แนะขับรถอย่างปลอดภัย ในทุกสถานการณ์

ภูตะวัน

แนะขับรถอย่างปลอดภัย ในทุกสถานการณ์

ขับรถปลอดภัยในทุกสถานการณ์ (momypedia)

           ไม่ว่าจะเทศกาลงานไหน ๆ ก็มักจะเกิดอุบัติเหตุ เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย เป็นประจำทุกปี ยิ่งใกล้เทศกาลเช่นนี้ ผู้คนจำนวนหลายแสนคนเดินทางทั้งกลับบ้านเกิด บ้างก็ไปเที่ยวพักผ่อน ดังนั้น การป้องกันอุบัติเหตุจาการใช้ยวดยานพาหนะจึงสำคัญมาก และเราก็มีวิธีป้องกับการเกิดอุบัติเหตุเบื้องต้นมาฝากให้เอาไปใช้กัน

           1. ตรวจเช็คสภาพรถ เชื่อว่าหลายคนที่ต้องขับรถเองและขับรถทางไกลคงต้องดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งการเช็คยางรถ หม้อน้ำ เบรก ไฟ รวมถึงระบบป้องกันภัยอย่างพวกถุงลมนิรภัยกันอยู่แล้ว และอย่าลืมบรรดาอุปกรณ์ซ่อม พ่วง และสำรองไว้ให้พร้อมด้วย เพราะเราไม่มีทางรู้ว่ารถอาจจะไปเกิดขัดข้องขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่

           2. ศึกษาเส้นทาง เรื่องนี้ไม่ได้สำคัญแค่ว่าจะเลี่ยงปัญหารถเยอะหรือเส้นทางลัดเท่านั้น แต่ยังหมายถึงว่าเราควรจะต้องรู้ว่าเส้นทางที่เราไปนั้นมีทางคดเคี้ยวมาก น้อยแค่ไหน มีทางเลี้ยวหรือทางโค้งอันตรายบ้างหรือไม่ หรือมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจจะมีสิ่งกีดขวางหรือสัตว์วิ่งตัดหน้ารถที่ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ หากศึกษาไว้ก่อนจะช่วยให้เราขับรถได้อย่างระมัดระวังมากขึ้น

           3. เมาไม่ขับ ข้อนี้สำคัญมากค่ะ เชื่อไหมคะว่าถึงคุณจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแค่แก้วเดียวก็ทำให้ความ สามารถในการขับขี่ลดลงไปเกือบครึ่งเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องขับรถในระยะไกลๆ ที่มักจะเหนื่อยล้าจากการขับรถอยู่แล้วจึงไม่ควรดื่มเป็นอย่างยิ่งเพื่อ ป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดกับตัวเองและผู้อื่น

           4. งดทุกกิจกรรมที่ทำลายสมาธิในการขับรถ เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ (ไม่เว้นแม้แต่จะใช้ small talk) กินอาหาร หรือหยอกล้อเล่นกันจนไม่มีสมาธิในการขับรถอย่างเต็มที่ เพราะบางครั้งแค่เราเผลอไม่มองทางไปเพียงไม่กี่วินาทีก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุ ได้เช่นกัน รวมไปถึงอาการง่วงนอน ซึ่งหากรู้สึกเมื่อยล้าหรือง่วงนอนขณะขับรถเมื่อไหร่ ควรหาที่หยุดจอดพักเช่น จุดพักรถตามทางหลวงหรือปั้มน้ำมัน เพื่อล้างหน้า หาเครื่องดื่มให้รู้สึกสดชื่น หรืองีบหลับสักครู่หนึ่งเพื่อคลายความง่วง

           5. งดใช้ความเร็ว จริงอยู่ว่าคุณอาจจะอยากไปถึงที่หมายให้ไว แต่ทางที่ดีแล้วควรขับรถด้วยความเร็วตามที่ป้ายกำหนดบอกไว้ หรือประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเฉพาะทางโค้ง ทางลงเขา หรือทางลาดชัน ยิ่งต้องระวังเรื่องการใช้ความเร็วรถเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้

           6. ถ้าไม่ได้ขับรถเองหรือนั่งรถโดยสารทั่วไป ควรตรวจสอบบริษัทเดินรถให้ดีถึงมาตรฐานของคนขับ เช่น ในเส้นทางระยะไกลมีการแวะพักรถและเปลี่ยนคนขับเพื่อป้องกันการหลับในและเมื่อยล้าของพนักงานขับรถหรือไม่

           7. ตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อเอาตัวรอด ใช้ได้ทั้งกรณีที่ขับรถส่วนตัวและนั่งรถโดยสารทั่วไป เช่น ตรวจสอบถุงลมนิรภัยในรถ เข็มขัดนิรภัย การเปิดปิดกระจกและประตูรถของรถส่วนตัว ประตูทางออกฉุกเฉินบนรถประจำทาง รวมไปถึงหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น

            แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย                     191

            ตำรวจท่องเที่ยว                         1155

            ตำรวจทางหลวง                         1193

            สถานีวิทยุชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน      1677

            สถานีวิทยุ จส.100                     1137, 0-2711-9151-8

            ศูนย์ควบคุมจราจร                       1197

            ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ 24 ชั่วโมง      1555

            ศูนย์กู้ชีพนเรนทร                        0-2354-8222

           อุบัติเหตุ...สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะระวังตัวดีแล้วหรือไม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมพร้อมรับมือละการมีสติอยู่เสมอ ขอให้ทุก ๆ คนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวกันอย่างปลอดภัยและมีความสุข





ขอขอบคุณข้อมูลจาก