สะกดจิตตำรวจ ภาค1 + ภาค2 ( by นักสะกดจิต )

Nakintr · โพสต์ 2015-12-6 14:56:14

เฉลย......ตอนหน้าครับ

lekthai · โพสต์ 2015-12-6 15:22:56

ทำไปได้ สารวัตรโดนสะกดตอนไหนใครสะกดกันนะ ตอนหน้ารู้เรื่อง

Man100 · โพสต์ 2015-12-6 15:23:10

เฮ้ย!! อะไรกันหว่า? จากบนเตียง..เรื่อยไปจนถึงปากซอยเลยหรือ?
เฮ้อ..มันร้ายจริงๆเลยนะ..จับตัวการได้เมื่อไหร่จะลงโทษอย่างไรให้สาสมดีนะ 555
ตอนนี้ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น..แต่ก็ได้ใจฉากสามีภรรยาบ้าง :) ขอบคุณนะครับ

ShangHai · โพสต์ 2015-12-7 08:23:47

ขอบคุณครับ

anata9 · โพสต์ 2015-12-7 22:46:56

รอฟังเฉลยว่า สารวัตรถูกสะกดจิตตั้งแต่เมื่อไหร่

ทองฉุน · โพสต์ 2015-12-7 23:36:33

ขอบคุณครับ

Nakintr · โพสต์ 2015-12-8 16:04:29

(  แต่ก็ใช่ว่า......  คุณจะไม่สามารถถูกสะกดจิตได้ได้ซะทีเดียวหรอกนะ สารวัตร  )

(  พี่...  รู้มั้ย หน้าพี่ตอนนี้ เหมือนหน้าโจรโรคจิต    มากกว่าหน้าตำรวจซะอีก  )

(  แต่ก็ใช่ว่า......  คุณจะไม่สามารถถูกสะกดจิตได้ได้ซะทีเดียวหรอกนะ สารวัตร  )

(  พี่...  รู้มั้ย หน้าพี่ตอนนี้ เหมือนหน้าโจรโรคจิต    มากกว่าหน้าตำรวจซะอีก  )

(  แต่ก็ใช่ว่า.....   คุณจะ...... เหมือนโจรโรคจิต มากกว่าตำรวจซะอีก  )

“  นี่คุณ!.... ฟังที่ผมพูดอยู่รึเปล่า สารวัตร! “ ผู้บังคับบัญชากองตำรวจสืบสวนกลาง    จับโคมไฟบนโต๊ะสอบสวนที่ปกติ สารวัตร เคยเอาไว้ใช้ส่องหน้าผู้ร้าย       หันมาส่องที่หน้าของสารวัตรเอง

“  คดีของคุณถึงแม้จะไม่ใช่คดีใหญ่    แต่ก็ทำให้ตำรวจทั้งกรม ไม่สิ....ตำรวจทั้งประเทศต้องเสื่อมเสีย  “ แสงไฟที่ส่องมา    ทำให้ สารวัตร ต้องหลี่ตาหยี
“ คุณรู้มั้ย... ผู้หญิงคนนั้นที่แจ้งจับคุณ เค้าเป็นถึงประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิสตรี    เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมจึงทำเป็นไม่สนใจไม่ได้ “
“  ผมจำเป็นจะต้องพักงานคุณ    และระหว่างนั้นคุณจะต้องเข้ารับการบำบัด “ ผู้กองถอนหายใจ และะทำสีหน้าผิดหวังในตัวลูกน้องคนเก่งอย่าง...สารวัตร       ก่อนจะลุก เดินออกไปจากห้องสอบสวน

..............สารวัตร  นั่งก้มหน้าย้ำคิดถึงแต่เรื่องเมื่อคืนวนซ้ำไป – ซ้ำมาอยู่ในหัวสมอง       จนลืมมองไปว่า    มีชายอีกคนเดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้แทนที่ผู้กอง

“  สวัสดีสารวัตร  “

เสียง......  เสียงนี้.....  สารวัตรรู้สึกคุ้นๆ    เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน       ใช่.......จำได้แล้ว เค้าเคยได้ยินเสียง  เสียงนี้พูดว่า

( ถ้าหากจิตใจ ถูกบิดไปเรื่อยๆ วันนึง…..
โจร  อาจจะกลายเป็นตำรวจ
และตำรวจก็อาจจะกลายเป็น โจร  ซะเอง )

แล้ววันนั้น.........ก็มาถึง       วันที่ สารวัตร  นั่งเก้าอี้ผู้ต้องหา    และเผชิญหน้ากับ  หมอบำบัด ซึ่งนั่งเก้าอี้ทางฝั่งตำรวจ
สารวัตร ค่อยๆเงยขึ้นมา    และจ้องมองไปที่ดวงตาคู่นั้น    ที่อยู่หลังแว่นตา

“  ทำไมถึงมองผมแบบนั้น    คุณรู้จักผมมาก่อนเหรอ “ หมอ ค่อยๆพลิกหน้าแฟ้มบันทึกเหตุการณ์อันอัปยศของ  สารวัตร  อ่านไปดูทีละหน้า ทีละหน้า อย่างใจเย็น

( นั่นสิ...... เมื่อคืนภาพในหัวที่เราเห็น มีทั้ง ที่ปรึกษา นักมายากล อาจารย์ทอง ครบกันหมดทุกคน       จริงด้วย.......    ทำไมเราถึง....เพิ่งมานึกออกเอาตอนนี้นะ  ) สารวัตร  ครุ่นคิดอยู่ในใจ

“  แต่ ผม.....รู้จักคุณนะ “ หมอบำบัดพูด แล้วใช้นิ้วชี้ดันที่ตรงกลางขอบแว่นขึ้น

“  คุณ!.... รู้จักผม......งั้นเหรอ! “ สารวัตร  ถามอย่างมี นัยยะ

“  ใช่....ก็เมื่อก่อน คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลงานดีเด่น    สามารถมองคดีขาด และจัดการจับกุมคนร้ายในคดีใหญ่ๆหลายๆคดีให้มารับบทลงโทษตามบทกฏหมายได้สำเร็จ    ด้วยสมองและวิธีการสืบสวน  สอบสวน  ของคุณ..... ไม่ว่าคดีไหนที่คุณรับผิดชอบ    คนร้าย ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเค้าเป็นคนลงมือทำ    ...........และนั่น ก็ทำให้ชื่อเสียงคุณโด่งดังจนได้เลื่อนขั้นเป็น  สารวัตร    ก่อนที่จะได้ย้ายมาประจำอยู่ที่เขตุนี้ “

“  ผมน่ะ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ชื่นชมในความสามารถของ สารวัตร    แล้วติดามข่าวสาร  ผลงานของคุณมาโดยตลอด เรียกได้ว่า....เหมือนเป็นแฟนคลับคนนึง ที่คลั่งใคล้  ไอดอล นั่นแหละ “

“  เอ่อออ......  ผมนี่แย่จริงๆ    วันนี้เป็นวันแรกที่เราสองคนได้เจอกันตัวเป็น เป็น       คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า  ผมเป็น หมอ  ที่ใช้วิธีสะกดจิตในการบำบัด    ซึ่งผู้กอง  เป็นคนเรียกตัวผมมา  “

“ อย่างสมัครใจ หรือถูกคุณสะกดจิต  ล่ะ “ สารวัตร พูดแทรก
“  55555 รู้มั้ยตัวจริงคุณเป็นคนมีอารมณ์ขันมากกว่าที่ผมเห็นใน ทีวี ซะอีก “
“  เรื่องนั้น...  ผมไม่ได้อยากรู้    ที่อยากรู้คือ.... “

“  ครับ ผมรู้    ผมรู้....ว่าคุณอยากรู้ว่าใครเป็นคนสะกดจิตคุณกันแน่  “    หมอ ชิงพูด ก่อนจะปิดหน้าแฟ้มบันทึกประจำวัน
“  เท่าที่ผมอ่านบันทึกการให้ปากคำของคุณ  “ หมอ ใช้วิธีพูดแบบเดียวกับตำรวจที่สอบสวนคนร้าย
“  ผมขอถามคุณหน่อยว่า...    มีผู้ต้องสงสัยคนอื่นที่คาดว่าจะมีความสามารถในการสะกดจิตคนได้    อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุรึเปล่าครับ “ สารวัตร  นิ่งเงียบ เพราะเค้านึกไม่ออก มองไม่เห็น  หรือได้ยินเสียงของ หมอบำบัด เลย    ทั้งก่อน และหลังตอนเกิดเหตุ

“  จากประสบการณ์ที่ผมเคยสะกดจิตมา    ผมบอกได้เลยว่า....ตำรวจสืบสวนอย่างคุณ    ไม่น่าจะถูกชักจูง หรือถูกควบคุมจิตใจได้ง่ายถึงขนาดที่แม้แต่ตัวคุณเองก็ยังไม่รู้ตัว       เพราะอย่างน้อยการจะสะกดจิตคุณได้นั้นจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือจากคุณ    ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น......ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ที่คนระมัดระวังตัวอย่างคุณจะปล่อยให้ผู้ต้องสงสัยคนนั้นเข้าใกล้ตัวโดยที่คุณจำอะไรไม่ได้เลย       หรือ...ในกรณีสุดท้ายที่เป็นไปได้มากที่สุด  ก็คือ คุณ....ถูกสะกดจิตให้ลืม  “    สารวัตร ยิ่งฟัง  ก็ยิ่งโกรธ เหมือนถูกคนร้ายเยาะเย้ยใส่ต่อหน้า โดยที่เค้าไม่สามารถทำอะไรได้เลย

“  ถ้าเป็นอย่างที่ พูด    จากประสบการณ์ที่ผมเป็นตำรวจมา คดีนี้ก็จะมีบทสรุปอยู่ 2 ข้อ “
“  ข้อแรก.....  ไม่สามารถหาตัวคนร้ายที่แท้จริงมาลงโทษได้ คดีจึงอยู่ในระหว่างการสืบสวนต่อไป    ซึ่งก็จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณของกรมตำรวจ  “
“  ข้อสอง.....  สรุปว่า ผม เสียสติ เป็นคนวิกลจริต ที่ก่อเรื่องวิปริต แล้วปิดคดีลง  “

( หลังจากนั้น มึงก็จะเป็นอิสระ    เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนการณ์ที่ถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า มึงจะต้องมาเป็นหมอบำบัดคนวิกลจริตอย่างกู    ส่วนกู....ก็เป็นทั้งคนวิกลจริต  และ แพะ ที่มึงเตรียมเอาไว้  )

“  หรือไม่....ก็ ข้อที่สาม “ หมอ พูด พร้อมกับดึงแว่นออกมาเอาผ้าเช็ด    ก่อนจะสวมคืนกลับไปเหมือนเดิม

“  คุณเผลอ... สะกดจิตตัวเอง  โดยที่ไม่รู้ตัว  “

“  555555555555555555555555555555555  “
“  ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า... คุณเองก็มีอารมณ์ขันมากกว่าที่ผมคิดเหมือนกันนะ หมอ    แค่สรุปไปว่าผมเป็นคนวิกลจริตซะ มันก็จบลงง่ายๆเท่านี้แล้วแท้ๆ    ทำไมคุณจะต้องแต่งเรื่องนี้ให้มัน  ออกทะเล  ไปอีกล่ะ  ฮะ!!!! “


                                    สารวัตร  ยกมือขึ้นมาฟาดโต๊ะ เสียงดัง   “  ตึง!!!!  “

“  คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกใช่มั้ย       ที่เวลา....เด็กวัยรุ่นเอาโปสเตอร์นักร้องมาติดฝาผนังห้อง    พร้อมกับเฝ้ามองดูมันทุกวัน    และเฝ้าบอกกับตัวเองไว้ว่าวันนึงจะมีชื่อเสียงเหมือนอย่างกับนักร้องในรูป  “

“  หรือ ผู้หญิงวัยทอง ที่นั่งมองกระจกชื่นชมความงามของตัวเองทุกวัน    จนเคยชินกับการแต่งหน้าเหมือนกับตอนสมัยสาวๆ    ทั้งๆที่ผิวหนังบนใบหน้าในปัจจุบันไม่ได้เอื้ออำนวย “

“  หมอ  กำลังจะบอกว่า    พฤติกรรมแบบนี้ก็คือการสะกดจิตตัวเอง “

“ ใช่......    และไม่เพียงแค่ที่ผมยกตัวอย่างนะ    .....ความจริง มนุษย์ ทุกคนบนโลกนี้ ก็เผลอสะกดจิตตัวเองกันอยู่ตลอด  แทบทุกวันอยู่แล้ว    แต่นั่นเป็นการสะกดจิตที่ ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัย หรือเป็นอันตราย  ต่อตัวเอง  และคนอื่น “

“  ไม่เหมือนกับการสะกดจิตในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา    .........สมัยนั้น  วิชาการสะกดจิต ได้รับการยอมรับ จนเฟื่องฟูรุ่งเรืองถึงขีดสุด    ถึงขั้นถูกยกย่องให้เป็นลัทธิความเชื่อทางศาสนาของคนในยุคนั้นกันเลยทีเดียว  “

“  คุณจินตนาการไม่ออกหรอก    ว่ามันเป็นยังไง....ถ้าคุณอยู่ในยุคที่มีคำสอนเรื่องการสะกดจิตเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แทนคำสอนของศาสนาในปัจจุบัน  “
“  แน่นอน..... แทนที่ทุกสัปดาห์คุณจะทำสมาธิในวัด หรือไปชำระล้างจิตใจในโบสถ์    แต่คนในยุคนั้นกลับต้องมานั่งจ้องมองพระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์แทน “


                                   “  ?????..... จ้อง  พระจันทร์ เหรอ.....!!!!!! “  สารวัตร

“  ถูกต้อง    ยกตัวอย่างเช่น มนุษย์หมาป่า ที่คุณหรือคนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นเพียงแค่นิทานเรื่องเล่าหลอกเด็กที่ไม่ยอมเข้านอนของชาวตะวันตก    แต่ความจริงแล้ว....มนุษย์หมาป่า  ก็คือคนที่นับถือลัทธิบูชาพระจันทร์ในสมัยก่อนนั่นเอง    พวกเค้าฝึกจิตโดยการเพ่งมองพระจันทร์ทุกคืน...ทุกคืน    คืนแล้ว....คืนเล่า....    ในที่สุดก็มีคนฝึกสำเร็จจนกลายเป็นผู้หยั่งรู้    ส่วนคนที่ฝึกไม่สำเร็จ    ก็เกิดอาการคุ้มคลั่งเที่ยวไล่ล่า ข่มขืน ทำร้ายผู้คนเหมือนสัตว์ป่า “

สารวัตร ฟังไป ก็นึกย้อนภาพไปถึงเมื่อคืนตอนที่เค้านั่งมองพระจันทร์ แล้วก็นึกถึงแต่เรื่องคนร้ายโรคจิตอยู่ตลอดเวลา       ก่อนที่เค้าจะ..........

“  แต่มันก็เป็น แค่...ทฤษฎี  “  สารวัตร

“  ใช่.....เพราะความเป็นจริงแล้ว ใช่ว่าใครก็จะสามารถสะกดจิตตัวเองได้ ในแบบที่คุณทำ    และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ผมแอบชื่นชมคุณเป็น  ไอดอล  ยังไงล่ะ “  หมอ

“  เดี๋ยวนะ!... ตอนแรก หมอ แค่บอกว่าผมอาจจะเผลอสะกดจิตตัวเองเหมือนกับคนทั่วๆไป    แต่ตอนนี้ หมอ  กำลังจะบอกผมว่า.....  “

“  สารวัตร .......คุณ  กับ  ผม..... เป็นคนพิเศษที่สามารถสะกดจิตคนอื่นได้    การเผลอสะกดจิตตัวเองอย่างรุนแรงเมื่อคืนนั่นเป็นบทพิสูจน์อย่างดีว่า.... พวกเรา  เป็น  พวกเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย       เพราะคนธรรมดาไม่สามารถจะมีพลังสะกดจิตตัวเองได้ถึงขนาดนั้นอย่างแน่นอน

????????????............   ให้ตายเถอะนี่มันอะไรกัน    เดี๋ยวก็ปมในใจ เดี๋ยวก็กรรมเก่า ตอนนี้มาพลังจิตอีก เรื่องนี้มันชักจะเลอะเทอะกันไปใหญ่แล้ว

“  สรุปแล้วคือ หมอ  ต้องการให้ผม เชื่อว่า... ไม่มีคนร้ายที่สะกดจิตผม  ใช่มั้ย “

“  สารวัตร ..... ผมรู้ว่าเรื่องนี้ มันง่ายมากกว่า....ที่จะไม่ชื่อ    แล้วคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องเชื่อในสิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนั่นก็ได้ “

“ แต่ ขอแค่ตอบคำถามของผม ก็พอ  “ หมอ พูด และขยับขอบแว่นตาขึ้นอีกครั้ง

“  สารวัตร  คุณเคยจ้องตาผู้ต้องหา    แล้วเค้าก็รับสารภาพ  มั้ย “

“  !!!!!!!!!!!!!  “

“  คุณคิดว่านั่น...เป็นสัญชาติญาณ การสืบสวนของตำรวจจริงๆ    หรือคำแก้ตัว  ของตำรวจ ที่ยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ กันแน่  “
“  คุณยังไม่ต้องตอบผมตอนนี้หรอกสารวัตร    เพราะคุณจะต้องฟังคำถามสุดท้ายอีกข้อนึง  “

คำถามคือ.....................................

“  คุณถามตัวคุณเอง    ว่าอยากให้เรื่องนี้จบแบบไหน  “

ข้อแรก.....    คุณเป็นไอ้ขี้ขลาด    ที่โบ้ยความผิดทั้งหมด ให้กับคนร้าย.....ที่ไม่มีวันจับได้
ข้อสอง...... คุณเป็นคนวิกลจริต ที่คิดจะจบปัญหาง่ายๆ ด้วยการยอมแพ้    แล้วตัดช่องน้อยแต่พอตัว
ข้อสาม.....    นับจากนี้ คุณไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป    คุณเริ่มรู้จักตัวเอง ยอมรับมัน แล้วกลายเป็นคนพิเศษ

(  ป.ล.  จากคนเขียน )
            ต้องขอโทษด้วยที่ตอนนี้ไม่มีฉาก sex  เลย    เพราะมีแต่บทสนทนาที่ยาวรวดเดียว    เอาเป็นว่า....เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ    (  แม้ว่านี่จะเป็นฉากจบที่ผมคิดเอาไว้ในตอนต้น  และก็ชอบมันมากด้วยก็ตาม  )    เรื่องนี้ขายความตื่นเต้น  และไอเดียเกี่ยวกับ sex ตั้งแต่ต้นเรื่อง เพราะฉะนั้นผมก็อยากจะจบเรื่องนี้ในแบบนั้นด้วย
ไหนๆก็เขียน ป.ล.  ขึ้นมาแล้ว....ผมขอฟังในสิ่งที่คุณคิด ที่คุณรู้สึก ไม่ว่ากับตัวละคร กับฉาก  สถานกาณ์ ไอเดีย หรือสไตล์การเขียนนิยายเรื่องนี้ให้ผมฟังหน่อยได้มั้ยครับ    ผมอ่านทุกคำ ทุก reply ทุกคำขอบคุณ มาโดยตลอด    แล้วในฐานะคนแต่ง    ผมจะแต่งเรื่องนี้ให้พวกคุณ  คาดเดาไม่ได้ตั้งแต่ตัวอักษรแรก ยันตัวสุดท้าย    เป็นการตอบแทน ขอบคุณครับ

ทองฉุน · โพสต์ 2015-12-8 16:54:34

ขอบคุณมากครับ ความต่อเนื่องเหตุการณ์ในที่ต่างๆยังกระตุกอยู่ครับ---แอนกับชัย และลูกชายสารวัคร ไม่มีก็ได้นะครับ--ผู้ต้องหามากเกินไปตัดออกซักคน ผมคิดว่าที่ปรึกษาน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ ตำรวจเก่งกับยศด้วยครับ--เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ--ผมชอบตอนแรกมาก หลังจากบทที่สามเหมือนกลายเป็นคนละเรื่อง---แต่ก็ขอบพระคุณมากนะครับสำหรับการสละเวลาเขียนเรื่องสนุกๆให้ได้อ่านครับ---รอบท สารวัตรโดน 555---ขอบคุณอีกครั้งครับ

Pptum · โพสต์ 2015-12-8 17:25:09

ขอบคุณครับ

Nakintr · โพสต์ 2015-12-8 17:33:14

แอน กับชัยต้องมีบท เพราะจะได้ให้หมอบำบัดได้แสดงความสามารถ และผมอยากใส่ฉากสะกดจิตผู้ชายธรรมดาคนนึงให้ ค่อยๆกลายเป็น เกย์ เป็นตุ๊ด ( อืมมมมพอคิดดูดีๆ ที่จริง ให้ จ่าก้อง รับบทนี้แทนก็ได้เหมือนกันแฮะ )

ผู้ต้องหามากเกินไปตัดออกซักคน.... อืมอันนี้อาจจะเห็นด้วย

ที่ปรึกษา..... มีอะไรมากกว่านี้แน่นอนครับ

ถ้าไม่มีลูกชายสารวัตร..... ก็จะไม่มีบท พ่อ - ลูก สิครับ ( เรื่องยังไม่จบนะครับ )

ทองฉุน · โพสต์ 2015-12-8 17:41:59

55 รออ่านครับ
แอบจิ้นสารวัตรกับเก่ง
ถ้าช่วงปีใหม่หยุดส่งข่าวด้วยนะครับ..ขอบคุณครับ

Nakintr · โพสต์ 2015-12-8 18:16:29

คุณอ่านมาถึงตอนนี้......

แล้วคุณคิดว่า...... ใคร......คือชายลึกลับสที่สวม กกน อยู่บนหัว

ทองฉุน · โพสต์ 2015-12-8 18:29:29

สารวัตร

Nakintr · โพสต์ 2015-12-8 18:58:44

ตอนหน้า หรือไม่ก็อีกตอนนึง ทองฉุน จะได้คำตอบ

ทองฉุน · โพสต์ 2015-12-8 19:29:46

ขอบคุณครับ

Man100 · โพสต์ 2015-12-8 23:20:13

มารออ่านทุกวัน..ยังไม่อยากให้ถึงตอนจบเลยนะครับ555
ขอแก้นิดหนึ่งนะ ตำแหน่งผู้กองจะต่ำกว่าสารวัตรนะ ถ้าเหนือสารวัตรก็คือผู้กำกับครับ
เนื้อเรื่องโดนรวมก็ถือว่าโอเคครับ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าชอบเสพรสชาดแบบไหน เอาเป็นว่าจะคอยติดตามผลงานต่อๆไปนะ :)

Nakintr · โพสต์ 2015-12-9 00:53:43

อันนี้พลาดอย่างแรงเลย. ขอบคุณman100 ครับ

logan56789 · โพสต์ 2015-12-9 10:31:43

ตามหาเรื่องนี้มานาน

lekthai · โพสต์ 2015-12-9 14:40:10

สุดยอดสารวัตรสะกดจิตตัวเอง หักมุมสุดๆ ขอแบบ 3p ได้ไหม สารวัตรจ่าและเก่ง สามคนสวาท

pikla · โพสต์ 2015-12-9 17:50:00

ขอบคุณ

บัญชี		จำการเข้าสู่ระบบไว้	ลืมรหัสผ่าน
รหัสผ่าน			สมัครเข้าเรียน