เรียนรู้การดื่มไวน์ "Wine"

nameb

"ผมดื่มไวน์มาได้สักพักแล้วครับ ก็รู้สึกชอบอยู่ครับ แต่ชักงงๆ ว่าที่ดื่มอยู่เนี่ย มาถูกทางหรือเปล่า เสียดายเงิน อยากรู้จักวิธีการที่ถูกต้องอ่ะครับ"

ผมเข้าใจว่า...คุณคงตั้งคำถามโดยไม่ต้องการเทคนิคพิเศษ ผมเลยขออนุญาตแนะนำในเชิงว่า... แนวทางที่ถูกต้องนั้น....“ควรจะทำตัวอย่างไร” เสียมากกว่านะครับ ....ก่อนอื่น ผมต้องขอสมมุติว่า...คุณไม่ได้มีเงินถุงเงินถังนะครับ เป็นคนใช้เงินอย่างมีเหตุผลและมีหลักการ ไม่ได้ดื่มไวน์แห่ไปตามสังคมหรือเพื่อยกฐานะ

ตรงข้อแม้ที่ว่า...คุณอยู่เมืองไทย...ในตลาดไวน์ที่กรุงเทพฯ มันมีความสำคัญอย่างนี้ครับ คุณต้องทำความเข้าใจก่อนในระดับหนึ่งว่า ไวน์ที่คุณสามารถนำมาศึกษาเรียนรู้...ในเมืองไทย...มันเป็นแบบนี้ครับ

...ไวน์ตลาดล่าง... ตรงนี้มีอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด ไวน์กล่อง...ตุ่ม...ไห...ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มไวน์โลกใหม่ โดยเฉพาะจากออสเตรเลีย สนนราคามีตั้งแต่ร้อยกว่าไปชนสามสี่ร้อย สภาพไวน์นั้นเป็นแค่น้ำ (คล้าย) ผลไม้ปนเปื้อนแอลกอฮอล์ มีการเติมกลิ่นเติมสีด้วย โอ๊กก็มาจากถุง (เหมือนถุงเครื่องเทศหย่อนในน้ำพะโล้ยังไงอย่างงั้นเลย) เขาแกว่งลงไปเลย แต่ส่วนใหญ่โรยเป็นผงลงไปเลย คุณภาพแอลกอฮอล์นั้นหยาบคายซึ่งทำให้เกิดอาการ Hang Over (บางรายใช้เติมแอลกอฮอล์ลงไปเลยครับ...ไม่ต้องเสียเวลาหมัก) น่ากลัวมาก ๆ

...ไวน์ตลาดล่างบน...นี่เห็นเป็นรูปร่างขวดชัดเจน แต่น้ำไวน์ข้างใน...น่าสงสัยในที่มา สนนราคาอยู่ที่ห้าร้อยขึ้นมาชนเลขไม่เกินพัน ...ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำองุ่นที่ไม่ชี้แหล่งผลิตเฉพาะเจาะจง คือเป็นน้ำไวน์ ที่เหมาจากเกษตรกรมารวมๆ กัน อย่างเช่น
Bordeaux นี่เขาก็นำองุ่นทั่วแคว้นตรงไหนก็ได้มารวมกัน หรือ
St.-Emilion นี่ก็ดีขึ้นมาหน่อยโดยเอามาจากเขตที่เล็กลงมาหน่อย ...
Cabernet Sauvignon จาก California นี่ก็คือเอาองุ่นพันธุ์นี้ทั่วรัฐนี้มาปรุง ... (กว้างมากๆ)
Chianti นี่ก็น้ำไวน์ทั่วแคว้นคีอานตี ฯลฯ
...ถ้าเป็นกลุ่มไวน์โลกเก่า บ้านเราก็มีแค่ไวน์ฝรั่งเศสที่เนื้อบางจ้อย อิตาลีนี่ส่วนใหญ่เละเป็นโจ๊ก แต่กับไวน์ทางโลกใหม่อย่างชิลี ออสซี่ถือว่าไม่เลว แต่อเมริกา...ส่วนใหญ่ในราคานี้ยังด้อยคุณภาพอยู่

...ไวน์ตลาดกลาง... สำหรับบ้านเราจะมีราคาเริ่มต้นราวหนึ่งพันไปชนสามพันบาท ...ที่คุณภาพของไวน์ระดับนี้มีดีเลวคละเคล้ากันไป เริ่มเป็นไวน์ที่มีแบบแผนการผลิต มีเขตเฉพาะเจาะจง มีเทคนิคพิเศษ และมีลักษณะเฉพาะตัวอยู่บ้าง  ตรงนี้มี Question Mark ตัวโตๆ ครับ คือ ผู้นำเข้าไวน์บ้านเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำการบ้าน มักนำไวน์ที่ไม่สมราคามาตั้งหิ้งซ่อนไว้ ชาวบ้านเห็นราคาก็นึกว่าเป็นของดี (ก็มันดูแพง..ดี)  บางส่วนก็ขายไวน์โดยอาศัยชื่อเก่าๆ ที่ไม่จีรัง โดยสภาพความเป็นจริงแล้ว ...ถ้าเป็นเมืองนอก ...ไวน์ตรงนี้แหละครับมีของดีเพียบเลย แต่ตอนนี้เริ่มเห็นผู้นำเข้าหัวก้าวหน้าสามสี่ราย (ไม่ขอเอ่ย) เริ่มพัฒนาไวน์ระดับนี้ให้ดูน่าเชื่อถือขึ้นบ้างแล้ว

...ไวน์ตลาดบน... โอ...ไม่อยากจะเอ่ยถึงเลยครับ แตะต้องไม่ได้ ราคาบ้าเลือด หลักครึ่งหมื่นเลยไปชนครึ่งแสน ไม่ต้องพูดถึงคุณภาพ...มันแน่นอนอยู่แล้ว ต้องเสียสติแน่ๆ ถ้าคิดจะซื้อดื่มเอง ไวน์คลาสนี้เป็นไวน์ที่ผู้ซื้อไม่ได้ดื่ม ผู้ดื่มไม่ได้ซื้อ คนดื่มไม่รู้จักเสพ คนเสพไม่มีปัญญาดื่ม ...ไวน์เหล่านี้มีไว้ตั้งหน้าร้าน ให้ชาวบ้านเขาจำราคาไว้เพื่อไปหิ้วมาจากเมืองนอก

คราวนี้เรามาเจาะกันว่าเรา “ควรทำตัวอย่างไร” ในข้อแม้แรกว่า...คุณไม่ได้เป็นคนรวยเฉียบพลัน..มีเงินพันล้าน

...ถ้าคุณเริ่มดื่มไวน์ด้วยการกระโดดเข้าไปเล่นกับไวน์ตลาดบน นอกจากจะนับเป็นการไม่เจียมตนแล้ว ยังถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรของโลกไปโดยเปล่าประโยชน์ เงินก็เสีย...เวลาก็เสีย...ตับก็เสีย แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เสียไปแล้วเอาคืนยากคือ... “นิสัยเสีย” ...เหมือนขับ “พอร์ช” ออกโชว์ใบขับขี่ใบแรกในชีวิต โดยความซาบซึ้งในคุณค่าของไวน์นั้นๆ คุณอาจได้มันมาแค่เป็นกระพี้กระผีก เป็นแค่ได้อารมณ์...ไม่ได้เป็นแก่นสาร ก็ด้วยความที่ยังไม่รู้ประสีประีสา คุณจะไปได้อะไรหนักหนา  แล้วที่น่ากลัวมากๆ คือ ที่ตรงนี้มักสร้างเสริมนิสัยให้ฝักใฝ่การสร้างเรคคอร์ด ...เธอดื่มยัง...คุณลองหรือยัง...มลึงเคยหรือยัง ...เหนื่อยครับ

เท่านั้นยังไม่พอ...เมื่อคุณติดใจในรสสัมผัสของไวน์ระดับนี้ก่อนระดับอื่น...สิ่งที่เสียไปคือ... “ปากเสีย” ...โน่นก็ไม่ไหว...นี่ก็ไม่เอา ...เป็นม้าแข่งติดบังตา...ก็ข้าจะวิ่งอยู่เลนนี้เลนเดียวนี่แหละ...ใครจะทำไม

....ผมเคยเจอของจริงมาหลายดอก

“โอย...แหลกม่ายล่ายเลย...(เอาฝ่ามือโบกปาก)...เสียปากหมดเลย”

เป็นเพียงเพราะทราบว่า...น้ำไวน์แก้วนั้นเป็นแค่ฉลากสองของไวน์ดังระดับโลก

...ดูแล้วเป็นที่น่าเวทนา...น่าสงสารมาก

...ผมพูดภาพกว้างๆ ของการเข้าไปติดตลาดบนว่ามักจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ยังขาดคือ เมื่อคุณได้สัมผัสไวน์ที่ตรงนั้น คุณจะไม่รู้ตัวเลยว่า คุณไม่สามารถแยกแยะไวน์ที่ดีน้อยกว่าได้ แต่จะถนัดนักกับการระบุว่าไวน์นั้น มันแย่ มันเลว (กว่าที่เคยดื่ม)

เออ...ข้ามมาพูดเรื่องตลาดล่างกันก่อนดีกว่า

...ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยการตัดสินใจลงไปดื่มไวน์ตลาดล่าง...พวกตุ่มไหใส่กล่อง...ล่ะก้อ ตัวใครตัวมันครับ ตับเอย ไตอีก เป็นได้พังเป็นแถบ...ก่อนที่จะรู้เดียงสา

...ไวน์ระดับนี้ในบ้านเราบอกอะไรไม่ได้เลยถึงความเป็น “ไวน์” ศึกษาอะไรก็ไม่ได้ ความเป็นผลไม้ก็ไม่มี แอลกอฮอล์ก็เติมเอา ผงโอ๊กก็ไม่มี เพราะเขาใช้ Oak Liquid เทียมลงไป เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่งอีกต่างหาก เสียเวลาและสุขภาพโดยเปล่าประโยชน์ อย่าได้พยายามบอกตัวเองว่า “ของดีราคาถูก”...มีในโลกนี้โดยเด็ดขาด ....ถ้าเป็นโลกหน้าค่อยว่ากัน

Jear :
ไวน์ดีราคาถูกไม่มีหรอก มีแต่ไวน์สมเหตุสมผลเท่านั้น ตามความเป็นจริงแล้ว ไวน์ตลาดบนของเมืองไทย ( เท่ากับไวน์ตลาดกลางของเมืองนอก ) นั้นมันจะมีรสชาติที่อร่อย ทั้งกลิ่น รส อาฟเตอร์เทส ซึ่งหากคุณ กินแต่ไวน์ตลาดล่างก็จะไม่พบมัน หรือ ยากที่จะพบมัน

เช่น คุณกินขนมจีบในร้านสะดวกซื้อ  กับคุณกินขนมจีบในโรงแรม  หากคุณกินแต่ขนมจีบในร้านสะดวกซื้อ กินร้านนั้นมั่ง ร้านนี้มั่ง มันก็คือขนมจีบ ธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้ อร่อยไปสักเท่าใดนัก   แต่หากคุณกินขนมจีบในโรงแรม หรือ ภัตตาคาร หรือไปกินที่ฮ่องกง คุณก็จะรู้เลยว่า อ้อ ขนมจีบจริงๆ มันต้องรสแบบนี้นี่เอง

nic :
ผมเองดื่มไวน์มานานแล้วเหมือนกัน แต่ก็ 3-4 ปี หลังเพิ่งมาจริงจังเลือกซื้อ เลือกดื่มไวน์ที่ดี และคุ้มค่าราคา อันหลังนี้เป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงปรารถนาอยู่แล้ว ตอนแรกที่คุณถามว่า ไวน์ที่ดื่มอยู่เป็นไวน์ที่ดีแล้วจริงหรือเปล่า ถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดขับ ก็ต้องเรียนรู้ีวิธีพิเคราะห์ไวน์ แต่สุดท้ายการที่คุณจะรู้ว่าไวน์ที่ดื่มดีแล้วหรือยัง ก็ต้องดื่มไวน์เยอะๆ แต่อย่างมีสติน่ะคับ จับคาร์แลตเตอร์ เขียนเทสติ้งโน้ต เปรียบเทียบไวน์แต่ละชนิด แต่ละพันธุ์องุ่น นานเข้าแล้วคุณก็น่ะจะพอแยกแยะว่า เออ....นี่ไวน์ดี นี่ไวน์ไม่ดี ที่นี้มาถึงเรื่องราคาตรงประเด็นที่บอก เราต้องฉลาดเลือกซื้อ เพียงแต่ไวน์ที่ขายในบ้านเรา ต้องทำการบ้านเยอะหน่อย...ทำการบ้านนั้นทำได้จากการอ่านศึกษาข้อมูล ถามท่านที่เคยทานแล้วบ้าง แต่ไวน์ดียังไงก็แพงคับอย่างน้อยต้องมี 1000 บาทคับ ถ้าต่ำกว่านั้นมีคับแต่หายากหน่อย ขอให้มีความสุขจากการดื่มไวน์น่ะคับ จะราคาไหนก็ได้ ถ้าดื่มอย่างมีสติ ไม่มากจนทำลายสุขภาพ "ไวน์ที่ดื่มแล้วอร่อย คือไวน์ที่ดีคับ" แต่หลังจากนั้นคือจินตนาการแต่หล่ะบุคคลคับผม

...ข้อคิดเห็นข้างบนของผู้รู้หลายๆ ท่าน ล้วนมีความหมายทั้งสิ้นครับ

พอดีหลาย ๆ ท่านก็พูดไปก่อนแล้วว่า...จะได้อะไรจากไวน์ระดับบน ซึ่งน่าคิดครับ  ผมเป็นคนโชคดีครับ ที่ดื่มไวน์อะไรก็ตื่นตาได้ตลอด

คำว่า “ตื่นตา” มันอาจไม่ได้ครบครัน ครบเครื่อง หรือดีเลิศ แต่เป็นความตื่นตาที่ได้ค้นพบอะไรบางอย่าง อย่างเดียวก็เอาดี เจออะไรที่ห่วย ๆ ก็หลับหูหลับตาซะ แล้วก็ทำความเข้าใจว่าทำไมมันถึงได้เป็นอย่างนั้น

ผมแนะว่าคุณควรปักหลักที่ไวน์ระดับกลาง ซึ่งมีความหลากหลายในคุณภาพ ที่ยังไงคุณก็ต้องประสบเคราะห์กรรมเองบ้าง การเจอไวน์เลวมันก็สอนเราเหมือนได้เจอไวน์ดี ๆ เช่นกัน

...ขึ้นบนบ้าง ลงล่างบ้าง ความรู้จะกว้างขวางบานตะไท ที่สำคัญ...อย่าเชื่อว่าตัวเอง...รู้

jear :
ยังมีคำถามติดใจกับไวน์ตลาดล่างครับ ทุกวันนี้ คนไทย ที่มีอายุหน่อยหันมาดื่มไวน์กันมากขึ้น โดยส่วนมาก มักจะนำราคาไวน์ไปเทียบกับ เครื่องดื่มแอลกฮอล์ตัวอื่นๆ ทำให้ราคาที่ซื้อไวน์ วิ่งอยู่แถวๆ ห้าร้อยบาท หากถูกได้ก็ยิ่งดี เพราะไม่สามารถ แยกแยะได้อย่างชัดเจน และ อยากจะลองไวน์ไปเรื่อยๆด้วย

ดังนั้น การที่ไวน์ตลาดล่าง เติมแอลกอฮอล์ลงไป ก็เป็นเรื่องที่น่ากลัว ระดับหนึ่ง กลายเป็นว่า หนีเสือปะจรเข้ หรือเปล่าครับ

ถ้าเรารู้ทันว่าไวน์ตลาดล่างมันเป็นอย่างนี้ เราก็หลีกเลี่ยงได้ มากกว่านั้นหน่อยก็ช่วยแนะนำผู้เข้ามาใหม่ให้เข้าใจปัญหาว่า ที่ไวน์ตลาดล่างไม่ใช่เวทีสำคัญ ที่จะลองไปเรื่อยๆ เพราะมันไม่มีความรู้อะไรบริเวณนั้น แล้วก็หาอะไรไม่เจอด้วย

แต่ถ้าบอกว่ารักจะดื่มไวน์ที่ราคาไม่เกินห้าร้อยบาท..นั่นเป็นอีกเรื่องเลยครับ ก็คงต้องปล่อยกันไป

แต่ถ้าคิดในอีกมุมหนึ่งของความเป็นจริง

ผมเชื่อว่า ใครที่ดื่มไวน์ตลาดล่างไปเรื่อยๆ หรือบ่อยๆ ในที่สุดก็จะ Shift ตัวเองขึ้นมาลองตลาดกลาง หรือบนเองโดยธรรมชาติ หากมีโอกาสและปัจจัยอำนวย

แต่สำหรับคนที่ดื่มไวน์สลับวิสกี้หรือเบียร์ คนเหล่านี้คงไปไหนไม่ไกล ก็จะวนเวียนอยู่ที่ตลาดล่าง เพราะวางระดับมาตรฐานการลงทุนไว้แบบนั้น

ส่วนคนที่เข้าไปเลือกดื่มไวน์ตลาดล่างและมีขีดจำกัดก็ต้องยกให้เขาไป

ภูตะวัน

ตอบกระทู้ nameb ตั้งกระทู้

ขอบคุนคราบ สาระดีๆๆๆ มีประโยชน์