◊ I n t r o ◊ เวลาเกลียดอะไรสักอย่าง…จะมีเหตุผลอะไรให้เลิกเกลียด...ผมเกลียดมนุษย์…
ผมก็ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรความรู้สึกนั้นถึงเลือนลางไปกว่าที่เคย ตั้งแต่ที่ผมได้เจอคนคนนึง
เพราะวันนึงคนคนนั้นมาทำดีกับผม อาจจะเพราะวันนึงคนคนนั้นเกิดสำนึกในความผิดขึ้นมา
หรือเพราะวันนึงผมได้มีโอกาสรู้จักตัวตนจริงๆ ของคนคนนั้น ไม่อย่างนั้น…คงเป็นเพราะวันนึงคนคนนั้นช่วยชีวิตผม…
แต่..วันนี้ผมไม่ได้เกลียดเขาแล้ว…เขาคงเป็นข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้จะว่าไปก่อนหน้านี้ก็เกลียดเสียมากมาย…
ใครจะไปนึก…ว่าการมีใครสักคนเกลียดตัวตนที่เราเป็น…มันจะรู้สึกแบบนี้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดน เจ้านั่น เกลียดเข้านี่แหละ C h a p t e r 1
❖
ใ น ใ จ
ปี 2009
สวนดอกไม้นานาพันธุ์ด้านหลังโบสถ์ที่จัดขึ้นอย่างสวยงามราวกับต้องการให้ผู้มาเยือนที่มีจิตใจหม่นหมองด้วยเหตุการณ์เลวร้ายทั้งปวงสดชื่นขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
ซึ่งไม่เว้นเด็กน้อยที่มานั่งน้ำตาอาบหน้าอยู่คนเดียวหากแต่ไม่ทันสดชื่นขึ้นตามความตั้งใจของคนจัดสวนก็มีเสียงที่ทำให้ต้องหลุดออกจากภวังค์ความคิด
“มานั่งทำอะไรตรงนี้”
เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นตามเสียงทัก “มิสเตอร์ไคลด์”
“ร้องไห้?”
“ครับ”
“ฉันเข้าใจ” คนโตกว่าขยับเอื้อมมือไปลูบหัวทุยเบาๆพลางเอ่ยวาจาที่เด็กน้อยทำแค่นิ่งรับฟัง
“ถ้าไม่มีมันเธอก็ไม่ต้องเสียใจอย่างนี้”
“ถ้าไม่มีมันเธอคงไม่ต้องสูญเสีย”
“เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากมัน”
“มอบทุกอย่างของเธอให้ฉัน”
“ความสามารถทุกอย่างที่เธอมี…”
หนุ่มชาวอังกฤษเอ่ยเสียงทุ้มด้วยสำเนียงผู้ดีกล่าวคำที่คล้ายจะล่อหลอกให้คนที่นั่งน้ำตานองเอนเอียงตาม
นัยน์ตาสีน้ำข้าวทอประกายแวววาวอย่างเจ้าเล่ห์ปากบางฉีกยิ้มน้อยๆ ส่งให้เด็กหนุ่มตรงหน้า
“มอบมันให้ฉัน” ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊
ปี 2015
“ซี!ลุกเลย”
“ฮื่อ”
“ฮื่ออะไรของมึงเล่า กูหนัก”
“เฮ้ย! อื้อ ปะ…ปล่อย งื้อ”
ภาพซีที่พยายามนอนลงที่ตักสเปเชียลและโดนผลักหัวออกหลายต่อหลายครั้ง จนสุดท้ายคนขัดขืนก็โดนปิดปากด้วยความนุ่มละมุนของอีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้…
ปิดฉากการทะเลาะด้วยอาการหวานจนคนมองต้องเบนสายตาหนี…
เอ็กซ์เหลือบตามองคนทั้งคู่ตรงโซฟาได้ไม่นานก็ต้องกรอกตาหลบเพราะความรู้สึกประหลาดข้างใน
“พี่ซี~” เสียงติดจะหวานของไอดังขึ้นแล้วเจ้าตัวก็วิ่งร่าเข้ามาในห้องพร้อมกับคิว
เจ้าของชื่อเหลือบตามอง พยักหน้ารับนิดๆ แล้วซุกหน้าลงที่ท้องของสเปเชียลให้โดนตีบ่าเข้าทีด้วยแรงที่ไม่เบานัก…
เขินรุนแรงแบบนี้มีคนเดียวเท่านั้นแหละ
ไอเอาอาหารที่ซื้อเข้ามาจัดวางที่โต๊ะโดยมีคิวคอยช่วยเมื่อแซลมอนซาชิมิชิ้นหนาๆ ถูกวางเรียงใส่จานไม้ขนาดใหญ่แล้วเสริฟลงกลางโต๊ะ
สเปเชียลก็ตาวาวลุกพรวดวิ่งมานั่งรอที่โต๊ะทันทีซีที่กำลังเผลอไม่ทันได้ตั้งตัวแทบจะตกจากโซฟาเพราะแรงลุกของอีกฝ่าย…
เจอแซลมอนทีตัวหนักๆของเขาก็ฉุดสเปเชียลไม่อยู่สินะซีหันมองตามงงๆ แล้วก็ต้องอมยิ้มให้กับอาการเด็กๆของสเปเชียลก่อนจะเดินตามมานั่งข้างๆ แล้วขยี้ผมของเจ้าตัวด้วยอาการหมั่นเขี้ยว
“ว่าแต่พี่เอ็กซ์จะเอาไงต่อล่ะฮะ” กินไปได้สักพักไอก็เอ่ยถามขึ้นทำเอาทุกคนในโต๊ะหันไปมองเจ้าของเรื่องเป็นตาเดียวรวมไปถึงสเปเชียลที่กำลังเคี้ยวแซลมอนอยู่เต็มปาก
“อะไร?” เอ็กซ์เอ่ยเสียงเรียบนัยน์ตาและท่าทางไม่แสดงอาการสนใจหรือสงสัยอะไรในคำถาม
“ก็…จะกลับไปที่แดนมั้ย”
“…” สิ้นคำไอ คนถูกถามก็นิ่งไป
“นั่นสิเอ็กซ์ จะกลับไปเหรออยู่ด้วยกันที่นี่ก็ได้นี่” คิวเอ่ยเสริมขึ้นมาเมื่อความเงียบยังคงทำงานอยู่
คนทำลายความเงียบก็ไม่ว่างพอเอ่ยคำในปากยังเต็มไปด้วยของโปรดเนื้อเด้ง…
“…ยังไม่ได้คิด” เอ็กซ์ตอบแล้ววางตะเกียบลงนิ่งไปเหมือนกำลังครุ่นคิด ซีเหลือบมองท่าทางแบบนั้นก็เผลอหมุ่นคิ้วไม่รู้ตัวแล้วเอ่ยต่อ
“เดินทางตามหากันแบบนี้มาเกือบ 10 ปีไม่เหนื่อยรึไง ไหนๆ ก็เจอแล้วอยู่ต่อสัก 2-3 ปีคงไม่เป็นไรมั้ง”
ประโยคที่เหมือนจะแซวของซีทำให้เอ็กซ์หันมองอย่างแปลกใจก่อนจะอมยิ้มมุมปาก
“หึ…ไม่รู้เหมือนกันอาจจะอยู่ต่อสักพัก”
“มาอยู่คอนโดพี่คิวกับไอก็ได้นะฮะ” เสียงใสๆ ของไอแทรกขึ้นอย่างร่าเริง…
ถึงไอจะแอบกลัวๆ เอ็กซ์อยู่ไม่น้อยแต่พอจะมีเผ่าพันธุ์เดียวกันมาอยู่ด้วยเพิ่มอีกหนึ่งก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้
“ไม่เป็นไร”
คิวได้ยินเอ็กซ์ปฏิเสธก็เลิกคิ้วมองหน้า “จะหลบๆ ซ่อนๆ ทำไม มาอยู่ด้วยกันนี่แหละทำตัวแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยน”
“เออ…จะว่าไปมึงไม่เรียนหนังสือเหรอ?”สเปเชียลที่เงียบไปเพราะอาหารเต็มปากเอ่ยถามเป็นประโยคแรกของการร่วมวงสนทนา
“ฮ่ะๆ ความจริงพวกเราเรียนจบแล้วล่ะน้องสเปเชียล”คิวตอบแทนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขบขัน
“เรียน? แล้วมึงมาเรียนวิศวะทำไม”สเปเชียลทวนคำ แล้วหันมาถามซี
“ซียังไม่ได้เรียนน่ะ”
ซียกยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ตอบคิวเห็นคนถามเริ่มขมวดคิ้วด้วยอารมณ์ก็รีบแย่งตอบทันทีและเมื่อเห็นสเปเชียลยังทำหน้างงอยู่ก็เอ่ยคำต่อ
“ฮ่าๆ ที่แดนเรามีสอนทุกอย่างที่อยากจะเรียนซาไลย์เรียนแค่ 1-2 ปี ก็รู้เรื่องทุกอย่างที่ควรรู้ในสิ่งที่จะทำแล้วแต่ก็แล้วแต่สมองด้วยล่ะนะ”
“แดน?” เป็นอีกครั้งที่สเปเชียลทวนคำอย่างไม่เข้าใจ
“โอเค ซีไม่ได้เล่าเลยสินะ งั้นจะเล่าให้ฟัง…แค่น้องสเปเชียลคนเดียวนะ”
เมื่อสเปเชียลพยักหน้ารับ คิวก็เริ่มพูดต่อ
“พวกเราเรียกถิ่นซาไลย์ว่า ‘แดน’ เป็นที่ที่มีเพศหญิงอาศัยอยู่และเป็นที่ผลิตตัวอ่อนตลอดจนดูแลให้เติบโตโตพอจะดูแลตัวเองได้ ที่แดนเราก็มีการเรียนการสอนทุกอย่างเหมือนมนุษย์เนี่ยแหละจะต่างก็ตรงสิ่งที่เรียนรู้ ยกตัวอย่างก็เช่น…อ้อ!เราไม่มีวิชาการบ้านการเรือนหรอกนะ” คนเล่าเอ่ยไปก็หัวเราะนิดๆไปอย่างอารมณ์ดีตามลักษณะเจ้าตัว
“แล้วทำไมมึงไม่เรียน” สเปเชียลฟังแล้วก็พยักหน้าหงึกหงักแต่ไม่วายหันมาถามคนข้างตัวอีกครั้ง
“หึ…ไม่อยาก” ซีหัวเราะในคอแล้วตอบปัด
“ซีมันเด็กพิเศษ ช่วงวัยต่อต้านน่ะ” คิวพูดขำแล้วเหล่มองซี ก่อนจะเบนสายตาไปจบลงที่เอ็กซ์ “หรืออาจจะหนีใคร”
“หึ” คราวนี้เอ็กซ์ส่งเสียงแค่นหัวเราะออกมาบ้าง
“จะอะไรล่ะ ก็พี่เอ็กซ์นั่นแหละทำพี่ซีหนีไปหลังจากนั้นไม่นานพี่เอ็กซ์ก็หายออกไปด้วย ที่แดนน่ะ พูดกันให้ทั่ว” ไอเสริมทำแก้มป่องพองลมด้วยอาการแสนงอน
“แล้วคิว…มึงเรียนอะไร?”สเปเชียลมองไอไม่นานก็หันมาถามคิวต่อ
“เทคโนโลยีโปรแกรมน่ะน้องสเปเชียล…ประมาณแฮกเกอร์”
“ผมก็เรียนนะฮะ” ไอเอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นสเปเชียลทำตาโตเหมือนชื่นชม
“เรียนไม่จบก็หนีออกมาน่ะไม่นับ” คิวว่าแล้วก็ผลักหัวไอเบาๆ คนโดนผลักก็กุมหัวแล้วยู่ริมฝีปากอย่างขัดใจ
“แล้ว…” สเปเชียลเอ่ยลากเสียงพลางหันไปทางเอ็กซ์
ฝ่ายคนโดนมองก็หันมาสบตานิ่งๆก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเรียบแล้วส่งอาหารเข้าปาก “ผลิตและวิจัยอาวุธ”
คิวยกยิ้มแล้วหันมาเสริมคำตอบของเอ็กซ์
“เอ็กซ์เลือกเรียนทางนี้เพราะอะไรรู้ใช่มั้ย”คิวส่ายหน้าเบาๆ แล้วหัวเราะ “คิดจะทำลายมนุษย์ตั้งแต่จำความได้”
สเปเชียลได้ยินแบบนั้นก็แอบลอบกลืนน้ำลาย…
ซาไลย์อะไรน่ากลัวชะมัด
“ถ้าไม่มีอะไรทำ ไปเรียนกับซีมั้ยล่ะเอ็กซ์เดี๋ยวจัดการให้” คิวเอ่ยเสนอขึ้นมา ด้วยที่ไม่อยากให้เอ็กซ์เดินทางไปเรื่อยๆ ไร้จุดหมายไม่วายจะมีความคิดเดิมๆ กลับเข้าสมองอีก
ไหนๆ ก็มีท่าทีอ่อนลงแล้วยึดไว้ด้วยกันก่อนน่าจะเป็นทางออกที่ปลอดภัยกว่า…
“เพื่ออะไร?” เจ้าตัวเงยหน้ามองคิวนิ่งๆ…เรียนวิศวะเนี่ยนะ ได้อะไร?
“ไปทำความรู้จักมนุษย์บ้างก็ดีนะ” ฝ่ายซีที่นั่งฟังมาสักพักก็แทรกขึ้นมาเมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูดเข้าเรื่องของตัวเอง
เอ็กซ์ได้ยินแบบนั้นสัญชาตญาณเดิมก็ออกหันมองอีกฝ่ายตาดุ แต่ก็มีอาการอ่อนลงเมื่อเหลือบไปเห็นสเปเชียลมองมา
“ไปสิมึง ลองไปเรียนดู จะเรียนแพทย์กับกูมั้ยล่ะ”สเปเชียลพูดขึ้นพยายามเปลี่ยนบรรยากาศมาคุรอบๆ ตัวเอ็กซ์
“…”
“ถ้าจะไปก็บอกแล้วกัน จะได้ให้คิวจัดการข้อมูลให้แล้วก็ย้ายไปอยู่กับคิวน่ะดีแล้ว”
พอเห็นซีพูดเหมือนจะออกออกคำสั่งกลายๆเอ็กซ์ก็เริ่มกระตุกหัวคิ้วอย่างหงุดหงิด จนคนใกล้ตัว อย่างสเปเชียลเกิดรู้สึกขนลุกขึ้นมา จึงใช้ไหล่กระแทกซีเบาๆ เป็นเชิงปรามก่อนจะหันไปคุยกับเอ็กซ์แทน
“ถ้ามึงยังไม่มีแพลนอะไร ไปเรียนดูก็ดีนะแล้วไปอยู่กับคิวจะได้ไม่เหงา…ไม่ดีเหรอวะ?”
“…” เหลือบตามองใบหน้าเหมือนจะหลอกเด็กของสเปเชียลก็เผลอคลายปมคิ้วไม่รู้ตัวและพยักหน้าเป็นการตอบรับไปแล้ว
หลังจากเย็นวันนั้นเอ็กซ์ก็ย้ายเข้าไปอยู่กับคิวพวกเพื่อนซาไลย์ที่มากับเอ็กซ์ก็กลับแดนกันไปหมดแล้ว
ปีนี้ซีขึ้นปี 4 และสเปเชียลขึ้นปี 3 อีก 3 วันจะหมดช่วงปิดเทอมจึงเป็นจังหวะดีถ้าเอ็กซ์จะเข้าไปเรียน
“เอ็กซ์ ตกลงนายจะเรียนอะไร?” คิวละสายตาจากจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่หันมาทางเอ็กซ์
“…” คนถูกถามเงียบไป ครุ่นคิดหนักในใจ…ไม่รู้จะไปเรียนทำไม
“ไปเรียนวิศวะกับซีแล้วกันนะ?”
เมื่อเห็นเอ็กซ์พยักหน้าก็เบนความสนใจไปที่โปรแกรมตรงหน้าต่อ
“เดี๋ยวเอาข้อมูลทั้งหมดที่ควรรู้ให้อ่านจำทั้งหมดให้ได้ใน 3 วันแล้วกัน”
ตัดมาที่คอนโดซีเจ้าของห้องยังคงนอนกลิ้งอยู่บนตักนุ่มของสเปเชียลอย่างสบายอารมณ์
“ซี…” สเปเชียลออกปากเรียกชื่อคนที่ตนกำลังลูบผมเล่นอย่างเบามือด้วยความเพลิน
“หืม” คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นสบตา
“เอ็กซ์มัน…เลิกเกลียดมนุษย์ยังวะ”
“…” คราวนี้ซีเงียบไปครู่นึง “เอ็กซ์ไม่ใช่ซาไลย์ที่เปลี่ยนใจง่ายแบบนั้นหรอกเกลียดมาเกือบทั้งชีวิต…แค่อ่อนลงได้แบบนี้ก็เกินคาดแล้ว”
“แล้ว..อื้อ!”
ไม่ทันปล่อยให้สเปเชียลได้พูดมาก ซีก็ผุดลุกโฉบปากแนบเข้ากับริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่าย
พูดแต่อะไรอยู่นั่น…แล้วทำคิ้วขมวดแบบนี้ให้ได้หมั่นเขี้ยวเสียทุกที
คนถูกขโมยจูบเบิกตากว้างอย่างตกใจ…เกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะไอ้นี่
“พะ…พอแล้ว เป็นอะไรเนี่ย!”
ซียกยิ้มกับอาการประจำตัวของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรยังคงกดแนบปากเข้าแน่นแล้วจับสเปเชียลพลิกมานอนใต้ร่างของตนเก็บเกี่ยวกลิ่นและสัมผัสที่ใหลหลงให้เต็มอิ่ม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแทรกอารมณ์…
อย่าคิดว่าเขาจะหยุดถ้าเจ้าของเครื่องไม่ดิ้นพล่านผลักอกเขาไม่หยุดแบบนี้เพื่อรุดไปรับโทรศัพท์นั่น…
“ฮัลโหลครับแม่~”
[ยุ่งอยู่รึเปล่าครับสเป]
“มะ…ไม่ยุ่งครับแม่”สเปเชียลเอ่ยอึกอักหน้าเริ่มขึ้นสีเมื่อคิดไปถึงสิ่งที่ทำอยู่เมื่อครู่
[วันพรุ่งนี้สเปว่างรึเปล่า กลับบ้านได้มั้ย]
“หืม ได้สิครับแม่ ว่าแต่มีอะไรรึเปล่าปกติสเปก็กลับทุกเสาร์-อาทิตย์อยู่แล้วน้า ทำไมอยู่ๆ โทรมาให้กลับวันศุกร์ล่ะครับ”
[มีคนอยากเจอสเปน่ะสิ]
ได้ยินแม่พูดอย่างอารมณ์ดีก็อดอยากรู้ไม่ได้
“ใครอะแม่” [พรุ่งนี้เข้ามาดูเองละกันนะจ๊ะ]
“งั้นพรุ่งนี้สเปจะรีบเข้าไปหาแม่น้า โอเคครับบหวัดดีครับแม่”
ซีนั่งฟังอยู่ข้างๆพอเห็นเจ้าตัววางหูก็เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“พรุ่งนี้กลับบ้านนะมึง”
“หืม? พรุ่งนี้วันศุกร์?”
“เออใช่ แต่แม่บอกให้กลับ มีคนอยากเจอกู”
ซีขมวดคิ้ว “ใคร?”
“พรุ่งนี้ก็รู้แหละ ตื่นแล้วก็ออกไปเลยนะ”
เขาเองก็อยากรู้จะแย่…ใครจะมากัน… ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊
“แด๊ด ถึงประเทศไทยแล้ว!”
หนุ่มน้อยหน้าหวานเจ้าของนัยน์ตา 2 สีเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ยากเกาะกระจกเครื่องบินจับจ้องลงไปบริเวณเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับจากตึกสูงยามค่ำคืน… ประเทศบ้านเกิดของพ่อเขา ประเทศที่เขาคุ้นชินแม้จะจากไปนานหลายปี
“ชู่ อย่าเสียงดังนักสิ ขยับมานั่งดีๆ” คนเป็นพ่อจับไหล่ลูกชายที่รักให้ลงมานั่งพิงเบาะ
“ตื่นเต้นนี่ครับ จะได้เจอพี่สเปเชียลแล้ว”
“คิดถึงมากเหรอเราน่ะ”
“มากเลย!” เด็กหนุ่มลากเสียงยาวเพื่อบ่งบอกขนาดของความคิดถึงด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“งี้เดี๋ยวพอเจอสเปเชียล แด๊ดก็หัวเน่าแล้วสิ”
“หึ! ใครกันแน่หัวเน่า แด๊ดนั่นแหละจะทิ้งไป”
คนเป็นพ่อหลุดยิ้มเมื่อเห็นลูกชายทำแก้มพองลมด้วยอาการแสนงอนอดไม่ได้ที่จะขยับยกมือหนาไปบีบพวงแก้มนุ่มนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว
“ถ้าพาไปได้ก็พาไปแล้วน่า” ว่าแล้วก็ย่นจมูกล้อเลียนลูกชาย “ไม่ดีเหรอได้อยู่กับสเปเชียล”
“ก็พอจะทดแทนกันได้”
“ปากเก่งนักนะเรา”
“ไม่ได้เก่งแค่ปากนะแด๊ด เก่งไปหมดเลย”
“เก่งแบบนี้ไปอยู่กับลุงวิชญ์ก็ดีจะได้สงบๆ ลงบ้าง”
พอได้ยินพ่อพูดถึงคุณลุงก็เงียบลงไปหน่อย…ก็เด็กหนุ่มนี่กลัวคุณพ่อพี่สเปเชียลอย่างกับอะไรดี…
คุณลุงไม่ใจดีเหมือนแด๊ดสักนิด ชอบทำตาดุๆ หน้านิ่งๆใส่ตลอด…
เขากลัวคนตาดุรองลงมาจากความมืดเลยล่ะ!
|