•เหตุผล..ที่คุณโดนเหวี่ยง•

aquaaugust

    เคยบ้างไหมที่ชีวิตดูมีความสุขดี ความรักก็เรื่อยๆเปื่อยๆ ไม่สุขไม่เศร้าแค่เสมอตัวไปวันๆ เรื่องทะเลาะกันก็มีบ้างตามประสาลิ้นกับฟัน แล้วจู่ๆพ่อเจ้าประคุณก็เซย์กู้ดบายซาโยนาระขอลาออกจากชีวิตคู่ซะเฉยๆ งั้นแหละ

ความจริงก่อนหน้านี้อาจมีสัญญาณเตือนให้รู้ โดยสังเกตได้จากท่าทีของเขา แต่เราไม่ทันฉุกคิด อาจเพราะมัวยุ่งวุ่นวายกับเรื่องอื่นจนวางใจคนใกล้ตัว ไม่ทันใส่ใจถึงความรู้สึกของเขา หรือไม่ได้คอยดูแลความรักให้งอกงามอย่างที่ควรเป็น

สาเหตุที่ทำให้ผู้ชายตัดสินใจโบกมือลาจากผู้หญิงที่เขาเคยรัก มีมากมายหลายประการ สาวไหนเพิ่งถูกหนุ่มสลัดทิ้ง จงเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วลองพิจารณาดูว่าของตัวเองตรงกับข้อไหน เผื่อคราวหน้าจะได้เตรียมตัวป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง

เขามีคนใหม่
นี่คือสาเหตุดึกดำบรรพ์ที่ผู้ชายใช้ทิ้งผู้หญิงตั้งแต่เมื่อล้านปีก่อน ผู้ชายทำแบบนี้ตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์ยุคหินโน่นแน่ะ โดยพื้นฐานคนมักคิดว่า เป็นเรื่องของเซ็กส์ล้วนๆ แต่แท้จริงแล้วผู้ชายแค่พบว่าผู้หญิงคนใหม่รักเขามากกว่าที่เรารักเขาน่ะสิ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขารักผู้หญิงคนนั้นมากกว่าเรา เขาแค่ต้องการผู้หญิงที่รักและทุ่มเทให้เขาอย่างสุดหัวใจ คอยสนับสนุนส่งเสริมการงาน เข้ากับเพื่อนร่วมก๊วนเหล้าของเขาได้ ดูแลลูก จัดการค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และสามารถรับภาระทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว ในยามที่เขากำลังค้นหาตัวเองอยู่ว่า เขาต้องการอะไรในชีวิต…นี่ละผู้ชาย

เขาพบสิ่งอื่นที่ดีกว่า
ในกรณีนี้หมายถึงผู้ชายที่กำลังทนทุกข์ทรมานอยู่กับคู่ของตัวเอง ผู้หญิงที่อยู่ด้วยไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว เจ้าหล่อนทั้งหยาบคายร้ายกาจ กลั่นแกล้งสาระพัด ไม่ใส่ใจดูแลแถมบางครั้งยังไปมีอะไรกุ๊กกิ๊กกับเพื่อนซี้ของเขาเสียด้วย ไม่ให้เกียรติยกย่องชื่นชมในสิ่งที่เขาทำสักอย่างเดียว ผู้ชายพวกนี้กำลังตกอยู่ในห้วงทุกข์แสนสาหัส แต่ที่เขายังทนอยู่เพราะไม่รู้ตัวว่ากำลังตกนรกทั้งเป็น และไม่รู้จะหนีไปไหน นอกจากต้องติดตังอยู่กับนางมารร้ายตัวนี้ เขาจึงต้องหาทางออกอย่างอื่น ผู้หญิงเสียเปรียบในข้อนี้ เพราะเป็นเพศที่ต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เวลาทะเลาะกันแต่ละที เอะอะเข้าหน่อย พ่อเจ้าประคุณก็คว้ากุญแจรถหรือไม่ก็เดินออกจากบ้านไปเฉย ขณะที่ผู้หญิงต้องนั่งน้ำตาตกอยู่ที่บ้าน โชคดีที่สมัยนี้เป็นยุคไฮเทค ทางออกอย่างอื่นที่เพิ่มเข้ามาก็คืออินเตอร์เน็ตกับเกมคอมพิวเตอร์ ผู้ชายที่กำลังผจญเวรผจญกรรมในข้อนี้มักจะหาอะไรทำให้มันหมกมุ่นไปซะ จะได้มีเวลาคิด จนเมื่อสภาพจิตใจมั่นคงดีแล้ว เขาจะรวบรวมความกล้าพอที่จะขอบอกเลิก เพื่อความสุขในชีวิตข้างหน้า

เขากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตวัยกลางคน
นี่ก็ใช้เป็นข้ออ้างกันตะพึดตะพือ ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะโง่หรือฉลาด ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวไม่เป็นท่า…ก็อันนี้แหละ… เขากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตวัยกลางคน แต่ส่วนมากมักใช้อ้างเวลาทำอะไรในทางไม่ค่อยดี ความจริงแล้วนักจิตวิทยาหลายคนบอกว่า เหตุผลที่แท้จริงของวิกฤตวัยกลางคนในผู้ชายคือ เขาเกิดตระหนักขึ้นมาได้ว่า ตัวเองไม่ใช่คนควบคุมกฎเกณฑ์ของจักรวาลสักหน่อย แต่กำลังจะตายตามกฎของโลก ไม่ได้เป็นอมตะอยู่ยั้งยืนยงเหมือนที่เคยคิด เมื่อเกิดความสับสนวุ่นวายในอารมณ์เพราะแก้ปัญหาไม่ตก ผู้ชายพวกนี้จะหันมาโทษผู้หญิงที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด หาว่าทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเองบ้างละ คอยฉุดเขาไว้ไม่ให้เจริญก้าวหน้าบ้างละ ใช้มารยาหญิงมาจับเขาบ้างละ เมื่อหาแพะรับบาปได้เขาจะเดินออกจากชีวิตเราทันที วิธีแก้แค้นก็คือ ในเมื่อเขากล่าวหาว่า เราทำลายชีวิตของเขา ทำไมไม่ทำจริงๆเสียเลยเล่า แทนที่จะมานั่งเศร้ากับผู้ชายประเภทนี้

นิสัยส่วนตัวของเราทำให้เขาแทบบ้า
ผู้ชายนี่ก็แปลก ถ้าหากวันหนึ่งเราเกิดลุกขึ้นมาดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำ เลิกเก็บกวาดเช็ดถูบ้านช่องห้องหับ ชอบไปมีเซ็กส์ตามป่าเขาลำเนาไพรหรือในที่แปลกๆ หรือตบแต่งบ้านออกสไตล์โหดด้วยสัตว์สต๊าฟรวมทั้งอวัยวะสัตว์ต่างๆ เขาอาจไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก แต่นิสัยส่วนตัวของเราที่เขารับไม่ได้ หัวเสียแทบบ้าก็คือ ตอนทานอาหาร-วิธีที่เราเคี้ยวข้าวหรือเอาช้อนใส่ปาก การแต่งตัว-ทำไมชุดนี้กับรองเท้าคู่นั้น ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย การพูดจา-เธอเอาอะไรมาพูด ไม่ได้เรื่องได้ราว รำคาญหูจริงๆ หรือการปฏิบัติตัวอยู่ในงานปาร์ตี้-ทำไมต้องไปทักผู้ชายคนนั้นด้วย สนิทสนมกันมากนักหรือ ถ้ากำลังประสบปัญหานี้อยู่ละก็ แสดงว่าเขาเริ่มรำคาญแล้ว ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็ขวางหูขวางตาไปหมด ชิงบอกเลิกเขาก่อนดีกว่านะ

ผู้หญิงหมดความสนใจเรื่องบนเตียง
เหตุผลข้อนี้ไม่สำคัญเท่าไร ตราบใดที่เขายังไม่สังเกตเห็นว่าคู่ของตัวเองเบื่อหน่ายเรื่องบนเตียง แต่ถ้าเขารู้ขึ้นมาเมื่อไรความสัมพันธ์ก็ปิดฉากลงเมื่อนั้น วิกฤตวัยกลางคนก็เป็นเงื่อนไขอีกประการ ที่ช่วยให้ผู้ชายสังเกตเห็นความผิดปกติในเรื่องนี้ การมีผู้หญิงอีกคนยิ่งทำให้เปรียบเทียบให้เห็นชัดยิ่งขึ้น แทนที่จะโทษตัวเอง เขากลับแสวงหาคนใหม่ที่ช่วยทำให้มั่นใจเรื่องบนเตียงมากขึ้น ในเมื่อไม่เอนจอยเรื่องเซ็กส์กันแล้วจะอยู่ด้วยกันไปอีกทำไม ธรรมชาติของผู้ชายยังมีอัตตาความหลงตัวเอง คิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเก่งอยู่เสมอ ต่อให้ตอนนี้อ้วนลงพุงหัวล้านเป็นมัน ก็ยังคิดว่าตัวเองเท่สุดๆ แล้ว เขาไม่มีทางคิดหรอกว่า กำลังมือตกกับเรื่องบนเตียงจนคนรักเบื่อหน่ายชืดชา ดูๆไปจะใกล้เคียงกับเหตุผลข้อแรกอยู่เหมือนกัน เพียงแต่กรณีนี้เป็นเรื่องเซ็กส์ล้วนๆ

เขาหมดความสนใจเรื่องบนเตียง
โดยปกติผู้ชายมักขาดเรื่องเซ็กส์ไม่ได้ แต่ถ้าเขาเกิดเบื่อหน่ายเรื่องบนเตียงขึ้นมาเมื่อไร บุคคลที่ตกเป็นจำเลยที่หนึ่งก็คือผู้หญิงใกล้ตัวนั่นแหละ เจ้าความคิดเข้าข้างตัวเอง หลงตัวเอง ที่ติดอยู่เป็นธรรมชาติของผู้ชายจะร้องบอกเขาอยู่ตลอดเวลาว่า เป็นเพราะเราเขาจึงเบื่อหน่ายเรื่องเซ็กส์ นับวันมีแต่ความซ้ำซากจำเจชืดชา ทำอย่างไรก็กระตุ้นไม่ขึ้นเสียเลย เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว เหตุการณ์ตั้งแต่ข้อแรกก็อาจเรียงตามมา นั่นคือ เขาไปมีผู้หญิงอื่น เขาแสวงหากิจกรรมหรือเรื่องอื่นมาทำแล้วเลิกสนใจเรา เขาอ้างว่ากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตวัยกลางคน เขาเริ่มรำคาญนิสัยส่วนตัวของเรามากขึ้นทุกวัน และท้ายสุดเขาบอกว่า เป็นเพราะเราหมดความสนใจเรื่องบนเตียง เขาจึงเบื่อหน่ายและพาลหมดอารมณ์ขึ้นมาเหมือนกัน แทนที่จะคิดว่าตัวเองพลาดตรงจุดไหน

สรุปแล้วควรทำอย่างไร
คำแนะนำที่ดีคืออย่าทำอะไรเลย ไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งเขาไว้ ลองถ้าผู้ชายคิดจะโบกมือลา เดินหนีออกจากความสัมพันธ์ฉันท์คนรัก ไม่มีใครห้ามได้หรอก อานุภาพรุนแรงพอๆกับพายุทอร์นาโดเชียวละ ทางที่ดีคือปล่อยให้พ่อเจ้าประคุณเดินจากไปอย่างสันติ ไม่ว่าเขาจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ขอให้ปล่อยเขาไปตามทางที่เลือกเอง ผู้หญิงอย่างเราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินหน้าต่อไปหาคนที่ดีมีความคิดอ่านเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ อย่าได้ฟูมฟายแบบนางเอกละครประมาณว่า คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ฉันคิดว่าเรามีความสุขกันดีอยู่แล้ว…อย่าเด็ดขาด คิดเสียว่าปล่อยนกปล่อยปลาหรือปล่อยเสือเข้าป่าก็ได้ เพื่อความสบายใจ หลังจากนั้นก็จงตั้งหน้าตั้งตารอ….รอ…และรอต่อไป รอให้เพศหญิงและเพศชายมีความเท่าเทียมกันมากกว่านี้ การหาทางออกของผู้หญิงอย่างเราคงมีมากขึ้น แทนที่จะเป็นฝ่ายนั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่กับบ้าน ไม่แน่นะ…คงอีกประมาณ 15 ล้านปีละมั้งกว่าโลกของผู้หญิงและผู้ชายจะสูงเท่าเทียมกัน

yellow2550

แบบนี้ไปก่อนดีกว่าครับ
แต่บางเรื่องก็น่าจะปรับกันได้นะ
เพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญมากในชีวิตคู่