C h a p t e r 1 1
❖
เ ก ลี ย ด
‘แอล หนูรู้จักความลับมั้ยครับ’ เสียงอ่อนโยนที่ตราตรึงในโสตประสาท…ไออุ่นของแม่
‘ความลับ?’ ประโยคที่เด็กน้อยเอียงหน้าเอ่ยปากทวน
‘ใช่ครับ ความลับคือสิ่งที่เราจะไม่บอกใครและถ้ามีคนบอกความลับกับเรา เราก็จะไม่บอกต่อ’
‘อ๋อ...แอลไม่มีความลับหรอกครับ’
ลอว์เรนขยับริมฝีปากสีหวานยิ้มอย่างเอ็นดูในตัวลูกชายตัวเล็กของเธอยกมือลูบที่หางตาของดวงตาข้างขวา ที่มีสีเดียวกับตัวเอง
‘งั้นแม่จะแบ่งความลับของแม่ให้แอลนะ’
ความลับที่ลูกมีอยู่ในตัวครึ่งหนึ่ง… ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊
“เลิกเรียนเจอกันหน้าคณะนะครับ...พี่เอ็กซ์”
เมื่อเดินมาถึงหน้าคณะหลังจากจอดรถเสร็จแล้วอัลฟาก็หมุนตัวกลับมาจะบอกลาอีกฝ่าย หากแต่คู่สนทนาไม่ได้ตอบรับและเหมือนจะกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างแบบไม่มีสติรับฟัง
“พี่เอ็กซ์”
“…อะ…ว่าไง” เมื่อเสียงทักดังขึ้นอีกรอบพร้อมแรงดึงที่แขนคนถูกเรียกก็เหมือนหลุดออกจากภวังค์
“เป็นอะไรน่ะครับ” “เปล่า…ว่าไงนะ”
“แอลบอกว่า เลิกเรียนเจอกันตรงนี้น้า” ปากสีสดยู่ขึ้นอย่างงอแง
เอ็กซ์ยกยิ้มเล็กน้อย “อืม ไปเรียนเถอะ”
สิ้นคำ อัลฟาก็พยักหน้ารับแล้ววิ่งเข้าอาคารเรียนไป
ฝ่ายเอ็กซ์ที่มองตามเจ้าตัวเล็กจนลับตาก็ขยับไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ พอดีกับจังหวะที่ซีเดินกลับมาจากคณะแพทย์
“เอ็กซ์”
เจ้าของชื่อหันไปมองตามต้นเสียง “อืม” เขาพยักหน้ารับ
“ไม่เข้าเรียน?” ซีเอ่ยถามแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆ
“ไม่ล่ะ”
ซีส่ายหัวนิดๆ แล้วขยับยิ้ม “คิดจะเลิกแล้วสินะ”
“อืม”
จบคำตอบรับของเอ็กซ์ความเงียบก็เริ่มทำงานอีกครั้ง ซีไม่ได้ลุกไปเข้าชั้นเรียน ยังคงนั่งนิ่งๆ อยู่ ข้างๆ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆแบบที่นักศึกษาก็เข้าห้องกันไปหมดแล้ว บริเวณโดยรอบเงียบสงัดไม่มีคนพลุกพล่านอย่างเมื่อเช้า บรรยากาศสบายๆ ลมเย็นๆเสียงต้นไม้ปลิวไหวเพราะแรงลม
เอ็กซ์เงยหน้ามองฟ้าอย่างไร้จุดหมายซีมองอาการแบบนั้นแล้วก็ออกปาก
“มีอะไร”
เอ็กซ์เลิกคิ้วหันกลับมามองคนทัก “...?”
“ในใจน่ะ มีอะไร”
คนถูกถามเริ่มขยับยิ้มกับนิสัยชอบอ่านใจไม่เปลี่ยนของอีกฝ่าย “หึ...ก็นะ”
“...” ซีนั่งมองใบหน้าด้านข้างของเอ็กซ์รอให้เจ้าตัวเอ่ยปากเอง
“อืม...เจ้าแมวนั่น…อัลฟา”เอ็กซ์ว่าแล้วก้มหน้าลงมา เริ่มปวดคอจากการแหงนหน้าดูท้องฟ้า “เกลียดซาไลย์”
ซีชะงักไปทันทีที่ได้ยิน…
รู้แล้ว?!
“....”
ความเงียบน่าอึดอัดผิดกับเมื่อครู่เริ่มแผ่กระจายรอบกายซาไลย์ทั้ง2 ซีไม่เอ่ยคำ เอ็กซ์ก็ไม่ว่าต่อ ทั้งคู่ไม่ได้สบตากัน
เอ็กซ์ยังคงมองตรงไปข้างหน้าในขณะที่ซีก็ไม่ได้ละสายตาจากใบหน้าอีกฝ่าย จ้องเขม็งราวกับจะหาความผิดปกติทางอารมณ์จากใบหน้าเรียบเฉยนั่น หากแต่ไม่พบ…
“มีเรื่องต้องคุยกับสเปเชียล” อยู่ๆ เสียงทุ้มดุก็ดังขึ้นเสียเฉยๆ พร้อมกับนัยน์ตาสีเงินที่หันมาสบ
ซีถอนหายใจ แล้วพยักหน้า “อืม”
เอ็กซ์ย้ายมานั่งที่โต๊ะหน้าคณะแพทย์หลังจากคุยกับซีได้ไม่นาน
‘สเปเชียลเลิก 4 โมงไปสิ เดี๋ยวรับอัลฟากลับเอง’
แม้จะแปลกใจจนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง...
ซียอมปล่อยสเปเชียลง่ายๆ แบบนี้เลย?!
แต่เขาก็ไม่คิดจะเอ่ยปากถามหรือโต้แย้งอะไรด้วยนิสัยแบบนั้นจึงทำเพียงพยักหน้ารับแล้วลุกออกมา
เอ็กซ์มีเรื่องต้องคุยกับสเปเชียล…เรื่องอัลฟา...
ก็ไม่รู้ทำไมทำไมเขาถึงรู้สึกหน่วงในอกแบบนี้ เขาเคยเกลียดมนุษย์…เกลียดมากเกลียดจนอยากจะฆ่าเสียให้หมดทั้งโลก ตัวตนของมนุษย์มันน่าขยะแขยงไม่มีอะไรดีนอกจากเอนไซม์
คนคนเดียวที่ทำให้มุมมองทั้งหมดในความคิดเขาเปลี่ยนไป…เด็กที่มีหลากหลายอารมณ์จนต้องยิ้มตาม ไปด้วย…สเปเชียล แต่ตอนนี้เขาเจอเข้ากับมนุษย์ที่เกลียดซาไลย์...เกลียดเขา
เกลียดตัวตนที่เขาเป็น
เขารู้ดีว่าอาการ ‘เกลียด’มันรุนแรงขนาดไหน…
ขนาดที่ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากหายใจร่วมไม่อยากสัมผัสโดน...ตั้งแต่ออกมาจากแดน เขาต้องพึ่งมนุษย์
แต่เวลาเขาต้องเอาเอนไซม์จากมนุษย์เขาจะรู้สึกโมโหและขนลุกทุกครั้ง เจ้าตัวเล็กนั่นจะรู้สึกแบบนั้นกับเขามั้ยนะ…ถ้าหากรู้ รู้ว่าเขาคืออะไรรู้ว่าเขา‘เป็น’อะไร
มองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วก็เริ่มมองหาคนที่มารอนักศึกษาเริ่มทยอยกันเดินออกจากอาคารตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเสียงเซ็งแซ่เริ่มดังขึ้นทั่วบริเวณ…น่ารำคาญ
เอ็กซ์คิดแล้ว คิ้วเข้มก็เริ่มขมวดเข้าหากันแต่ก่อนที่เขาจะได้ฆ่าใครสักคน คนที่รอก็โผล่มา
“อ้าว เอ็กซ์ มึงมานั่งทำไรวะ”
เงยหน้าขึ้นมองก็เจอสเปเชียลกับพวกเพื่อนอีก5คน “…มาแทนซี”
“หะ?”
“มีเรื่องจะคุย”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังแบบนั้นก็ล้มเลิกความคิดจะเอ่ยถามต่อความให้ยาวยืด เลือกที่จะหันไปบอกลาพวกลมแล้วเดินตามเจ้าของนัยน์ตาสีเงินที่ดุเสียจนไม่กล้าเซ้าซี้ให้เสียอารมณ์ไปที่รถ
“มีอะไรจะคุยวะ?”
หลังจากขับรถพ้นมหาลัยมาได้สักพักด้วยนิสัยของสเปเชียลแล้ว การจะนั่งเงียบไปจนถึงคอนโดก็ดูจะเป็นไปไม่ได้
“...อัลฟา”
ได้ยินคำตอบก็หันขวับไปมองทันที “แอลทำไม?!” เกิดไรขึ้น!มึงทำไรน้องกูเหรอวะ?!
แม้จะไม่ได้หลุดปากเอ่ยไปทุกคำที่คิดแต่ก็โวยวายอยู่ในใจไม่น้อย
เอ็กซ์ปราดตามองแวบเดียวก็หันกลับไปจ้องถนนเหมือนเดิม “เจ้านั่นเกลียดซาไลย์”
อึก…
สิ้นประโยค คนที่ตื่นตูมเมื่อครู่ก็นิ่งค้างไป…
ฉิบหายแล้ว
“ถึงแล้ว”
ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเด็กนี่ถึงนั่งเงียบมาได้ตั้งแต่ได้คำตอบไปจนถึงคอนโด...นี่ปิดบังมาตลอดเลยสินะ
“สเปเชียล”
“อะ...อื้อ...งั้นกู...เอ่อ...ลงก่อน” เร็วเท่าความคิด ก่อนที่จะได้เอื้อมมือไปเปิดประตู มือหนาก็คว้าท่อนแขนเขารั้งให้หันมา
“...” เอ็กซ์ชะงักไปนิดแก้วตาสีเงินคล้ายมีประกายวูบไหวยามสบตากับอีกฝ่าย
เมื่อสบกับนัยน์ตาดุคู่ตรงหน้าสเปเชียลก็เม้มปากคิดอยากหายไปจากตรงนี้ในใจ
ทำไมปัญหามันมาเร็วแบบนี้วะเนี่ย!
“โอเคๆ ขึ้นไปคุยบนห้อง” คนถูกกดดันด้วยสายตายกมืออีกข้างที่ว่างอยู่ขึ้นมาทำท่ายอมแพ้ ให้อีกฝ่ายปล่อยมือจากแขนแล้วยอมเดินตามขึ้นห้องไป บรรยากาศสุดแสนจะเกลียดและเข็ดขยาดกำลังเกิดขึ้นอีกแล้ว...
สเปเชียลนั่งกัดริมฝีปากจนซีดขาวทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ตรงข้ามกับเอ็กซ์ที่โต๊ะกินข้าว
สถานการณ์ที่เหมือนจัดฉากสอบสวนผู้ต้องสงสัยแบบนี้มันอะไร!
เบต้าที่วิ่งมาเกาะแข้งเกาะขาเอ็กซ์ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวอารมณ์ดีขึ้นแม้แต่น้อยถึงจะยอมก้มไปลูบหัวให้หุ่นยนต์สุนัขตัวเล็กสุดจะซนสงบลงก็ตาม
“เอ่อ...” สเปเชียลเงยหน้ามองคนตรงข้ามเมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าเหมือนรออยู่ ให้พูดออกมาได้แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างจำยอม
“อืม...แอลเกลียดซาไลย์”
“…”
“ไม่รู้ทำไม ตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้เกลียดหรอกออกจะชอบเสียอีก”
ประโยคประหลาดที่คนรอฟังได้แต่หมุ่นคิ้วสงสัย
“แต่อยู่ๆ ก็เกลียดอย่างกับอะไร แค่เอ่ยถึงยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”สเปเชียลพูดอย่างลำบากใจ...จะอาละวาดมั้ยเนี่ย
เอ็กซ์หลับตานิ่งไปนิด ไม่นานก็ลืมขึ้นมาสบ “ตัวเจ้านั่นมีอะไร”
“อะไรนะ?”
“เจ็บแปลกๆ เวลาสัมผัสหลายทีแล้วเวลาไม่รู้สึกตัวหรือฝันร้าย เหมือนอาการจะออกทุกครั้ง”
สเปเชียลเบิกตากว้าง แล้วท้าวศอกลงที่โต๊ะ ยก 2 มือขึ้นปิดหน้าด้วยอาการเหนื่อยใจ
“...” แบบที่คนตรงข้ามก็ไม่ได้ทักหรือออกปากเรียกอะไร ทำแค่นั่งมองรอให้อีกฝ่ายหายบ้า เงยหน้าขึ้นมาเอง
นานหลายอึดใจ สเปเชียลก็เงยหน้าขึ้น “ไม่มีอะไรหรอก...อาจจะแค่ไฟฟ้าสถิตย์”
เอ็กซ์นิ่ง หรี่ตามองสเปเชียล คำตอบแบบนั้น…ไม่สมเป็นอีกฝ่ายมากๆ จนปัญญาจะหาข้ออธิบายแล้วสิ?
สเปเชียลขมวดคิ้วจ้องตาคู่สนทนากลับไปนานจนมั่นใจว่าเอ็กซ์คงไม่ต่อคำแน่แล้ว เขารู้ดีว่าการบอกปัดคำถามที่ไม่อยากตอบแบบนั้นมันเป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย แต่นิสัยอย่างเอ็กซ์คงไม่เซ้าซี้เขาแน่ๆเหมือนกัน
“มึงคิดอะไรอยู่วะ”
“...” คำถามที่คนถูกถามไม่เอ่ยปากตอบ
“มึงยังเกลียดมนุษย์อยู่มั้ย”
“...” นานจนเกือบจะรอไม่ไหว เอ็กซ์ก็พยักหน้า ให้คนรอต้องกำหมัดอย่างวิตก “แล้ว...”
“ไม่ได้เกลียดนาย”
เมื่อได้ยินคำที่อีกฝ่ายสวนกลับมาสเปเชียลก็ถอนหายใจอีกครั้งเหมือนว่าเขาจะใช้พลังงานในการสนทนาครั้งนี้มากเหลือเกิน
“อืม...ขอบคุณ” เขาก็พอจะรับรู้อยู่บ้างว่าหลังจากเกิดเรื่องเอ็กซ์ก็ไม่ได้เกลียดหรือจะฆ่าเขาเหมือนที่เคยทำ “เกลียดแอลมั้ย”
“...” เจอคำถามนี้เข้าไปก็ทำเอ็กซ์เองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน “ก็ไม่ได้เกลียดอะไร”
“อย่าทำร้ายแอลได้มั้ย”
ทำร้าย? อย่างจะฆ่าเจ้านั่นน่ะเหรอ?!
เอ็กซ์นิ่งไป ครุ่นคิดสะระตะในใจแล้วก็สรุปขึ้นมาได้ว่า...เขาไม่ได้มีความคิดแบบที่เด็กนี่ว่าในหัวเลยสักนิด...ทำร้าย...ไม่เคยคิด
“มึงยังเลิกเกลียดกูได้...มึงคิดว่าแอลจะเลิกเกลียดซาไลย์ได้มั้ย”
เป็นประโยคสุดท้ายของการสนทนาและก็เป็นอีกประโยคที่เขาไม่ได้ตอบก่อนที่จะขอตัวลุกเข้าห้องนอนไป
สเปเชียลมองตามหลังเอ็กซ์ไปแล้วก็ต้องนึกกังวล เอ็กซ์เป็นซาไลย์เดายาก...ความคิดเกินหยั่งถึงเกินไป
ความคิดของเอ็กซ์น่ากลัวเสมอ...
อัลฟาที่นอนรอเอ็กซ์ตั้งแต่เมื่อคืนโดยไม่ฟังคำบอกของสเปเชียลว่าให้หลับไปก่อนเดี๋ยวจะนอนเป็นเพื่อนเอง ยังคงถ่างตามองประตูห้องนิ่งๆ อย่างดื้อรั้น จนแล้วจนเล่า จนฟ้าสว่างก็ไม่มีวี่แววของคนที่รอ
พอเช้าได้สักประมาณ 7-8 โมงก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเจ้าตัวเล็กเลยรีบวิ่งปร๋อออกจากห้องนอนไปดู ก็พบ...
“พี่เอ็กซ์เมื่อวานหายไปไหนทั้งคืนเลยครับตอนเย็นก็ให้พี่ซีรอรับแทนด้วย”
“โทษที” เอ็กซ์มองท่าทางโมโหแบบเด็กๆของอัลฟาแล้วก็ยกมือลูบหัวเบาๆ
เขามองนัยน์ตาแดงบวมของเจ้าตัวเล็กตรงหน้าแล้วก็หมุ่นคิ้ว “ไม่ได้นอน?”
“อื้อ...รอ!”
ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจยาวแล้วคว้าตัวอีกฝ่ายขึ้นอุ้มเดินเข้าห้องนอน ก่อนจะวางอัลฟาลงที่เตียงไวไว “นอนเถอะ”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนอนอยู่ข้างๆอัลฟาก็ยอมขยับเข้าไปซบที่อกแล้วหลับตาไปง่ายๆ
นอนนิ่งอยู่ด้วยสักพัก เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กหลับสนิทแล้วจริงๆก็ขยับตัวลุกขึ้น ทำท่าทางให้เบต้าไม่ส่งเสียง แล้วจับผ้าห่มคลุมตัวอัลฟาดีๆก่อนจะเดินออกจากห้องนอน
สเปเชียลที่นั่งอยู่ตรงโซฟาลุกขึ้นทันทีที่เห็นเอ็กซ์เดินออกมา “มึงไปไหนมาวะเมื่อคืน แอลไม่ยอมนอน บอกให้หลับก็ไม่หลับจะรอท่าเดียว”
“...” เอ็กซ์มองสเปเชียลเล็กน้อยแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาตัวข้างๆซี
ไม่ทันที่สเปเชียลจะได้ออกปากต่อว่าต่อเสียงออดก็ดังขึ้น ให้คนกำลังหัวเสียฮึดฮัดไปเปิดประตู
แกรก
“มาหาใคร?”
เด็กผู้ชาย...สูงกว่าเขาประมาณ 10 กว่าเซ็น หน้านิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ นัยน์ตาดำสนิท ผมสีเทาจนเกือบจะขาว
สเปเชียลเผลอกวาดตามองและเงยขึ้นจ้องหน้าคนมาใหม่อยู่ครู่นึงจึงเอ่ยปากถาม
“...” คนตรงหน้าไม่ตอบแต่หรี่ตามองเขาราวกับกำลังจะประเมินอะไรสักอย่าง ท่าทางแบบนั้นทำเขาไม่สบอารมณ์
แต่ก่อนจะได้เปิดศึกซีที่เดินตามมาดูก็เอ่ยคำเรียกที่ทำให้ต้องเปลี่ยนจากอาการหงุดหงิดเป็นความสงสัย
“อาร์มิน?!”
|