C h a p t e r 2 0
❖
สั บ ส น
แสงแดดแยงตาจนต้องกระพริบตาหลายๆ ทีก่อนจะลืมขึ้นมาได้ยูโรหันไปมองคนข้างๆที่นั่งเล่นกับหุ่นยนต์อย่างไร้อารมณ์
ท่าทางกระสับกระส่ายของเบต้านั้นบ่งบอกได้ดีว่าเจ้าสุนัขแสนรักคงจะรับรู้ได้ว่าเจ้านายของมันไม่ปกติ
สภาพจิตใจอัลฟาย่ำแย่ อารมณ์ไม่คงที่ คลื่นสมองทำงานไม่ปกติพลังขึ้นลงจนน่าเป็นห่วง
นัยน์ตาสองสีนั่นคลอหน่วยไปด้วยน้ำรอบดวงตาแดงก่ำเพราะทำงานหนักตลอดเวลา
2 วันแล้วที่อยู่ในสภาพนี้ ไม่กินไม่นอนไม่อะไรทั้งนั้นอาการน่าเป็นห่วง... น่าเป็นห่วงขึ้นเรื่อยๆ
อัลฟาเหม่อลอย มองทุกอย่างเป็นภาพเบลอๆพลันเสียงหวานบีบหัวใจก็ดังขึ้นในห้วงความทรงจำ
ลอว์เรนยกมือเรียวทั้ง 2 ข้างจับเข้าที่ข้างขมับของลูกชายแล้วค่อยๆเพิ่มแรงบีบจนเจ้าตัวเล็กนิ่วหน้าร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด
‘โอ้ย! อึก’ ปากเล็กเบะลงอย่างไม่เข้าใจว่าแม่จะทำร้ายเขาทำไม
‘แอลเจ็บมั้ยครับ?’
‘เจ็บครับ มัมกดหัวแอลทำไม?’ มือน้อยๆ ยกขึ้นกุมบริเวณที่อีกฝ่ายเพิ่งขยับยกมือออกไป
คำถามที่เจ้าตัวเล็กไม่ได้รับคำตอบแต่กลับรู้สึกถึงแววตาสีฟ้าเข้มที่วับวาวขึ้นอย่างเข้มขึงของคนเป็นแม่
พร้อมสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นริ้วขึ้นสมองรุนแรงกว่าเมื่อครู่
‘โอ้ย! ฮึก มัม แอลปวดหัว’
น้ำตาหยดโตไหลพรากอาบพวงแก้มใสของเด็กน้อยพลางเสียงเล็กที่สั่นเล็กน้อยก็เอื้อนเอ่ยถ้อยคำสะอื้นนัยน์ตาสองสียังคงถูกอีกฝ่ายดึงดูดไว้ไม่ให้เบนหนี
แต่เพียงไม่นานความเจ็บรุนแรงในหัวก็หายไปแววตาแข็งกร้าวของลอว์เรนแปรเปลี่ยนเป็นโอนอ่อนเธอขยับเข้ากอดลูกชายอย่างปลอบประโลม
‘เจ็บเหรอครับ?’
‘เจ็บ แอลเจ็บหัว’
‘เจ็บกว่ามัมกดข้างขมับเมื่อครู่มั้ย?’
‘งือ เจ็บ’ อัลฟาว่าแล้วขยับตัวซุกอกแม่อย่างขวัญเสียให้ลอว์เรนยิ้มบางยกมือจับบ่าเล็กๆ ให้ถอยออกมา มองหน้า
‘เจ็บครั้งแรกที่มัมบีบขมับหนูมันเกิดจากการกระทำแต่เจ็บครั้งที่สองมันเกิดจากการควบคุม’ เธอว่าแล้ว ส่ายหัวเล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวเล็กของเธอยังคงทำหน้างง
‘น้องแอลรู้ใช่มั้ยว่ามนุษย์ทุกคนย่อมมีความเจ็บปวด เวลาที่อยู่ในอันตรายหรือได้รับสิ่งแปลกปลอมเรามักจะรับรู้ได้จากความเจ็บปวดทางกายเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างหนึ่ง’
เด็กชายที่ตอนนี้ยังคงมีอายุน้อย เอียงหน้ามองก่อนจะเอ่ยรับคำ“ครับ แด๊ดเคยสอน”
‘ในร่างกายของมนุษย์เรามีระบบควบคุมกระแสประสาท’ ลอว์เรนลูบแก้มของเด็กน้อยเบาๆ แล้วยกยิ้มอ่อน ‘ระบบในร่างกายที่มหัศจรรย์ที่สุดระบบหนึ่ง’
เธอพยายามหาถ้อยคำมาอธิบายให้ลูกชายคนเดียวของเธอเข้าใจได้ง่ายที่สุดแต่เหมือนคงจะยากเกินไป
‘แล้วเมื่อกี้มัมควบคุมกระแสประสาทของแอลเหรอครับ’
ถ้อยคำถามที่น่าประหลาดใจหลุดออกมาจากปากของอัลฟาคำที่ทำให้ลอว์เรนเลิกคิ้ว ยิ้มขำ
เธอยิ้มกว้างขึ้นจนตาหยี ก่อนจะยก2มือประคองใบหน้าหวานของลูกชายให้สบตา
อัลฟาประสานตากับนัยน์ตาคู่สวยยิ้มๆ แล้วลูบหางตาแม่ของตนอย่างที่ตนมักจะได้รับสัมผัสเช่นนั้นเบาๆ
‘แอลชอบสีตาของมัม ตามัมสวย’
‘หืม…หนูก็มีนี่ครับ ตาข้างขวา…สวยไม่แพ้มัมเลย’
คำที่ทำให้เจ้าตัวเล็กอมยิ้มอย่างพอใจ ใช่…เขามีตาข้างนึงเหมือนพ่อ และอีกข้างที่เหมือนแม่ดวงตาคู่ที่เขาภูมิใจที่สุด
‘มัมจะสอนหนูให้รู้จักวิธีการจัดการกับความเจ็บปวด’
อัลฟาหลับตาลงเมื่อถ้อยคำสุดท้ายของแม่ในความคิดเลือนลางไปเขาเม้มปากแน่นพยายามสงบอารมณ์
ตอนนี้เขาปรารถนาให้แม่ยังอยู่เพื่อที่เขาจะได้เอ่ยถามประโยคที่วนเวียนในหัวมาตลอดสักครั้ง
‘ถ้าแอลสร้างความเจ็บปวดให้ใครก็ได้แล้วแอลจะสามารถทำให้ความเจ็บปวดของตัวเองหายไปได้มั้ยครับมัม’
แต่เหมือนบางทีเขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าการลบล้างความเจ็บปวดนั้นเป็นไปได้ยากกว่าการสร้างขึ้นมามากนัก
ยิ่งความเจ็บปวดนั้น…มันเกิดจากใจไม่ใช่กาย
แม้แต่แม่เขาเองก็ไม่สามารถควบคุมจิตใจของใครได้…
“แอล!”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมามองยูโรช้าๆเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากเรียกเป็นครั้งที่สามแล้วเห็นจะได้
คนเรียกถอนหายใจอย่างกังวลแล้วขยับตัวเข้าหา
“มึงไม่นอนเหรอ ไม่ได้หลับใช่มั้ย?”
อัลฟาจ้องตายูโรนิ่งแล้วพยักหน้าก่อนจะน้ำตาไหลลงมาอีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากคนตรงหน้า
“กูกอดไว้ก็นอนไม่หลับเหรอ”
เสียงหัวใจไม่เหมือนกัน...ความอบอุ่นไม่เหมือนกัน
คิดถึง...
แต่ซาไลย์เป็นเหตุให้แม่เขาตาย...
แววตาที่ดูหม่นเศร้ากลับฉายแววแข็งขึงขึ้นมา
อัลฟากัดฟัน กำมือแน่น จนเบต้าเริ่มมีปฏิกิริยาแปลกๆเจ้าหุ่นยนต์ชะงักกึกหลายครั้งแล้วเดินวนเร็วๆ อย่างผิดสังเกตุ
“อึก...”
“เป็นไรแอล?!” ยูโรขยับจับไหล่อัลฟาเมื่อเจ้าตัวนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวดมือเล็กยกขึ้นกุมขมับทั้ง2ข้าง
“อือ..ปวดหัว..”
“มึงนอนลงเถอะ ไม่ยอมกินไม่ยอมนอนแบบนี้ก็แย่แล้ว” เจ้าตัวค่อยๆขยับตัวลงเอนนอนตามแรงประคอง ของยูโร
“เดี๋ยวกูต้องออกไปหาพี่สเปเชียลนะ” ยูโรว่าเสียงอ่อน
“ขอโทษนะ ที่ทำให้ลำบาก”
“กูน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่มึงเถอะแอล มึงเป็นอะไรกันแน่มึงพร้อมจะบอกกูรึยัง กูโกหกพี่สเปเชียล ช่วยตามหามึงมา 2 วันแล้วนะ”
หลังจากที่วางสายจากสเปเชียลไปคราวนั้นวันรุ่งขึ้นสเปเชียลก็โทรกลับมาอีกและเป็นอีกครั้งที่เขาต้องโกหกว่าขับรถออกไปตามหาแอลแถบชานเมืองแล้ว
จนวันนี้ต้องไปที่คอนโดเพื่อคุยกันเพิ่มความสมจริงเข้าไปอีกหน่อย ยิ่งนานไปเขายิ่งลำบากใจมากขึ้นเรื่อยๆ
พี่สเปเชียลต้องกำลังเป็นทุกข์มากอยู่แน่ๆ
ไม่รู้ว่าทำไมและอะไรถึงทำให้เจ้าตัวเล็กที่รักและติดพี่ชายอย่างอัลฟาเป็นแบบนี้
อัลฟาไม่เคยทำให้พี่สเปเชียลต้องเป็นห่วงหรือลำบากใจ...
เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้มันไม่ธรรมดาแน่ๆ
“เข้ามาเลยยูโร”
สภาพของคนที่มาเปิดประตูให้เขาน่าตกใจจนยูโรต้องชะงักกำหมัดแน่น
เขามีส่วนที่ทำให้พี่สเปเชียลเป็นแบบนี้...เขาโกหก
นัยน์ตาที่เคยน่ามองฉายแววความมั่นใจเต็มเปี่ยมตอนนี้แดงก่ำด้วยอาการที่คิดว่าน่าจะผ่านการหลั่งน้ำตา มาไม่น้อย
มุมปากมีร่องรอยแผลที่เกิดจากการชกต่อยพอเหลือบไปมองไอ้หน้าตายผมขาวที่มีสภาพไม่ต่างกันแล้วก็พอจะเข้าใจ
คงจะต่อยกันสินะ...
“เอ่อ...” ยูโรเดินตามไปนั่งที่โซฟาแต่พอทรุดตัวลง สเปเชียลก็ยกขาขึ้นไปบนโซฟากอดเข่าแล้วซบหน้าลงอย่างเหนื่อยล้า
“...คือพี่สเปเชียลครับ”
พอเห็นสเปเชียลไม่ตอบซีที่นั่งลูบหลังให้อยู่ข้างๆ ก็ออกปากแทน “ไม่ได้นอนมา 2 วันแล้วสติไม่ค่อยมี”
“อะ...” ยูโรขมวดคิ้ว หลุบตาลงมองพื้นอาการของทางนี้กับทางนั้นไม่ต่างกันเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…เขาไม่แน่ใจว่าในเวลานี้ควรพูดอะไรออกไปมั้ย...ในเมื่อไม่รู้ต้นเหตุหรือปลายเหตุอะไรสักอย่าง กลัวว่าการตัดสินใจของเขาจะทำให้เรื่องมันแย่ลง สภาพจิตใจอัลฟาตอนนี้ติดลบมากแล้ว... กลัวจะแย่มากไปกว่านี้
“พี่หาไม่เจอ...หาที่ไหนก็ไม่เจอ” สเปเชียลพูดออกมาแผ่วๆมือยังปิดหน้าแน่น “ไม่รู้จะหาที่ไหนแล้ว ถ้าแอลเป็นอะไรไปพี่จะทำยังไง”
เสียงสะอื้นเบาๆ แว่วเข้าหู ตัวสเปเชียลสั่นนิดๆแต่เหมือนเจ้าตัวจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ปล่อยโฮออกมาให้ใครได้ยินเห็นแบบนี้ทุกคนในห้องก็นิ่งอึ้งไป
ซีเองก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยเห็นเด็กนี่เป็นแบบนี้มาก่อนเขากำหมัดแน่น เพราะรู้ว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้
ซีรวบตัวสเปเชียลเข้ามากอดก่อนจะอุ้มพาเข้าห้องไปเพราะคิดว่าเจ้าตัวเองก็ไม่อยากให้ใครเห็นสภาพแบบนี้
“...” ยูโรนั่งนิ่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศน่าอึดอัดอาร์มินและเอ็กซ์นั่งกันอยู่คนละฝั่ง
แบบที่ยูโรคิดว่าระหว่าง 2 คนนี้บรรยากาศมันแปลกๆไป ไม่นานนักเอ็กซ์ก็ลุกออกจากห้องไปโดยที่ไม่สนใจคำเรียกของยูโรแม้แต่น้อย ยูโรหันกลับไปมองอาร์มินที่ยังนั่งมองออกนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ แบบไม่มีอารมณ์
บางทีเขาก็คิดว่าหมอนั่นมีความรู้สึกบ้างหรือเปล่าหน้าตายได้ทั้งวัน อาร์มินมองขึ้นฟ้าไปเงียบๆ
อยากกลับแดน...
ความคิดเดียวที่มีตั้งแต่ต่อยกับสเปเชียลไปครั้งนั้นเหมือนว่าไอ้เด็กงอแงนั่นจะยังไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นซาไลย์
ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้มันหนีเตลิดไปเพราะ...ตัวเขา ตัวเขาเองเป็นคนบอก...เขาควรจะรู้สึกดีใจที่มันหายไป แต่พอเห็นหน้าพี่เอ็กซ์แล้วมันทำให้เขาเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ความจริงแล้วเขาอาจจะคิดผิดพี่เอ็กซ์เลือกมันมากกว่าซาไลย์ด้วยกันอย่างเขา...
เลือกมันมากกว่าคนที่พี่เอ็กซ์เลี้ยงดูแลมาอย่างเขา...
“นี่” เสียงเรียกจากคนข้างหลังทำเขาหลุดออกจากความคิดฟุ้งซ่าน อาร์มินหันไปมองนิ่งๆ ให้ยูโรถอนหายใจ
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
คำถามที่ทำให้อาร์มินขมวดคิ้วนิดๆ แล้วหันกลับไปทางหน้าต่างเหมือนเดิม
แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกหันมามองเมื่อยูโรทิ้งตัวลงข้างๆทำเอาเขาต้องลุกขึ้นยืน แล้วหนีออกห่างทันที
ยูโรมองสีหน้าเรียบนิ่งแต่เหมือนจะเห็นความเศร้าในแววตาแล้วก็เลิกคิ้วขึ้น เป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้นบอกได้มั้ย?”
อาร์มินหันมามองสายตาที่เขาเองตีความไม่ออกของยูโรสายตาที่เขาไม่เคยเห็น
ไม่มีในพี่เอ็กซ์ ไม่มีในซี และไม่มีในมุนษย์ที่เคยเจอคนไหนคงเป็นแบบนั้นเลยทำให้เขาเผลอประสานสายตากับอีกฝ่ายนานเกินไป
“เจ็บมั้ยนั่น” ยูโรมองมุมปากสีคล้ำของอาร์มินแล้วกำลังจะยื่นมือเข้าจับแต่อีกฝ่ายเขยิบตัวหนีไวๆ ความเร็วนั่นทำเขาตกใจ
“...อย่ามายุ่ง” นั่นเป็นคำแรกที่เขาได้ยินจากปากของเด็กผมขาวตรงหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าห้องนอนเล็กแล้วปิดประตูลงแรงๆ ยูโรมองตามไปก่อนจะกวาดตามองรอบห้อง...นี่เขาอยู่คนเดียวเสียแล้ว
ในจังหวะที่ยูโรกำลังจะลุกออกจากห้องเอ็กซ์ก็เปิดประตูกลับเข้ามา ทำเอาคนที่กำลังจะคว้าลูกบิดถึงกับสะดุ้ง
“…อะ ผมกลับแล้วนะครับ”
เอ็กซ์จ้องยูโรเขม็ง จนคนถูกจ้องรู้สึกขนลุกกับแววตาแบบนั้น
“จะไปไหน”
“หา? เอ่อ..กลับบ้าน”
เอ็กซ์พยักหน้าแล้วมองตามจนประตูปิดลงเขาถึงเคลื่อนตัวเข้าไปเปิดประตูห้องซี
“อ้าว เอ็กซ์ ยูโรกลับไปแล้วเหรอ” สเปเชียลที่นัยน์ตาแดงก่ำแต่มีท่าทางดีขึ้นแล้วหันมาเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก
“…ซี” เอ็กซ์ไม่ได้ตอบคำตอบนั่นแต่หันไปเรียกชื่อซีนิ่งๆ
“อืม”
พอเห็นคนข้างตัวตอบรับ สเปเชียลเอี้ยวตัวไปมอง “มีอะไร?”
“ได้กลิ่นอัลฟาจากตัวยูโร” ซีเอ่ยปากขึ้นเรียบๆ
“พาไปบ้านมันเดี๋ยวนี้” เสียงทุ้มดุที่แฝงโทสะหลุดลอดออกมาจากปากของเอ็กซ์ให้คนได้ยินรีบหันขวับ ไปมอง
สเปเชียลสบตากับซีอย่างกังวลแล้วหันมาหาเอ็กซ์อีกครั้ง “เอ่อ…มึงให้กูไปบ้านยูโรกับซีก่อนได้มั้ย มึงอย่าเพิ่งไปเลยนะ”
“ทำไม?”
สเปเชียลเม้มปากเมื่อเจ้าตัวถามย้อนกลับมา แต่จะให้เขาพาเอ็กซ์ไปด้วยตอนนี้มันอันตรายเกินไปดูจากบรรยากาศรอบตัวอีกฝ่ายแล้วก็รู้ได้ไม่ยากว่ากำลังโกรธยูโรอย่างมาก
หากเกิดอะไรขึ้นเขาเองกลัวจะรับมือไม่ได้ยิ่งตอนนี้แอลมีสภาพเป็นยังไงก็ยังไม่อยากคิด
เขารู้ดีว่าหากแอลอยู่กับยูโรจริงเหตุผลที่เจ้าตัวปิดบังคงไม่ผลสภาพของเจ้าตัวเล็กที่เขากำลังตามหาจนแทบบ้า
“ให้กูไปดูน้องก่อนนะ แอลคงยังไม่พร้อมจะเจอมึง…” สเปเชียลนิ่งก้มหน้าไป “หรือแม้แต่กับกูด้วยซ้ำ”
“…”
คำที่ทำให้คนในห้องเงียบเสียงลง
การกระวนกระวายตามหาอาจจะทำให้ทุกคนลืมไปว่าความผิดฐานปิดบังมันไม่ได้ร้ายแรงน้อยไปกว่าการที่ อัลฟาหายไป ซึ่งคนที่ผิดเต็มประตูก็ไม่อาจพ้นพี่ชายแสนดีอย่างสเปเชียลไปได้
แม้ตอนแรกเขาจะพยายามไม่ให้ทั้ง 2 คนเข้าใกล้กันมากไปวินาทีที่เห็นอัลฟาเริ่มติดเอ็กซ์มากขึ้นเรื่อยๆ เขาเองก็เป็นกังวล แต่หากเขาคงชะล่าใจไปที่คิดว่าที่เป็นแบบนั้นมันอาจจะดีก็ได้ เขาคงคิดง่ายเกินไป...
“อะ…พี่สเปเชียล มาทำไมน่ะครับ” ยูโรที่ออกมาเปิดประตูบ้านหลังจากได้ยินเสียงออดผงะทันทีเมื่อเจอบุคคลที่ไม่คาดคิดอยู่หลังรั้ว
“ยูโร แอลอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”
“…” คำถามที่อีกฝ่ายไม่ตอบ
แต่แค่ความเงียบที่เกิดขึ้นและท่าทางอึกอักของยูโรก็ทำให้สเปเชียลมั่นใจแล้วว่าคนที่เขาตามหาอยู่ที่นี่จริงๆ
“พี่ขอร้อง ขอพี่เจอแอลหน่อยนะ”
“ผมว่าตอนนี้อย่าเพิ่งดีกว่าครับ”
“แต่-”
“เชื่อผมเถอะครับถ้าพี่ไม่อยากให้แอลมันหนีไปที่อื่นให้ผมไม่รู้ไปด้วยอีกคน”
ถ้อยคำบาดใจที่ทำเอาสเปเชียลหยุดชะงักกึก…เขารู้ดีว่าน้องชายที่รักของเขากำลังแย่ แย่ขนาดที่ไม่ต้องการเจอหน้าเขา
“โอเคงั้นพี่จะมาใหม่ ฝากแอลด้วยนะยูโร”
“ครับ ไม่ต้องห่วงผมจะดูแลแอลอย่างดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”
ยูโรถอนหายใจยาวๆ กับความอึดอัดที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งเดินเข้ามาเจออัลฟานั่งเหม่อลอยนิ่งๆ ในห้อง แล้วยิ่งเครียดหนัก
“แอล แม่กูบอกว่าวันนี้มึงออกไปข้างนอก”
อัลฟาหันหน้ามามองยูโรช้าๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ
“กูซื้อเค้กมาฝาก…มึงไปไหนมา”
ถุงของโปรดที่อัลฟาทำเพียงเหลือบตามองก่อนจะเบนสายตากลับไปที่หน้าต่างเหมือนเดิม “ไปหามิสเตอร์ไคลด์”
“ไปทำไม?!”
“...” เมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กตรงหน้าไม่ตอบและยังมองออกนอกหน้าต่างไปเงียบๆยูโรก็ถอนหายใจอีกครั้งแล้วเดินไปนั่งลงใกล้ๆ
ยกมือลูบหัวทุยๆไล้นิ้วไปตามเส้นผมสีอ่อนของอีกฝ่ายอย่างปลอบประโลม
“มึงพร้อมจะเล่าให้กูฟังรึยังแอล”
“...”
อัลฟาเงียบยังไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกจากกลีบปากเล็กของเจ้าตัว เป็นอีกครั้งที่ยูโรยอมแพ้เพราะไม่อยากคาดคั้นให้แย่ลงกว่าเดิม
เขาลูบหัวอัลฟาเบาๆ อีกครั้งก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำ เมื่อเสียงประตูห้องน้ำปิดลง อัลฟาก็ก้มหน้ามองมือของตัวเองนิ่งๆ วันนี้เขาไปหามิสเตอร์ไคลด์...คนที่เขาไว้ใจที่สุดตอนนี้ เขาไม่กล้าโทรหาพ่อ และไม่อยากเจอพี่สเปเชียล เขาไม่รู้ว่าพี่สเปเชียลเป็นอะไรหรือเกี่ยวข้องส่วนไหนกับซาไลย์…
รู้เพียงว่าตอนนี้เขาเสียใจ และอึดอัดใจ
อัลฟาร่วมมือกับมิสเตอร์ไคลด์ตามหาซาไลย์มาตลอด...มิสเตอร์ไคลด์ต้องการจับเป็นซาไลย์เพศชายเพื่อนำมาวิจัยพลังทางกายและความสามารถพิเศษในตัว หากไขความลับในเผ่าพันธุ์นี้ได้ การทำลายมันให้สิ้นซากย่อมไม่ยากเย็นอะไร ซึ่งกุญแจสำคัญในครั้งนี้คือตัวเขาเอง…
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาเจอมันแล้ว
เขาใช้เวลาตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจมอยู่กับความทุกข์จนใจมันชาจนมาวันนี้หลังจากที่ยูโรออกไปเขาก็ติดต่อไปหามิสเตอร์ไคลด์ไม่นานนักพี่มิเกลก็ขับรถมารับเขาไป
เขาเล่าทุกอย่างให้มิสเตอร์ไคลด์ฟังทั้งหมดยกเว้นความสัมพันธ์ในใจของเขากับ…พี่เอ็กซ์
แน่นอนว่ามิสเตอร์ไคลด์ยืนยันให้เขาจับตัวคนคนนั้นมาให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และวันพรุ่งนี้ มิสเตอร์ไคลด์จะมารับเขาที่บ้านยูโรด้วยตัวเอง สับสน…พี่เอ็กซ์คือซาไลย์ ซาไลย์ฆ่าแม่เขา และเขาต้องการทำลายมัน เขายังจำวินาทีที่สบตากับแม่ก่อนที่แม่จะสิ้นใจได้ดี...
วันนั้นเป็นวันที่ความทรงจำทั้งหมดของเขาเหมือนถูกรีเซ็ท...วันที่มิสเตอร์ไคลด์พาร่างของแม่กลับมาที่องค์กร
ในวันที่พ่อและยูโรไม่อยู่วันที่นัยน์ตาสีสวยของแม่หม่นแสงจนเหมือนสีดำ วันที่ร่างกายของเขาสั่นไหวใจเต้นอ่อนล้าเหมือนถูกบีบให้ฟีบ
วันที่สัมผัสอบอุ่นจากมือของแม่แตะลงที่ใบหน้าเขาริมฝีปากสีซีดที่เคยชมพูสดขยับขึ้นลงเหมือนจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำสักอย่าง ทุกอย่างสายไปเมื่อแม่ช็อก และหมดลมหายใจ
สิ่งสุดท้ายสิ่งที่เขาได้ยินก็คือเสียงแม่ครางเรียกชื่อสิ่งมีชีวิตที่เขาเคยสนใจที่สุดวันที่ทุกอย่างกลับตาลปัตร
“ซา..ไลย์”
วันที่เสียงแผ่วเบานั้นฝังรากลงลึกในความคิด... และในวันนี้...วันที่สิ่งที่ต้องการมาตลอดอยู่แค่ตรงหน้าทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเขาแบบนี้...
เขาอาจจะต้องฆ่าพี่เอ็กซ์
|