◊ C h a p t e r 1 2 ◊
ลั ก
หลังจากข้อแลกเปลี่ยนวันนั้นเขาก็แวะมาหาซีถี่ขึ้น บางทีก็มาค้าง ซีเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ห้องนอนก็มีอีก 2 ห้อง สเปเชียลเห็นอีกฝ่ายเฉยๆ ไม่ได้อนุญาตแต่ก็ไม่ได้พูดถึงเลยเนียนๆ เข้ามาศึกษาพฤติกรรมแล้วก็แวะมาถามโน่นถามนี่บ่อยๆ มีน้อยครั้งที่ซีจะข้ามคำถาม แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้สเปเชียลทวีความอยากรู้ในคำถามที่ซีเลือกไม่ตอบมากขึ้นเรื่อยๆ
เดือนกว่าแล้วที่เขาเข้ามาสังเกตุการณ์ดูพฤติกรรมของซี
ซารายด์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเขาเร็วมาก..เร็วจนน่ากลัว เวลาปกติเขาก็ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์การเดินการนั่งการยืนเหมือนคนธรรมดาทั่วไปแต่พอเขาอยู่ในห้องซีมักจะใช้ความเร็วการเคลื่อนตัวที่น่าทึ่ง….ถ้าเขาเผลอ เขาจะมองไม่ทัน จนตอนนี้เขารู้สึกเสพติดตัวตนของอีกฝ่าย
สิ่งที่เขาตามหามานานตอนนี้อยู่ตรงหน้าแล้ว….
เขาอยากรู้มากกว่านี้ อยากศึกษามากกว่านี้
ถ้าชำแหละร่างอีกฝ่ายออกมาดูได้ เขาคงทำ....
สเปเชียลไม่รู้หรอกว่า…..มีสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวไม่แพ้อะไรในโลก
สิ่งนั้นคือ…..ความเคยชิน
ความเคยชินก่อตัวขึ้นระหว่างเขาทั้งคู่
ระหว่าง มนุษย์ธรรมดาอย่างสเปเชียล และ เผ่าพันธุ์ซารายด์อย่างซี
“วันนี้ผมไม่กลับบ้านนะพี่มาลาไม่ต้องห่วงอ่อคุณพ่อคุณแม่ไปต่างจังหวัดเหรอ กลับวันไหนล่ะ? โอเคๆโอเคหวัดดีครับ”
สเปเชียลวางหูจากทางบ้านแล้วก็หันมามองเจ้าของห้องที่กำลังนั่งจ้องผู้ประกาศข่าวในทีวีอยู่
“นี่มึงบีบก้อนหินแตกได้ปะวะ แบบในหนังอะยอดมนุษย์ไรงี้”
ซีเหลือบมองคนช่างถาม “คิดว่าได้” เขาเว้นช่วงไปนิด “ต้องก้อนเท่าไหนล่ะ”
สเปเชียลเริ่มรู้สึกดีกับคนตรงหน้าที่เริ่มตอบเขายาวมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น “ไว้ไปลองกัน”
“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ”
ถ้าไม่รวมนิสัยไม่ยินดียินร้ายแบบนี้ล่ะก็นะ...
อ๊อด!
สเปเชียลสะดุ้งนิดๆ เมื่อเสียงออดดังขึ้น
“ไอ้หมอนั่นอีกล่ะสิ” สเปเชียลพูดแล้วทำหน้าเซ็ง
ซีไม่ได้ตอบอะไร ลุกไปเปิดประตูให้คนกดออด
เจ้าของตาสีฟ้ายิ้มร่าเข้ามาในห้อง
“ไงซี มาเยี่ยม อ้าว! น้องสเปเชียล” เขาหันไปทักคนหน้าบูดที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ใครน้องมึง”
สเปเชียลตอบกลับเสียงแข็งเขาไม่ค่อยชอบไอ้ผมยาวตาฟ้านี่เท่าไหร่ ขี้เล่นจนน่าหงุดหงิดแทบยังชอบคว้าตัวเขาขึ้นบ่าอีกตังหาก เจอกันทีไรต้องต่อยตีกันทุกทีเขาไม่ชอบคนประเภทนี้ยิ่งกว่าคนแบบไอ้ซีอีกอย่างน้อยมันก็ไม่มายุ่มย่ามกับร่างกายเขามากกว่าที่ตกลงกัน
“ไม่ต้องเข้ามาเลย!” สเปเชียลตวาดพร้อมลุกขึ้นเตรียมตั้งรับเมื่อเห็นคิวจะตรงเข้ามา
คิวชะงักเลิกคิ้วข้างนึง “ขี้โมโหไม่เปลี่ยนเลยนะ มาทำอะไรที่นี่นักหนาล่ะ”
สเปเชียลชะงักไปนิด “มะ..มาเฉยๆ”
“หืม?” คิวส่งเสียงในคอก่อนจะหันไปมองเจ้าห้องหมายจะแซว แต่พอเห็นหน้านิ่งเฉยของอีกฝ่ายแล้วก็ล้มเลิกความตั้งใจ
เล่นกับซีไม่สนุกซักนิด…..สู้แหย่คนตรงนั้นไม่ได้
แค่มองด้วยสายตากวนๆ นิดก็เรียกเสียงด่าได้แล้ว…..ใจร้อนเป็นไฟ
คนแบบนี้แหละ……น่ากลัว
ไม่แปลกใจที่ซีจะสนใจ.....ดูตาก็รู้ว่าไม่ยอมคนพร้อมพุ่งใส่ทุกเมื่อ แต่ก็ฉลาดเป็นกรด เวลาโดนมองด้วยสายตาแบบนั้น….สายตาที่ราวกับอ่านอีกฝ่ายออกซะหมด คนแบบนี้เขารับมือไม่ค่อยถูกถ้าไม่ทำขี้เล่นกลบเกลื่อนคงแย่….เขาไม่นิ่งเหมือนซีและเขาก็ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าซีซะด้วย
ว่าแล้วก็เอาซะหน่อย
พลั่ก!
ไม่ทันไร คิวก็รุดเข้าไปคว้าเอวสเปเชียลหมายจะแบกขึ้นบ่าแต่อีกฝ่ายกระโดดถีบเข้าที่ท้องเต็มๆ
ไม่เจ็บ.....แต่จุกแหะ เห็นแบบนี้ไม่เบาเลยนะ
“คิว เดี๋ยวห้องเละ” ซีว่าขึ้นมาเรียบๆ
คิวไหวไหล่กรอกตาไปมาก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟา
“ไปไกลๆ กูเลย” สเปเชียลขู่เสียงแข็ง
“โถ่ น้องสเปเชียลมานั่งนี่มา ซื้อขนมมาฝากนะ”คิวว่าแล้วยกถุงใส่ขนมเค้กกล่องใหญ่มาวางบนโต๊ะข้างหน้า
“ไม่กิน” เขาตวัดตาดุไปที่อีกฝ่าย
ถึงจะชอบกินเค้กแค่ไหนเขาก็ไม่กินของของมันแน่ๆ
“มากินเถอะ ซื้อมาเยอะเลย มีทั้งเครปเค้ก ชีสเค้กเค้กบลูเบอรี่ บานอฟฟี่พาย ไวท์ช็อคชีสเค้ก อ๊ะ! มูสนมสดก็มีนะ” คิวว่าแล้วหยิบกล่องออกมาเปิดโชว์ “ไอ้ซีก็ไม่กิน นี่ที่ซื้อมาเยอะขนาดนี้…..เพราะเดาว่าต้องอยู่แน่ๆนะเนี่ย”
สเปเชียลขมวดคิ้วกับคำพูดตอนท้าย…..นี่มันกวนตีนอีกละใช่มั้ย?!
เขาทำเมินคำพูดอีกฝ่ายทั้งที่แอบด่าอยู่ในใจ “กูกลับละ”
ซีเหลือบมอง “ 5ทุ่ม”
“เออรู้”
“………….” ซีจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง
สเปเชียลเม้มปากอย่างไม่รู้ตัว “เออน่ากูไปละ”
เขาพูดรัวเร็วก่อนจะปิดประตูดังปังออกจากห้องไป
พออยู่มาซักพักเขาก็เริ่มเข้าใจคำพูดที่ไม่เป็นประโยคของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆช่วงแรกๆ เวลาที่เขาจะกลับแล้วอยู่ๆ มันพูดเวลาขึ้นมา ก็ทำเขางงเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกว่า‘มันดึกแล้ว’ ไม่ชัวร์ว่าเขาตีความไปผิดรึเปล่าไม่ค่อยไว้ใจความคิดมันเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นงั้นจริงเขาก็รู้สึกแปลกๆ นะ
แต่ความรู้สึกแบบนี้…..ก็ไม่เลวนัก
เขาเดินออกมาจากคอนโดพลางมองหาแท็กซี่ใจจริงก็อยากจะเรียกคนรถมารับล่ะนะ แต่ดึกขนาดนี้แล้วก็ไม่อยากจะรบกวนมันไม่ใช่เวลางาน เขายืนรอแท็กซี่อยู่ซักพักก็ไม่มีรถผ่านมาซักคัน เขามองไปซ้ายมืออีกไม่กี่กิโลก็จะถึงถนนใหญ่ ตรงนั้นคงเรียกรถได้ดีกว่า เขาคิดแล้วก็ออกเดินทันที
เดินไปได้เกือบครึ่งทาง อยู่ๆ ก็มีรถตู้ติดฟิล์มดำสนิทมองไม่เห็นด้านในซักนิด ด้วยสัญชาตญาณเขารู้สึกได้ถึงอันตรายทันที
..แต่ไม่ทัน..
ผู้ชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำ 4 คนเปิดประตูรถอย่างเร็วลงมาล้อมเขาไว้ เขาตวัดสายตาไปรอบๆ คาดคะเนความเป็นไปได้ในการต่อสู้……ตัวใหญ่กว่า 4 ต่อ 1 …..ความเร็วไม่รู้ แต่มัวคิดอยู่ไม่ได้แล้ว!
พออีกฝ่ายขยับตัวหมายเข้ามาจับเขากวาดตวัดขาคู่ต่อสู้เป็นวงกลมด้วยความเร็วสูง เพื่อให้อีกฝ่ายล้มลงความเร็วบวกกับที่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าอย่างเขาจะเป็นมวยจึงไม่ได้ระวังตัวทำให้การตวัดขาครั้งนี้ส่งผลสำเร็จ เขารีบกระโดดออกจากวงชายทั้ง 4 ที่ล้มระเนระนาดอยู่ ก่อนจะออกวิ่ง
อั่ก! แปลบ....
แต่เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะความเจ็บแปลบที่บริเวณไขสันหลังขาเขาอ่อนลงทันที รู้สึกไม่มีแรง เข่า 2 ข้างกระทบพื้นก่อนตัวเขาจะหล่นลงมีคนมาคว้าเขาไว้ ตาเขาพร่าเพราะน้ำไหลออกจากตาวินาทีสุดท้ายก่อนสติเขาจะดับลง เขาเห็นผู้ชายชุดสูทดำคนนึงอยู่ข้างๆในมือมี…..ที่ชอตไฟฟ้า
|