จังหวะเดียวกับที่หัวนาคพุ่งเข้ามาหมายจะงับหัวของครุฑนั้นเสียงหวีดร้องแหลมก็ดังขึ้น ผมเห็นวัตถุสีดำพุ่งมาจากทางหลังของครุฑ มันดูเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ความเร็วสูงภาพตรงหน้าของผมดูเหมือนภาพช้าของรายการกีฬาจังหวะที่นาคอ้าปากกว้างหมายจะงับลงที่หัวของครุฑ ผมเห็นครุฑลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้ม ลูกกระสุนปืนใหญ่สีดำสนิทนั้น มันคืออีกาสามขามันบินตรงเข้าไปในปากของนาค บินตรงไปในหัวนาคตรงกลางที่ใหญ่ที่สุด นาคใหญ่งับปากลงจังหวะเดียวกับที่อีกาสามขาพุ่งตัวเข้าไป ภาพนิ่งของผมยังดำเนินต่อไปชั่ววินาทีที่นาคงับปากลง ไฟสีแดงฉานก็สว่างวาบขึ้น หัวของนาคใหญ่กุดลงทันทีเลือดและเศษชิ้นเนื้อระเบิดกระจายเต็มท้องฟ้า ส่วนที่ระเบิดลงมาสู่พื้นดินตรงหน้าผมเศษชิ้นเนื้อของนาคได้กลายเป็นโขดหินสีดำสนิทเศษเลือดกลายเป็นเหมือนคราบน้ำมันสีดำ นาคสี่ตัวที่พันครุฑอยู่เหมือนจะหมดแรงไปซะดื้อๆผมนึกถึงสงครามที่แม่ทัพถูกฆ่า ขุนพลคนอื่นๆ ดูจะหมดทางสู้ ครุฑสะบัดเชือกใหญ่สีเขียวสี่ตัวออกอย่างง่ายดายเขาพานาคบินลงมาบนพื้น เสร็จแล้วก็ใช้เท้าเขี่ยงูยักษ์ไปมา นกนางนวลดูจะร้องดีใจกันใหญ่ มันบินไปรอบๆพญานก บางตัวก็ไปเกาะอยู่บนตัวนาคเสียงร้องของนกประกาศชัยชนะของเหล่าสัตว์ปีกที่มีต่อสัตว์ไร้ขาอย่างเด็ดขาด แสงสว่างจ้ากลับมาอีกครั้ง คราวนี้แสดงแดดกลับมาพร้อมกับการหายไปของร่างครุฑ ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคนเดิมเดินมาหาผมเขาใช้ฝ่ามืออุ่นๆ ประกบตรงแก้มสองข้างของผมแล้วประกบปากร้อนๆลงทันที ผมรู้สึกถึงแรงปรารถนาทางเพศของผมกับเขาอย่างรุนแรง ผมรู้สึกถึงความชุ่มฉ่ำในปากและร่างกายส่วนล่าง ผมอยากมีเพศสัมพันธ์!!! กลิ่นกายสะอาดของเขาปลุกเร้าอารมณ์ผมอย่างรุนแรงผมกระโดดขึ้นไป ใช้ขาสองข้างรัดเอวเขาไว้แน่นผมจูบปากเขาแล้วก็สอดลิ้นเข้าไปหาความอบอุ่นข้างใน ผมเห็นแววตาอบอุ่นและใจดีของเขา อยู่ๆเขาก็ถอดปากออกแล้วหัวเราะ เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสีดำแล้วหยิบกุญแจรถยนต์ออกมาหมุนควงบนนิ้ว เราสองคนเดินทางกลับเข้ามาในกรุงเทพอีกครั้ง ช่วงเวลาเงียบงันบนรถผ่านไปอย่างรวดเร็วผมรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ๆ เขาอากาศในรถดูไม่เย็นเหมือนวังบาดาลยามที่ผมอยู่ใกล้คุณภุชงค์ ตอนนี้ผมรู้สึกดี เราสองกลับมาอยู่ในคอนโดกลางอากาศอีกครั้งเขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก เขาเป็นคนรูปร่างดี มีกล้ามเนื้อหัวไหล่มีกล้ามเนื้อหน้าอกเป็นมัด เขาอุ้มผมไปที่ห้องนอน เราสองคนแลกสัมผัสอุ่นๆ ในปากอีกครั้งคราวนี้มันร้อนแรงกว่าเดิม เขาถอดกางเกงออกแล้วก็จัดการถอดของผมออกด้วยผมรู้สึกถึงแรงดูดที่หน้าอกของผม มันทำให้ผมเหมือนคนหมดแรง นิ้วของเขาคว้านเข้าไปในร่างกายของผมผมรู้สึกถึงความชื้นแฉะบริเวณช่วงกลางลำตัวของ ผมอยากจะมีเพศสัมพันธ์จนตัวสั่นไปหมด เราสองคนพันกันเหมือนงูผมพลิกตัวขึ้นมาแล้วก้มลงครอบปากลงไปบนแท่งกลางลำตัวของเขา เขาก็มีความต้องการเหมือนกับผม แท่งใหญ่โตของเขามีเส้นเอ็นปูดโปนแท่งตรงสวยงามนั้นมีน้ำใสเยิ้มไปหมด มันแข็งตัวเต็มที่ ผมนั่งลงไปบนแท่งขยับตัวไปมา จากนั้นก็เอนตัวลงบนดูดหน้าอก เขาเลื่อนฝ่ามือร้อนๆ มาจับสะโพกลมของผมเขาจับไว้แน่นแล้วก้ขยับร่างกายส่วนกลางของเขาขึ้นมากระแทกผมเป็นจังหวะ มันแรงเพิ่มขึ้นทุกทีผมร้องเหมือนคนมีความสุขเต็มที่ผมรู้สึกว่าแท่งของเขาสัมผัสกับจุดไวต่อความรู้สึกของผม เขาขยับเป็นจังหวะไปมาบางทีเหมือนผมจะไปถึงสวรรค์ แล้วเขาก็ทำให้มันช้าลง เขาพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบนจับขาของผมพาดที่ไหล่แล้วก็ขยับสะโพกของเขาเข้าออกเป็นจังหวะ แรงตอดรัดตรงช่องของผมเรียกเสียงต่ำๆในคอเขาออกมาเขาดูมีความสุขมาก บางจังหวะเขาเงยหน้าขึ้นไปมองเพดานแล้วร้องครางออกมา เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ผมรู้สึกถึงแรงกระแทกเป็นจังหวะ เขาขยับแท่งเข้าออกเสียดสีกับช่องทางของผมจนร้อนผมลูบไปบนกล้ามแขนเขาเบาๆ จากนั้นก็ใช้ขารัดเขาแน่นๆผมกอดเขาแล้วใช้มือลูบไปบนแผ่นหลังกว้างๆ เขาขยับร่างกายเข้าออกต่อเนื่อง เสียงหัวหน่าวแข็งแรงสัมผัสกับสะโพกนุ่มของดังเป็นจังหวะผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อรอบรูของผมมันทำงานไปอย่างอิสระ มันตอดรัดถี่ขึ้นๆแท่งของผมก็ตั้งโด่และแข็งตัวจนปวด น้ำใสไหลเยิ้มไปจนเปรอะเปรื้อนท้องน้อยของเขา เขาจัดการซอยถี่ยิบผมรู้เหมือนกำลังเดินทางไปสู่สวรรค์ เขาก้มลงดูดหน้าอกผม ส่วนผมก็ตอดรัดเขา แรงตอดรัดของผมถี่ขึ้นจากหนึ่งเป็นสองเป็นสามสี่ห้าครั้ง ผมกำลังจะไปถึงจุดสุดยอด!!! ผมตอดเขาถี่มากขึ้น จังหวะกล้ามเนื้อหูรูดเกร็งตัวรัดแท่งของเขานั้นมันเป็นจังหวะสุดท้าย จังหวะเดียวกับน้ำอุ่นๆ พุ่งออกมาจากแท่งของผมผมร้องเหมือนคนบ้า แท่งของผมปล่อยน้ำออกมาเหมือนท่อประปาแตกหน้าท้องและหน้าอกของผมอบอุ่นไปด้วยน้ำอสุจิ จังหวะนั้นเขาก็ร้องเสียงดังเช่นกันจังหวะที่ผมตอดรัดรอบรัดแท่งของเขานั้น เขาก็ปล่อยน้ำอุ่นๆพุ่งเข้ามาในท้องผมเช่นกัน เขาเป็นผู้ชายที่เกิดมาเป็นพ่อพันธุ์จริงๆ เขาแข็งแรงมากผมรู้สึกว่าน้ำของเขาเอ่อท่วมอยู่ในช่องทางของผมเต็มไปหมด ผมรู้สึกอุ่นวาบที่ท้องน้อย ผมหมดแรงนอนแผ่อยู่บนเตียงเขายันตัวขึ้นมาแล้วก็ใช้นิ้วมือแหวกรูของผม เขาเปิดช่องทางให้น้ำอุ่นๆไหลออกมาจนหมด ตอนนั้นผมไม่เหลือความอายอีกต่อไปผมรู้สึกเพียงแต่ว่าผมมีความสุขมาก เขาอุ้มร่างกายที่อ่อนปวกเปียกของผมมาที่ห้องอาบน้ำเขาสระผมให้ผม ผมแนบคางลงไปบนไหล่ของเขา ปล่อยให้เขาสระผมให้ เขาอาบน้ำให้ผม ผมก้อาบน้ำและถูกครีมอาบน้ำให้เขาครีมสีขาวข้นบนฝ่ามือผมละเลงไปบนร่างกายแข็งแรงของเขาผมถูกครีมอาบน้ำไปบนหน้าท้องเป็นลอนสวยงามของเขาจากนั้นก็เลื่อนไปที่หัวหน่าวแล้วก็แท่งกลางลำตัว เขานอนลงกับพื้นกระเบื้องสีขาวนอนนิ่งให้ผมลูบครีมอาบน้ำ ผมลูบขึ้นไปถึงกล้ามหน้าอกทั้งสองข้าง ผมก้มลงดูดเบาๆผมลงไปบนเอวของเขา ตอนนี้เหมือนผมกำลังขี่ม้าตัวใหญ่ เป็นม้าขาวที่ล่ำสันและแข็งแรง เขาลุกขึ้นนั่งโดยมีผมนั่งซ้อนอยู่ตักของเขาอีกทีเขายกสะโพกของผมขึ้นแล้วก็ฟอกครีมอาบน้ำลงไปบนแท่งของเขาจากนั้นก็ปล่อยสะโพกของผมให้ตกลงมา เราสองคนทำสงครามสวาทกันอีกรอบร่างกายลื่นเพราะครีมอาบน้ำให้สัมผัสที่ต่างออกไปจากเกมรักบนเตียงคราวนี้ผมรู้สึกถึงแรงกอดรัดของเขา เขากางแขนออกมาโอบหลังผมเอาไว้ผมขยับร่างกายขึ้นลงพร้อมๆกับเกร็งกล้ามเนื้อรัดแท่งของเขา เราสองคนสบตากัน เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาเหลือเกิน รูปหน้าของเขาไม่เหมือนกับมนุษย์เผ่าพันธุ์ใดๆบนโลก ผมเคยบอกว่าเขาหล่อเหมือนหนุ่มลูกครึ่ง แต่นั่นเพราะผมเห็นเขาในความมืด ตอนนี้หน้าของผมกับเขาห่างกันไม่ถึงครึ่งฝ่ามือ ผมเห็นจมูกคมสันและรอยยิ้มของเขาอย่างชัดเจนเขาเก่งทั้งในชีวิตจริงและชีวิตรัก ตอนนี้เขากำลังทำให้ผมมีความสุขที่สุดน้ำใสๆของผมไหลเยิ้มออกมาอีกแล้ว ร่างกายช่วงล่างของผมก็ถูกแท่งของเขาแทงเข้าออกจนเสียวซ่านไปหมด เขาใช้นิ้วมือบีบเค้นไปบนหัวนมของผมผมแข็งเป็นไต จากนั้นเขาก็ประกบปากร้อนๆลงไปดูดและกัดเบาๆผมอ้าปากร้องแล้วก็กัดฟันส่งเสียงผ่านปากออกมา เขาช่างเก่งจริงๆ คราวนี้เขาอุ้มผมขึ้นมาเขาช้อนมือไปใต้สะโพกของผม เขายืนอยู่ ส่วนผมถูกอุ้มอยู่ในอากาศหลังของผมนาบไปกับผนังกระเบื้องสีขาว เขาซอยแท่งเข้าออกถี่ๆสลับกับผ่อนเกมให้ผมเหมือนคนเป็นบ้า เขายิ้มยั่วจนผมรู้สึกเขินอาย เขากระซิบว่า ตอนผมน้ำแตกออกมาเองตอนอยู่บนเตียงมันเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ เขาจะทำให้ผมอยู่ในสภาพนั้นอีกครั้ง เขาซอยสะโพกถี่ขึ้นเรื่อยๆผมโอบแขนไปรอบคอของเขา เขาเพิ่มแรงกระแทกแท่งของเขาสัมผัสเข้ากับจุดๆนั้นอีกครั้ง มันเป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึกจริงๆ ผมรัดเขาด้วยขา กล้ามเนื้อตรงรูก็รักแท่งของเขามากขึ้นเรื่อยๆจังหวะที่เราสองคนกำลังไปถึงสวรรค์นั้น เจ้านกน้อยที่ผมขังเอาไว้ก่อนนออกไปตอนเช้ามันก็บินหวือออกมามันเกาะอยู่บนปลายฝักบัวแล้วร้องเพลง ผมหัวเราะออกมาแล้วกอดเขาไว้แน่นส่วนเขารู้สึกไม่ชอบใจที่ถูกขัดจังหวะ เขาใช้มือขวาไปดันประตูออก เจ้านกน้อยบินช้าๆออก เขาปิดประตุแล้วส่ายหัวจากนั้นก็หันกลับมาแทงผมต่อเขาแข็งแรงมากซะจนผมไม่รู้สึกว่าเขาเมื่อยที่ต้องอุ้มผมเลย ทั้งที่เขาใช้แรงแขนและแรงขาร่างกายส่วนกลางของเขาก็ยังขยับเข้าออกได้จังหวะ ผมผ่อนคลายอารมณีตัวเองกลับมามีอารมณ์พีคอีกครั้ง ผมลูบไปบนผมเปียกของเขาบางทีก็กำแน่นตอนเขากระแทกแท่งเข้ามา บางทีก็ลูบหลังเขาตอนเขาผ่อนจังหวะ เราสองคนมีจังหวะพีคพร้อมๆกันอีกครั้งคราวนี้เขากระแทกต่อเนื่องจนผมตัวเกร็งสะโพกแน่นเพราะความเสียว เขากระแทกจังหวะสุดท้ายเข้ามาตอนที่ผมแตกพอดีรู้ผมตอดถี่ๆเพราะความเสียวตอนน้ำแตก เขาก็หยุดซอยแล้วร้องเสียงหลงจากนั้นก็แช่แท่งค้างไว้แล้วระเบิดน้ำเข้ามาในรูของผม ผมอยากจะหลับไปทั้งผมเปียกๆเขาอุ้มผมมาวางไว้บนโซฟาหน้าทีวี เขาเปิดทีวีดูข่าวมือก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัวผมไปด้วย ผมหมดแรงจริงๆเหลือแค่เพียงหุกับตาที่ยังพอมีแรง ผมได้ยินข่าวเที่ยงรายงานเรื่องมลพิษในทะเลบางขุนเทียนทะเลอ่าวไทยมีการลักลอบลากอวนวันนี้ตอนเช้ามืดมีพายุน้ำวนพัดเรือท่าเรือบางขุนเทียนไปไกลถึงสมุทรสาคร เรือบางลำปล่อยคราบน้ำมันสีดำออกมาเปื้อนพื้นเต็มไปหมด ผมปรือตาขึ้นมามองดูรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมเดินตรวจดูคราบน้ำมันบนพื้น ผมจำได้ดีว่าที่ตรงนั้นตอนเข้านี้ผมยังยืนอยูตรงนั้น โชคดีที่มันเป็นพื้นแข็ง เลยไม่มีรอยเท้าผม รอยเลือดของนาคกลายเป็นคราบน้ำมันไปแล้วชาวบ้านก็สงสัยว่าก้อนหินสีดำมาโผล่ขึ้นจากพื้นได้ยังไง ผมฟังข่าวได้ไม่นานก็เผลอหลับไป ผมตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลาค่ำแล้วอากาศเย็นสบายพัดผ่านประตูกระจกเข้ามาถึงโซฟาที่ผมนอนบนชั้นลอยฟ้าแบบนี้ไม่มียุงรบกวนเลย ทีวีตรงหน้าผมปิดลงแล้ว ผมยันตัวลุกขึ้นจังหวะเดียวกับที่ผมเห็นเขาเดินถือจานออกมาจากห้องครัวในมือสองข้างของเขาถือจานผลไม้และจานขนมปังมาด้วย เขาวางจานลงบนโต๊ะกระจกหน้าผมจากนั้นเขาก้กัดลงบนขนมปังแล้วก็ยื่นให้ผมผมเอียงคอสงสัยว่าทำไมเขาต้องชิมขนมปังด้วย เขากลัวผมจะถูกวางยาพิษหรือเปล่า เขารู้ว่าผมสงสัย เขาบอกว่าถ้าเขาไม่กัดขนมปังก็จะเป็นขนมปังธรรมดาเขาให้ผมชิมขนมปังธรรมดาที่บังเต็มแผ่นกับขนมปังแผ่นที่เขากัดแหว่งไป ผมสัมผัสได้ถึงรสชาติที่แตกต่างขนมปังแผ่นที่เขากัดแล้วส่งให้ผมมันอร่อยกว่ามาก อร่อยแบบบรรยายไม่ถูกกินแล้วรู้สึกมีแรงและสมองโปร่ง ส่วนขนมปังธรรมดากินแล้วก็เฉยๆ ผมกินขนมปังแล้วก็กินผลไม้จนหมดแผ่นเขาแย่งขวดน้ำในมือผมไปดื่มแล้วก็ยิ้ม ผมรู้สึกว่าขนมปังมันแห้งติดคอผมยกมือขอน้ำของเขาเขาไม่ให้ขวดน้ำแต่เขายื่นปากเข้ามาประกบแล้วก็ปล่อยน้ำในปากเขาลงมาแทน น้ำอุ่นๆ จากปากเขาไหลผ่านคอของผมลงไปในท้องมันอุ่นสบายเหมือนแช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่น เหมือนมีลมร้อนๆ พัดผ่านไปวูบนึง เขาบอกว่าจะได้กลับมามีแรงเร็วๆก่อนนอนจะได้ร่วมเพศกันอีก ผมรู้สึกร้อนวาบที่หน้ารู้สึกอายนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ตอนนี้ผมกับเขาเราสองคนมีความรู้สึกสื่อถึงกันได้ดีกว่าเดิมมาก เขาพาผมมานั่งอยู่ใต้ต้นบอนไซยักษ์นอกระเบียงระเบียงห้องเป็นสวนหย่อมมีหญ้าสีเขียวแล้วก็มีสระน้ำ เขานั่งลงบนพื้นหญ้า ผมนอนลงไปแล้วก็หนุนหัวไปบนตักของเขามองมองดูดาวบนท้องฟ้ายามค่ำของกรุงเทพ น่าแปลกที่ผมเห็นดาวได้ชัดเจนกว่าปกติเหมือนสายตาผมดีขึ้นกว่าเดิม ช่วงที่ผมหันกลับมา เขามีไวโอลินอยู่กับตัวแล้วเขาให้ผมเลือกเพลง เขาจะเล่นให้ฟัง ผมนอนนึกอยู่ไม่นานก็เลือกเพลงของ จอร์จ เบนสันมันเป็นเพลงที่ความมหายดีและเหมาะมาก "หากต้องมีชีวิตอยู่โดยไม่มีเธอเคียงข้างวันเวลาคงว่างเปล่า แม้กลางคืนก็คงยาวนานเกินกว่าจะบรรยาย..........." เสียงไวโอลินดังขึ้นผมหลับตาพริ้มอยู่บนตักของเขาผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฟังเพลงบรรเลงจากแผ่นเสียง เสียงไวโอลินสร้างบรรยากาศความรักขึ้นมาจากอากาศรอบๆตัว ถ้าผมตายตอนนี้ก็คงไม่เสียดายอะไรอีกแล้ว ผมปรบมือตอนเขาเล่นเพลงจบเขายักไหล่แล้วกางมือขึ้นเหมือนถามว่า "แค่นี้เหรอ?" ผมบอกเขาว่า ผมไม่มีอะไรให้เพราะผมเป็นคนธรรมดา เขาบอกว่า เขาอยากได้ ... ที่แก้มเขา ผมลุกขึ้นนั่งแล้วหอมแก้มเขาเบาๆจากนั้นก็ประกบปากลงไปบนปากเขา เราจูบกันใต้ต้นไม้และแสงดาว ผมถอนปากตัวเองออกมาผมรู้ดีว่าถ้าปล่อยตัวเองไปนานกว่านี้ อารมณ์ทางเพศก็จะกลับมาอีกตอนนี้ผมอยากจะมีเวลาพิเศษที่ไม่ใช่อารมณ์แห่งเพศสัมพันธ์ แม้มันจะให้ความสุขเหมือนกัน แต่ก็เป็นความสุขคนละแบบ ผมนั่งคร่อมลงบนตักของเขาสองมือแกะกระดุมเสื้อเม็ดบนออก ผมชอบมองเนินอกของเขาผ่านกระดุมเสื้อ เสื้อเชิ้ตพับแขนที่ผ่าตรงหน้าอกมันทำให้เขาดูน่าหลงใหล ผมซุกหูลงไปแนบตรงหน้าอกของเขาฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะช้าๆ กลิ่นหอมสะอาดจากเนื้อตัวของเขาปลุกเร้าอารมณ์ผมอีกครั้งผมรีบดึงตัวออกมาแล้วก็ลุกขึ้นยืน ผมมองเห็นบ้านนกทำด้วยไม้ตอกติดอยู่กับกิ่งบอนไซผมชะโงกหน้าเข้าไปมองดู หวังจะเห็นเจ้านกน้อยของผม แต่ก็ผิดคาด ข้างในบ้านนกนั้น มีหญ้าแห้งปูเอาไว้บนหญ้ามีไข่นกสีขาวขนาดเท่ากับไข่ไก่วางอยู่ ผมหันกลับมาถามเขา เขาบอกว่าเป็นไข่กา กาสามขาตัวที่บินเข้าไประเบิดในปากนาคนั่นเองตอนนี้มันย้อนกลับมาเป็นไข่ ผมได้ยินว่า ไข่กามีสีเขียวแต่ไข่กาฟองนี้กลับมีสีขาวเหมือนไข่เป็ด เขาบอกว่ารอให้มันฟักออกมาเอง เขาดึงผมให้กลับมานั่งอีกครั้งคราวนี้เขากอดผมเอาไว้แล้วก็วางคางลงบนไหล่ผม เขาถามผมว่า สงสัยหรือเปล่าว่าเขาหายไปไหน ผมพยักหน้า เขาตอบว่าเขาล้างหน้าที่โดนพิษนาคพ่นใส่แล้วก็ยังรู้สึกเคืองตา น้ำดื่มมนุษย์ไม่ใช่น้ำบนเขาข้างบน เขาชี้มือไปข้างบนจริงๆเขาบอกว่าตอนนั้นเขาพอลืมตาได้ เลยบินขึ้นไปล้างหน้าบนเทือกเขาข้างบนนั้นแต่เขตเขาอยู่ชิดติดกับสวรรค์ชั้นล่างสุดบ่อน้ำผุดที่สะอาดก็อยู่ในสวรรค์ชั้นล่างนั้นด้วยเขาเข้าไปล้างหน้าก็เท่ากับเข้าไปในเขตสวรรค์ เวลาในสวรรค์เดินเร็วกว่าเวลาบนโลกอีกทั้งเขายังกลับไปเยี่ยมถิ่นเดิม ทำให้เสียเวลา เวลาที่เขาไป แม้จะเร็วมาก แต่ก็ยังช้าหากเทียบเป็นเวลามนุษย์ ผมเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง เขาไม่ได้ทิ้งผมไป ผมเล่าให้เขาฟังเรื่องที่พญาภุชงค์เข้ามาในฝันของผม ครุฑอธิบายว่า นาคตัวไหนก็ขึ้นมาบนนี้ไม่ได้แต่ช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ที่นี่ อำนาจของครุฑก็อาจอ่อนลงนาคเลยส่งสัตว์มีพิษเข้ามา หากส่งสัตว์บริวารเข้ามาถึงบนนี้ได้ตัวนาคก็จะเข้ามาได้ด้วยเช่นกัน เมื่อตะขาบพยายามไต่ขึ้นมาที่นี่บริวารนกของเขาจึงเข้ามาสกัดสัตว์มีพิษที่เป็นบริวารของนาคเอาไว้ นาคจึงขึ้นมาไม่ได้แต่ด้วยความที่ผมมีจิตเป็นมนุษย์ มีห้วงแห่งความฝันนาคจึงอาศัยเวลานั้นเข้ามาในรูปของนิมิตกาย นาคนิมิตฝันขึ้นมาเขาสร้างภาพให้ผมเห็นว่าครุฑถูกนาคบาศรัดเอาไว้ อันที่ีจริงแล้ว ครุฑไม่ได้เป็นอะไรเลย ผมรู้สึกผิดที่ถูกหลอกแต่เขาก็ลูบหัวของผมไปมาแล้วก็ปลอบใจ เขาบอกว่าอันสัตว์มีพิษนั้น เชื่อใจไม่ได้ งูเจ้าเล่ห์เพียงใดก็ยังน้อยกว่านาคที่เป็นนายของงูงูเจ้าเล่ห์สิบเท่า นาคก็เจ้าเล่ห์พันเท่า มนุษย์เดินดินไม่มีทางตามนาคได้ทัน ผมโชคดีที่มีเขาอยู่ใกล้ๆเขาใช้มือดึงผมเข้ามาจูบที่แก้ม เขารู้ว่าผมเป็นห่วงเขามากแล้วเขาก็โกรธนาคมากที่ใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของผมมาทำร้ายเขา เขาบอกว่าถ้านาคเอาผมไปอยู่ใต้ทะเลเขาจะตามไปทำลายวังบาดาลให้พินาศจนไม่เหลือนาคเลยซักตัว น้ำค้างเริ่มตกลงมาบ้างแล้วผมเดินไปรับลมเย็นๆที่ริมขอบระเบียง ขอบระเบียงริมสุดเป็นกระจกสูงระดับหน้าอกบนสุดเป็นราวสเตนเลสไว้ให้จับและกันคนตกลงไป ผมสูดอากาศเย็นๆเข้าปอดและสายตาก็เหลือบไปชั้นล่างตึกด้วยความบังเอิญ ไม่น่าเชื่อเลยว่าสายตาของผมจะดีจนมองไปจนถึงชั้นล่างห่างลงไปเกือบสี่สิบชั้นได้มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก สายตาของผมเหมือนเป็นเลนส์กล้องถ่ายรูปที่ปรับความคมชัดได้เองผมเห็นผู้ชายชุดดำยืนอยู่เดียวดายกลางลานจอดรถ ผมเพ่งสายตามอง ภาพคมชัดขึ้นเหมือนผมหมุนปรับเลนส์กล้อง ผู้ชายคนนั้นหน้าขาดหายไปครึ่งซีกตาของเขาถลนนออกมานอกเบ้าตา มันห้อยอยู่ด้วยสายยาวๆ เหมือนหลอดไฟรถเป็นสภาพที่ชวนสยดสยองมากจริงๆ ตาของเขาเหมือนจะหลุดออกมาบนพื้นหน้าของเขาเปื้อนเลือดสีแดงคล้ำ คุณภุชงค์นั่นเอง เขากวักมือเรียกผมลงไปหาเขากวักมือช้าๆ ผมหลับตาแล้วลองมองใหม่ เขายังอยู่ที่เดิม ผมรู้สึกอยากลงไปหาเขา ผมสงสารเขาผมต้องลงไปถามเขา ผมอยากลงไปข้างล่าง อยากไปที่ลานจอดรถ!!! ผมปีนกระจกขึ้นไปผมอยากลอยลงไปหาคุณภุชงค์ใจจะขาด ผมรู้ว่าเขาจะอ้าแขนรับผมไม่ให้ผมมีอันตรายผมกำลังจะกระโดดลงไปข้างล่าง ความสูงของตึกสี่สิบชั้นไม่ทำให้ผมกลัวเลยผมสบตาสีเขียวของคุณภุชงค์ เขาบอกให้ผมกระโดดลงไป ผมก้าวขา หลับตาพริ้มปล่อยให้ลมเย็นๆจากข้างล่างพัดผมสีดำโบกไปมา ผมนับหนึ่ง สอง สาม ...เหมือนคราวที่จะกระโดดลงไปในทะเล คราวนี้ผมถูกคว้าที่เอว เขาเดินเงียบเชียบเข้ามาทางด้านหลังของผมแล้วใช้แขนขวาเข้ามาคล้องเอวผมเอาไว้เขาบิดตัวผมให้เข้ามาสบตาแล้วก็เอาฝ่ามือลูบที่เปลือกตาผมเบาๆ "โดนนาคสะกด" เขาพูดขึ้นมาหลังจากผมได้สติ ผมสะบัดหัวไปมา ลมแรงๆพัดเรียกสติผมกลับคืนมาอีกครั้ง ผมมองลงไปข้างล่าง คุณภุชงค์หายไปแล้วลานกว้างตรงลานจอดรถว่างเปล่า ไร้ผู้คน ผมถามเขาว่า ตาของผมอยู่ดีๆ มันก็ผิดปกติสายตาผมมองได้ไกลกว่าเดิม ชัดกว่าเดิม แถมยังมองผ่านความมืดได้ดีอีกด้วย เขาตอบว่า ตอนนี้ผมมีสารเคมีของนกอยู่ในตัวผมใจหายวูบ นึกไปถึงไก่ย่างตัวสุดท้ายที่กินไปเมื่อเดือนก่อน นึกถึงเป็ดพะโล้นึกถึงข้าวมันไก่ นี่ผมคงกินสัตว์ปีกจนเกิดสารเคมีนกในตัวแล้วเป็นแน่!!! เขาส่ายหัวแล้วยิ้ม เขาชี้ไปที่ตัวของเขาไล่นิ้วลงมาที่กลางลำตัว ท้องน้อย หัวหน่าว อวัยเพศที่หว่างขาแล้วเขาก็ลากเส้นสมมุติตรงมาที่ซอกขาผม เขาอ้อมฝ่ามือมาเคล้นสะโพกของผมแล้วก็จิ้มนิ้วชี้เข้ามาในซอกระหว่างสะโพกสองข้าง ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนจัดสารเคมีของนกก็คือน้ำสีขาวข้นอุ่นๆ ที่เขาปล่อยเข้ามาในตัวผมนั่นเองนี่ถ้าผมถูกเขาปล่อยน้ำทุกวัน อีกหน่อยผมคงมีปีกงอกขึ้นมาเหมือนนก เสียงนกเค้าแมวร้องร้องฮูกๆมันบินเหมือนเครื่องร่อนเข้ามาจับที่กิ่งบอนไซ กรงเล็บของมันมีหนูมาด้วยมันกลับมาจากการล่าเหยื่อ นี่คงเป็นเวลานอนของคนแล้วกลางคืนเป็นเวลาของสัตว์กลางคืน ไม่ใช่มนุษย์ ผมเดินเข้ามาแปรงฟันในห้องน้ำผมมองหน้าตัวเองในกระจกใสแล้วก็ถอนหายใจ พรุ่งนี้ผมไม่ต้องไปทำงานไม่ต้องออกไปเจอรถติดตอนเช้าและเย็น แต่ผมก็จะกลายเป็นคนตกงาน ผมไม่มีเงินส่งให้พ่ออีกแล้วในเดือนหน้าผมมีเงินฝากเหลือในบัญชีแค่เงินก้อนที่ขายรถไปเท่านั้น ผมอยากจะหางานทำให้ได้เร็วที่สุด ผมเปลี่ยนชุดนอนที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้ามองลูบเนื้อผ้านุ่มๆของเสื้อเก่า ชุดนอนของผม แม่เป็นคนตัดเย็บให้แม่จะซื้อผ้ามาหลายๆ ลายแล้วก็ตัดชุดนอนสามขนาด ให้ผมกับน้องสาวสองคน แม่เป็นคนขยันและทำงานหนักบางครั้งผมไม่รู้ว่าแม่แบกของหนักแบบนั้นได้ยังไง แม่เข้าป่าไปแบกไม้ไผ่มาขายสองบ่าของแม่แบกน้ำหนักไม้ไผ่หลายสิบกิโล แม่แบกหน่อไม้และของป่าออกมาแลกเงินส่งพวกเราเรียน ผมนึกถึงความยากลำบากของแม่แล้วก็รู้สึกถึงภาระตัวเองที่ต้องตอบแทนแม่บ้างแม้แม่จะไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผม แม่ไม่เคยบ่นว่าทำงานหนัก ผมนึกย้อนกลับไปเมื่อคราวผมยังเรียนชั้นมัธยมเดือนนั้นแล้งหนัก ฝนขาดช่วงนานหลายเดือน มันเป็นช่วงหมดฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลในนาและสวนพ่อออกไปรับจ้างตัดอ้อยที่ภาคกลาง มีวันหนึ่งผมกับน้องสาวอยากกินก๋วยเตี๋ยวมากแม่บอกว่ารอให้พ่อกลับมาค่อยกิน แต่ผมก็ดื้อ ผมร้องไห้แล้วก้โกระแม่ไม่นานนักแม่ก็หายไปพร้อมกับรถจักรยานคันเก่า แม่กลับมาอีกครั้งพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวสองห่อแม่แกะก๋วยเตี๋ยวใส่ชามรวมกันแล้วก็เอาช้อนสามคันมาให้เราสามพี่น้อง ก๋วยเตี๋ยวสองห่อนั้น หมดลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียงแค่น้ำกับเศษถั่วงอกไม่กี่ชิ้น แม่ให้พวกเราอาบน้ำแล้วไปนอน ผมรู้สึกปวดปัสสาวะ ผมดื่มน้ำเข้าไปมากผมเดินออกมาจากมุ้งผ่านเข้าไปในครัว ผมเห็นแม่กำลังตักน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เหลือในชามราดลงบนข้าวเหนียวแม่กินของที่เหลือจากพวกเรา แม่ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดในตู้กับข้าวของแม่ มีแค่ข้าวนึ่งและมันนึ่งให้พวกเราสามคน ผมมารู้ทีหลังว่าแม่ออกไปขุดปูกับหอยในนาในช่วงที่นาแห้งเป็นฝุ่นกลางฤดูร้อน ปูกับหอยมันขาดน้ำ มันลงไปจำศีลในดินแม่ใช้เสียบขุดดินแข็งๆ แล้วก็หยิบเอาปูกับหอยในดินออกมาใส่ถังซึ่งแม่จะเอามาล้างแล้วก็ไปขายในตลาด ผมดูแลน้องอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกสงสารแม่ผมรู้ว่าแม่เอาเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อตั๋วรถให้พ่อไปทำงานที่สุพรรณเงินเก็บทั้งหมดก็เจียดให้พ่อไปเป็นค่ากิน แม่ไม่มีเงินเหลืออยู่เลยผมไม่รู้ว่าแม่เอาเงินจากไหนไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้เราสามพี่น้องแม่อาจจะยืมคนอื่นหรือติดเงินแม่ค้าในตลาดเอาไว้ แล้วแม่ก็มาหาของในนาไปแลกเงิน ผมเกลียดความจนที่มันเหมือนญาติสนิทของครอบครัวเราผมปฏิญาณกับตัวเองว่า ผมจะดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด โชคเข้าข้างเรานิดหน่อยเมื่อพ่อทำงานได้เงินเก็บมา มันเป็นเงินเก็บที่มีค่ามาก พ่อซื้อเครื่องสูบน้ำปีนั้นเราทำนาได้กำไรเป็นปีแรก ต้นข้าวในนาไม่แห้งตายเหมือนปีก่อนๆ พ่อมีเงินส่งผมเรียนชั้นมหาวิทยาลัยพอดิบพอดี ผมจำได้ติดตาตอนรู้ผลสอบเข้าเรียน ผมวิ่งไปบอกพ่อแม่ในไร่ข้าวโพดระหว่างทางผมเจอนกขาหัก มันนอนร้องอยู่บนหญ้าแห้งๆมดแดงเริ่มเข้ามากัดแผลของมันบ้างแล้ว ผมอุ้มมันขึ้นมาปัดมดแล้วก็ทำรังจากกระบุงเก่าไว้ในกระท่อมปลายนาผมหาข้าวกับน้ำมาป้อนมัน ช่วงที่ผมเข้ามารายงานตัวในกรุงเทพนกตัวนั้นก็หายพอดี มันบินจากพร้อมๆกับการเริ่มชีวิตใหม่ในกรุงเทพของผม เขาเรียกผมให้ขึ้นไปนอนบนเตียงผมพยักหน้าแล้วก็เดินไปปิดไฟที่สวิชต์บนผนังใก้ลประตู ผมไม่ทันระวังตัวชายเสื้อของผมมันเกี่ยวเข้ามากับเหล็กใต้ลูกบิดเสียงแควกเหมือนของขาดดังขึ้นมาทันที ผมหันมาเจอรอยขาดก็ตกใจ มันขาดขึ้นมาถึงใต้รักแร้ เสื้อตัวที่แม่ตัดให้มันขาดเสียแล้วผมรู้สึกเสียดายและจิตตกโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาเดินเข้ามาถอดเสื้อผมออกเขาบอกว่ามันเก่ามากแล้ว เนื้อผ้าเปื่อยเต็มทีพรุ่งนี้เขาจะพาไปซื้อตัวใหม่ในห้างสรรพสินค้า ผมเดินเข้าไปเปิดตู้เพื่อเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่เสื้อที่แม่ตัดให้เป็นชุดที่เข้ากันกับกางเกงเพราะมันเป็นลายเดียวกันผมไม่ได้หยิบเสื้อลายอื่นมามาใส่ แต่ผมเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีเทาขึ้นมาใส่แทน เขาเป็นคนปิดสวิตช์ไฟแล้วก็กอดผมบนเตียงผมรู้สึกว่าหนังตาปิดลงอย่างรวดเร็ว ความหนาวจากเครื่องปรับอากาศในห้องนอนไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสั่นเลยผมมีไออุ่นจากหน้าอกของเขาผมรู้สึกเหมือนเขามีปีกใหญ่กางปกป้องและให้ความอบอุ่นกับผม ผมลืมตาขึ้นมาในความมืดเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ปลุกผมขึ้นมา นาฬิกาตัวเลขในโทรศัพท์บอกเวลาตีห้านี่เป็นเวลาครบยี่สิบสี่ชั่วโมงพอดีหลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน ผมจำได้ว่าเวลานี้ของเมื่อวาน ผมลงจากห้องนี้ไปหาพญาภุชงค์ที่ทะเล หมายเลขโทรศัพท์ของน้องสาวโทรเข้ามาหาผมผมกดรับ หูฟังเสียงของเธออย่างสงบ น้องสาวของผมบอกว่า ตอนค่ำแม่กลับออกมาจากไร่ข้าวโพด แม่โดนงูกัดที่ขา แม่เรียกพ่อกับน้องอีกคนไปช่วยพ่อเอาเชือกฟางรัดขาแม่แล้วอุ้มไปส่งโรงพยาบาลในอำเภอ พ่อไม่ได้ไปหางูที่กัดแม่ แต่แม่จำงูได้แม่บอกว่างูที่กัดเป็นงูเห่า น้องสาวของผมบอกว่าอาการของแม่แย่ลงมากงูเห่าตัวนั้นคงใหญ่มาก มันปล่อยพิษเต็มเขี้ยว หมอบอกว่าแม่อาจจะไม่รอด ผมรู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดหายไป ผมพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาเหงื่อในฝ่ามือมันลื่นไปหมดตอนจับวางโทรศัพท์ลง เขาลุกจากเตียงเข้ามาถามผมผมเปิดไฟให้สว่างแล้วรีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าคราวนี้ตู้เสื้อผ้ามันเปิดไม่ออกอีกแล้ว ผมเริ่มร้องไห้เพราะห่วงแม่เขาลุกขึ้นมาเปิดตู้ให้ผม เขาไปอาบน้ำแล้วบอกว่าจะขับรถไปส่งผมที่โรงพยาบาล ผมเปลี่ยนแค่ชุดแล้วก็หยิบกระเป๋าใบเดียวเดินตามเขามาที่รถระหว่างทางนั้นผมก็โทรศัพท์หาน้องสาวอยู่เรื่อยๆ น้องสาวคนรองร้องไห้หนักเธอบอกว่าแม่ตัวสีม่วง หน้าของแม่ก็คล้ำมากแล้ว ผมแทบไม่มีแรงยกโทรศัพท์น้ำตาร้อนผ่าวร่วงลงไปขา ผมอยากจะไปให้ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดแต่ระยะทางจากกรุงเทพไปที่ภาคเหนือนั้นไกลพอสมควร แม้เขาจะขับรถเร็วที่สุดแล้วแต่ก็ช้ากว่าใจของผมอยู่ดี ผมหันมาขอให้เขาช่วยแม่ของผม เขาเป็นครุฑเขามีอำนาจวิเศษมากมาย ผมไม่อยากเสียแม่ไป ผมยังไม่ได้ทำอะไรให้แม่หายเหนื่อยเลย เขานิ่งไปแล้วก็พูดขึ้นมาขณะสายตายังมองดูถนนข้างหน้าเขาบอกว่าเขาช่วยแม่ไม่ได้ เพราะแม่เป็นมนุษย์ธรรมดาพิษงูเห่าเป็นร้ายแรงที่ฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย ผมเหมือนคนหมดแรง เนื้อตัวของผมมันชา หูอื้อตาลาย ผมพยายามคิดว่านี่คือความฝัน มันเป็นฝันที่ผมสร้างขึ้นมา ผมหลับตานิ่ง นับหนึ่งถึงร้อยช้าๆ ผมลืมตาขึ้นไปก็เจอทุ่งนาเวิ้งว้างสุดลูกหูลุกตาป้ายบอกทางข้างหน้า บอกว่าอีกไม่เกินสองชั่วโมง จะถึงจังหวัดบ้านเกิดของผม เขาคงช่วยให้ระยะทางสั้นลงหรือไม่ก็คงใช้วิธีใดวิธีหนึ่งให้เรามาถึงเร็วขึ้น ผมทิ้งกระเป๋าไว้ในรถ สองขาของผมวิ่งไปหาพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด แม่นอนหายรินรวยรินอยู่บนเตียงในห้องผู้ป่วยวิกฤตพ่อกับน้องสาวนิ่งไปหมดทุกคน น้องสาวคนเล็กยังอยู่ในชุดนักเรียนเธอเดินเข้ามากอดผมแล้วร้องไห้ น้องสาวอีกคนก็เข้ามากอดผมอีกคน เราสามคนรักกันมาก แล้วเราก็รักแม่มากการเสียแม่ไป มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำใจจริงๆ ผมไม่เห็นทางอื่นที่จะช่วยแม่ได้เลย ผมเห็นเงาสูงๆของเขายืนรอนอกห้องกระจกฝ้าทำให้มองไม่เห็นคนข้างนอก แต่ผมจำรูปร่างสูงใหญ่ของเขาได้ ผมเดินออกมาไหว้เขา ขอให้เขาช่วยเขายกฝ่ามือขวาเข้ามาลูบหัวผมเบาๆ เขาส่ายหน้าไปมาช้าๆ ผมหมดแรง ขามันสั่นไปหมดหมอกับพยาบาลเดินผ่านผมเข้าไปปั๊มหัวใจของแม่ พ่อกับน้องถูกพยาบาลดันตัวออกมา เขายิ้มให้พ่อแล้วก็พยักหน้าเล็กๆให้น้องสาวผมเขามองไปทางดวงตะวันสีส้มทางทิศตะวันออกแล้วก็เรียกผมออกมาคุยตรงจุดที่ห่างจากพ่อที่หน้าห้องไอซียู "ลองขอให้เขาช่วย" เขาพูดขึ้นมาตอนเราสองคนยืนอยู่หน้าสวนหย่อมข้างโรงพยาบาล "ใครครับ?" "นาค"
|