โอม ให้มึงหลงกู โอม ให้มึงรักกูอย่ามีคนอื่นให้หลงแต่กู โอม คชสารนิลกาฬจงเป็นกำลังให้กู ผมพึมพำคาถาตามที่แม่หมอบอกแม่หมอเอาวันเดือนปีเกิดของผมกับพี่มิทไปผูกดวงไว้ด้วยกันกลายเป็นกระดาษสีดำแผ่นเท่าฝ่ามือ กลางด้ายที่จัดทำเป็นวงล้อมผมมีขวดน้ำไคลหว่างขาที่ผมอาบมาเมื่อเช้าอยู่ด้วยใกล้กันก็มีเศษของเบื้องต่ำที่ผมแอบไปเก็บมาจากถังขยะที่พี่มิททิ้งถุงใส่กางเกงในหลังปิดค่าย แม่หมอกำลังทำพิธีเรียกมนต์ช้างดำให้ชายรักชายหลงกำลังวังชาแข็งแรงปานช้างดำในป่า เอาอะไรมาห้ามก็ฉุดไม่อยู่ ผมท่องคาถาตามแม่หมอแล้วก็คิดถึงแต่หน้าพี่มิท “ให้มึงทำน้ำไคลหว่างขาล้างมันออกมาทุกซอก ทำทุกวันใส่ขวดเก็บเอาไว้ พอได้ครบแล้วก็เอามาให้กูทำพิธี” แม่หมอบอก ผมได้รับคำแนะนำจากเพื่อนผู้หญิงให้มาพึ่งแม่หมอที่นี่แม่หมอเป็นหมอผีหมออาคมชาวเขาที่อยู่บนดอยสูง ค่าทำพิธีกับค่าเดินทางนั้นแพงเอาการแต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับนั้น คุ้มเกินคาด เดือนที่แล้วเพื่อนของผมแย่งแฟนของพี่รหัสตัวเองมาได้ผู้ชายที่โดนมนต์ช้างดำทั้งรักทั้งหลงจนลืมแฟนเก่าหันมาเอาใจเพื่อนของผมจนไม่สนใจคนอื่น ผมอยากจะทำให้พี่มิทสนใจผมให้มากกว่าสนใจเด็กคณะทันตะนั่นผมไม่เคยรู้สึกขายหน้าขนาดนี้มาก่อน ผมไม่เคยถูกปฏิเสธ หลังทำพิธี พี่มิทจะเป็นฝ่ายมาหาผมเอง “ถ้ามึงเอาขวดน้ำไคลไปให้เอาไปผสมข้าวผสมน้ำให้คนที่มึงหมายปองเขากิน เมื่อเขาตามมึงมาที่ห้องก็ให้เอากัน ตอนเอากันก็เทน้ำไคลอีกขวด เทให้ทั่วแล้วก็ลูบน้ำไคลชโลมร่างมันแล้วมันจะรักมึงหวงมึงคนเดียว ไม่มีใจเหลียวแลคนอื่น” แนะนำ : ตอนต่อไปนี้มีฉากล่อแหลมมีการใช้คำพูดในลักษณะการร่วมเพศอย่างชัดเจน อาจจะมีคำหยาบในบทพูดของตัวละคร ใครไม่ชอบอ่านบทบรรยายแนวนี้ให้ข้ามไปก่อนจนกว่าจะถึงตอนปกตินะครับตอนปกติจะไม่มีตัวแดงๆไว้เตือนแบบนี้ ผมรู้สึกเหมือนมีคนมากระซิบข้างๆหูป้าเดินเข้ามาเปิดเปลือกตาของผมดูแล้วก็เดินเข้าไปในห้องนอน ป้ากลับออกมาพร้อมกับตลับขี้ผึ้งป้าใช้นิ้วมือวนอยู่ในตลับแล้วก็ป้ายขี้ผึ้งบนเปลือกตาของผม ลมอุ่นๆพัดเข้ามาหาผมอยู่วูบนึงแล้วก็หายไป “สงสัยจะมีคนคิดถึง” ป้าพูดแล้วก็ตบแก้มผมเบาๆผมหันไปมองตานแล้วก็ยิ้มออกมา “กินข้าวกันเถอะครับ” ตานดูเข้ากันได้ดีกับป้าผมเห็นทั้งสองคนคุยกันอย่างสนิทสนมตอนผมเดินกลับมาจากบ้านใหญ่มาถึงตอนกินข้าวเย็นก็ยังเห็นคุยกันไม่หยุด วันนี้ดูป้าจะคุยกับตานมากกว่าผมซะอีกนี่เป็นนิมิตหมายที่ดีว่า ถ้าหากป้าชอบตานแล้ว โอกาสที่พ่อกับแม่จะชอบตานก็มีมาก . . วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกยังไม่มีงานอะไรให้ทำมากนัก ส่วนมากก็เข้าไปนั่งคุยกับเพื่อนและอาจารย์ผมออกมาเดินดูขนมที่หน้าคณะ คิดว่าจะหิ้วไปฝากตานที่คณะ พอดีมาเจอไอ้เป้ซะก่อน “เฮ้ยมิทคืนนี้อย่าลืมไปงานวันเกิดไอ้โมทกับไอ้เอกนะเพื่อน” ไอ้เป้มาถึงก็หาที่นั่งแล้วก็แกะกล้องออกมาดูแบตเตอรี่ ผมวางกระเป๋าลงกับโต๊ะแล้วก็นั่งลงตรงข้ามกับมัน “เกิดอีกแล้วเหรอวะเพิ่งจัดงานไปแหม็บๆ กูจำได้” “ครบปีแล้วมึงไปเหอะเพื่อน กินเผื่อกูหน่อย คืนนี้กูติดงาน ต้องไปหาเงินเข้ากระเป๋า” “ไปไหนของมึง?” “ถ่ายภาพนอกสถานที่” ไอ้เป้ยุกยิกอยู่กับกองรกๆตรงหน้ามันแล้วก็พูดต่อ “ไม่ต้องหาของไปให้มันหรอกแค่ไปเจอหน้าทักทายกัน จิบอะไรเย็นๆแล้วมึงก็กลับ ผูกมิตรไว้ก็ดี มีงานสโมสรขึ้นมาพวกมันจะได้มาช่วย” ก็จริงอย่างที่ไอ้เป้พูดอันที่จริงผมก็ไม่ได้สนิทกับพวกสโมสรบาสเกตบอลเท่าไหร่อาศัยว่าไอ้เป้เป็นตัวกลางเลยมีโอกาสคุยกัน “ยังไงก็ต้องมีของติดมือไปบ้างกูไม่ได้หน้าหนาอย่างมึง เอะอะก็เพื่อนกันแล้วเดินเข้าไปแดกของเขาฟรีๆ” “วกมาด่ากูจนได้นะแหมเพื่อนรัก กูไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนมึงนี่ หน้าตาก็อุบาทว์ จนก็จนใครจะเหมือนมึงล่ะ” “ดีกูไม่ต้องเปลืองแรงด่า” ผมพูดกับไอ้เป้แล้วก็นั่งเคาะนิ้วคิดหาของไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน “เอาอะไรไปดีวะ?” ผมถามไอ้เป้ “อุปกรณ์กีฬาลูกฟุตบอล ตาข่ายตะกร้อ ชุดวอร์ม กูเห็นแม่มึงขนไปแจกเด็กชาวเขาเมื่อวานข่าวลงหน้าไฮโซในหนังสือพิมพ์ด้วยนะ” “โตเป็นควายแล้วใครจะมาเอาของพวกนั้น” ผมส่ายหน้ากับความคิดไอ้เป้ “งั้นก็เหล้านอกเป็นไงหิ้วไปซักสองขวดก็พอแล้ว ไอ้พวกนั้นมันคอตลาด ได้แดกของนอกหน่อยขี้คร้านจะติดใจ” ผมพยักหน้าช้าๆ ตามที่ไอ้เป้พูด เหล้านอกที่บ้านผมก็มีอยู่เยอะมีคนให้พ่อมาหลายสิบขวด ไม่ได้เอามาใช้เลยเพราะพ่อกับแม่ผมไม่ดื่มเหล้า ดื่มแต่ไวน์ที่เก็บในชั้นใต้ดิน “เอาแฟนมึงไปด้วยดิเพื่อน” ไอ้เป้พูด “ตานเขาไม่ชอบงานแบบนี้หรอกกูเองก็ชักเบื่อ กินๆดื่มๆ มากเข้าก็อ้วกออกมา สู้นอนดูหนังอยู่บ้านดีกว่า” ไอ้เป้ทำหน้าล้อเลียนทันทีหลังจากผมพูดจบ “ได้เมียดีหน่อยทำเป็นลืมสันดานเดิมเชียวนะมึงไอ้คุณมิท” “กูก็เป็นของกูแบบนี้อะไรที่ทำบ่อยแล้วกูก็เบื่อ อะไรที่มันเยอะเกินกูก็ไม่ชอบ ทั้งคนทั้งของ” “มึงนี่หลงน้องซะโงหัวไม่ขึ้นเลยนะคืนนี้ก็อย่าเผลอไปเย็ดใครเข้าล่ะ น้องหมอฟันรู้เข้ามึงจบเห่แน่” “มึงไม่ต้องมาปากดีหรอกกูเคยไปทำอะไรใครที่ไหน อย่างมากก็แค่จูบปากกับกอดนิดหน่อย มากกว่านั้นกูไม่เคยทำ” . . . ผมนัดกับพี่โมทเอาไว้เวลาสองทุ่มตรงที่คอนโดผมซ่อนขวดใส่น้ำไคลหว่างขาเอาไว้ในกระเป๋า แม่หมอบอกว่าให้ป้ายน้ำไคลที่ทำพิธีใส่อาหารหรือเครื่องดื่มให้เป้าหมายกินแล้วยิ่งพี่มิทกินเหล้าด้วยแล้ว จะยิ่งเคลิ้มไปใหญ่จนไม่รู้เรื่อง โชคดีมากที่วันนี้เป็นวันเกิดพี่โมทกับเพื่อนในชมรมบาสพี่โมทกับผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แม่ของพี่โมทเป็นป้าของผม เพื่อนของพี่โมทมีพี่เอก พี่เอกเป็นเซนเตอร์ในทีมบาสฯพี่เอกเป็นผู้ชายเงียบๆ หน้าตาตี๋ๆ ใส่แว่นกรอบสี่เหลี่ยม พี่เอกสูงร้อยเก้าสิบห้าวันนี้ก็เป็นวันเกิดพี่เอกด้วยเหมือนกัน พี่โมทกับพี่เอกเกิดวันเดียวกันพอดี เพื่อนอีกคนของพี่โมทชื่อพี่โอมพี่โอมตัวสูงไล่เลี่ยกับพี่โมท รูปร่างก็ใกล้กัน เป็นผู้ชายตัวหนาๆผมนั่งมองสามหนุ่มชมรมบาส จริงๆทั้งสามคนเป็นคนหน้าตาดี พี่โมทสูงกว่าผมสิบเซนฯ เป็นคนตัวหนาไหล่หนาและกว้าง ผิวออกสีแทน พี่โอมสูงพอๆกับพี่โมท รูปร่างก็ใกล้เคียงกันแต่พี่โอมผิวออกขาวกว่าพี่โมท และคนสุดท้ายคือพี่เอก พี่เอกดูง่ายว่ามีเชื้อจีนพี่เอกเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยคุย เป็นคนที่สูงที่สุดในทีม แขนขาใหญ่สมเป็นนักกีฬา ต้นแขนพี่เอกใหญ่เหมือนคนออกกำลังกายสม่ำเสมอพี่เขาใส่แว่นตาเหมือนเด็กเนิร์ด แต่ยังไงแล้ว ก็ไม่มีใครสู้พี่มิทได้เลยอาจจะเพราะพี่มิทเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของเลือดไทยและเลือดต่างชาติผมได้ยินเขาพูดกันว่าพี่มิทมีเชื้อสายรัสเซีย เมื่อบวกกับนิสัยเพลย์บอยเอาแต่ใจตัวเองทำให้ผมรู้สึกว่าพี่มิทดูมีเสน่ห์มาก พี่มิทเป็นคนรูปร่างสมส่วนมีกล้ามเนื้อสวยงาม เป็นผู้ชายที่ทำให้ผู้ชายด้วยกันอิจฉา และทำให้เกย์เกิดความรู้สึกอยาก...อยากจะถอดผ้าแล้วถ่างขารอพี่มิทเข้ามาเล่นสนุกกัน ผมนั่งๆนอนๆอยู่บนโซฟาจนได้เวลาทุ่มกว่าโรงแรมส่งอาหารจัดเลี้ยงเข้ามาที่หน้าห้องผมเซ็นชื่อรับแล้วก็เอามาเทใส่ถาดมีฝาปิด ผมถามพี่โมทย้ำๆกันสองครั้งแล้วว่าวันนี้พี่มิทจะมาแน่นอน “มันมีแฟนแล้วไม่ใช่หรือไง?” พี่โมทยักคิ้วแล้วถาม “มีแล้วไง?” ผมเบะปาก “มันหลงน้องคนนั้นจะตายตอนไปค่ายไม่ยอมห่างกันเลย หาคนใหม่เหอะ” “เออน่าอยู่เฉยไปเลย เดี๋ยวจะจัดการเอง รับรองพี่มิทลืมเด็กทันตะนั่นไปเลยแหละ” ผมไม่ได้บอกใครเรื่องทำของผมถามแม่หมอแล้วว่ามนต์ช้างดำไม่ได้ทำให้เป้าหมายเจ็บป่วยหรือเป็นบ้าไม่ได้สติมนต์ช้างดำแค่โน้มน้าวจิตใจให้คล้อยตาม เมื่อมนต์หยุดลง เป้าหมายก็จะกลับมาเป็นปกติแต่ก็จะรู้สึกรักและผูกพันจนไม่ยอมห่างไปไหน “รักกูหลงกู อย่ามีคนอื่น ให้หลงแต่กู โอม คชสารนิลกาฬจงเป็นกำลังให้กู” ผมท่องมนต์ช้างดำแล้วก็ลูบกระเป๋าที่มีขวดน้ำไคลอยู่ด้วย “เป็นอะไร?” พี่โมทถาม “เออน่าไปจัดที่จัดทางได้แล้ว วันนี้อุตส่าห์ลงทุนซื้อของมาให้” ผมท่องคาถาต่อไปหวังให้มนต์ช้างดำทำงานเต็มที่ ระหว่างนั้นก็ไปเตรียมถาดแก้วหลายสิบใบเอาไว้เผื่อมีสังสรรค์เหล้ากัน ผมจัดโซดาไว้ตรงกลางห้องรับแขก คอนโดของพี่โมทเป็นห้องชุดกว้างๆตรงกลางเป็นห้องรับแขกที่วันนี้ผมเปลี่ยนให้เป็นโต๊ะจัดเลี้ยง เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลา มันเดินมาจนถึงสองทุ่มเพื่อนของพี่โมทก็เดินทางมาจนเต็มห้อง รวมทั้งพี่มิทด้วยพี่เขาหิ้วกล่องเหล้ามาด้วยสองกล่อง พี่โมทไปคุยกับพี่มิทอยู่ครู่เดียวก็เรียกผมรับขวดเหล้าไปชง “เปิดเลยเหรอ?” ผมมองขวดเหล้าแล้วถาม “เปิดเลยสิอยากชิมเหล้าฝรั่ง” ผมยิ้มให้พี่มิทแล้วก็เข้าไปเปิดเหล้าหลังครัวดีเหมือนกัน คืนนี้ผมจะเป็นคนชงเหล้าเองแก้วที่พี่มิทใช้ผมจะเคลือบน้ำไคลลงอาคมเอาไว้ รับรองคืนนี้พี่มิทต้องเสียน้ำแน่ “ผัวใครเจ้าของไม่มา ผัวคนนั้นก็ถูกแย่ง”ผมร้องเพลงอารมณ์ดี “ร้องเพลงในครัวได้ผัวแก่” พี่โอมหัวเราะแล้วขอแก้วผมไปหนึ่งใบ“อยู่ในถาดข้างนอกนั่นไงผมเอาไปวางไว้แล้วเมื่อกี้” . . . พี่โอมเปิดเพลงเบาๆบรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงเริ่มครึกครื้น อันที่จริงพี่มิทก็ไม่ได้สนิทกับกลุ่มพี่โมทเท่าไหร่แต่พี่มิทเป็นคนเข้ากับคนง่าย เหมือนเขาชอบอยู่กับคนมากๆ ผมคิดไม่ถึงว่าพี่เขาจะชอบเปลี่ยนคู่อยู่บ่อยๆจนเขาพูดกันไปทั่วทั้งมหาลัยแบบนี้ “พี่มิทกินเยอะๆนะครับนัทสั่งอาหารมาเยอะเลย” ผมพูดแล้วลากเก้าอี้เข้ามานั่งข้างๆพี่มิท “มาอยู่นี่ได้ไงครับน้องเค้ก?” พี่มิทลูบหัวเบาๆ “อยากกินเค้กมั้ยครับ?” ผมโปะฝ่ามือลงไปบนขาของพี่มิท “ไม่ล่ะครับพี่ไม่ชอบของหวาน” “นัทเป็นน้องพี่โมทครับคืนนี้มาช่วยรับแขก” “หน้าตาแบบนี้แขกคงชอบ” พี่มิทยิ้ม “แล้ว...พี่มิทชอบมั้ยล่ะครับ?” “ก็ชอบสิครับทำให้บรรยากาศน่ามองกว่าตอนมีไอ้เป้” พี่มิทหัวเราะผมล่ะอยากให้พี่มิทเทียบผมกับเด็กทันตะนั่นจะๆไปเลย ว่าใครหน้าตาดีกว่ากัน “พี่มิทมาคนเดียวเหรอครับ?” ผมถามแล้วมองไปรอบๆ “มาคนเดียวครับวันนี้ไอ้เป้ติดงาน” พี่มิทไม่ได้พูดถึงเด็กทันตะนั่นเลยไม่รู้ว่าหวงจนไม่พูดถึงหรือเบื่อจนไม่อยากพูดถึง ถ้าเป็นอย่างหลังผมคงไม่ต้องออกแรงมาก “นึกว่าพี่มิทจะพาแฟนมาด้วยซะอีก” ผมแหย่คิดว่าพี่มิทจะยิ้มเฉยๆ แต่ผิดคาด “ตานไม่ชอบที่แบบนี้หรอกครับต้องพาเขาไปเดินห้าง ดูนั่นดูนี่” ผมซ่อนหน้าหงิกไว้แทบไม่ทันนี่ยอมรับแล้วสินะว่ามีแฟน ไหนใครบอกว่าพี่มิทไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นแฟนกับใครไม่มีใครที่พี่มิทเคยเรียกว่าแฟนมาก่อน นี่ผมหมดโอกาสที่จะเป็นคนแรกไปเลยทันทีผมล่ะเกลียดนักกับการมาเป็นที่สอง “ปวดท้องหรือเปล่าครับ?” พี่มิทถามผมรีบยิ้มออกมากลบเกลื่อน “เปล่าครับ” ผมหัวเราะเบาๆ“พี่มิทไม่มีเครื่องดื่มเลยเดี๋ยวผมไปชงเหล้าให้นะครับ” “ไม่ต้องเข้มมากนะครับพี่คอไม่แข็ง เดี๋ยวกลับบ้านไม่ไหว”พี่มิทยิ้ม “แล้วมีอะไรที่มันแข็งบ้างครับ?” ผมส่งสายตาไปให้อย่างน้อยคนแบบผมก็ไม่ใช่คนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหล่ถ้าพี่มิทมีอารมณ์ร่วมก็คงรู้ว่าผมเปิดทางให้ “ก็แข็งบ้างอ่อนบ้างตามอารมณ์และอากาศครับ” ผมยิ้มแล้วก็เดินออกไปชงเหล้าในห้องครัวผมดึงแก้วสะอาดออกมา จัดการเทน้ำไคลลงไปในแก้วใสๆผมเอียงแก้วไปมาให้น้ำไคลเคลือบแก้วจนทั่ว เมื่อเทเหล้าผสมกับโซดาแล้วใส่น้ำแข็งผมก็ใช้แท่งพลาสติกคนไปมาเบาๆ “โอมให้มึงหลงกู โอม ให้มึงรักกู อย่ามีคนอื่น ให้หลงแต่กู โอมคชสารนิลกาฬจงเป็นกำลังให้กู”ผมได้ยินเสียงช้างร้องมาแว่วๆคืนนี้พี่มิทไม่มีทางหนีผมได้พ้นแน่ ผมยกแก้วเหล้าไปวางไว้หน้าพี่มิทระหว่างนั้นก็รอให้พี่มิทดื่มอย่างเดียว “อ้าวแล้วของพี่ล่ะ ไอ้โอม ไอ้เอกด้วย”พี่โมทท้วง ผมพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ต้องเดินกลับไปชงมาเพิ่มอีกสามแก้ว แต่ก็ดีเหมือนกันพี่มิทจะได้ไม่สงสัยว่าผมรออะไรอยู่ เดี๋ยวผมจะเข้ามาชโลมน้ำไคลให้ตัวเอง ถ้างานเลี้ยงเลิก ผมมีห้องว่างอยู่หนึ่งห้องจะไม่มีใครเข้ามากวนผมกับพี่มิท คืนนี้ผมได้เห็นน้ำสเปิร์มพี่มิทแน่ ผมเดินถือถาดเหล้าออกไปให้พี่โมทกับเพื่อนสายตาก็มองไปเห็นแก้วที่ว่างเปล่าของพี่มิท แผนขั้นแรกสำเร็จพี่มิทดื่มเหล้าผสมน้ำไคลไปเรียบร้อยแล้ว!!! จังหวะนั้นผมยิ้มกริ่มผมยกเหล้ากับโซดามาให้พี่โมทชงเองเพราะดื่มกันเร็วจนผมทำให้ไม่ทัน แนะนำ : ตอนต่อไปนี้มีฉากล่อแหลม มีการใช้คำพูดในลักษณะการร่วมเพศอย่างชัดเจนอาจจะมีคำหยาบในบทพูดของตัวละคร ใครไม่ชอบอ่านบทบรรยายแนวนี้ให้ข้ามไปก่อนจนกว่าจะถึงตอนปกติที่ไม่มีตัวแดงๆไว้เตือนแบบนี้ . . . ผมเดินเข้าไปในห้อง จัดการอาบน้ำขัดตัวเสร็จแล้วก็ชโลมน้ำไคลทำพิธี ผมรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยที่ต้องเอาน้ำล้างหว่างขาตัวเองมาอาบ แต่เพื่อพี่มิทแล้ว ผมเต็มใจทำ ผมรอเวลาจนเพลงข้างนอกเงียบเสียงลงเวลาผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมงแล้ว เพื่อนของพี่โมทหลายคนทยอยกันกลับ ผมเดินออกไปในห้องรับแขกกลิ่นเหล้ากับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายลอยคละคลุ้งไปทั่ว ผมรู้สึกตัวลอยๆ เหมือนเท้าไม่ติดพื้นรู้สึกว่าหว่างขามันร้อนไปหมด ผมมีเริ่มอารมณ์กับกลิ่นเหล้าและกลิ่นน้ำหอม ตัวผมเหมือนมีใครมาเป่าลมร้อนๆใส่มันวูบวาบไปหมดทั้งตัว ผมเห็นพี่มิทนอนอยู่บนโซฟาผมใช้แรงทั้งหมดประคองพี่มิทขึ้นมา ผมลากพี่เขามาถึงห้องนอนตัวเองจนได้ พี่มิทดูมีเสน่ห์มากจนผมรู้สึกเปียกแฉะไปหมดอยากจะเลียให้ทั่วตัวพี่มิท ผมใช้ฝ่ามือลูบไปบนหน้าท้องเป็นลอนผมถอดเสื้อกล้ามของพี่มิทออกแล้วก็ขึ้นมาคร่อมพี่มิทเอาไว้ พี่มิทพยายามปัดแขนผมออก ผมไม่สนใจอะไรแล้วข้างนอกก็ไม่มีคนอยู่เลย ผมคิดว่าพี่โมทคงพาเพื่อนไปกินที่อื่นต่อ ห้องชุดกว้างๆเหลือผมกับพี่มิทแค่สองคนเท่านั้น ผมถอดเข็มขัด ลากกางเกงขายาวของพี่มิทออกผมดึงกางเกงในพี่มิทออก จากนั้นก็ใช้ปากครอบลงไปบนแท่งอวบๆตรงหน้า เชื้อสายรัสเซียของพี่มิทยังปรากฏในแท่งอุ่นๆในปากผมมันใหญ่และอวบกว่าผู้ชายไทยทั่วไปอย่างชัดเจน “ผมจะทำให้พี่ลืมคนอื่นไปเลย” ผมดูดแล้วชักแท่งของพี่มิทขึ้นลงมือซ้ายลูบไปตามถุงเนื้อนุ่มๆ แท่งอวบนั้นค่อยๆแข็งและตั้งขึ้นมา น้ำใสๆไหลซึมออกมาจากรอยแยกตรงปลายแท่งมากขึ้นเรื่อยๆ พี่มิทเลิกขัดขืนแล้วก็จับหัวผมขยี้ไปมาอย่างรุนแรง “ดูดแรงๆ” พี่มิทร้องกระเส่า “อย่าเพิ่งแตกไปก่อนนะครับ” ผมดูดแท่งพี่มิทเสียงของเหลวแฉะๆ ดังไปมาในปากของผม พี่มิทครางจนผมรู้สึกเสียวไปหมด ผมถอดเสื้อพี่มิทออกจัดการเลียหัวหน่าวขึ้นไปถึงหัวนม หัวนมพี่มิทตั้งขึ้นมา มันอยู่บนเนินอกใหญ่ๆ ช่างสมกับที่ผมรอมานาน พี่มิทหุ่นดีมากผมจะรอดูว่าพี่มิทมีน้ำมากขนาดไหน ผมไซ้ซอกคอพี่มิท มือขวาก็ชักแท่งพี่เขาแรงๆจนเขาร้อง พี่มิทชันเข่าขึ้นมา ก้นก็เด้งขึ้นลงให้แท่งตัวเองรูดไปกับกำมือของผม พี่มิทพลิกขึ้นมาอยู่บนตัวผมแล้วก็กดผมลงกับเตียงพี่มิทเลียตัวของผมที่ชโลมน้ำไคลเอาไว้ พี่มิทถูแท่งร้อนจัดของเขาไปมากับรูก้นของผม ผมรู้สึกถึงความชื้นแฉะของปลายแท่งของพี่มิทไม่นาน แท่งร้อนๆก็เบียดเข้ามาในรูของผม “ตอดโคตรๆ” พี่มิทเสียงสั่น ผมโดนฟันของพี่มิทขบเบาๆ ที่หัวนมแล้วพี่มิทก็ดูดจนผมรู้สึกเสียวไปหมด ปลายแท่งของผมก็แฉะมากแล้วเหมือนกัน พี่มิทเบียดแท่งร้อนๆ เข้ามาในหว่างขาของผม พี่เขาทำท่าวิดพื้นสองแขนใหญ่ๆของพี่มิทวางไว้บนเตียงนุ่มๆเหนือหัวไหล่ของผม จากท่าวิดพื้นช้าๆ ก็เริ่มเร็วขึ้นผมรู้สึกถึงแรงกระแทกหนักหน่วงที่หว่างขา พี่มิทร้องครางเสียงดังจากนั้นก็เลื่อนสองมือมาจับไว้กับซี่เหล็กอัลลอยเหนือหัวผม พี่มิทยึดเหล็กดัดไว้แน่น จากนั้นก็กระแทกตัวเข้ามาจนผมรู้สึกเสียวไปหมดผมรู้สึกว่ารูของผมมันร้อนผ่าวจากแรงเสียดสี ผมถ่มน้ำลายลงกับปลายมือแล้วก็เอาไปชโลมไว้กับรูตัวเองที่กำลังถูกแท่งพี่มิทซอยถี่ๆอยู่ แท่งของผมมันแข็งโด่โดยไม่ต้องใช้มือชักน้ำเหนียวๆมันเยิ้มลงมาจนถึงหน้าท้องตัวเอง ผมใช้ฝ่ามือขยำไปบนกล้ามเนื้อหน้าอกของพี่มิทจากนั้นก็ลูบไปจนถึงซอกใต้รักแร้และกล้ามเนื้อปีกหลัง พี่มิทถอดแท่งออกแล้วก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาซับเหงื่อผมเห็นแท่งตรงหว่างขาของเขาตั้งโด่แล้วก็ชี้ไปมาในอากาศ ผมชักขัดใจที่ถูกขัดจังหวะไป “เร็วๆสิครับ” ผมพูดแล้วก็ชักแท่งตัวเองไปมาตอนนอนรอบนเตียง พี่มิทกลับมาซอยผมอีกครั้งคราวนี้พี่เขาจับไหล่ผมไว้ทั้งสองข้างแล้วก็กระแทกตัวลงมาแรงๆผมขมิบรูตอดรอบแท่งพี่มิทแรงๆจนพี่เขาร้องขึ้นมาในคอ “ตอดสุดยอด” พี่มิทหายใจถี่ๆแล้วก็จูบผมพี่มิทจูบแล้วก็ดูดปากผมจนมีเสียงดังเหมือนดูดน้ำ มือขวาก็เลื่อนลงไปบี้หัวนมผม ตอนนี้แท่งของผมแข็งแล้วก็กระดกไปมาได้เอง พี่มิทถ่างขาผมออกแล้วก็ยกขาผมขึ้นเขากำข้อเท้าของผมไว้แน่นแล้วก็ดันแท่งเขาเข้าออก จากช้าๆไปเร็วมากขึ้นเรื่อยๆจนเกิดเสียงดังจากแรงกระแทก “แรงๆเลยครับจะแตกแล้ว” ผมหายใจหอบพี่มิทพยักหน้าแล้วก็ซอยถี่ๆ จนเกิดแรงกดลงไปบนเตียงตามแรงกระแทก แรงขมิบของผมมันมีทั้งบนแท่งตัวเองกับรูก้นยิ่งพี่มิทซอยเข้าออกแรงๆ ผมแทบจะทนไม่ไหว ผมลุกขึ้นมานั่ง ผมซ้อนแขนไปใต้รักแร้ของพี่มิทผมกอดเขาแน่นๆแล้วก็ขึ้นไปนั่งขย่มเอง อารมณ์ขอบผมมันพุ่งไปจนหยุดไม่อยู่แล้ว ผมขย่มลงไปบนตัวพี่มิท แรงๆถี่ๆปากก็กัดลงบนกล้ามเนื้อหัวไหล่ใหญ่ๆของพี่มิท เขาเกร็งตัวแน่นรับแรงกระแทกของผมผมรู้สึกว่าแท่งของพี่มิทแข็งเป็นหิน ผมรัดรูตัวเองแรงๆจากนั้นก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อหูรูดมันตอดไปเองอย่างเป็นอิสระ ผมร้องเสียงดังลั่นรูก้นตอดถี่ๆเป็นสิบครั้ง จากนั้นน้ำอุ่นๆก็แตกออกมาเองจนเปื้อนขึ้นมาถึงคอ พี่มิทจับผมนอนลงแล้วก็ซอยก้นลงมาถี่ยิบพี่มิทเรียกชื่อผมซ้ำๆจนเหมือนคนบ้าปากร้อนๆและลิ้นของเขาดันเข้ามาถึงในปากแล้วก็พันกันกับลิ้นของผม พี่มิทกระแทกลงมาถี่ๆได้ไม่นานก็แช่และเกร็งตัวไว้ผมรู้สึกว่าพี่มิทปล่อยน้ำพุ่งเข้ามาในท้องผมมากมาย จนแทบจะล้นปรี่ออกมาข้างนอก
|