ขอฝากตัวด้วยนะครับ จริงๆแล้วผมก็เป็นอดีตสมาิกของเว็บนี้เมื่อนานมาแล้ว ประมาณปี 2012 จำรหัสเก่าได้นะครับแต่อยากสมัครใหม่เพราะในเรื่องที่ผมจะเล่านั้นผมได้เปลี่ยนชื่อตัวเอง ดังนั้นจึงสมัครใหม่เพราะรหัสเก่าเป็นชื่อจริงๆของผม เรื่องที่ผมจะนำมาเล่านั้นเป็นการลงครั้งที่ 2 ส่วนครั้งแรกนั้นผมลงไว้ในเว็บ http://www.thaiboyslove.com พอดีนึกขึ้นได้ว่าเคยเป็นสมาชิกเว็บนี้ผมเลยเอาเรื่องของผมมาลงให้อ่านกันสำหรับเว็บนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ คนที่ผมรู้จักหายไปเกือบหมด ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ
“คิดไปเอง”
เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องแรกที่ผมอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงจากตัวของผมเอง ไม่ได้สนุกอะไรมากมายนะครับผมเขียนไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่มีเติมแต่งคำบางคำลงไปบ้างเพราะผมจำทุกเหตุการณ์ไม่หมดครับ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า“ความรักนั่นเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลาครับไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม” ซึ่งความรักของผมนั้นมันเกิดขึ้นในช่วงที่ผมอยู่ในรั้ว“เทคนิค” ครับ เป็นเรื่องความรักแบบชายกับชายจริงๆผมก็พูดได้ไม่เต็มปากคงบอกได้แต่ว่าเป็นเรื่องที่คิดไปเองมากกว่าครับแต่ก่อนที่ผมจะมาเป็นแบบนี้ สมัย ม.ต้นผมก็เคยชอบเพื่อนผู้หญิงนะครับ แล้วทีนี้แม่ผมเขาไม่อยากให้ผมมีแฟนระหว่างเรียนเพราะกลัวว่าการเรียนผมจะเสียคือคนเป็นแม่ก็ย่อมมองอนาคตของลูกอะครับ จึงโทรไปบอกทางนั้นว่าเรื่องของผมกับเขาให้จบลงแค่นี้หลังจากนั้นเป็นต้นมามันคงเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตผมความทรงจำบางเรื่องก็ลืมๆไปบ้างแล้วครับ เรื่องราวหลายปีที่ผ่านไป ตอนนี้ผมอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว
ตั้งแต่ผมเกิดมาจนตอนนี้อายุ 22 จะ 23 ปี แล้วครับยังไม่เคยสัมผัสกับ ความรัก จริงๆจังๆสักที เมื่อก่อนผมมองว่าการบอกรักใครนั้นยากแสนยากครับ แต่พอได้บอกไปจริงๆ กลับรู้สึกว่าการบอกรักมันก็เป็นเพียงการเริ่มต้นของความทุกข์เท่านั้นจนกระทั้งช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมานี้ ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจผมให้หยิบหนังสือธรรมะมาอ่านทำให้ได้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตมากมายสุดท้ายก็ทำให้รู้สึกว่าหากเรามองความรักที่ไม่สมหวังที่มันทำให้เราเกิด “ทุกข์” มันก็คงเป็น “เวรกรรม”ที่เราเคยสร้างมาตั้งแต่ชาติปางก่อนก็ได้ เพราะหากเราไม่ได้ทำไว้…ชาตินี้เราก็คงไม่ต้องมารับในสิ่งที่เราทำไม่ว่าจะกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตามเอาหละผมพูดยืดเยื้อมากความไปละ ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มเลยนะครับ * * * “คิดไปเอง” ***************************************************************************************************************************
ปวช.1 บทที่1 รั้วเทคนิค ************************************************************************************* เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสเหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตวัยเรียนครั้งใหม่ของผมนั่นก็คือวันเปิดเทอมวันแรกครับ ผมซึ่งเป็นเด็กสมุทรปราการผิวสีแทนหน้าตาธรรมดาๆคนนึงเพิ่งย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดครับ ช่วงม.2 พ่อแม่และน้องสาวของผมย้ายบ้านไปอยู่ต่างจังหวัด ส่วนผมนั้นแม่ให้อยู่กับน้าไปก่อนจนจบ ม.3แล้วจึงค่อยย้ายตามมา
“อิน เอ่ย!!! น้าอ๊อดมารอแล้ว!!!” เสียงแม่ผู้ทรงพลังเรียกผมแต่เช้าเลยครับ
“ครับแม่” ผมตะโกนขานรับ รีบใส่รองเท้าแล้ววิ่งไปหน้าบ้านพร้อมกับหัวเสียนิดหน่อย เพราะเสื้อช็อปที่ ผมสั่งตัดไว้มันสั้นเต่อมากเลยครับปลายเสื้อขึ้นมาเลยหัวเข็มขัดผมอีกครับคือไม่รู้ว่าร้านจะประหยัดผ้าไปถึงไหน (-_-“)ประมาณว่าถ้านั่งทีก็มีเห็นล่องดากกันเลยทีเดียวครับ
“แม่สวัสดีครับ น้าอ๊อดสวัสดีครับ” ผมสวัสดีแม่และน้าอ๊อด
“อิน นี่บูมนะรู้จักกันไว้” แม่ผมแนะนำผมให้รู้จักกับลูกชายของน้าอ๊อดผมก็แค่ยิ้มให้เฉยๆครับ คือผมเป็นคนขี้อายอะครับ ไม่ชอบทำความรู้จักกับใครใหม่ๆ เป็นนิสัยเสียของผมเลยก็ว่าได้
น้าอ๊อดแกเป็นเพื่อนของแม่ครับส่วนบูมลูกชายน้าอ๊อดเรียนอยู่แผนกวิชาช่างกลโรงงานครับ เออลืมบอกอีกอย่างคือบ้านนี้เขาเป็นคนใต้ทั้งบ้านเลย
“โอ้ เสื้อช็อปบูมเขาสวยดีนะเนี้ยอิน ของเขาตัดมาพอดีเลย” แม่ผมพูดชมเสื้อช็อปบูม
“ครับๆ” ผมตอบอย่างเซงๆ คิดว่าจะเป็นทั้งเทคนิคสะอีก(-_-“)
จากนั้นแม่ก็สาธยายเสื้อช็อปสั้นเต่อของผมให้น้าอ๊อดฟังตามประสาผู้หญิงคุยกันคือร้านเขาตัดของบูมมาดีจริงๆครับพอดีตัวเลย ที่เทคนิคผมจะมีร้านตัดชุด 2 ร้านที่เขาประมูลได้อะครับร้านนึงเขารับของช่างอิเล็กฯ ช่างไฟฟ้า และอะไรไม่รู้ครับผมจำไม่ได้ส่วนอีกร้านนึงเขารับของ ช่างกล ช่างเชื่อม เขียนแบบ ที่เหลือจำไม่ได้แล้วครับ
“ลำบากหน่อยนะอ๊อด” แม่ผมพูด
“โอ้ย ไม่หรอกพี่น้อยเรื่องแค่นี้เอง” น้าอ๊อดตอบกลับพร้อมกับบิดรถเครื่องพาผมกับบูมไปส่งที่หน้าปากซอยครับ
สักพักก็ถึงหน้าปากซอยครับผมกับบูมก็ลงจากรถเครื่อง
“แม่สวัสดีครับ” บูมสวัสดีน้าอ๊อด
“ขอบคุณครับน้าอ๊อด” ผมพูด
“ไม่เป็นไร ตั้งใจเรียนกันนะแล้วก็คุยๆกันบ้างทำความรู้จักกันไว้ดอกพิกุลไม่ร่วงหรอกลูก”
น้าอ๊อดพูดจากนั้นผมกับบูมก็ขึ้นรถสองแถวเพื่อที่จะไปลงในเมืองครับ แล้วจากนั้นก็ต่อรถเมย์ไปเทคนิคครับระหว่างการเดินทางไปเทคนิคผมกับบูมไม่ได้ คุยอะไรกันเลยครับ นั่งกันเงียบๆจนถึงเทคนิค
“อิน เลิกเรียนแล้วโทรบอกด้วยนะ”
“อ่า โอเคๆ” คือแม่ผมกับน้าอ๊อดเขาบอกไว้ว่าให้กลับพร้อมกันไปก่อนครับก็อย่างว่าผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ไปไหนก็ไม่ถูก จึงต้องอาศัยบูมไปก่อน
จากนั้นก็เดินเข้าเทคนิคบรรยากาศร่มรื่นดีครับคือเทคนิคผมอยู่ในใจกลางของป่าอ่อย และห่างจากตัวเมืองออกไปเกินกว่า10 ก.ม. เลยครับสภาพนักศึกษาที่นี่ไม่ได้โหดร้ายอย่างที่ผมคิดไว้ทุกอย่างดูปกติเพียงการแต่งกายที่นี่รู้สึกจะมี 3 แบบเท่าที่ผมเห็น 1. ใส่ชุดช็อป 2. ใส่เสื้อเชิ้ตขาวผ้าดิบแล้วสวมกางเกงยกสูงถึงเอว 3. ใส่เสื้อเชิ้ตขาวผ้าดิบปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงครับ ส่วนทรงผมปวช.1 ดูเรียบร้อยสุดครับ ที่เหลือก็ดูเป็นเหมือนเหล่าฝูงศิลปินพเนจรอะครับ แสกกลางเอยหัวฟูๆบ้างเอย ไม่ก็ผมยาวประมาณรากไทรครับ มิหนำซ้ำบางคน ระเบิดหูอีกแต่ก็ไม่ทุกคนเสมอไปนะ บางคนก็ทรงปกติธรรมดาๆ จากนั้นผมเดินไปหาที่นั่งเพื่อรอเข้าแถว
“ (เพลงมาร์ชเทคนิคดังขั้น) ” สัญญาณเพลงมาร์ชดังขึ้นเป็นอันรู้กันทุกคนว่าต้องมาเข้าแถวครับผมก็เดินไปที่สนามหน้าเสาธงจะมีพวกอาจารย์มายืนบอกตำแหน่งว่าช่างไหนเข้าแถวตรงไหนผมอยู่แผนกอิเล็กทรอนิกส์ก็ไปยืนจุดที่อาจารย์เขามาร์คไว้จากนั้นเพื่อนๆห้องผมก็ทยอยกันเดินๆเข้ามาต่อแถวทีละคนรู้สึกดีครับเพราะเพื่อนๆผมใครตัวสูงๆเสื้อช็อปจะสั้นเต่อแบบผมเลย555+ เมื่อเพลงมาร์ชดับ อาจารย์ฝ่ายปกครองก็จะเดินขึ้นมาพูดกับนักศึกษา
“วันนี้เปิดเทอมวันแรกผมก็ขอยินดีต้อนรับกับนักศึกษาปวช.1 ทุกคน” อาจารย์ฝ่ายปกครองกล่าวต้อนรับนักศึกษาปวช.1 ครับ
จากนั้นก็พูดเรื่องสำคัญๆและข่าวสารต่างๆนานาแล้วก็ยืนตรงเคารพธงชาติ สวดมนต์ กล่าวคำปฏิญาณตน เสร็จกิจกรรมหน้าเสาธงก็เลิกแถวครับต่างแผนกต่างแยกย้ายกันกลับแผนกของตนเองเพราะวันแรกยังไม่มีตารางเรียน ต้องไปดูที่แผนกใครแผนกมัน ผมก็เดินตามกลุ่มเพื่อนห้องเดียวกันไปจนถึงแผนกที่ผมต้องฝากชีวิตเอาไว้ตลอด3 ปี หลังจากนี้ นั่นก็คือ แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ครับเมื่อถึงหน้าแผนกก็เต็มไปด้วย รุ่นพี่ ปวช.2-3 ปวส.1-2 และพวกปวช.1อย่างพวกผมเต็มไปหมด ระหว่างรอพวกเพื่อนห้องผมก็เริ่มทำความรู้จักกันแล้วก็บ่นๆกันเรื่องเสื้อช็อปอะครับผมก็ยืนดูเฉยๆเพราะผมขี้อายอะไม่รู้จะพูดยังไง 555+
ปวช.1 แผนกผมมีทั้งหมด 6 กลุ่ม 3 ห้อง 2 กลุ่มเท่ากับ 1ห้องครับ ผมอยู่กลุ่ม 4 และกลุ่ม 4 ของผมมีทั้งหมด 18 คน ชาย 17 คน ทอม 1 คนครับ สักพักอาจารย์ที่ปรึกษาก็นำตารางเรียนมาให้ครับอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูด แต่ชอบปล่อยมุขหน้านิ่ง อายุประมาณ 50กว่าปี และมีธรรมะในใจครับ คาบแรกเรียนที่แผนกช่างยนต์ เป็นวิชางานเครื่องยนต์เบื้องต้นพวกเราก็เดินไปเรียนกันระหว่างทางเพื่อนๆก็คุยกันใหญ่เลยจนผมเริ่มอยากคุยบ้างแต่ปากมันหนักเหลือเกินก็คนมันขี้อายอะ555+
“เฮ่ย...ชื่ออะไรว่ะ” นั่นไง มีคนทักผมดีใจจังมีเพื่อนคบแล้วครับ 55+
“อ๋อ ข้า ชื่ออนิรุต” ภาษาพ่อขุนก็มาครับ เอ๊ง,ข้า,มึง,กู
“ชื่อเล่นดิ”
“…อิน...”
“แล้วเอ๊งอะ” ผมถามกลับ คือยังไม่สนิทถึงขนาดต้องใช้มึงกู อะครับ ใช้เอ๊งกับข้าไปก่อน 555+
“กูชื่อบาส” บาสคือเพื่อนคนแรกในกลุ่มเลยครับนิสัยคือ ปากเสีย ไม่แคร์สื่อ ไม่ค่อยเอาเพื่อนฝูง อารมณ์ศิลปิน มันร้องเพลงเล่นดนตรีได้สุดยอดมากครับหมู่บ้านมันอยู่ใกล้ๆกับผมด้วย บาสเป็นผู้ชายตัวสูงกว่าผมนิดหน่อย ผิวขาวตัวใหญ่แบบคนเล่นกล้าม หน้าตาโอเคเลยครับ
จากนั้นผมก็เงียบตามเดิมคือถ้าไม่ถามผมก็เงียบ ผมขี้อายจริงๆ 555+ จนเดินกันมาถึงห้องเรียนครับอาจารย์ก็เข้ามาครับ
“เป็นยังไงกันบ้างเปิดเรียนวันแรกเปลี่ยนจากขาสั้นมาเป็นขายาว...อ่างั้นเช็คชื่อก่อนเนอะ สันติภพ” ผมหันไปดูครับว่าใครเพื่อจะได้รู้จักเพื่อนไปด้วย
“มาครับ” บาสยกมือ
“ณัฐวุฒิ”
“มาฮั๊บ” คนนี้เป็นหัวหน้าห้องครับ ชื่อแรก แรกเขาลิ้นไก่สั้นจึงพูดไม่ค่อยชัดแล้วก็ชอบทำตัวแปลกๆ และที่สำคัญบ้ายอด้วยครับ 555+
จากนั้นอาจารย์ก็พูดชื่อไปเรื่อยๆจนหมด
“อ่า วันนี้มา 14 คนเองหรอ เรียนวันแรกก็ขาดเลยจะไหวไหมเนี้ย” อาจารย์พูด สักพักก็มีเพื่อน 4 คนวิ่งเข้ามาในห้องครับเหมือนจะมาสายหอบกันใหญ่เลย
“อ่าว ทำไมมาสาย การเรียนวันแรกควรเตรียมตัวให้พร้อมวันหลังไม่เอาแบบนี้นะ”อาจารย์ตำหนิ
“ครับอาจารย์ พอดีหาห้องไม่เจอด้วยครับอาจารย์” เพื่อนคนนึงตอบอีก 3 คนยืนนิ่งๆ
“อ่าๆ แล้วชื่ออะไรกันบ้าง เริ่มจากเอ๊งก่อนเลยไอ่มนุษย์ต่างดาว”
“ฉัตรชัย ครับ” คนนี้ชื่อ ชัย ครับ ตัวเล็ก เตี้ยและผอมมากๆหน้าตาคล้ายๆ น้าเอ็ดดี้ ผีน่ารักอะครับ(อันนี้ไม่ได้คิดจะล้อเลียนนะครับ) และที่สำคัญติดบุหรี่มากด้วย
“อุดม ครับ” คนนี้ชื่อ น็อต ตัวเตี้ย หน้าตาโอเคดีครับเคราบานเลย 555+
“ศิริโชค ครับ” คนนี้ชื่อ ตาม ครับ ตัวเตี้ยอีกแล้วหน้าตาน่ารักแบบเด็กๆอะครับ
“อภินันท์ ครับ” ปกติผมก็ดูหน้าเพื่อนทุกคนครับเวลาบอกชื่อแต่กับคนนี้รู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก ผมมองเขาบ่อยมากครับ คนนี้ชื่อตันผิวขาวออกคนจีนความสูงประมาณติ่งหูผม คือไม่รู้ว่าเพื่อนในห้องแม่งจะเตี้ยกันไปถึงไหน555+ หน้าตาไม่ต้องพูดถึงเลยครับจัดว่าดีมากเลยทีเดียว จากนั้นอาจารย์ก็ให้ไอ้ 4คนที่มาสายเข้าไปนั่งที่ แล้วก็พูดเรื่องวิชาที่จะเรียนเหมือนปฐมนิเทศวิชาจากนั้นก็ปล่อยครับคือเป็นการเรียนที่เร็วฉิบหายเลยเป็นที่รู้กันดีว่าการเรียนการสอนของเทคนิคทั้งหลายออกแนวสายชิลแต่ก็ไม่ทุกวิชาเสมอไปนะครับ 555+
เอาไว้แค่นี้ก่อนนะครับ * * * * อาจจะไม่สนุกหรือเร้าใจเหมือนเรื่องของท่านอื่นๆนะครับช่วงแรกๆเป็นช่วงที่ผมยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเองว่าชอบอะไรมากกว่า พักใหญ่ๆเลยครับกว่าผมจะยอมรับตัวเองเอาจริงๆผมชอบได้ทั้ง หญิงแล้วก็ชายเลยครับ เรื่องมันก็นานมากแล้วด้วยผมก็จำทุกเหตุการณ์ได้ไม่หมด(แก่แล้ว 555+) ใครมีอะไรที่คิดว่าผมต้องปรับแก้ก็แนะนำกันมาได้นะครับ แล้วก็ขออภัยคำบางคำที่ไม่สุภาพและเป็นภาษาพูดสุดท้ายก็ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆนะครับ
****************************************************************************************************************************
|