรุ่นใหม่แบบพวกมึงตัวสูงใหญ่ว่ะ  แม่งเห็นแล้วเสียว ดี  เออ  แม่ง  พูดแล้วควยกูแข็งเลย  555  เอางี้  มึงทำตามที่กูบอกแล้ว กัน  หุ่นมึงจะดีเหมือนไอ้ 2 คนนี้  ยังไงกูก็ขอให้มึงโชคดีเช่นกันว่ะ  “
“  ครับผม  ขอบคุณที่ให้คำแนะนำผมครับ  “
ไอ้แมนพูด  ครูพิชิตมองหน้าพวกเรา 3 คนอีกครั้งหนึ่ง  แล้วพูดช้าๆ
“  กู ดีใจที่ได้รู้จักเด็กน่ารักอย่างพวกมึง  ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก  กูจะ ไม่ลืมพวกมึงเลย  โชคดีเอ็นท์ติดทุกคนนะ  แล้วก็อย่าลืมคิดถึงกูกันบ้าง ล่ะ  เออ  พวกมึงพักผ่อนต่อเหอะ  กูไปล่ะ  “
พูดจบครูพิชิตก็เดินตบไหล่ เรา 3 คนคนละครั้ง  ผม  ไอ้แมน  และไอ้เทพยกมือขวาขึ้นแตะขอบหมวกด้านขวาทำ วันทยหัตถ์แสดงความเคารพครูพิชิตเป็นครั้งสุดท้าย  ครูพิชิตยกมือขวาขึ้นแตะ ขอบหมวกแสดงความเคารพตอบ  แล้วเดินจากไป  ผม  ไอ้แมน  และไอ้เทพทรุดตัวลง นั่งต่อ  ไอ้เทพถามผมว่า
“  มีอะไรเกิดขึ้นวันแรกเหรอวะ  เมื่อกี้กูได้ยินครูพิชิตพูดกับมึง  มึงไปทำอะไรกับครูพิชิตมาวะ  เล่าให้กูฟังหน่อยสิ  “
ผมยิ้มแล้วถามกลับทันที
“  แล้ว เรื่องคืนนั้นของพวกมึง 2 คนล่ะ  มันอะไรวะ  กูก็ได้ยินนะ  มีความลับอะไรปกปิดกูอยู่เหรอ  ร้ายจริงๆ นะไอ้พวก-เอี้ย-  เล่าให้กูฟังก่อนเลย  พวกมึงก็ไปมีอะไรกับครูพิชิตมาใช่มั๊ย แม่ง  พวกมึงนี่-เอี้ย-จริงๆ ว่ะ  “
“  มึงก็-เอี้ย-เหมือนกันน่ะแหละ  เสือกไปทำอะไรกับครูฝึกตั้งแต่วันแรกเลย  “
ไอ้ เทพด่าผมแล้วยิ้มเขินๆ  แล้วจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องของมันกับไอ้แมนให้ผม ฟัง  พอผมฟังไอ้เทพเล่าจบแล้วผมก็เล่าเรื่องของผมให้ฟังบ้าง  สุดท้ายเรา 3 คนก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอย่างชัดเจน
………………………………….      
ปรี๊ด…..ปรี๊ด………..
เสียง นกหวีดรวมดังขึ้นอีกครั้ง  นักศึกษาวิชาทหารทุกคนรีบวิ่งมาจากทุกทิศทุกทาง มาเข้าแถวรวมกันตรงที่รวมพลหน้ากองบก. ทันที  ทุกคนต่างรีบหาแถวกันอย่างวุ่นวาย  แต่ก็หากันไม่ค่อยจะเจอเพราะไม่ ได้เข้าแถวรวมกันทุกหมวดแบบนี้มานานแล้ว  ส่วนใหญ่ในการฝึกที่ผ่านมา  จะฝึก แยกเป็นหมวดๆ  เพื่อความคล่องตัวในการฝึก ตอนเข้าแถวก็จะเข้าง่ายเพราะเข้าในหมวดของตนเองแค่หมวดเดียวเท่านั้น  แต่ คราวนี้ต้องเข้ารวมกันทุกหมวด  ย่อมจะทำให้เข้าแถวได้ยากขึ้น  หลายคนเข้า แถวผิดหมวดก็มี  ทำให้ต้องเสียเวลาหาคนในหมู่กันนานมาก  กว่าแถวจะเสร็จ เรียบร้อยก็เสียเวลาไปมาก  หัวหน้าชุดฝึกขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ  แผดเสียง ลั่น
“  ช้ากว่าเดิมมาก!  ฝึกดีๆ มา 5 วันจนจะได้กลับบ้านอยู่แล้ว  ดันมาตายตอนจบซะนี่  เข้าแถวมั่วไปหมด  ไม่ได้ เรื่องเลย พัน 32!  อย่างนี้คงต้องเสียเหงื่อกันหน่อยแล้ว  ทั้งหมด  วิดพื้นท่าเตรียม !  “
“  เตรียม !  “
ทุกคนตะโกนพร้อมกันในขณะที่ลดตัวลงตัวนอนคว่ำ  เอามือ 2 ข้างดันพื้นไว้  ขาเหยียดตึง  ครูฝึกสั่งต่อ
“  40  ครั้ง !  “
ผมและเพื่อนๆ  กัดฟันตะโกนลั่น  เหนื่อยอีกแล้วกู
“  40 ครั้ง !  “
“  ปฏิบัติ !  “
ผม และเพื่อนๆ  วิดพื้นจนครบ 30 ครั้ง  แล้วก็ลุกขึ้นยืนตามเดิม  ทุกคนเหนื่อยหอบ  แข้งขาอ่อนล้าไปหมด  ทุก คนมีสีหน้าไม่ดีเลย  หลายคนทำท่าจะเป็นลม  เพราะวันนี้แดดจัดมาก  อากาศก็ ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน  แถมพวกเรายังยืนตากแดดกันอยู่ด้วย  ผมเอามือปาดเหงื่อ บนหน้าผากทิ้งช้าๆ  พลางหอบแฮ่กๆ  ด้วยความเหน็ดเหนื่อย  เหงื่อผมแตกเต็ม หลังไปหมด  ร้อนก็ร้อน  เพลียก็เพลีย  ไม่กี่นาทีต่อมา  ครูฝึกก็ตะโกนว่า
“  แยก ย้ายกันไปรอบๆ  แล้วรอฟังเสียงนกหวีด  พอได้ยินเสียงนกหวีดของครู  รีบวิ่ง มาเข้าแถวอีกครั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  ถ้าคราวนี้ช้ากว่าครั้ง แรก  โดน 70 ครั้งแน่  แล้วครูจะให้วิ่งเข้าแถวใหม่อยู่อย่างนี้แหละจนกว่าจะเข้าแถวได้ เร็วขึ้น ปฏิบัติ !  “
ทุกคนต่างเดินช้าๆ  ออกจากที่รวมพล  ยืนกระจายกัน อยู่รอบๆ  ต่างก็ยืนเกาะกลุ่มกับเพื่อนๆ  ในหมวดเดียวกันไว้เอาไว้  ผมพูด กับไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และเพื่อนๆ คนอื่นที่พอจะรู้จักว่า
“  เพื่อให้เข้า แถวได้เร็ว ๆ กูขอแนะนำว่า  ใครอยู่หมู่เดียวกันให้จับมือกันไว้  เวลาเขาเรียกก็จับมือ วิ่งตามไปเป็นพรวนเลย  จับมือคนต่อคนแบบเรียงตามลำดับไหล่ไว้ด้วยเลยยิ่ง ดี  แบบนี้เข้าได้เร็วแน่ๆ  ทำเลยพวกมึง  “
ทุกคนเห็นด้วยกับวิธีของ ผม  คนที่อยู่หมู่เดียวกันก็จับมือเพื่อนที่อยู่หมู่เดียวกันเอาไว้แน่น ผมเองก็จับมือเพื่อนๆ ไว้เหมือนกัน  โดยเพื่อนทุกคนจับมือเรียงตามลำดับการเข้าแถวก่อนหลัง  หรือ ตามลำดับไหล่เอาไว้แล้ว
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
ทุกคนรีบวิ่งกลับมายัง ที่รวมพลอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว  แล้วรีบจัดแถว  วิธีของผมได้ผล  เพื่อนๆ ไม่มีใครหลงแถวไปเข้าหมวดอื่นเลย  ทุกคนเข้าแถวเสร็จเรียบร้อยด้วยเวลารวด เร็ว  หัวหน้าชุดฝึกยิ้มอย่างพอใจแล้วตะโกนลั่น
“  ดี  ดีมาก  ในเมื่อ ทุกคนทำได้ดีแบบนี้  ครูก็มีของขวัญจะให้  การฝึกวิชาทหารสิ้นสุดลง แล้ว  ลำดับต่อไปจะเป็นของขวัญที่พวกครูเตรียมไว้ให้ลูกศิษย์ที่น่ารักอย่าง นักเรียนทุกคน  “
หัวหน้าชุดฝึกบางครั้งก็ยังติดเรียกพวกเราว่า นักเรียนอยู่  ไม่เรียกว่า  นักศึกษาวิชาทหาร  แต่ผมก็ชอบให้เขาเรียกแบบ นี้  เพราะว่าฟังแล้วดูดี  และอีกอย่าง  พวกเราก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ จริงๆ  ตอนนี้ทุกคนรู้สึกยินดีที่ได้ยินว่า  การฝึกวิชาทหารได้สิ้นสุดลง แล้ว  และกำลังสงสัยว่า  ของขวัญที่ว่านั้นคืออะไร  
“ครูจะพานักเรียนไปเที่ยว!  รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่ๆ  “
ผมและเพื่อนๆ ทุกคนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ  และถามตนเองว่า  เที่ยวไหนวะ  เที่ยวในเขาชนไก่เนี่ยนะ ?

หนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 24
หัวหน้าชุดฝึกไม่ได้พูดอะไรต่อ  ครูฝึกแต่ละหมวดจึงให้นัก ศึกษาวิชาทหารทุกคนทยอยขึ้นรถคันที่นั่งมาวันแรก  แล้วพาพวกเราไปที่ “ พิพิธภัณฑ์ทหาร “  ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากเขาชนไก่เท่าไรนัก  พอไปถึงก็ต้องรีบวิ่งมาเข้า แถวที่ลานด้านล่างทันที  แล้วจึงเดินไปตามทางขึ้นเขาเตี้ยๆ  ขึ้นไปถึงลาน ชั้นบน  อากาศร้อนอบอ้าวมาก  ผมและเพื่อนๆ  ถึงกับเหงื่อแตกพลั่กๆ  ตัว เปียกชุ่มไปหมด  ครูฝึกสั่งให้นั่ง  แต่ก็ไม่มีใครนั่งได้เพราะพื้นร้อน มาก  ทุกคนก็เลยนั่งยองๆ  ฟังครูฝึกพูดสรุป  แต่ก็ไม่มีใครมีกะจิตกะใจฟัง ว่าครูฝึกพูดเรื่องอะไรเพราะกำลังร้อนจนแทบบ้า
“  โอย  ร้อนโว้ย! ไม่ไหวแล้วว่ะ  โคตรร้อนเลย  “
ผมบ่น  ไอ้อ๊อตหันหน้ามาพูดกับผมเบาๆ
“  อดทนหน่อยเถอะว่ะ  เดี๋ยวมันก็จบแล้ว  “
ผม ยิ้มอย่างอ่อนแรง  พอครูฝึกพูดจบปุ๊บ  ทุกคนก็พากันวิ่งไปหลบร้อนบนหอคอยจน หอคอยแน่นไปหมด  บนหอคอยลมเย็นสบายดีมาก  ผมค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย  สัก พักครูฝึกก็เรียกรวมอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้าไปในห้องแสดงนิทรรศการ  ห้องนี้ ตั้งอยู่ที่ลานชั้นบนใกล้ๆ  กับลานที่เรานั่งยองๆ  เมื่อครู่  ติดแอร์เย็น สบายมาก  ผมและเพื่อนๆ ทุกคนกลับมาสดชื่นมีเรี่ยวมีแรงขึ้นอีกครั้ง  เพราะไม่ได้สัมผัสกับความเย็น ของแอร์มานาน  ไอ้อ๊อตถึงกับสูดแอร์เข้าไปเต็มปอดแล้วพูดว่า
“  อา…. สวรรค์จริงๆ เลย  ในที่สุด  สวรรค์ก็เห็นใจกูแล้ว  ให้กูได้มีโอกาสได้มาที่นี่  มีความสุขจังว่ะ  “
“  เป็นโปรแกรมปิดท้ายการฝึกที่ดีจริงๆ ว่ะ  ของขวัญที่หัวหน้าชุดฝึกให้กับพวกเรานี่เยี่ยมจริงๆ  เย็นดีว่ะ  “
ผม พูดอย่างมีความสุข  แล้วหันไปมองเพื่อนๆ  ทุกคนมีสีหน้าแช่มชื่นราวกับปลาใน หนองน้ำแห้งขอดที่เพิ่งได้รับน้ำฝนใหม่ๆ  ต่างก็นั่งพักผ่อนอย่างสบายอกสบาย ใจ  ระหว่างนี้ครูฝึกก็บรรยายเรื่องประวัติศาสตร์สงครามไปเรื่อยๆ  และเปิด วีดีโอเรื่อง  ประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ  ให้ดูด้วย  ผมและเพื่อนๆ  ก็ฟัง มั่งไม่ฟังมั่ง  แต่ผมตั้งใจดูวีดีโอมากเพราะผมชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว  วี ดีโอสนุกดี  ภาพสวย  เหมือนจริงมาก  ช่วงเวลาที่อยู่ในห้องนี้เป็นช่วงที่ สบายที่สุดของการฝึกที่เขาชนไก่แล้ว  ผมดูวีดีโอไปก็พักผ่อนไปด้วย  รู้สึก มีความสุขจริงๆ  
พอวีดีโอจบ  ครูฝึกก็ให้พวกเราไปพัก  ผมและเพื่อนๆ  เดินลงมาที่ลานด้าน ล่าง  มี “ หน่วยบริการความสดชื่น “  อยู่  ผม  ไอ้อ๊อต  และไอ้เทพ  ก็เลยซื้อน้ำอัดลมดื่มกัน  แล้วก็นั่งพัก กันอยู่แถวนั้น  ไม่นานไอ้อ๊อตก็เริ่มบทสนทนาครั้งสุดท้ายที่เขาชนไก่
“  คราวนี้คงไม่มีอะไรแล้ว  จบสิ้นกันซะที  การฝึกร.ด. ในที่สุดกูก็ฝ่าฟันมาถึงวันสุดท้ายจนได้  “
ไอ้เทพพูดขึ้นบ้าง
“  กู เหนื่อยโคตรๆ เลย  ไม่คิดว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้  ร้อนก็ร้อน  แต่มันก็ผ่านไปแล้ว  มัน ผ่านไปแล้วว่ะเพื่อนๆ  กูผ่านร.ด. ปี 3 แล้ว  ดีใจจริงๆ ว่ะ  “
ผมยิ้มแล้วพูดกับเพื่อนรักทั้ง 2 คนช้าๆ
“  เกิด เหตุการณ์มากมายขึ้นที่นี่เนอะ  พวกมึงว่ามั๊ย  อย่างน้อยๆ  มาฝึกที่ นี่  กูHขึ้นมาก  แกร่งขึ้นมาก  ตอนนี้กูก็ไม่มีอะไรต่างกับพวกมึงแล้ว  กู พูดหยาบเป็นที่นี่  กูได้สาบานเป็นเพื่อนรักกับพวกมึงที่นี่  และกูได้ทำ อะไรที่กูไม่เคยทำมาก่อนที่เขาชนไก่นี่ด้วย  คิดแล้วกูประทับใจจริงๆ เลย  กูจะไม่มีวันลืมเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เลย  “
“  กูก็ไม่ลืมเหมือนกัน  กูจะเก็บมันไว้ในความทรงจำตลอดไป  “
ขณะ ที่ไอ้อ๊อตพูด  ไอ้เด่น ไอ้ไก่ และไอ้แมนก็เดินเข้ามาหา  แล้วก็นั่งลงข้างๆ  ไอ้แมนหยิบมือถือขึ้นมา คุย  ส่วนไอ้เด่นมองหน้าผม ไอ้อ๊อต  และไอ้เทพ  แล้วเริ่มพูด
“  ถึงเวลาที่กูจะต้องจากกับพวกมึงแล้วว่ะ  “
ผมหน้าม่อยลงทันที  
“  เออ  นั่น สิ  เดี๋ยวพอพวกกูขึ้นรถ  กูก็ไม่ได้เจอกับมึงอีกแล้ว  เพราะว่าการฝึกมันจบ แล้วนี่หว่า  เสียดายจังว่ะ  ไอ้เด่น  มึงน่าจะอยู่โรงเรียนเดียวกับกู นะ  กูไม่อยากจากมึงเลย  “
ไอ้เด่นยิ้มแห้งๆ
“  กูก็ไม่อยากจากพวก มึง  แต่มีพบก็ต้องมีจาก  กูยอมรับว่า 5 วันที่กูได้กิน ได้นอน  ได้ฝึกร่วมกับพวกมึง  มันทำให้กูผูกพันกับพวกมึงไม่ใช่น้อยเลย ว่ะ  กูรักพวกมึงนะ  ไอ้หนุ่ม ไอ้อ๊อต  ไอ้เทพ  ไอ้แมนด้วย  ถึงกูจะรู้จักกับพวกมึงมาไม่นาน  แต่กูรู้สึก ผูกพันกับพวกมึงยังกับรู้จักมาเป็นปีอย่างนั้นแหละ  “
“  ก็เพราะว่ามึงเป็นพวกเดียวกับพวกกูไงล่ะ  มึงถึงได้รู้สึกแบบนี้  “
ไอ้เทพพูด  ไอ้เด่นเขยิบมาใกล้ผมแล้วพูดเสียงสั่น
“  ไอ้ หนุ่ม  กูรักมึงนะ  จากกันแล้วก็อย่าลืมกูล่ะ  ถึงแม้กูจะไม่มีโอกาสเจอมึง อีกแล้ว  แต่มึงจะอยู่ในใจกูตลอดไป  กูจะไม่ลืมมึงเลย  เพื่อน!  “
ผมโผ เข้ากอดไอ้เด่นทันที  เรา 2 คนตบหลังกันและกันเบาๆ  นักศึกษาวิชาทหารคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่แถวนั้นต่างมองอย่างประหลาดใจที่เห็นผู้ชาย 2 คนกอดกันกลมดิก  เรากอดกันไม่นานก็ผละจากกัน  ไอ้เด่นพูดขึ้นมาก่อนว่า
“  โชคดีไอ้หนุ่ม  โชคดี  เราคงได้พบกันอีก  “
“  โชคดีเช่นกัน  ไอ้เด่น  เพื่อนรัก  “
ไอ้เด่นยิ้มให้ผม  แล้วหันไปพูดลากับไอ้อ๊อตแล้วกอดมันบ้าง
“  โชคดีนะไอ้อ๊อต  “
“  โชคดีว่ะ  หัวหน้าหมู่  “
ไอ้ อ๊อตตอบ  ไอ้เด่นยิ้มแก้มแทบปริแล้วลาไอ้เทพกับไอ้แมนต่อ  ไอ้ไก่ก็พูดลาผม และเพื่อนๆ เช่นกัน  แต่มันไม่ได้กอดพวกเรา  พอทุกคนร่ำลากันเสร็จแล้ว  ยังไม่หมดเวลา พัก  พวกเราก็เลยนั่งคุยกันต่อ  ไอ้อ๊อตพูดพึมพำ
“  กูคงไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว  เขาชนไก่เนี่ย  ดีใจชิบหายเลยว่ะ  “
“  กูก็เหมือนกัน  สิ้นสุดกันซะที  ถ้ากูต้องมาอีกกูคงบ้าตายแน่ๆ  ร้อนก็ร้อน  เหนื่อยก็เหนื่อย  S  “
ไอ้เทพพูดบ้าง  ไอ้เด่นสอดขึ้นมาทันที
“  แต่กูยังต้องมาอีกว่ะ  ตอนปี 4 ปี 5 กูตั้งใจไว้แล้วว่าจะเรียนต่อ  “
ไอ้อ๊อตหัวเราะ
“  5555  เออ  จะมาอีกก็เรื่องของมึงเหอะ  แต่กูขอบาย  ให้กูมาอีกกูไม่มาแล้ว  แม่ง  มาแล้วก็เหนื่อย  “
ผมพูดขึ้นมาบ้าง
“  กู ภูมิใจว่ะที่ผ่านการฝึก 5 วันนี้มาได้  แต่กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้  เลือดตาแทบกระเด็นเลยกู  โหดชิ บหาย  กูขอเรียกการฝึกร.ด. ครั้งนี้ว่า ร.ด. หฤโหด  เลยละกัน  “
ไอ้เด่นฟังแล้วทำหน้าแปลกๆ
“  มันโหดขนาดนั้นเลยเหรอวะ  กูว่าไม่นะ  ไอ้หนุ่ม  กูว่ามันฝึกหนักก็จริง  แต่ก็ไม่โหดเท่าไหร่นะ  “
“  มัน อาจไม่โหดสำหรับมึง  แต่มันโหดสำหรับกูว่ะ  มึงไม่ได้ตกจากกำแพงแล้วตีนบวม แบบกูนี่  ไอ้เด่น  มึงไม่รู้อะไร  กูเจ็บตีนมาตลอดเลยตั้งแต่ตกจากกำแพงวัน นั้น  แต่กูก็อดทน  ไอ้ห่า  กูฝึกแบบล้มลุกคลุกคลานมาตลอด  กูอดทนชนิดที่ เรียกว่าไม่เคยอดทนแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต  แต่กูก็ทำได้  กูทำได้จริงๆ  “
ผมพูดเสียงหนักแน่น  ไอ้เด่นเอื้อมมือมาตบหลังผมแรงๆ ก่อนจะพูดว่า
“  มึงเป็นคนเก่ง  มึงต้องทำได้อยู่แล้ว  “
“  ขอบใจที่ชมกู  เพื่อน  “
ผมตอบแล้วโอบไหล่ไอ้เด่นเอาไว้  พลางยิ้มให้กับเพื่อนทุกคนอย่างมีความสุข
……………………………………  
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
ครูฝึกเป่านกหวีดอีกครั้ง  ผมและเพื่อนๆ ลุกขึ้นยืน  ผมไม่ลืมที่จะตบไหล่ไอ้เด่นเบาๆ  อีกครั้งแล้วพูดว่า
“  โชคดีอีกครั้งว่ะเพื่อน  กูจะไม่ลืมมึงเลย  “
“  โชคดีเช่นกันว่ะ  รีบไปเข้าแถวเหอะ  “
ไอ้ เด่นพูดแล้วรีบวิ่งไปเข้าแถวทันที  พอทุกคนเข้าแถวเสร็จแล้ว  ครูฝึกก็ทยอย ให้ทุกคนเดินขึ้นรถ   ขากลับนี้คนแน่นมากกว่าขาไปจนต้องนั่งเบียดกันเบาะละ  3 คน  ผมจึงได้มีโอกาสนั่งกับไอ้อ๊อต  และไอ้เทพ  รถออกจากเขาชนไก่ตอน บ่ายๆ  ผมชะโงกมองเขาชนไก่เป็นครั้งสุดท้าย  ไอ้อ๊อตมองผมแล้วหัวเราะเสียง ดัง
“  แหม  มองตาละห้อยเชียวนะมึง  มึงอาลัยอาวรณ์ที่นี่มากนักเหรอ วะ  ทำยังกับว่ามึงไม่อยากจากที่นี่ไปอย่างนั้นแหละ  ติดใจอยากจะอยู่ต่อ เหรอวะ  “
ผมส่ายหน้า  แล้วพูดกับไอ้อ๊อต
“  กูรักที่นี่ว่ะ  เพราะที่นี่สอนอะไรกูหลายๆ อย่าง  สอนให้กูเข้มแข็ง  กล้าหาญ และยังสอนให้กูรู้จักคำว่ามิตรภาพด้วย  “
“  มึงอยากมาอีกรึไง  “
ไอ้อ๊อตถาม  ผมเงียบ  ไอ้เทพซึ่งนั่งฟังอยู่เงียบๆ  มานาน  โพล่งขึ้นมา
“  กูก็รักว่ะ  แต่กูไม่อยากมาอีกแล้ว  เออ  มึง 2 คน  กูว่าตอนนี้เรามาหลับกันก่อนดีกว่า  กูง่วงHๆ เลย  “
ไอ้ อ๊อตเห็นด้วย  มันก็เลยนั่งพิงไอ้เทพแล้วหลับไป  ไม่นานมัน 2 คนก็หลับสนิท  ผมมอง 2 ข้างทางจนรถออกจากเขตเขาชนไก่  แล้วครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอด 5 วันที่เขาชนไก่  แต่ก็คิดได้ไม่นานเพราะทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย  ไม่นานผมก็ หลับไปด้วยความอ่อนเพลียเช่นเดียวกับไอ้อ๊อต  และไอ้เทพ
……………………………….
“  เฮ้ย  ถึงสวนเจ้าเชตแล้วโว้ย  “
ผม สะกิดบอกเพื่อนรักทั้ง 2 คน ให้ตื่น  ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตั้งแต่รถแล่นมาถึงสะพานพระปิ่นเกล้า แล้ว  ตอนนี้รถจอดที่สวนเจ้าเชตเรียบร้อย  ทุกคนทยอยลงจากรถ  ครูฝึกเรียก รวมอีกครั้งแล้วให้ทุกคนกล่าวคำปฏิญาณพร้อมกันเป็นครั้งสุดท้าย  พอกล่าว จบ  ครูฝึกก็พูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า  
“  ขอให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัย  กลับไปพบพ่อแม่  หรือลูกเมีย ที่บ้าน  โชคดีนะครับ !  “  
แล้วครูฝึกก็ให้นักศึกษาวิชาทหารเดินออกจากประตูทีละหมวด  ทันทีที่ทุกคนก้าวพ้นประตู  ทุกคนก็เฮออกมาดังๆ  ด้วยความดีใจ
“  เฮ!  สำเร็จแล้วโว้ยยยยยยยยย   กูทำสำเร็จแล้วโว้ยยยยยยย  “
เสียง ใครต่อใครตะโกนแบบนี้ดังกึกก้อง  ทุกคนในตอนนี้ต่างมีความรู้สึกเดียว กัน  นั่นคือความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ฝึกร.ด. มาจนจบปี 3 อย่างสมบูรณ์ซะที  หลังจากที่อดทนเรียนมาถึง 3 ปี  ผมและเพื่อนๆ  ยิ้มอย่างมีความสุข  ดีใจมากจริงๆ  หมดเคราะห์หมดกรรมกัน ซะที  ไม่ต้องทนลำบากกันอีกต่อไปแล้ว  เราอยู่ในโลกที่ปิดตายมา 5 วันเต็มๆ   ต่อจากวันนี้  ถึงเวลากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงกันอีกครั้ง
เพื่อนๆ นักศึกษาวิชาทหารเริ่มทยอยกันเดินทางกลับบ้าน  ผม  ไอ้อ๊อต  และไอ้ เทพ  ขึ้นแท็กซี่กลับด้วยกัน  แต่ก็ไม่ลืมจะลาไอ้แมน  ปิงปิง  และบุ๋งบิ๋ง ก่อน
“  โชคดีไอ้แมน  แล้วเจอกันวันจันทร์นะ  “
“  เออ  อย่าลืมที่สัญญากันไว้ล่ะ  คราวนี้ขอเย็ดแบบนานๆ  นะ  โชคดีหนุ่ม  “
“  โอเคว่ะ  แล้วเจอกัน  “
ผมตอบไอ้แมน  แล้วหันไปลา 2 กะเทยสาว  
“  กลับบ้านดีๆ ล่ะหนุ่มๆ  บายจ้ะ  “
ปิง ปิงพูดยิ้มๆ  ดูมันอารมณ์ดีมาก  คงยังติดใจรสKของผู้ชายที่เขาชนไก่อยู่ แน่ๆ  ผมยิ้มตอบแล้วรีบก้าวขึ้นรถแท๊กซี่  รถขับมาส่งถึงบ้านผมก่อน  ผมหัน มาลาไอ้อ๊อตกับไอ้เทพ
“  กูไปก่อนนะ  เพื่อนรัก  แล้วเจอกันวัน จันทร์  ที่โรงเรียน  อ้อ  แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นที่เขาชนไก่  ขอให้มึง 2 คนเก็บเอาไว้เป็นความลับนะ  รู้กัน 3 คนแค่นั้น  “
“  แน่นอน  เรื่องที่ เกิดขึ้นที่นั่นน่ะ  มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น  ต่อไปเรื่องระหว่างกู กับมึง  ยังต้องมีต่ออีกยาว  หึ หึ  ได้เสียวไปจนกว่าจะจบม. 6 แน่ๆ  “
ไอ้อ๊อตพูดยิ้มๆ  ไอ้เทพเสริมขึ้นมาว่า
“  แบบทรีซัมด้วยนะS  มันส์ๆ  ดี  “
“  พอ  พอ   พวกมึงเนี่ย  พูดออกมาได้ไม่อายปาก  กูไปก่อนล่ะ  ไว้เจอกันใหม่นะ  โชคดี  ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ  “
“  โชคดี  เพื่อนหนุ่ม  วันจันทร์เจอกัน  “
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพพูดขึ้นมาเกือบจะพร้อมกัน  ผมยิ้มแล้วตบไหล่เพื่อนทั้ง 2 เบาๆ  ก่อนจะก้าวลงจากรถ  แล้วโบกมือลาพวกมันจนรถแล่นจากไป
ผม กลับมาถึงบ้านแล้ว  กำลังยืนอยู่หน้าบ้าน  หน้าดำปี๋เพราะยังล้างสีฝุ่นออก ไม่หมด  ปากแตกเลือดออกซิบๆ ผิวดำเกรียมแทบไหม้  เนื้อตัวมอมแมมสกปรกสุดๆ  เหงื่อออกชุ่มไปหมดทั้ง หลัง  แบกเป้สนามพองโตที่แสนจะหนักอึ้งจนไหล่แทบยุบ  ติดปีกสีทองอร่ามไว้บน อกเสื้อ  ปลายรองเท้าหนังขาดวิ่นเนื่องจากผ่านการเดินลุยป่ามาอย่าง โชกโชน  สารรูปของผมตอนนี้เหมือนทหารผ่านศึกเลย  หมดสภาพจริงๆ  แต่มันก็ดู แมนมากๆ
ผมเปิดประตูบ้านเข้าไป  แล้วเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น  พ่อนั่งดูทีวีอยู่พอดี  พอพ่อหันมาเห็นผมก็ร้องตะโกนด้วยความดีใจ
“ หนุ่ม  ลูกพ่อ  กลับมาแล้วเหรอลูก !  “
ผมรีบยกมือขวาขึ้นแตะขอบหมวกด้านขวาทำวันทยหัตถ์แสดงความเคารพพ่อทันทีเหมือนตอนที่ผมจะไป  แล้วพูดเสียงดัง
“  ผมทำสำเร็จแล้วครับพ่อ !  ผมฝึกร.ด. เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ!  “
“  เก่งมากลูกพ่อ  เก่งมาก  เหนื่อยมากมั๊ย  มาพ่อช่วยแบกของ  “
พ่อ พูดด้วยความดีใจ  แล้วกุลีกุจอมาช่วยผมแบกเป้  แล้วให้ผมไปอาบน้ำ  แต่ง ตัว  ก่อนรับประทานอาหารร่วมกับทุกคนในครอบครัว  พอผมกินอิ่มแล้ว  ผมก็เล่า เรื่องราวการฝึกทหารที่เขาชนไก่ให้ทุกคนในครอบครัวฟัง  พอผมเล่าจบก็ขอตัวมา นอนเพราะเหนื่อยเหลือเกิน
ก่อนที่ผมจะนอน  ผมไม่ลืมที่จะหยิบไดอารี่ขึ้น มาเขียนความประทับใจในการเข้าค่ายที่เขาชนไก่ครั้งนี้แบบสั้นๆ  พอเขียน เสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน  แล้วหลับเป็นตาย  คืนนั้นผมนอนหลับอย่างเป็นสุขที่ สุดในชีวิต
………………………………..
บนโต๊ะเขียนหนังสือของผม  ไดอารี่เล่มนั้นยังคงกางหราอยู่  ปรากฏข้อความอยู่ตรงกลางหน้ากระดาษไม่กี่ประโยค  ดังต่อไปนี้
“  การ ไปฝึกร.ด. ครั้งนี้  เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ยากจะลืมจริงๆ  มันทั้งโหด  ทั้งหนัก  และ ก็ทั้งเสียว  ตลอด 5 วันในเขาชนไก่  มันทำให้ผมได้รู้จักและได้สัมผัสกับรสชาติความเป็นลูกผู้ชาย ที่หาไม่ได้จากตำราเล่มไหนๆ  มันทำให้ผมแกร่งขึ้น  กล้าหาญขึ้นกว่าเดิม มาก  ผมจะไม่ลืมทุกเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เลยตราบชั่วชีวิต  และผมกล้าพูด ได้เต็มปากว่า  ไม่มีการไปเข้าค่ายครั้งไหน  ที่ทำให้ผมประทับใจเท่าค่ายฝึก ร.ด. ณ เขาชนไก่นี้อีกแล้ว
ดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสไปฝึก  “ ร.ด. หฤโหด ” ในครั้งนี้  
หนุ่ม
31 มกราคม 2544  “
………………………………………..

                                                              
                                                                 ………จบบริบูรณ์………



(ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดนะครับ  ผมรักคุณทุกคนมากจริงๆ   แล้วพบกันใหม่ให้ได้นะครับ)