การทำหมันชาย (Vasectomy หรือ Male surgical sterilization) เป็นการคุมกำเนิดถาวรโดยทำการผูกและตัดหลอด/ท่อนำอสุจิ (สเปิร์ม/Sperm) ป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิจากอัณฑะเคลื่อนมายังถุงพักเชื้ออสุจิ ทำให้น้ำอสุจิที่หลั่งออกมาไม่มีตัวอสุจิ จึงทำให้ไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น การทำหมันชายมีกี่วิธี? อะไรบ้าง? วิธีการทำหมันชายทำโดยการผ่าตัด ทำได้ง่าย ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย ปลอดภัยกว่าการทำหมันหญิง ใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ ปัจจุบันมีวิธีผ่าตัดทำหมันชาย 2วิธี คือ 1. การใช้มีดกรีดเปิดผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะ เหนือหลอดนำน้ำเชื้ออสุจิ 1-2แผล ขาดประมาณ 1ซม. ทำการผูกและตัดหลอดน้ำเชื้ออสุจิทั้ง 2ข้าง จากนั้นเย็บปิดผิวหนังที่กรีด 2. การใช้เครื่องมือเจาะบริเวณผิวหนังเพื่อหาหลอดนำอสุจิจากนั้นทำการผูก และตัดหลอดนำอสุจิ ทั้งสองข้าง ซึ่งวิธีนี้ แผลมีขนาดเล็ก จึงไม่จำเป็นต้องเย็บปิดแผล ข้อดีของการทำหมันชาย - มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงกว่าการทำหมันหญิง มีอัตราการล้มเหลว (การตั้งครรภ์ของภรรยาหลังสามีทำหมัน) ต่ำ พบ 1ใน 700-2,000รายที่ภรรยายังตั้งครรภ์ได้หลังสามีทำหมัน - เป็นวิธีผ่าตัดที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาดมสลบ - ค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการวางแผนครอบครัว - ผ่าตัดครั้งเดียว สามารถคุมกำเนิดได้ตลอดชีวิต ไม่ต้องพะวงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ - ไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศของเพศชาย เนื่องจากการผ่าตัดไม่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาท ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้าง หรือการใช้ฮอร์โมนเพศของร่างกาย - มีรายงาน เพิ่มความสุขทางเพศหลังจากทำหมันชาย เนื่องจากคู่สมรสไม่ต้องพะวงเรื่องการตั้งครรภ์ - การทำหมันชายไม่มีผลทำให้พละกำลังการทำงานหนักตามปกติลดลง - ไม่มีผลต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากโรคมะเร็งอัณฑะมะเร็งชนิดใดๆรวมทั้งของอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งของผู้ทำหมันและของภรรยา หรือโรค ข้อจำกัดของการทำหมันชายมีอะไรบ้าง? - ผู้ให้การผ่าตัดต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญได้รับการฝึกฝนอย่างดี - อาจพบภาวะแทรกซ้อน (ผลข้างเคียง) หลังผ่าตัดทำหมันได้ เช่น อาจเกิดภาวะ ปวด บวม มีเลือดออก และมีลิ่มเลือดคั่งบริเวณถุงอัณฑะ (พบได้น้อย) และ/หรืออาจมีการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด - ไม่ป้องกันโรคติดต่อ/โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ - ไม่เป็นหมันทันทีหลังผ่าตัด ต้องรอนานประมาณ 3เดือน หรือหลังการหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 20ครั้ง จากนั้นควรทำการตรวจน้ำเชื้อว่าพบตัวอสุจิหรือไม่ เพื่อยืนยันการเป็นหมัน ทั้งนี้เพราะหลังทำหมัน น้ำเชื้อจะยัง คงมีอสุจิตกค้างอยู่ในหลอดนำอสุจิได้อีกระยะเวลาหนึ่งดังกล่าวแล้ว ดัง นั้นหลังทำหมันชาย จึงควรให้ฝ่ายหญิงคุมกำเนิดต่อไปก่อน หรือใช้ถุง ยางอนามัย จนกว่าผ่านระยะเวลาดังกล่าวแล้ว แต่ที่แน่นอน คือ หลังตรวจน้ำเชื้อแล้วไม่พบตัวอสุจิ ข้อห้ามของการทำหมันชายมีอะไรบ้าง? - ต้องการมีบุตรเพิ่มอีกในอนาคต - ผู้ที่เข้ารับบริการต้องไม่มีภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หากได้รับยาละ ลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน และต้องงดยาก่อนทำผ่าตัดตามแพทย์สั่ง - ช่วงเวลาที่ทำผ่าตัดต้องไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่มีการติดเชื้อบริเวณถุงอัณฑะ ภาวะแทรกซ้อนจากการทำหมันชายมีอะไรบ้าง? - เกิดลิ่มเลือดคั่งในบริเวณถุงอัณฑะ พบได้ประมาณ 1%ของผู้รับการทำหมันชาย มีสาเหตุจากการบาดเจ็บต่อหลอดเลือดที่อยู่โดยรอบหลอดนำอสุจิ ถ้าลิ่มเลือดคั่งมีขนาดเล็ก ร่างกายจะดูดซึมเลือดที่คั่งให้หายไปได้เองภายในระยะเวลา 1-2สัปดาห์ หากมีขนาดใหญ่และมีอาการปวดมาก ควรรีบกลับมาพบแพทย์ที่ทำผ่าตัด - แผลผ่าตัดติดเชื้อ พบได้น้อยมาก โดยจะมีอาการบวมแดง และปวดอัณฑะ หรืออาจมีหนองไหลจากแผล หากเกิดอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ด่วน - ก้อนในถุงอัณฑะ เป็นก้อนอสุจิจากการรั่วของแผลผ่าตัดผูกหลอดนำอสุจิ โดยอสุจิจะเกาะอยู่รอบๆปลายหลอด ก่อการอักเสบโดยรอบ และจับตัวกันเป็นก้อนห่อหุ้มปลายหลอด ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด รักษาโดยการพักผ่อนร่างกาย และให้ยาต้านการอักเสบ - ปวดหน่วงเรื้อรังที่อัณฑะ พบประมาณ 1ใน 2,000ราย มีสาเหตุจากความดันที่เพิ่มขึ้นภายในหลอดนำอสุจิด้านที่ติดกับลูกอัณฑะเนื่องจากยังมีการสร้างอสุจิได้อยู่เหมือนเดิม แต่ไม่สามารถถูกปลดปล่อยออกมาได้จากการถูกผ่าตัดหลอดนำอสุจิ อาการปวดหน่วงนี้เป็นไม่มาก และมักเป็นๆหายๆตลอดไป หลังทำหมันชายมีอาการใดบ้างที่ต้องรีบพบแพทย์? - มีอาการปวด บวม บริเวณถุงอัณฑะ - มีน้ำ เลือด หรือหนอง ซึมจากแผลผ่าตัด - อัณฑะมีขนาดใหญ่มากขึ้น หลังทำหมันชายควรปฏิบัติตัวอย่างไร? - ห้ามมิให้แผลผ่าตัดถูกน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 3วัน - เว้นการยกของหนัก หรือการออกกำลังกายอย่างหนักหลังผ่าตัดอย่างน้อย 24-48ชม. - งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 7วัน - เนื่องจากหลังผ่าตัด จะไม่เป็นหมันทันที จึงควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัยเป็นเวลาอย่างน้อย 3เดือน หรือจนกว่าได้รับการตรวจน้ำเชื้อยืนยันว่าไม่พบตัวอสุจิ โอกาสตั้งครรภ์หลังทำหมันชายมีหรือไม่? อย่างไร? การทำหมันชายถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงวิธีหนึ่ง พบมีอัตราความล้มเหลว (ภรรยาตั้งครรภ์หลังสามีทำหมัน) 1ใน 700-2,000ราย โดยความล้มเหลวอาจเกิดจากการผิดพลาดจากการผ่าตัด หรือเกิดการเชื่อมต่อใหม่ของหลอดนำอสุจิ หากต้องการมีบุตรหลังทำหมันชายทำได้หรือไม่? อย่างไร? หากต้องการมีบุตรหลังผ่าตัดทำหมันชายสามารถทำได้ แต่มีค่าใช้จ่ายสูง ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผลสำเร็จในการตั้งครรภ์ไม่แน่นอน ทั้งนี้อัตราความ สำเร็จ ขึ้นกับระยะเวลาหลังจากการผ่าตัดทำหมัน ความเชี่ยวชาญของผู้ผ่าตัด อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้แก้ไข อายุและสุขภาพของผู้ทำหมัน และของภรรยา ซึ่งโดยทั่วไปโอกาสแก้ไขได้ผลสำเร็จประมาณ 30-75%ทั้งนี้พบมีอัตราตั้งครรภ์สูงสุดเกิดภายใน 3ปีหลังผ่าตัดแก้ไขทำหมัน นอกจากวิธีผ่าตัดแก้ไข ยังสามารถใช้วิธีดูดเก็บเนื้อเยื่อบริเวณอัณฑะ เพื่อหาตัวอสุจิ แล้วนำมาใช้ในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น เด็กหลอดแก้ว
ที่มา http://talkaboutsex.thaihealth.or.th/knowledge/6062
|