◊ C h a p t e r 1 8 ◊
X
ซีและคิวเปล่งเสียงเรียกสรรพนามแทนตัวของชายร่างสูงเจ้าของนัยน์ตาสีเงินตรงหน้าอย่างตระหนก
“นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว” เขาพูดแล้วเบนสายตามาทาง “ซี”
“นี่นายหาที่นี่เจอได้ไง” ซีเอ่ยเสียงดุดัน
“คิดว่าใช้เวลาเท่าไหร่กันล่ะ” เอ็กซ์ส่งเสียงหัวเราะในคอ “แล้วก็มาได้จังหวะพอดี”
“กำลังคุยเรื่องน่าสนุกกันอยู่เลยนะ”
ซีกำหมัดเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงได้ยินทุกอย่างที่เขาคุยกันเมื่อครู่ทั้งหมดแล้วแน่ๆ
เขาประมาท…ประมาทมากเกินไปเป็นเรื่องที่เถียงไม่ได้ว่าแม้คอนโดนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมอย่างไร้ที่ติแต่แน่นอนว่าไม่ใช่กับซารายด์
พวกเราไวมาก
เขาไม่คิดมาก่อนว่า เอ็กซ์ จะตามเขาเจอ
“เด็กนั่นที่ว่า....” เอ็กซ์เอ่ยเสียงเรียบเว้นช่วงกวาดตามองซารายด์ตรงหน้าทั้ง2 “คือใคร”
“อย่ายุ่งกับเขา”
ซีสวนกลับทันทีที่อีกฝ่ายกล่าวจบตอนนี้เขารู้สึกโมโหอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
เอ็กซ์หรี่ตามองท่าทางแบบนั้นก็รู้สึกสนุกขึ้นมา
“ตอนแรกที่มาก็จะมาพูดอีกเรื่องนึงหรอกนะ...แต่ดูแล้วน่าจะมีเรื่องใหม่ที่ร้อนใจกว่า”
“ออกไปเอ็กซ์” ซีกดเสียงต่ำพูด
“หึ..ไว้จะมาใหม่” เขาหมุนตัวจะเดินออกจากห้องแต่ก็ชะงักและหันกลับมา
“จะปกป้องก็ปกป้องไป” เอ็กซ์ยกยิ้ม…
“แต่ให้มันได้ตลอดแล้วกัน”
หลังจากเอ็กซ์หายออกจากห้องไปซีก็เกิดอาการโทสะอย่างระงับไม่อยู่ เขานั่งนิ่งกำหมัดจนมือสั่น กัดฟันกรอด ทำเอาคิวรู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก ซีแข็งแกร่ง…แกร่งกว่าเขา แกร่งกว่าซารายด์ ระดับล่าง แต่เอ็กซ์เองก็ไม่แพ้กัน...
ซี และ เอ็กซ์ 2 ซารายด์นี้เป็นเพื่อนรักกันมาก่อนเก่งและแข็งแกร่งทั้งคู่ เป็นคู่หูกันอย่างไม่มีใครเทียบได้ สู้กันทีไรก็ไม่เคยมีใครยอมใคร
แต่ทั้ง 2 ซารายด์มีทัศนคติที่ต่างกันเกินไป ต่างจนแย้งกัน
ซีเห็นด้วยกับความคิดของบรรพบุรุษ
พวกเราอยู่แบบนี้ดีแล้ว ไม่ต้องเบียดเบียนกันอาศัยอยู่อย่างมนุษย์ ไม่ต้องต่อสู้ยึดครองหรือทำอะไรให้เป็นเรื่องใหญ่
เรื่องที่เสียไปแล้วก็ให้มันผ่านไป
แต่เอ็กซ์ไม่…เอ็กซ์ไม่เห็นด้วยกับการล่าถอยหรือหลบหนีซ่อนตัวเอ็กซ์ต้องการจะสู้ ต้องการจะแก้แค้น
มนุษย์เห็นแก่ตัว ละโมภโลภมาก และ ดีแต่ครอบครอง
เอ็กซ์เกลียดมนุษย์…
เอ็กซ์ยังคอยพยายามพูดชวนซีให้ร่วมกับตัวเอง…เขาต้องการความสามารถของซี ซีจึงหนีเอ็กซ์มา
เนิ่นนานเท่าไหร่แล้วจำไม่ได้ที่เขาไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ตอนนี้เขาตามมาเจอ และไม่ใช่แค่นั้น
ตอนนี้เขารับรู้เรื่องราวที่ไม่ควรรู้ที่สุดซะแล้ว ถ้าเขารู้ว่าเด็กนั่นคือ “สเปเชียล” เมื่อไหร่ล่ะก็ มันไม่สนุกแน่คราวนี้
เจ้าตัวยังนอนคิดถึงเรื่องภาพหลอนวันนั้นและอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองมาตลอดอยู่
เขาควรไปเช็คร่างกายมั้ย?
จะว่าไปเขาก็ไม่ได้เช็คร่างกายมานานแล้วนะตั้งแต่คุณปู่ที่รักเสียไปนั่นแหละเพราะที่ผ่านมาคุณปู่จะเป็นคนดูแลร่างกายและสุขภาพให้เขามาตลอด ก็แน่ล่ะมีหมอฝีมือดีระดับเทพอยู่ใกล้ขนาดนี้จะไปหาหมอที่อื่นทำไม
แล้วเขาเอาก็ไม่ใช่คนอ่อนแอซักเท่าไหร่ติดจะแข็งแรงด้วยซ้ำ เรื่องเจ็บป่วยเป็นไข้อะไรก็ไม่ค่อยมีปวดหัวนิดหน่อยกินยาก็หาย ที่เห็นจะบ่อยก็แผลจากการต่อยตีเนี่ยแหละเลยห่างจากโรงพยาบาลมาหลายปีแล้ว
สเปเชียลเป็นคนฉลาดช่างสงสัย และ ช่างสังเกตุ
การเกิดอาการแปลกๆ กับร่างกายตัวเองแบบนี้และยิ่งเกิดขึ้นกับช่วงขาของตัวเองด้วยแล้ว
ภาพติดตาตอนที่มือของเขาเงื้อมีดแทงลงที่ต้นขาของตัวเองมันแวบเข้ามาอย่างไม่น่าจะเป็นแค่ภาพหลอนธรรมดา
จะเป็นไปได้มั้ยที่มันเกิดขึ้นจริงและมีอะไรที่ทำให้ซีต้องปิดบังเขา?
ก๊อก ก๊อก
ระหว่างสมองกำลังทำงานหนักจมอยู่กับการถามตอบตัวเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พร้อมเสียงของ…พ่อ
“พ่อเอง”
“เข้ามาได้เลยครับ ผมไม่ได้ล็อค”
ประตูห้องเปิดออกพร้อมปรากฏใบหน้าคุ้นเคยที่ไม่ได้เห็นมาหลายวัน คนเป็นพ่อเดินเข้ามานั่งลงที่เตียงข้างๆลูกชายของตนที่ตอนนี้นั่งหลังตรงรออยู่แล้ว
“เป็นยังไง ไม่ได้เห็นหน้าเสียนาน”
สเปเชียลหันไปมองพ่อของตน “อ่า…ก็ดีครับ แล้วงานเป็นยังไงบ้างครับ”
รอยยิ้มอ่อนๆ ของชายวัยกลางคนปรากฏขึ้นแล้วก็หายไป “ก็ดี”
“เห็นสบายดีก็โอเค แวะเข้ามาดูหน้าเท่านั้นแหละ”พ่อว่าพลางขยับลุก
“แม่ล่ะครับ”
“หลับไปแล้วน่ะ พรุ่งนี้ก็ไปหาแม่เขาด้วยล่ะ”
สเปเชียลยิ้มรับมองพ่อของตนกำลังเดินไปที่ประตูเขาสะดุ้งตัวเหมือนนึกอะไรออก
“เอ่อ…พ่อครับ”
พ่อชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูแล้วหันกลับมา “ว่าไง?”
“เอ่อ..คือ”
เขาอ้ำอึ้งเหมือนไม่แน่ใจว่าจะพูดดีมั้ยแต่ก็เผลอออกปากไปแล้ว คิ้วเข้มของคนเป็นพ่อขมวดมองลูกชายนิดๆ
พ่อไม่ชอบคนอึกอัก…เขาคงต้องพูดแล้ว
“คุณปู่…เคยบอกอะไรพ่อเกี่ยวกับเรื่องซารายด์มั้ยครับ”
“ซารายด์?” พ่อเลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงเหมือนพึ่งนึกออก “อ๋อ เรื่องซารายด์ที่ลูกชอบคุยกับคุณพ่อสินะ” สเปเชียลพยักหน้ารับ
พ่อถอนหายใจส่ายหน้าน้อยๆด้วยสีหน้าที่ดูอ่อนโยนลงกว่าที่เป็นแล้วเดินมานั่งลงข้างๆ สเปเชียลเหมือนเดิม
“ลูกดูชอบเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนะ”
“ครับ”
“อืม…ความจริงแล้วตอนเด็กๆ ปู่ก็เล่าให้พ่อฟังบ่อยๆล่ะนะ แต่พ่อไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่หรอก เลยไม่ได้คุยอะไรกันมากพ่อกับปู่เองก็ทะเลาะกันบ่อยๆ ไม่ได้เป็นลูกรักหรือหลานรักเหมือนลูกหรอก”
พ่อพูดติดจะขำผิดกับท่าทีปกติที่เขาเคยเห็น
“แต่เรื่องซารายด์เนี่ยเหมือนพ่อจะเคยฟังมานะว่าตั้งแต่เมื่อสมัยรุ่นคุณทวดคุณเทียดเนี่ยบ้านเราเคยร่วมกับองค์กรอะไรซักอย่างที่เกี่ยวกับซารายด์”
สเปเชียลเลิกคิ้วด้วยความฉงน “ครับ?!”
“ก็นั่นแหละ พ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจ ไม่สิไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่เคยได้ยินได้ฟังอะไรหรอกบางทีมันก็อาจจะเป็นแค่นิทานไว้กล่อมลูกก่อนนอนล่ะนะ”
สเปเชียลขมวดคิ้วนิดๆ กับคำพูดของพ่อตนเองแต่ก็ไม่ได้ติดใจเท่ากับเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่
“เอาเถอะ พ่อกลับห้องล่ะ แล้วอย่านอนให้มันดึกมาก”
เขายิ้มรับก่อนจะบอกราตรีสวัสดิ์พ่อเมื่อประตูปิดลง สเปเชียลก็ขมวดคิ้วแน่นแล้วลุกขึ้นไปหยิบแลปท็อป มาเปิด เขากดเข้าเน็ทและพิมพ์หาองค์กรเกี่ยวกับซารายด์ทันที ตาไล่มองไปตามผลการค้นหาของเว็ปจนไปสะดุดลงที่บทความหนึ่ง
SALYE BLOODY PROJECT - SBPS
องค์กรวิจัยเลือดซารายด์ที่ล่มไปเมื่อปี ค.ศ.1878
โครงการตามล่าซารายด์นำเลือดมาวิจัย
โครงการอ้างว่าเลือดของซารายด์มีสารบางอย่างที่ทำให้ร่างกายรักษาตัวเองหรือสามารถเป็นยาอายุวัฒนะ
แต่ยังไม่มีเอกสารหรือหน่วยงานไหนรับรองว่าการสันนิษฐานข้างต้นเป็นความจริง
ซึ่งทำให้เกิดโครงการวิจัยเลือดซารายด์นี้ขึ้นมาเพื่อศึกษาและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับทางการแพทย์ ของมนุษย์
โครงการเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ.1874แต่ก็ถูกยุบไปเมื่อปี 1878 โดยไม่หลงเหลือหลักฐานการวิจัยหรือบันทึกใดๆไว้เลย ข่าวอ้างว่ามีนักวิทยาศาสตร์และแพทย์จากประเทศไทยร่วมอยู่ในโครงการนี้ด้วยแต่ไม่ปรากฏชื่อว่าบุคคลใด องค์กรเกี่ยวกับซารายด์?
หรือว่าแพทย์จากประเทศไทยจะเป็นคุณทวดคุณเทียดที่พ่อบอกบ้านเราต้องมีหลักฐานอะไรบ้างสิ…
ไม่มีทางที่คุณปู่จะไม่รู้
ถ้าเขาเปิดรอยต่อในห้องคุณปู่ได้เขาต้องเจออะไรแน่!
ห้องน้ำ…
สเปเชียลกลับเข้ามายืนในห้องน้ำของคุณปู่ที่รักอีกครั้งเขากวาดตามองไปรอบๆ ห้อง ที่เคยสำรวจมาแล้ว
ถ้าน้ำเป็นสื่อกลาง...
ถ้าใช้น้ำ… ก็ต้องให้น้ำมันทำงานก่อนรึเปล่า
เขาเดินไปรอบห้องเปิดระบบน้ำทีละจุด เริ่มตั้งแต่
เปิดก๊อกน้ำในอ่างล้างหน้า
เปิดน้ำในอ่างจากุซซี่
เดินต่อไปกดเปิดระบบ Rainshower
เสียงน้ำดังก้องห้อง…
แต่ทุกอย่างยังนิ่ง…เขาพลาดเหรอ?
ยังไม่ใช่ ใช่มั้ย?
สเปเชียลยืนขมวดคิ้วมองสายน้ำที่กำลังไหลต่อเนื่องเสียงน้ำกระทบยังดังอยู่ สายตาไล่มองไปเรื่อยๆจนไปหยุดอยู่ที่
ชักโครก?
เขาก้าวเท้ายาวๆ ไปกดชักโครกทันทีที่คิดออกเมื่อชักโครกทำงาน น้ำจากทุกจุดก็หยุดไหล….
สิ้นเสียงชักโครก ห้องน้ำก็เงียบสนิท ต่างกับก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของเขา มันกำลังเต้น
เต้นแรงจนกลัวว่าจะหลุดออกมา เขาใจเต้นแรงเหมือนมือจะสั่นนิดๆ ด้วย นี่มาถูกทางแล้วใช่มั้ย?
เขาเดินออกมาจากห้องน้ำช้าๆ เหมือนลุ้นอะไรซักอย่างก้าวเบาๆ ราวกับกลัวอะไรตื่นขึ้นมา บางทีเขาอาจจะกลัวว่าตอนนี้เขาแค่กำลังฝันถ้าทำอะไรเร็วๆ หรือแรงๆ เขาจะสะดุ้งตื่นได้ หัวใจเขาทำงานหนักขึ้นไปอีกเมื่อเขาเดินพ้นห้องน้ำออกมาแล้วพบว่า
มีแสงปรากฏออกมาจากปุ่มเลเซอร์สีแดงเล็กๆ ปุ่มนั้น แสงสีเขียวที่สาดออกมาเป็นตัวเลขเหมือนแป้น คีย์บอร์ด…..
เหลือแค่กดรหัสสินะ...
|