◊ C h a p t e r 2 5 ◊
Z’s
“ซี”
คิวกับไอเดินเข้ามาหาซีเมื่อเห็นเขาเดินออกมาพร้อมกับพ่อแม่สเปเชียล นัยน์ตาสีทองที่ดึงดูดทุกอย่างตอนนี้กำลังฉายแววกังวลในแบบที่ไม่เคยเป็น
“นายไม่เป็นไรนะ”
“ตอนนี้ยังไม่เป็น”
คิวตบไหล่ซีเบาๆ อย่างต้องการให้กำลังใจเจ้าตัวพยักหน้ารับแล้วเดินไปหาพ่อแม่สเปเชียลที่ยืนรออยู่แล้ว
“พี่ซีจะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ” ไอเอ่ยขึ้นมองตามหลังซีไป
พวกเพียวที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ยินแบบนั้นก็เดินเข้ามา
“ซีมันจะทำอะไร สเปเชียลจะเป็นยังไงแล้วนั่นไปไหนกัน”
ไอกับคิวหันมามองด้วยความงุนงงแล้วก็ต้องนึกอ๋อในใจ
พวกนี้ไม่ได้ยิน…มนุษย์หูไม่ดีสินะ
“ไว้ให้น้องสเปเชียลมาเล่าหลังจากฟื้นแล้วกัน”
กลิ่นยากลิ่นแอลกอฮอลและกลิ่นเลือดจางๆ โชยมาแตะจมูกหลังจากเปิดประตูเข้าห้องฉุกเฉินไป
สเปเชียลนอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียงมีผ้าพันแผลรอบช่วงตัวและเฝือกที่ขา…แค่มอง ซีก็เผลอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
ซีเดินเข้าไปใกล้ๆ แตะปลายนิ้วลงที่มืออีกฝ่ายเบาๆ
“ต้องฉีดเข้าเส้นเลือดใหญ่”
พ่อสเปเชียลที่ตอนนี้อยู่ในชุดแพทย์เรียบร้อยแล้วพยักหน้ารับ “เธอมาเจาะเลือดก่อน” ซีเดินมานั่งแล้วยื่นแขนให้พ่อสเปเชียล “หลังจากจัดการเสร็จแล้ว ทำลายอุปกรณ์อย่าให้เหลือนะครับ”
คุณเคยรู้สึกอึดอัดกับอะไรซักอย่างมั้ย…แต่นี่มันยิ่งกว่าอึดอัด... มันบีบหัวใจ มันทรมาร มันยิ่งกว่าความเจ็บปวด ทางกาย ทางใจ… ปล่อยไว้เขาก็ตาย ทำลงไปเขาก็อาจจะตาย
ในเมื่อหนทางข้างหน้ามีแต่คำว่าตาย... แล้วสุดท้ายควรจะทำอะไร ไม่สิ… จะทำอะไรได้!
ซีจ้องมองเลือดสีแดงเข้มจนเกือบดำของตัวเองที่กำลังถูกสูบเข้ากระบอกเข็มฉีดยาทีละนิด
ถ้าเกิดตอนนี้เขาหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นมาใหม่แล้วสามารถเห็นเด็กนั่นยืนท้าวเอวโวยวายโหวกเหวกอยู่ตรงหน้าได้อีกครั้ง เขาสัญญา…
จะไม่มีวันรำคาญหรือไล่ไปไหนอีกแล้ว
ถึงแม้ว่าหากเด็กนี่รับเลือดซารายด์เข้าไปแล้วไม่ตายจะส่งผลให้เป็นอันตรายต่อเขาต่อเผ่าพันธุ์ต่ออะไรก็ตามแต่... เขายอม ขอแค่คนบนเตียงมีลมหายใจอยู่ต่อในพรุ่งนี้ของทุกๆ วัน เขายอม
เสียงพูดคุยของคิวกับไอดังย้อนขึ้นมาในหัว…
'อ่า...ในหนังสือมันเขียนไว้ว่าความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือการทำอะไรให้ใครโดยที่อยากให้เขามีความสุขแล้วเราก็สุขไปด้วย'
'เป็นแบบนั้นมั้ยพี่ซี'
ถ้าถูกถามแบบนี้...คงจะตอบได้โดยไม่ต้องคิดอีกแล้ว
คำตอบคือ...ไม่
เขาให้ ให้ได้ทุกอย่าง ให้ได้ทุกสิ่ง แต่เขาหวัง… เขาหวังให้เด็กนั่นมีชีวิต เขาหวังให้เด็กนั่นหายใจ
เขาหวังให้เด็กนั่นลุกขึ้นมาถามนั่นถามนี่ไม่หยุด เขาหวังให้เด็กนั่นทำท่าฮึดฮัดส่งเสียงไม่พอใจ
เขาหวังให้เด็กนั่นลุกขึ้นมาแล้วทำตาดุๆ มองหน้าเขาแบบทุกๆวัน
เขาหวังให้ร่างกายเล็กๆ นั่นอุ่นจัดตลอดเวลา...
ไม่อยากให้มันเย็นลง
เขาไม่รู้ว่าความรักของมนุษย์เป็นแบบไหนจะมีกฏเกณฑ์ข้อบังคับอะไรในการใช้ความรู้สึกนี้กับใครซักคน
แต่สำหรับซารายด์อย่างซีอาจจะไม่สามารถพูดได้ว่ารู้จักความรักหรืออธิบายความหมายของมันออกมาได้ ซีอาจจะรู้เพียงแค่ใครจะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไรเขาไม่สนเขาสนแค่เขาจะไม่มีวันให้เด็กนี่หายไป...
ไม่ว่าจะด้วยกายหรือวิญญาณ
ซีไม่เคยร้องไห้…เขาไม่รู้ว่าต้องเกิดความรู้สึกแบบไหนน้ำมันถึงได้ไหลออกมาจากตาไม่หยุด
แต่ตอนนี้เหมือนเขากำลังรับรู้ได้...
เมื่อขอบตาเขาเริ่มร้อนขึ้น
พ่อถือเข็มฉีดยาที่บรรจุโลหิตซารายด์อย่างซีอยู่เกือบเต็มหลอดคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างวิตกเมื่อเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างตัวลูกชาย...
“ฉีดเข้าเส้นเลือดใหญ่ทีเดียวหมดเข็มเลย”
ซีขมวดคิ้วแน่น “รู้ใช่มั้ยว่ามันเป็นปริมาณที่มากพอที่จะ…”
“พอแล้ว! ไม่ต้องฉีด ฉันไม่ให้ฉีด ไม่!คุณถอยออกห่างลูกเดี๋ยวนี้นะ!”
ไม่ทันที่ซีจะได้เอ่ยพูดจนจบแม่ก็ตะโกนออกมาเสียงสั่น ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาสีหน้าหวั่นหวาดวิตก อย่างที่สุดถลาเข้ามาเกาะที่แขนของคนถือเข็มไว้แน่น
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด…
ระหว่างที่กำลังยื้อแย่งอยู่นั้นเสียงชีพจรสเปเชียลก็อ่อนลง ความดันลดต่ำอย่างรวดเร็วจนทำให้คนในห้องตาเบิกกว้างตัวแข็งทื่อได้ไม่ยาก
“แม่ปล่อย!” พ่อตะโกนบอกพอดีกับที่ซีเข้าไปคว้าตัวแม่สเปเชียลออกมา
ไม่ทันแล้ว…
พ่อจับแขนลูกชายปักเข็มลงตำแหน่งเส้นเลือดใหญ่แล้วฉีดเข้าไปเรื่อยๆจนหมดหลอด คนเป็นแม่เห็นภาพตรงหน้าก็สะอื้นสุดหัวใจก่อนจะสลบไปซีประคองร่างของเธอไว้ก่อนจะอุ้มไปวางที่โซฟาอย่างระมัดระวัง
เมื่อเลือดหยดสุดท้ายไหลเข้าร่างกายสเปเชียลไปพ่อก็ถอนเข็มออก ยืนมองลูกชายตัวเองที่ยังคงนิ่งไม่ไหวติง…. เขาขยับเช็คความดันและชีพจรทุกอย่างจนเสร็จ อาการยังคงทรงตัว…ตอบอะไรไม่ได้
ไม่มีปฏิกิริยา
พ่อเดินไปคอลเรียกพยาบาลมารับแม่ออกไปก่อนจะเดินมายืนข้างๆซีที่ยืนดูสเปเชียลอยู่ไม่ห่าง
“....................”
ความเงียบที่น่าขนลุกปกคลุมบรรยากาศทั่วทั้งห้องดวงตาที่แฝงความเป็นห่วงทั้ง 2 คู่ จ้องมองไปที่สเปเชียลไม่วางตา
เสียงชีพจรจากเครื่องข้างเตียงคงเป็นเสียงที่ดังที่สุดในห้องนี้แล้ว....
แต่เงียบสงบได้ไม่นานคนทั้งคู่ก็ต้องเบิกตากว้างทำอะไรไม่ถูกด้วยความตกใจ
เมื่อร่างสเปเชียลกระตุกอย่างแรง…
พ่อสเปเชียลถลาเข้าไปจับตัวลูกชาย หันไปหายาฉีดให้สงบแต่ซีคว้าแขนเอาไว้ นัยน์ตาสีทองสบตาอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
“ฉีดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”
“แต่เขาจะตาย!!” พ่อตะโกนสุดเสียงอย่างลืมตัวเมื่อเห็นท่าทางทุรนทุรายสุดทรมารของลูกชายคนเดียว อย่างนั้น
“ถ้าเขาจะตายต่อให้ฉีดอะไรมันก็ไม่เป็นผล คุณก็รู้”
สิ้นเสียงซีไปคนเป็นพ่อชะงักนิ่งน้ำตาไหลเป็นสายก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา
ซีเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปแล้วก็สืบเท้าเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงข้างๆสเปเชียลก่อนจะประคองร่างที่สั่นกระตุกเข้ามาพิงตัวเองไว้เพื่อเป็นหลัก นานจนแทบจะทนไม่ไหว ร่างของสเปเชียลก็หยุดกระตุก แน่นิ่งไป…
ทำเอาคนประคองใจสั่นอย่างห้ามไม่ได้เขารู้สึกมือไม่มีแรงขณะที่ค่อยๆ ยกมือลูบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ แล้วไถลไปที่ใต้จมูกเพื่อเช็คลมหายใจ
ถึงจะแผ่วแต่ยังรู้สึก…
“พี่ซีไปนอนพักก่อนดีมั้ยฮะ” ไอเดินมาเอ่ยถามซีเบาๆ อย่างเป็นห่วง
จากวันนั้นผ่านมา 2 วันแล้ว…สเปเชียลยังคงหลับตานิ่งไม่ขยับ ชีพจรความดันทุกอย่างเป็นปกติ…เขารอด
แต่เขายังไม่ฟื้น…
2 วันแล้วที่ซียังนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงของสเปเชียลไม่ออกไปไหนและยังไม่ได้รับเอนไซม์ ร่างกายของซีอ่อนแอและเขาดูเพลียจัดชนิดที่คนมองมาแล้วต้องนึกห่วง
พ่อแม่ของสเปเชียลเห็นแล้วก็ต้องยอมให้ซีเฝ้าไข้อย่างไม่กล้าขัดทั้ง 2 คนจะแวะเข้ามาหาสเปเชียลเช้าและเย็นก่อนจะไปนอนที่ห้องVIP ชั้นเดียวกัน
ทางด้านเพียว เวล ลม ขอบฟ้า ข้าวปั้น และริว ก็สลับกันมาเยี่ยมมาเฝ้ากันในแต่ละวัน
เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดของซารายด์อย่างซีหมดแล้ว…แม้จะตกใจ แต่ไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จะถามอะไรให้มากเรื่อง หากแต่ให้สัญญาว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นความลับอย่างไม่มีวันเปิดเผย...
“ไม่เป็นไร คิวพาไอกลับคอนโด” ซีเอ่ยเสียงอ่อนหันไปมองหน้าคิวที่ขมวดคิ้วจ้องตนกลับมา
“ซี ไปหาเอนไซม์” คิวเอ่ยพูดเสียงเข้มคล้ายจะดุอยู่ในที แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเพื่อนของเขากำลังต้องการอะไร และกำลังมีสภาพแบบไหน
“พาไอกลับไป” ซีเอ่ยย้ำคำก่อนเบนสายตากลับมาที่คนบนเตียง คิวถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจก่อนจะยอมดึงแขนไอกลับออกไป เพียวและขอบฟ้าที่นั่งอยู่ในห้อง มองเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้าก็ต้องนึกเห็นใจซีขึ้นมาอย่างทนไม่ได้…
สภาพแบบนี้จะตายก่อนสเปเชียลฟื้นรึเปล่า
“ซีมึงไปพักหน่อยเหอะ” เพียวเอ่ยเสียงอ่อนเดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังของซี
“ไม่เป็นไร”
“คิวบอกกูว่ามึงต้องการเอนไซม์เดี๋ยวนี้” ขอบฟ้าพูดแย้งเสียงแข็ง “มึงจะแย่ลงไปอีกคนเพื่ออะไรวะ”
“อย่ายุ่ง”
เห็นความหัวแข็งแบบนี้ของซีแล้วเพียวกับขอบฟ้าก็ต้องอ่อนใจ…
ถ้ามึงไม่ฟื้นเร็วๆ นี้ ซีมันต้องแย่แน่ๆ เลยไอ้สเป
รีบๆ ลืมตาขึ้นมาได้แล้ว
ขอบฟ้ามองภาพตรงหน้าก่อนจะกลั้นใจพูดออกไป “ซี ถ้ามึงไม่อยากออกจากห้องไปหาเอนไซม์…กูให้มึงได้นะ”
เพียวหันขวับไปมองขอบฟ้าทันทีอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “กูเห็นมึงเป็นแบบนี้แล้วกูก็เป็นห่วง ไอ้สเปมันก็คงไม่โอเคเหมือนกัน”
ขอบฟ้าเอ่ยเสียงสั่นคนปากร้ายใจดีอย่างเขาเห็นการกระทำแบบนี้ของซีแล้วก็รู้สึกอยากจะร้องไห้
พวกเขาไม่รู้เรื่องข้อตกลงอะไรนั่นของซีกับสเปเชียลเขารู้เพียงแค่ว่าซีคงเป็นห่วงสเปเชียลมากจนไม่อยากเดินออกจากห้องไปหาเอนไซม์จากหญิงสาวข้างนอกที่ไหน…ไม่ต้องการละสายตาไปจากเพื่อนของเขา
“ไม่เป็นไร”
ซีเอ่ยตอบไม่แม้แต่จะหันไปมองคู่สนทนาซักนิดภาพเดียวที่ฉายอยู่ในนัยน์ตาสีทองคู่เดิมมีเพียงภาพของ สเปเชียล…ขอบฟ้าเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไงอีกแล้วเขาไม่รู้และก็เดาไม่ออกว่าซารายด์จะแข็งแรงแค่ไหน และจะสามารถขาดเอนไซม์ไปได้นานเท่าไหร่ แต่ดูจากอาการของซีแล้ว…มันไม่ใช่เล่นๆ
คนที่ดู ไม่สิ…ซารายด์ที่ดูแข็งแรงขนาดนั้นแต่ตอนนี้เหมือนคนกำลังหมดแรง…สีหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดแบบนี้ทำให้เขานิ่งเฉยไม่ได้
เพียวเองก็ดูจะคิดแบบเดียวกัน…แม้เขาจะไม่มีความกล้าพอเสนอให้เอนไซม์กับซารายด์อย่างซีแต่เขาเองก็วิตกไม่แพ้กัน หรือเขาควรไปลากผู้หญิงซักคนเข้ามาให้ซีถึงนี่ดีนะ...ไม่ก็พยาบาลซักคนก็ได้
ซียังนั่งจ้องใบหน้าที่คุ้นตาดีอยู่ไม่ห่างเปลือกตาที่รอบกรอบด้วยแพขนตาสีดำยังปิดสนิทไม่ขยับ ปากสีชมพูส้มดูซีดลงกว่าที่เคย หน้าอกขยับขึ้นลงเบาๆ เพื่อบ่งบอกถึงการมีอยู่ของชีวิต…
เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงเดินเข้าไปจ้องตาผู้หญิง ซักคน...แล้วก็กวาดเอาเอนไซม์จากโพรงปากจนพอใจ จนร่างกายเขามีแรง จนรู้สึกดีขึ้น แต่ตอนนี้เขาเพียงแค่ไม่อยากละสายตาออกจากคนตรงหน้า...
หรือความจริงแล้ว...
เขาอาจจะไม่อยากให้ใครซักคนมาลบรอยสัมผัสที่เคยประทับอยู่เมื่อหลายวันที่แล้ว....
สัมผัสอุ่นร้อนจากริมฝีปากของคนบนเตียงที่ฝากเอาไว้ตอนยังไม่นอนหลับตานิ่งอยู่แบบนี้
|