"เขาตายไปแล้ว ผมจะไปตามเขาที่ไหนได้?" "เขายังไม่ตาย ลองหาเขาดู เขาเป็นนายของพิษถ้าเขาช่วย เขาจะดึงพิษกลับไปได้" "ผม....ผมไม่รู้จะไปตามเขาได้ที่ไหน"ผมจนปัญญาที่จะหาคุณภุชงค์ในเวลาอันวิกฤตแบบนี้ เขาลูลหลังของผมแล้วก็พูดต่อว่า "นาคอยู่ในที่ที่มีน้ำ" ผมวิ่งเข้าไปในไร่ข้าวโพด ผมมองหางูผมเห็นหางสีดำเลื้อยช้าๆผ่าน ต้นข้าวโพดไป ผมวิ่งไปดักข้างหน้ามันอาการกลัวงูของผมหมดไปแล้ว ตอนนี้ผมเหลือแค่ความโกรธ ผมอยากจะฆ่างูทุกตัวที่เจอ ผมจับงูขึ้นมา มันขู่ฟ่อแล้วก็จ้องผมเขม็ง "ใครกัดแม่ผม!!!"ผมจับคองูเห่าแล้วเขย่ามันไปมา มันได้แต่ขู่ แต่ไม่ได้มีท่าทีจะกัดผมเลย "กัดเลยสิ อยากเอาผมไปหานายคุณไม่ใช่เหรอกัดเลยสิ!!!" ผมจ่องูเข้ามาที่คองูตัวนั้นได้แต่ทำเสียงจากลมที่ส่งออกมาจากคอ มันไม่ยอมกัดผม ผมปล่อยงูลงพื้นไป ผมนั่งลงกับพื้นร้องไห้เหมือนคนบ้า ผมเห็นงูเลื้อยไปข้างหน้า มันหันมามองผมแล้วก็เลี้อยผ่านดงข้าวโพดไปทางสระน้ำ ผมวิ่งตามมันไปด้วย งูเห่าตัวนั้นเลื้อยหายไปในดงหญ้ารกระหว่างนั้น มีไอหมอกสีขาวลอยขึ้นมาเหนือสระน้ำ อากาศร้อนเริ่มเย็นลงอย่างฉับพลันผมรู้สึกขนลุกเพราะอากาศเย็น ผมเห็นร่างสูงของผู้ชายโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำคุณภุชงค์นั่นเอง เขากลับมาอยู่ในสภาพของคุณภุชงค์ที่หล่อเหลาเหมือนเดิมเขาไม่ได้มีหน้าตาน่ากลัวเหมือนตอนที่มาหาผมเมื่อคืนอีกแล้ว "คุณภุชงค์ครับ ช่วยแม่ผมด้วยแม่ผมโดนงูของคุณกัด แม่กำลังจะตาย" ผมนั่งลงข้างสระแล้วยกมือไหว้เขาน้ำตาผมไหลเต็มสองแก้ม "แม่ของคุณโดนกัดตามธรรมชาติเขาเหยียบโดนบริวารของผม มันเลยตกใจแล้วแว้งกัดเอา ไม่มีใครสั่งให้มันกัดงูทุกตัวและสัตว์มีพิษทุกชนิดมีสัญชาติญาณนักฆ่าในตัว" คุณภุชงค์อธิบายช้าๆ "ช่วยแม่ผมด้วยเถอะครับ อย่าให้แม่ผมตาย" "ท้าวเวสสุวรรณให้ยมทูตมารับแม่ของคุณแล้วอีกไม่นาน แม่คุณจะตาย" ผมนิ่งไปเหมือนโดนไฟช็อต ผมไม่อยากเสียแม่ไปผมอยากแลกทุกอย่างในชีวิตกับการที่ไม่ต้องเสียแม่ไป "คุณถอนพิษได้คุณช่วยถอนพิษให้แม่ผมได้มั้ยครับแล้วคุณเอาชีวิตผมไปแทน" "ผมจะเอาชีวิตของคุณไปทำไมผมไม่ใช่เจ้าแห่งยมโลก แล้วชีวิตคุณก็ยังไม่ถึงฆาต" "แต่ผมไม่อยากให้แม่ตาย คุณเป็นเจ้านายของพิษคุณถอนพิษให้แม่ผมด้วยเถอะครับ ผมยอมแลกทุกอย่าง" ผมเหยียดขาไปอย่างคนหมดแรงตอนนี้เหลือแค่ใจกับลมหายใจเท่านั้นที่ยังทำงานอยู่ "ยอม...แลกทุกอย่าง จริงหรือเปล่า?"คุณภุชงค์ถามย้ำ "ผมยอมทุกอย่าง" "ผมจะไปถอนพิษออกให้ผมต้องรีบไปก่อนยมทูตจะเดินทางมาถึง แต่อย่าลืมคำพูดที่ให้ไว้" คุณภุชงค์หายไปแล้ว เหลือแต่ไอหมอกจางๆบนผิวน้ำ มันสลายตัวไปช้าๆ หลังร่างมนุษย์ของนาคหายไป อาการของแม่ดีขึ้นจนหมอกับพยาบาลตกใจ อยู่ดีๆสัญญาณชีพบนหน้าจอก็กลับมาใกล้เคียงกับคนปกติ แม่ยังเหนื่อยและหายใจหอบอยู่บ้างแต่อาการที่เหลือก็ถือว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว หมอเจ้าของไข้ยืนนิ่งเพราะไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อนคนไข้อาการโคม่าใกล้สิ้นลม อยู่ๆ กลับมีอาการดีขึ้น ผิวสีม่วงคล้ำของแม่เริ่มกลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง ผมดีใจกับการที่ได้แม่คืนมาแต่ก็ไม่ลืมคำที่รับปากคุณภุชงค์เอาไว้ เวลาไม่นานต่อจากนี้ไปผมจะต้องพบกับเขาอีกแน่นอน เขาจะต้องมาทวงคำมั่นที่ผมรับปากเขาไว้ ผมเดินออกมาเจอครุฑที่หน้าแผนกฉุกเฉินเขาบอกว่าจะออกไปพักในตัวเมือง เขาอยากให้ผมมีเวลาอยู่กับแม่และเมื่อแม่หายป่วยแล้ว เขาจะกลับมารับ เขาย้ำให้ผมใช้เบอร์ติดต่อที่ให้ไว้ในเครื่องแน่นอน ผมยังไม่เคยกดโทรไปหาเขาเลยซักครั้งเดียว ผมเข้าใจว่าเบอร์นี้เป็นหมายเลยฉุกเฉิน ผมจะเก็บไว้ใช้ตอนที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น ผมมองรถยนต์สีดำของเขาแล่นไปจนลับสายตาหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของเขาอยู่บนสมุดโทรศัพท์ในเครื่องเป็นหมายเลขแรกผมไม่เคยเรียกชื่อเขาเลยซักครั้งเดียว ชื่อที่เขาเมมโมรี่ไว้ในเครื่องผมคือ"เวณวัฒน์" เว-นะ-วัด ผททวนชื่อเขาซ้ำๆ ในปากชื่อเขาคงหมายถึงครุฑกระมัง วันต่อมา อาการแม่ดีขึ้นเป็นลำดับหมออนุญาตให้แม่ออกมาพักอยู่หอคนไข้ทั่วไปได้ แม่ยังเหนื่อยนิดหน่อย ผมป้อนข้าวต้มที่ฝ่ายโภชนาการจัดมาให้แม่แม่ดีใจที่ผมกลับมาเยี่ยมแต่ถึงอย่างนั้นแม่ก็ยังห่วงว่าที่ทำงานผมจะว่าเอาเรื่องที่ผมกลับมาที่นี่ ผมไม่ได้บอกแม่ไปว่า ผมตกงานผมไม่อยากเอาเรื่องของผมมาทำให้แม่คิดมาก ผมบอกแม่ไปอ้อมๆ ว่า อยู่ได้หลายวัน บ่ายนั้น เราสองแม่ลูกคุยกันพ่อกลับไปพ่นยาให้ต้นมะม่วง ส่วนน้องสาวสองคนมีเรียน ผมรับหน้าที่ดูแลแม่ตอนเย็นถึงจะมีน้องกับพ่อมาที่นี่ ผมถามแม่เรื่องงูแม่บอกว่าตอนออกมาจากไร่ข้าวโพด แม่เดินไปหักข้าวโพดหวาน แม่รู้ว่าผมชอบกินข้าวโพดแม่เลยฝ่าดงรกเข้าไปหักฝักมันออกมา แม่จะต้มมันแล้วส่งมาให้ผมที่กรุงเทพ ช่วงที่แม่ฝ่าดงเข้าไปแม่รู้สึกตัวว่าเหยียบโดนบางอย่างที่มีความนุ่ม แม่รู้สึกตัวอีกทีก็ถูกคมเขี้ยวของอสรพิษสีดำเข้าเสียแล้ว มันกัดแม่จมเขี้ยว ไม่นานนัก แม่รู้สึกตาพร่าต้นข้าวโพดรอบตัวมันเคลื่อนไหวไปมา แม่ร้องให้พ่อเข้ามาช่วย แม่เล่ามาถึงช่วงหลังจากสลบไปว่าแม่ฝันเหมือนจริง ตอนนั้นแม่ร้อนเหมือนโดนไฟเผา รอบตัวแม่มีไฟลุกท่วม ทั้งหัวแขนขา มันลุกติดไฟจนร้อนไปหมด แม่รู้สึกเหมือนมีคนคุยกันแล้วก็รู้สึกเหมือนมดกัดที่แขนแม่รู้สึกว่าความร้อนมันลดลงแม่รู้สึกว่าเหมือนมีคนเอาน้ำในแก้วมาเทรดลงไปในกองไฟใหญ่ แน่อยู่แล้ว น้ำแก้วเล็กๆ ไม่อาจจะดับไฟใหญ่ได้ผมคิดว่าตอนนั้น หมอคงฉีดเซรุ่มพิษงูให้แม่ แต่มันก็ช่วยได้ไม่มากไม่นานแม่ก็กลับมาร้อนเป็นไฟอีก แม่บอกว่าแม่กำลังจะหมดลมหายใจอนุสติของแม่บอกว่าแม่กำลังจะตาย ช่วงวินาทีสำคัญนั้นแม่เห็นผู้ชายในชุดเปลือยท่อนบนเดินเข้ามาหาแม่ แม่บอกว่าเขาหลอเหมือนพระเอกเขามีสายสีทองสะพายเฉียงแล้วก็มีเครื่องทรงสีทองเหลืองอร่าม ผู้ชายคนนั้นมายืนอยู่ตรงหน้าของแม่แล้วก็ยกฝ่ามือขึ้นเขาดึงไฟที่ลุกท่วมแม่ออกไป เขาบอกว่าพิษออกมาจากจนหมดแล้วแต่อาการเจ็บปวดจากพิษก่อนหน้านั้นคงยังมีอยู่ ระหว่างนั้นแม่เห็นยมทูตรูปร่างน่ากลัวเดินเข้ามาสมทบยมทูตพูดกับผู้ชายที่ช่วยแม่ด้วยภาษาที่แม่ฟังไม่เข้าใจ แต่แม่จับน้ำเสียงไม่พอใจของยมทูตได้ยมทูตส่ายหัวแล้วดึงเอาประกายสีเขียวที่หุ้มรอบตัวผู้ชายคนนั้นออกไป ยมทูตมองหน้าแม่แล้วก็หันหลังกลับไป แม่ถามชื่อผู้มีพระคุณแต่เขายืนนิ่งแล้วตอบกลับมาว่า แม่ไม่มีบุญญาธิการพอที่จะรู้เรื่องเหนือธรรมชาติแม่ไม่มีบุญกรรมร่วมกันมากับเขา แต่แม่เป็นผู้ให้กำเนิดคนที่เขามีความผูกพันด้วยครั้งนี้เขาทำลายกฏแห่งธรรมชาติมาช่วยแม่จากนี้ไปขอให้แม่ละเว้นการฆ่าสัตว์มีพิษทุกตัว ผู้ชายคนนั้นหายไปแล้วแม่ก็ตื่นขึ้นมาแม่บอกว่าเหมือนคนที่เป็นเหน็บชา แขนขาแม่ไม่มีความรู้สึก หยิกไม่เจ็บลูบไม่รู้สึก หมอต้องให้นักกายภาพมาช่วยแม่ ทำให้เลือดและระบบประสาทของแม่กลับมาทำอีก ผมเปลี่ยนเวรกับน้องสาวที่มาเยี่ยมแม่น้องเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วย พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ น้องไปต้องไปเรียนผมตกลงกับน้องว่าจะกลับไปอาบน้ำแล้วพรุ่งนี้จะทำกับข้าวมาส่งให้ ผมนั่งรถกลับมากับพ่อพ่ออาบน้ำกินข้าวออกไปทำเรื่องขายผลไม้ในที่ประชุมหมู่บ้านพ่อบอกว่าต้องรีบทำให้เสร็จเพราะคนรับซื้อเขามาแค่วันเดียว ผมยืนมองพ่อออกจากบ้านไปแล้วก็เดินลัดตัดคันนาไปทางสวนผลไม้ ผมมีไฟฉายท่อนเล็กๆ ติดไปด้วย ผมไม่รู้สึกกลัวงูอีกแล้วหรือบางทีผมก็ไม่รู้สึกกลัวความตายเลยด้วยซ้ำ ผมรู้สึกว่าเรื่องประหลาดรอบตัวมันทำให้ผมสับสน ผมนั่งลงกับพื้นหินกรวดริมสระน้ำ แสงตะวันค่อยๆอ่อนแสงลง ผมมองดูแสงสลัวรอบๆตัว บรรยากาศแสนเศร้าแบบนี้ ผมเจอมันบ่อยๆยามที่พ่อกับแม่ไปรับจ้างเกี่ยวข้าวอำเภออื่น ผมกับน้องถูกฝึกให้ใช้ชีวิตลักษณะนี้มาตั้งแต่เด็กแต่จนแล้วจนรอด เราสามคนก็ยังรู้สึกวังเวงกับอากาศสลัวที่คนเรียกว่าช่วงแดดผีผ้าอ้อมอยู่ดี ชื่อผีผ้าอ้อม มันทำให้ผมคิดไปถึงผี ผมรู้สึกตัวอีกครั้งตอนถูกแมงมุมมีขนสีดำไต่ที่คอมันขยับเขี้ยวไปมา ผมจับแมงแปดขามาวางไว้ในอุ้งมือมันขยับเขี้ยวไปมาแต่ก็ไม่ได้มีทีท่าจะกัดผม อากาสเริ่มเย็นลงฉับพลันผมรู้ทันทีว่าคุณภุชงค์กำลังมา เขามักจะมาพร้อมกับอากาศแบบนี้เสมอ ผมมองเขาได้ถนัดแม้จะอยู่ในความมืดเขาเป็นเหมือนคุณภุชงค์คนที่ผมรู้จัก คุณภุชงค์ใส่เสื้อเชิ้ตทำงานเขาผูกเนคไทด์เรียบร้อย เขายืนอยู่บนผิวน้ำแล้วยิ้มให้ผมผมนั่งกอดเขามองเขาอย่างเหม่อลอย "เวลาของเราใกล้จะเริ่มขึ้นทุกทีแล้วนะ"คุณภุชงค์พูดขึ้นมา "คุณจะเอาชีวิตผมไปเหรอครับคุณภุชงค์?" "เอาจิตวิญญาณไป เอาร่างกาย เอาทุกๆ อย่าง" "เอาไปตอนนี้เลยสิครับ ทำให้ผมหายไป แต่ผมขอร้องทำให้แม่และครอบครัวผมลืมว่ามีผมอยู่ด้วย" "เรามีกรรมร่วมกันมาก่อน แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะอยู่ด้วยกันผมเคยผิดกฏธรรมชาติที่เข้าไปชิงตัวคุณมาจากครุฑ แต่คราวนี้ผมจะไม่ยอมพลาดอีก การทำผิดกฏธรรมชาติ ทำให้ผมถูกลงโทษ" คุณภุชงค์ถอนหายใจแล้วยิ้ม "ใครทำโทษคุณ?" "ข้างบน"คุณภุชงค์ชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าสีม่วงเข้ม ข้างบนนั้นเหมือนเป็นผ้ากำมะหยี่ที่มีเพชรส่องสว่างวูบวาบอยู่คุณภุชงค์ชี้ไปที่ทางช้างเผือก "ผมไม่อาจเอาชนะเหนือครุฑได้ตราบใดที่ผมยังผิดกฏธรรมชาติแต่เวลาของเราใกล้มาถึงแล้ว และถ้าถึงเวลานั้นแม้แต่ครุฑผู้มีฤทธิ์ก็ไม่อาจพรากเราจากกันได้" คุณภุชงค์เดินผ่านผิวน้ำมาหาผม เขาดึงให้ผมลุกขึ้นยืนแล้วก็พาเดินลงไปในน้ำ เราสองคนมาโผล่ในวังบาดาลอีกครั้งวังบาดาลของพญาภุชงค์นาคราชมีแสงสว่างที่ไม่ใช่แสงอาทิตย์ แต่เป็นแสงจากผิวน้ำ เราสองคนมาอยู่ใต้ทะเลสีฟ้าใสผมเห็นกระเบนว่ายช้าๆ ผ่านไป ผมไม่รู้ว่าทำไมน้ำทะเลไปไหลเข้ามาในนี้ มันเหมือนมีครอบแก้วกั้นอยู่ เขาพาผมมาถึงแท่นในห้องส่วนตัวบนแท่นหินคล้ายเตียงนอนมีฟูกสีทองคลิบแดงวางอยู่ ผมถูกจูงมือเดินผ่านม่านสีทองบางๆเข้าไปถึงด้านใน ตอนผมมาอยู่บนแท่นใหญ่นั้น เสื้อผ้าผมหายไปหมดเหลือเพียงผ้าแพรผืนบางที่พาดปิดส่วนล่างเอาไว้ คุณภุชงค์ก็เช่นกัน เขามาอยู่ในชุดที่ต่างออกไปเขาสวมผ้านุ่งสีทองเปลือยท่อนบน หน้าอกของเขามีสังวาลสีทองพาดผ่านแขนสองข้างก็มีพาหุรัดถักด้วยทองรัดอยู่เช่นกัน คุณภุชงค์ยามที่ไม่สวมเสื้อทำให้เขาดูแตกต่างจากชายในชุดทำงาน เขามีผิวสีแทนเข้ม ช่วงบนหนาช่วงอกและไหล่กว้าง เขาเอนตัวลงกับหมอน ใช้แขนซ้ายยันตัวเอาไว้ผมมาอยู่ในวงแขนล่ำสันของเขา คุณภุชงค์ส่งสายแสดงความปรารถนาทางเพศออกมาเขาใช้ฝ่ามือลูบไปบนหลังขาวโพลนของผม ร่างกายเปล่าเปลือยไร้สิ่งป้องกัน ผมนอนนิ่งสองขาถ่างออกและกางไว้อยู่อย่างนั้น ตอนนี้มีเพียงผ้าแพรโปร่งที่คาดปิดช่วงกลางลำตัวของผมส่วนท่อนบนตั้งแต่หน้าอกจนถึงปลายเท้าผมว่างเปล่า คุณภุชงค์ใช้ฝ่ามือลูบตัวผมจนผมรู้สึกประหลาดเขาดูเหมือนกำลังต้องการร่วมเพศกับผม เขาสอดนิ้วกลางของมือขวาเข้ามาในผ้าแพรเขาสอดนิ้วใหญ่ที่ค่อนข้างร้อนเข้ามาในรูของผม เขาดึงเข้าออกเร็วๆ จนผมรู้สึกเกร็งร่างกายเจ้ากรรมทำตรงข้ามกับที่ผมสั่งทุกอย่าง ผมถ่างขาให้เขาแทงนิ้วเข้าไปแทนที่จะปัดป้องตัวเอง ลิ้นสากของเขาลากผ่านจุดยอดอกของผมทำให้ผมยิ่งแอ่นอกให้เขามากขึ้นไปอีก ผมใช้มือซ้ายกดหัวของเขาเข้ามาเขาประกบปากลงบนจุดไวต่อความรู้สึกบนอกของผม เขาดูดและใช้ลิ้นลากไปมามือขวาของเขาก็ชักเข้าออกตรงรูของผม ผมเริ่มรู้เกร็งเหมือนใกล้ถึงสวรรค์หว่างขาของผมกางกว้างแล้วก็ชันเข่าขึ้น ฝ่ามือซ้ายของผมลูบไล้ไปมาบนผมของเขาผมรู้สึกมีความสุขที่เขาใช้ปากกับเนินอก ผมกำลังจะถึงจุดสุดยอดกล้ามเนื้อหูรูดมันเกร็งแล้วตอดตอดนิ้วของเขาถี่ยิบผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อรอบรูของผมมันทำงานสัมพันธ์กับแท่งที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำใสยิ่งผมเกร็งหูรูด แท่งนั้นมันก็แข็งตัวผมรู้สึกถึงแรงตอดถี่ยิบเกือบสิบครั้งรอบนิ้วของเขาผมปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเลอะหน้าท้องตัวเองเต็มไปหมด ผมลูบไปมาบนกล้ามเนื้อหน้าอกของเขาอย่างแผ่วเบา คุณภุชงค์ดึงนิ้วกลางออกมาเขามองลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังให้ผม เขาบอกผมว่า ครุฑทิ้งคราบไว้กับผมมากมายเขาแทบจะทนไม่ได้ที่มารู้ว่าผมถูกครุฑทำอะไรบ้าง เขาเองก็อยยากจะล้างคราบของครุฑให้หมดออกไปจากผมแต่เขาก็ยังทำไม่ได้ พลังอำนาจของครุฑในตัวผมยังมีอยู่สิ่งที่ครุฑปล่อยเข้ามามันยังคงมีอำนาจ เขาบอกว่าธรรมชาตินั้นไม่ได้ยุติธรรมกับเผ่าพันธุ์นาค คุณภุชงค์ยิ้มเศร้าๆ ให้ผม เขากลับมานั่งใกล้ๆผมอีกครั้ง เขาเล่าว่าผมกับเขาเคยเกิดมาคู่กันเมื่อภพก่อน ผมถามว่าชาติที่แล้วผมกับเขาเป็นคู่กันหรือเปล่า เขาตอบว่าไม่ใช่แต่เป็นชาติภพที่แสนนานมาแล้ว เขาเฝ้ามองผมเวียนว่ายตายเกิดตามวงเวียนธรรมชาติจนมาถึงชาติภพนี้ ผมรู้สึกเศร้าที่ผมเกิดมาเป็นแบบนี้ตอนนี้ผมรู้สึกรักครุฑ ผมรักคุณเวณวัฒน์ ผมรักผู้ชายได้แค่คนเดียว ผมไม่ใช่กากี คุณภุชงค์หลับตานิ่งเหมือนคนเจ็บปวด เขาส่ายหัวแล้วบอกกับผมว่าครุฑนั้นเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์ ครุพไม่เคยรักใครจริง ครุฑมากรักชอบก่อกำหนัดมากชู้หลายเมีย ครุฑไม่รู้จักรักแท้เหมือนเผ่าพันธุ์นาค ผมส่ายหัวปฏิเสธทันที ผมรู้ว่าครุฑก็รักผม "พี่บอกเจ้าไว้ตอนนี้อันสัตว์เช่นครุฑหาได้รักใครจริง มันจักทำเพียงแค่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมัน" "ผมไม่มีอะไรให้เขา ผมเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาผมไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา ที่เขาอยู่กับผมก็เพราะเราอยากอยู่ด้วยกันไม่มีผลประโยชน์ใดๆ" ผมตอบคุณภุชงค์ เขาหัวเราะออกมาเบาๆ "ครุฑต้องการมณีในหัวใจเจ้ามันจะหาทางเอามณีสีน้ำเงินออกมาจากเจ้า มันต้องเอามณีไปกลับไปวิมาณสิมพลีเอากลับไปให้เผ่าพันธุ์มัน" ผมฟังคำของคุณภุชงค์ด้วยความงุนงงเขาพูดถึงมณีอะไรกันแน่ "มณีอะไร ผมไม่มีของมีค่าอะไรทั้งนั้นผมเป็นคนตัวเปล่า" "อันผลบุญของเจ้าทำให้มีมณีบนสวรรค์มาประดับในใจ มันส่องแสงสีน้ำเงินสด แสงนี้มีเพียงผู้มีฤทธิ์เท่านั้นที่เห็นมณีนี้ทำให้ครุฑสามารถบรรลุญาน หลุดพ้นการเป็นดิรัจฉานได้ ครุฑมันกำลังหลอกเจ้ามันต้องการมณี หาได้เสน่ห์หาเจ้าไม่" คุณภุชงค์พูดจริงจัง เขามองผมอย่างห่วงใย "แล้ว แล้วผมจะเอามณีออกไปได้ยังไง?" "ควักออกมาขณะยังมีชีวิต หากปล่อยให้เจ้าแก่ตายไปตามธรรมชาติมณีจะสลายกลับไปในสวรรค์ชั้นสูงที่ครุฑบินไปไม่ถึง" "ผมไม่เชื่อ คราวก่อนคุณก็สร้างภาพมายาหลอกผมคราวนี้คุณก็โกหกผมเรื่องมณีอะไรนี่อีก ผมไม่เชื่อ ผมจะกลับ" "เจ้าไปถามครุฑดูเถิด ครุฑไม่อาจโกหกได้หากผิดคำพี่พูด พี่จะไม่ไปรบกวนให้เจ้ารำคาญอีก" คุณภุชงค์ลุกขึ้นยืนเขายกฝ่ามือขึ้นเหนือร่างเปล่าเปลือยของผม ผมรู้สึกว่าผมเกิดอาการง่วงอย่างรุนแรงผมหลับไปขณะนอนอยู่บนแท่นหินใต้วังบาดาล ผมตื่นขึ้นมาตอนย่ำรุ่งผมตื่นขึ้นมาบนเตียงของตัวเองที่บ้าน รอบตัวผมเป็นมุ่งสีขาวขุ่น มันมีลายเป็นช่องสี่เหลี่ยมซึ่งผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมอยากจะหาคำตอบเรื่องมณีสีน้ำเงินผมอยากจะถามเขาว่า เป็นอย่างที่นาคบอกผมหรือไม่ ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำแปรงฟัน แล้วก็หุงข้าวเสร็จแล้วก็เปิดตู้เย็นออกมา ผมหุงข้าวแล้วก็ทำข้าวต้มให้แม่หมอให้แม่กินข้าวสวย ไม่ให้กินข้าวเหนียว ผมทำแกงจืดกับกับข้าวแห้งๆเป็นผัดผักนุ่มๆ พ่อก็ตื่นแต่เช้าเหมือนกันพ่อออกไปให้อาการไก่กับเป็ด แล้วก็เลยไปให้อาหารปลาในบ่อ ผมตักข้าวใส่ปิ่นโตสองชุด ชุดแรกให้แม่ชุดที่สองให้น้องสองคน อาหารที่เหลือ ผมจัดใส่ขันโตกให้พ่อกินก่อนไปหาแม่ แม่ดูสดชื่นขึ้นมา ปากก็บอกหมอว่าอยากกลับบ้านแล้วแม่บอกว่าเมื่อคืนฝันเห็นนกตัวใหญ่ พญานกให้ธัญพืชคล้ายเม็ดบัวกับแม่ แม่รับมากิน แม่บอกว่ารู้สึกว่ามีกำลังขึ้นมาอาการเมื่อยขบหายไป ร่างกายเหมือนกับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ผมคิดถึงเขาขึ้นมาทันทีไม่น่าเชื่อว่าเวลาไม่กี่วัน ทำให้ผมรู้สึกคิดถึงเขามากขนาดนี้ ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์วันข้างหน้าจะเป็นยังไงรู้แต่ว่าตอนนี้ผมรักเขา และถ้าเขาต้องการมณีสีน้ำเงินอย่างที่คุณภุชงค์พูดไว้จริงๆผมก็ยินดียกให้ แม้ว่าผมจะต้องตายเพราะกรงเล็บเขาก็ตาม ผมทนความเจ็บปวดจากก้นบุหรี่ไม่ไหวอีกแล้วคราวนี้พี่วิทย์บังคับให้ผมทำงานให้อีกครั้ง ผมกราบเขาที่เท้าซ้ำๆแต่เขาก็ไม่ใส่ใจ เขาให้กระเป๋าผมมาหนึ่งใบข้างในมีกล้องวิดีโอแล้วก็ของหลายๆ อย่าง เขานัดผมไว้ที่สระน้ำของโรงแรมเวลาสองทุ่ม ผมสวมเสื้อแขนยาวปกปิดรอยดำจากก้นบุหรี่ผมสวมแว่นตาปกปิดรอยจากการถูกชก พี่วิทย์มีอารมณ์รุนแรงเสมอทั้งตอนปกติกับตอนมีอะไรกัน เขาจะตบผม บางทีก็ชกที่เบ้าตาเสร็จแล้วเขาก็จะเกิดอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรง เขาเป็นคนซาดิสม์ ไม่ใช่สิผมต้องเรียกว่าเขาไม่ใช่คน เขาเป็นผีงู เป็นงูปิศาจ ผมเคยหนีไปทำงานที่ใต้แต่หนีไปได้แค่คืนเดียวเท่านั้น เขาก็ไปลากตัวผมถึงในโรงแรมที่ผมทำเขาซ้อมผมอย่างหนัก ผมโดนชกและเตะ สาเหตุที่ผมหนีเพราะเขาสั่งให้ไปไปหลอกวา วาเป็นเพื่อนที่สนิทกับผมเราสองคนเรียนชั้นมหาลัยมาด้วยกันพี่วิทย์บังคับให้ผมจัดงานวันเกิดในผับแล้วก็ให้ผมนัดวาไปด้วย วาเป็นคนดี แต่บางทีก็ดูไม่ทันคน วาชอบช่วยคนอื่นโดยที่ไม่ดูตัวเองผมรู้สึกว่าบางทีวาก็ดูโง่ หลายครั้งที่ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะทำเพื่อนคนอื่นมากขนาดนั้นทำไม วาเป็นลูกคนจนการช่วยเหลือของเขามักจะออกมาในรูปใช้แรงกายและแรงสมองช่วยเพื่อน เพื่อนในชั้นที่อยู่ในโลกอันบริสุทธิ์และสวยงามเห็นการกระทำของวาเป็นเหมือนสิ่งมีค่าทุกคนรักวา ส่วนผมที่เป็นเพื่อนอีกคน กลับต้องอยู่ในมุมเล็กๆ วาชอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าผมกับเขาเหมือนกันอันที่จริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ตอนที่เราอยู่หอด้วยกันบางคืนผมจะแอบไปนอนกับนักกีฬามหาลัย ผมไม่ได้ปิดบังว่าผมมีความต้องการทางเพศสูงผมชอบที่จะใช้ร่างกายตัวเองแลกกับความสุข วามักจะต่อว่าผมที่ผมชอบหายตัวไปตอนกลางคืนผมโกหกเขาว่า ผมไปทำงานพิเศษ ตอนวาเจอมุกนี้ทีไร วาก็จะอ่อนลงทันทีผมรู้จักใช้ประโยชน์จากจุดนี้ของวาเสมอ วาไม่เคยมีแฟน แม้จะมีคนฝากการ์ดผ่านผมไปให้แต่ก็เห็นวาเก็บการ์ดใส่หนังสือโดยไม่เปิดอ่านหรือแสดงทีท่าสนใจ วาบอกว่า ตัวเองรู้สึกว่ากำลังรอใครอยู่ใครคนนั้นกำลังจะมา ผมหัวเราะที่วาเพ้อฝันถึงเจ้าชายเจ้าชายที่แสนสมบูรณ์แบบ เจ้าชายที่ไม่มีอยู่จริง เราสองคนเรียนจบแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานวาได้งานในบริษัทเล็กๆ ส่วนผมได้งานบริษัทใหญ่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ผมเห็นวาทำงานหนักวาทำงานหลายอย่างตั้งแต่งานตัวเองไปจนถึงงานเลขา ผมไม่เข้าใจว่าวาอยู่ได้ยังไงผมเคยชวนให้เขามาสมัครงานที่ที่ผมทำงานอยู่ แต่เขาบอกว่า อยากหาประสบการณ์ไว้เก่งแล้วค่อยคิดอีกที วาเป็นอย่างนั้นเสมอ ถ้าเขาไม่ใช่วาเพื่อนผมผมคงเลิกสนใจคนแบบนี้ไปแล้ว ผมไม่ชอบคนที่ไม่รักตัวเอง ผมรักความก้าวหน้า แต่เมื่อนึกถึงหลายๆเรื่องที่วาทำให้ผมผมก็ยังมีความรู้สึกสำนึกเสมอ ว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดี ผมมารู้จักพี่วิทย์ช่วงที่ทุกอย่างกำลังลงตัวผมมีความสุข พี่วิทย์เป็นผู้ชายรูปหล่อ เขาทำให้ผมคลั่ง พี่วิทย์เก่งหลายอย่างบางครั้งดูเหมือนเขาไม่ใช่คนธรรมดา พี่วิทย์เก่งเรื่องบนเตียงเขาทำให้ผมมีความสุขมากกว่าตอนที่ไปนอนกับนักกีฬาซะอีกผมเหมือนล่องลอยอยู่ในสวรรค์ แต่สวรรค์ของผมอยู่ได้ไม่กี่เดือนพี่วิทย์เริ่มเปลี่ยน เขาเริ่มโมโหร้ายแล้วก็ทุบตีผม วันหนึ่งพี่วิทย์ให้ผมโทรไปหาวา ให้ผมบอกวาว่าผมจัดงานวันเกิด ผมไม่รู้ว่าพี่วิทย์รู้จักวาได้ยังไงวันนั้นผมรู้สึกหึงและหวงแฟนผมมาก ผมไม่ยอมทำตามที่พี่วิทย์สั่งผมไม่ยอมให้พี่วิทย์ไปคบกับวา พี่วิทย์ตบหน้าผมจนคว่ำ จากนั้นก็เตะที่ชายโครงเขายั้งมือเพราะกลัวผมจะสลบไป พี่วิทย์สูบบุหรี่ ผมร้องไห้แล้วไม่ยอมพูดกับเขา พี่วิทย์เดินเข้ามาหาผมแล้วก็จูบผมที่แก้มเสร็จแล้วเขาก็เอาก้นบุหรี่มาจี้ที่แขนผมพยายามดิ้นหนีแต่แรงบีบของเขาเหมือนคีมเหล็ก เขาบังคับให้ผมโทรไปหาวาจนได้ ผมมารู้ว่าวามีแฟนตอนที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดพี่วิทย์มองวากับแฟนด้วยสายตาประหลาด ส่วนผมก็มองดูแฟนวาด้วยความรู้สึกแปลกพิเศษ แฟนของวาเป็นผู้ชายที่หล่อและดูดีกว่าผู้ชายทั่วไปแม้พี่วิทย์จะดูหล่อ แต่ก็ยังเทียบแฟนวาไม่ติด แฟนวามีแรงดึงดูดทางเพศสูงเขาเป็นคนรูปร่างดีและสูงโปร่ง แฟนวาหัวไหล่ใหญ่ หน้าอกเป็นเนินชัดเจนเหมือนคนออกกำลังกายผมมองเขาอยู่นานจนรู้สึกเปียกแฉะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจินตนาการถึงการร่วมเพศกับแฟนของวา ผมจะรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศรุนแรงกับนักกีฬาเสมอโดยเฉพาะนักกีฬาที่หล่อเหลาและแข็งแรง แฟนวาก็เล่นเดียวกันผมรู้ว่าเขาต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ เขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า เขานั่งเงียบๆคอยดูแลวาใกล้ๆ ผมรู้สึกอิจฉาวาขึ้นมาทันทีผมไม่คิดว่าวาจะโชคดีขนาดนี้ ผมรู้สึกหงุดหงิดตัวเอง ผมน่าจะเจอเขาก่อนวาผมแน่ใจว่าเขาจะต้องชอบผมมากกว่าวาแน่ๆ พี่วิทย์หายไปในห้องน้ำนานผิดสังเกตแฟนของวาลุกขึ้นยินแล้วก้าวเท้าเร็วๆไปทางห้องน้ำ ผมวิ่งตามด้วย ผมเดินผ่านประตูที่ถูกพังจนกองกับพื้นเข้าไปผมเห็นแฟนของวากำลังยกพี่วิทย์ลอยขึ้นมาจากพื้นในห้องน้ำ เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากผมไม่คิดว่าจะมีใครทำกับพี่วิทย์อย่างนั้นได้ พี่วิทย์มีเรี่ยวแรงผิดมนุษย์ทั่วไปใครที่ทำกับพี่วิทย์ได้แบบนี้ย่อมไม่ธรรมดา ผมรู้ว่าตัวการของเรื่องก็คือวานั่นเองอารมณ์อิจฉาที่มีมาก่อนหน้าบวกกับอารมณ์โกรธทำให้ผมด่าวา วาดูจะเสียใจที่ผมด่าเขาแต่เขาก็ห่วงแฟนเขามากกว่า วาประคองแฟนที่ถูกพี่วิทย์พ่นควันสีดำใส่หน้าออกไป คืนนั้นพี่วิทย์โกรธและโมโหมากและที่รองรับอารมณ์ของเขาก็คือผม เขาซ้อมผมแล้วก็ลากผมขึ้นเตียงเขาทำทีท่าเหมือนกำลังข่มขืนผม เขาบอกให้ผมร้องแล้วก็ดิ้นหนี เขาเรียกชื่อของวาซ้ำๆผมแกล้งทำเป็นว่าถูกข่มขืน คืนนั้นผมจินตนาการว่าพี่วิทย์คือแฟนของวาผมนึกภาพว่าถูกแฟนของวาข่มขืน ผมมีความสุขมาก ผมมารอพี่วิทย์อยู่นานแล้วหลังจากนึกทบทวนความหลัง ผมก็รู้สึกว่ามีหมอกควันลอยอยู่ทั่วไปผมไม่ได้รู้สึกกลัวเพราะคุ้นเคยกับการมาของพี่วิทย์ เขาลอยอยู่บนน้ำที่ผิวสระของโรงแรมในมือเขามีลูกแก้วกลมๆ สีเขียวเหมือนใบไม้มาด้วย เขาเดินเข้ามาแล้วก็หยิบให้ผม "เข้าห้องน้ำไปแล้วก็กลืนยานี้มันจะทำให้เจ้ากลายเป็นเพื่อนของเจ้า ทั้งรูปร่างและเสียงเมื่อไปถึงห้องนอนของครุฑ อย่าได้พูดคุยกันมากเพราะครุฑเป็นสัตว์ฉลาดมันจะสงสัยเจ้า" "แล้วพี่จะให้ผมทำยังไงบ้าง" ผมถามพี่วิทย์ตอนนี้เขามายืนอยู่ข้างๆ ผม พี่วิทย์กลายเป็นคนตาบอดนับตั้งแต่ครั้งที่ผมล่อวาไปหาพี่วิทย์ที่บ้านพี่วิทย์ดุอาฆาตแฟนของวามาก เขาบอกว่าจะต้องทำลายครุฑให้ได้ "ตั้งกล้องบันทึกเอาไว้แล้วก็ร่วมเพศกับมัน"พี่วิทย์พูด "แต่ผมเป็นเมียพี่นะ" "กูรู้ว่ามึงอยากเป็นเมียมันอย่ามาตอแหลเล่นลิ้นกับกู" ผมเงียบไป แล้วก็มองดูลูกแก้วสีเขียวในมือตัวเอง "กินแล้วจะกลายเป็นวานานเท่าไหร่" ผมถาม "หนึ่งราตรี พรุ่งนี้เช้าก็คืนร่างเดิมเจ้าต้องอาศัยช่วงที่มันนอนอยู่บนเตียง เอามีดอาบพิษนาคแทงมันที่หัวใจแล้วก็เอากล้องวิดีโอที่บันทึกไว้มาด้วย" "จะเอาวิดีโอที่ผมในร่างวากับเขาร่วมเพศไปทำอะไร?"ผมถามด้วยความสงสัย "มึงไม่ต้องรู้!!!" ผมพยักหน้าแล้วรีบเดินไปทางล็อบบี้โรงแรมทันทีผมแจ้งชื่อกับเคาน์เตอร์โรงแรม ผมบอกชื่อวาไปพนักงานรีเซฟชั่นโทรขึ้นไปหาแฟนของวาที่ห้องและอนุญาตให้ผมขึ้นไปได้ ผมแวะเข้าห้องน้ำข้างลิฟต์ผมปิดประตูล็อคตัวเองอยู่ข้างใน เสร็จแล้วก้กลืนลูกแก้วสีเขียวที่พี่วิทย์ให้เข้าไปในท้อง ยาเริ่มออกฤทธิ์ทันทีมันมีรถขมจัดจนอยากจะอาเจียนออกมา ผมรู้สึกว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผมขาวขึ้น สูงขึ้นสายตาดีขึ้นจนไม่ต้องใส่แว่นตา ผมออกมาดุตัวเองหน้ากระจกแล้วก็ต้องตกใจผมเห็นวาอยู่ในกระจก วาเพื่อนของผมแต่อยู่ในชุดของผม ผมเดินข้ึนไปบนชั้นที่พนักงานโรงแรมแจ้งผมเคาะห้องหมายเลข 1110 แฟนของวาเปิดประตูออกมารับ เขาดูมีเสน่ห์เหลือเกินกลิ่นหอมสดชื่นของเขาทำให้ผมมีอารมณืขึ้นมาทันที ผมไม่รู้ว่าอาการของวาตอนอยู่กับแฟนจะเป็นยังไงผมเดาว่าวาคงเรียบร้อย เลยได้แต่นั่งนิ่งๆ อยู่บนโซฟา แต่ผมก็นึกถึงคำพูดของพี่วิทย์ยานี้มีอายุแค่คืนเดียว ผมจะช้าอยู่ไม่ได้ ผมตัดสินใตเดินเข้าไปหาแฟนของวาผมปลดกระดุมเสื้อของเขาพยายามจะจูบเขา "แม่เป็นยังไงบ้าง?" อยู่ๆแฟนของวาก็ถามขึ้นมา ผมไม่ใช่คนโง่ ผมไม่ยอมชะงักไปให้เขาสงสัยได้ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้แฟนของวาทันที "ดีแล้ว หายป่วยก็ดีแล้ว"แฟนของวาพูดขึ้นมา ผมเพิ่งรู้ว่าแม่ของวาป่วย "คิดถึงผมมากหรือ?" แฟนของวาถามผมต่อ "คิดถึงสิครับ" เสียงของผมเหมือนวาไม่มีผิดไม่มีทางที่แฟนของวาจะจับพิรุธได้เลย ผมถอดเสื้อตัวเองแล้วก็ถอดเสื้อของเขาพยายามดันเขาไปที่เตียง แฟนของวายิ้มแล้วก้บอกว่าจะไปอาบน้ำก่อนตอนนี้เขาไม่สะอาด ผมคิดว่าแฟนของวาคงติดนิสัยสะอาดผมพยักหน้าให้แล้วก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองไปนอนรอที่เตียง เสียงน้ำจากฝักตัวเปิดอยู่ไม่ถึงห้านาทีแฟนของวาก็เดินออกมา เขามีผ้าขนหนูพันช่วงล่างมาด้วย หยดน้ำใสเกาะอยู่เต็มตัวแฟนของวามีรูปร่างดีจริงๆ ผมรู้สึกถึงความชื้นแฉะอย่างมหาศาลของตัวเองวาโชคดีมากที่มีแฟนสมบูรณ์แบบขนาดนี้ ผมไม่รอช้าผมดึงแล้วสลัดผ้าเช็ดตัวของแฟนวาออกมา ผมเช็ดหยดน้ำจากหน้าอกล่ำสันให้เช็ดแผ่นหลังไล่มานถึงขา ผมจับแท่งของเขาขึ้นมาอมไว้ในปากแฟนของวาก็มีอารมณ์เหมือนกัน แท่งของเขาแข็งตัวอย่างรวดเร็วเส้นเลือดไหลมาเลี้ยงแท่งจนกลายเป็นสีแดง เขาช่างเป็นชายชาตรีที่สมบูรณ์จริงดูแข็งแรงไปหมดทุกส่วน ผมหลงใหลอยู่กับอวัยวะแสดงความเป็นชายของเขาอยู่นานเขาดูมีความสุขมาก ผมทำให้เขาแตกออกมาคาปากได้เขาร้องกดหัวผมเข้าออกแล้วผมก็รู้สึกถึงน้ำอุ่นไหลเข้าไปในคอ เขาบอกว่าผมดูเป็นคนใหม่ที่เก่งกว่าเดิมเขาชอบที่ผมเป็นแบบนี้ แน่นอนอยู่แล้วเรื่องแบบนี้วาไม่มีทางสู้ผมได้แน่ผมผ่านผู้ชายมาโชกโชนตั้งแต่ชั่นมัธยมมาจนถึงมหาลัย ผู้ชายที่นอนกับผมชมผมเรื่องนี้ทุกคน ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่ทนกลั้นน้ำตัวเองได้เกินห้านาทีในปากของผมครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แฟนของวาปล่อยน้ำแตกออกมาเขาร้องเสียงหลงเสร็จแล้วก็กระชากผมขึ้นเตียง เขาถ่างขาผมออกแล้วก็แทงพรวดลงไปแฟนของวาแข็งแรงกว่าใครที่ผมรู้จัก แม้จะถูกผมดูดจนแตกคาปากไปแล้วแต่แท่งของเขาก็ยังแข็งต่อเนื่อง สามารถร่วมเพศกับผมได้ต่อทันทีโดยไม่ต้องพัก แฟนของวามีลีลาต่างจากพี่วิทย์เขาร้อนแรงสลับกับนุ่มนวล ไม่เหมือนพี่วิทย์ที่มีแต่ด้านรุนแรงและซาดิสม์ แฟนของวาเรียกชื่อวาต่อเนื่องเขาใช้จมูกถูไปมาตรงซอกคอของผม ผมดันตัวขึ้นมาเพราะนึกอะไรขึ้นได้ผมลืมบันทึกวิดีโอ ผมยิ้มให้แฟนวาแล้วก็ค้นกระเป๋าผมหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกโดยวางไว้กับโต๊ะข้างเตียง แฟนของวาสงสัยนิดหน่อย ผมบอกเขาว่าอยากเก็บวิดีโอไว้ดู จากนั้นผมก็หยิบผ้ามามัดมือของเขาไว้กับหัวเตียงกล้ามแขนล่ำสันยามที่ถูกยกแขนรวบไว้ด้วยกันทำให้ผมแทบคลั่ง แฟนของวาถูกผมมัดไว้แขนสองข้างของเขาถูกมัดไว้ไม่ให้เป็นอิสระ ผมลูบซอกใต้แขนกับเนินอกกว้างอย่างหลงใหลผมก้มลงดูดยอดอกของแฟนวา เขาคราวเสียงต่ำในคอ จากนั้นผมก็ขึ้นไปนั่งคร่อมผมขย่มแท่งใหญ่นั้นสุดแรง แฟนของวาร้องต่อเนื่อง ดูเหมือนเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเขาดูมีความสุขมาก เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ ผมเก่งกว่าวาทุกอย่างและถ้าแฟนวาเจอผมก่อน รับรองเขาจะต้องติดใจผมจนไม่ยอมห่างผมไม่ไหนแน่ ผมมั่นใจ ผมเห็นแฟนของวานอนดิ้นเหมือนคนบ้าผมก็ยิ่งมีความสุขผมรู้ว่าแฟนของวามีสุขมาก ขาของเขาเกร็งและชันขึ้นมา ผมยิ้มกริ่มด้วยความมั่นใจผมทำให้แฟนของวามีความสุขมากกว่าตอนที่เขาอยู่กับวาผมก้มลงจูบแล้วก็ควานลิ้นไปในปากเขา ผมจับสร้อยคอที่มีรูปจี้เป็นแผ่นโลหะขึ้นมาดูแท่งโลหะนั้นสลักคำว่า "matador"
|