แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Maxkyac เมื่อ 2016-12-24 22:11
มาต่ออีกแล้วครับ บางท่านบอกให้แม็กกะตั้มหวานกันกว่านี้หน่อย เราก็มีกันหลายมุมนะครับ คอยดูกันต่อไป ตั้มจะต้องโดนผมกระทืบจนสลบก็มีนะครับ
อีกอย่างเป็นเรื่องเล่า ไม่ใช่เรื่องแต่ง ผ่านชีวิตมาอย่างไรก็เล่าแบบนั้นครับ
ตอนที่7แล้ว ขอบคุณทุกกำลังใจครับ
ตอนที่ 7 : รังรัก
ความเดิมตอนที่แล้ว น้องตั้มก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวไม่รู้หิวหรืออายกันแน่เด็กเสิร์ฟกลับไปนั่งในร้านมองดูผมกับน้องตั้มแล้วยิ้ม เขาคงรู้แหละว่าเป็นผัวเมียกันแต่คงเดาไม่ออกว่าใครเอาใคร ดูๆไปก็หล่อเหมือนกันนะ ผิวเข้มๆ หน้าบ้านๆ ตามแบบฉบับคนอีสาน อย่ามองกรูมากนะเว้ยเดี๋ยวกรูชอบเมิงจะลำบากดูอย่างน้องตั้มคนนี้ยังล็อคคอบอกรักมาแล้ว คนอย่างแม็กกี้ จะเอาอะไรต้องได้ ไม่ได้โม้...ใช่มั้ยน้องตั้ม
“ เออ พี่แม็ก แล้วพี่จะไปใหนต่อ “ ตั้มเอ่ยขึ้น หลังจากเงียบไปนาน “ กลับหอไง อิ่มแล้วก็พักผ่อนสิ ” น้องตั้มตีหน้าซึม “ พี่แม็กทิ้งตั้มเลยนะ ไม่กี่วันก็เปิดเทอมแล้วตั้มอยากอยู่ไกล้ๆพี่อ่ะ ” มันซึ้งไม่ดูสถานที่เล้ย “ ใครบอกว่าพี่จะทิ้งน้องตั้มคับ พี่จะพาตั้มไปหอด้วย ”ผมบอกตั้มแถมยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้ “ ไม่อ่ะ เป็นตายตั้มก็ไม่ไป ” ตั้งแต่วันเกิดเรื่องตั้มก็ไม่เคยไปอีกเลย “ ต้องไป ไม่ไปพี่โกรธจริงแล้วเราก็ไม่ต้องมาเจอกันอีกเอามั้ยหล่ะ” ผมใช้วิชามารบังคับ “ โถ่ววว พี่แม็กก็รู้นี่ ว่าตั้มคือต้นเหตุ พี่แมร่ง...บ้าบอว่ะ ” น้องตั้มทำหน้าคิดหนัก “ เอาน่า ไปกับพี่ใครกล้าแตะต้องน้องตั้ม แม้แค่สายตา พี่จะกระทืบมันเอง” “ เห๊อะๆ ปากดี ไม่ใช่ไปถึงปูผ้ากราบนะ แล้วปล่อยให้ตั้มโดนตบ ” น้องตั้มทำท่าสยอง “ จะไปป่ะ ถ้าไม่ไปเราแยกกันตรงนี้แหละ OKป่ะ ” ผมเดินไปขึ้นรถสตาร์ทเครื่องรอ (รอง้อ 55) น้องตั้มมองผมด้วยสายตาละห้อยเหมือนจะร้องไห้ ใจหนึ่งคงกลัวที่จะเจอหน้าพัตร อีกใจหนึ่งก็กลัวเสียผมไป(มั้ง) ผมกดแตรเบามือประมาณว่า เอาไง ตั้มค่อยๆลุกจากโต๊ะเดินขึ้นรถช้าๆ ตอนนั้นตั้มไม่รู้เรื่องของผมกับพัตรเลย ตั้มไม่เคยถาม ผมก็ไม่เคยเล่า ผมขับรถออกจากร้านข้าวมันไก่ ตลอดทางตั้มไม่พูดอะไรสักคำ หันหน้ามองข้างทางตลอดเวลา ไปถึงหอผมลงไปเปิดประตูให้ตั้มที่นั้งตัวแข็งอยู่ คิดว่าตั้มไม่ได้กลัวแต่คงรู้สึกผิดกับเหตุการณ์วันนั้น “ ถึงแล้วครับจ้าวนาย จะเดินเองหรือให้อุ้ม ” น้องตั้มมองหน้าผม แล้วแทรกตัวออกมา “ อ้าว ไปใหนมาค่ะคุณแม็ก ” เจอแม่บ้านขาเม้าท์ระหว่างรอลิฟต์ “ อ่อ ไปทานข้าวมาครับป้า” จะถามอะไรนักหนาเน๊อะ “ อ่อค่ะ เมื่อเช้าป้าเห็นคุณพัตรขนของไปใหนค่ะป้าถามไม่ทัน ” ต่อมเสือกป้าเริ่มทำงานอัตโนมัติ อิอิ “ ไม่รู้ครับป้า ผมขอตัวก่อนนะครับ ลิฟต์มาละ ” ผมจับมือตั้มเข้าลิฟต์ ทิ้งการบ้านให้ป้าแก้โจทย์เอง อยู่ในลิฟต์ น้องตั้มมองหน้าผม คงสงสัยว่าป้าพูดคืออะไร ผมยิ้มมุมปากยักไหล่ให้ไปหนึ่งดอก ก่อนที่จะมี ใครพูดอะไร ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ผมกอดคอน้องตั้มเดินออกจากลิฟต์ ตั้มขืนๆจนตัวเกร็ง ผมไขกุญแจห้อง เสร็จเปิดไฟ ห้องดูโล่งไปมาก แม้เจ้าของห้องอย่างผมก็ยังรู้สึกแปลกๆในหัวใจ “ยินดีต้อนรับ สู่รังรักของเรา” ผมผายมือหันไปบอกน้องตั้ม “ นี่มันอะไร รังรักใครแล้วพี่พัตรไปใหน ” น้องตั้มถามเป็นชุด “ พัตรเขาไปแล้ว และนี่คือห้องของเรา รังรักของเรา” น้องตั้มจ้องหน้าผม น้ำตาไหลอาบแก้ม ผมดึงตั้มเข้ามากอด “ พี่แม็ก ตั้มขอโทษ ที่ทำให้ครอบครัวพี่พังแบบนี้ พี่พัตรคงเกลียดตั้มมาก ฮือๆๆ ”น้องตั้มสะอื้นยังกะพ่อมันตาย “ พัตร ไม่เคยเกลียดน้องตั้มเลย แถมฝากบอกให้ตั้มรักพี่มากๆดูแลกันดีๆ ” ตั้มยิ่งร้องไห้หนักขึ้น กอดผมแน่น “ ตั้มรักพี่นะ พี่จะเป็นผู้ชายคนเดียวของตั้ม” คือไรผู้ชายคนเดียวผู้หญิงหลายคนเหรอ “พี่ก็รักน้องตั้มครับ มาอยู่กับพี่นะ ที่รัก ”ผมจูบหน้าผากและตาทั้งสองข้างของเด็กน้อย “คับ” ตั้มจูบกลับ คงกลัวเสียเปรียบ หลังจากนั้นเราสองคนก็ขึ้นเตียง เอากันตามแบบฉบับผัวเมีย (แค่ภายนอกนะยังไม่กล้า ก็มันเจ็บนี่หน่า) “อ่าส์ๆๆๆๆ” “โอววววววววว” “ซี๊ดดดดดดดดส์” “อืมมมมมมมมม” “อ๊ากกกกกกกกส์” ไฟราคะที่ไม่ต้องหลบซ่อนเป็นไฟที่ร้อนแรง เร่าร้อน ซึ่งเป็นความปรารถนาที่พึ่งถูกเปิดออกครั้งแรก มันส์มาก เสร็จสมอารมณ์เปลี่ยวจากการใช้มือและปาก เราไปอาบน้ำพร้อมกัน แล้วก็หลับไปในอ้อมกอดที่อบอุ่น ตื่นมาอีกทีบ่ายสามโมง ก็เห็นตั้มนั่งมองผมอยู่ เด็กคนนี้มันโรคจิตหรือเปล่าวะ ชอบนั้งมองคนหลับ ผมคล้องคอโน้มตัวน้องตั้มลงมานอนข้างๆ จูบที่ตา ผมชอบจูบตาเป็นไรไม่รู้ “ แอบมองพี่เหรอ ” “ ป่าว ถ้าตั้มแอบพี่จะเห็นมั้ยละ” “พี่แม็ก ตั้มหิวอะ” “ หิวก็กินสิคับ พี่พร้อมเสมอ ” “ บ้า หิวข้าวไม่ใช่หิว ควย” ตั้มเอานิ้วดีดน้องชายผม “โอ้ยยย เจ็บนะเว้ย ก็จะรู้มั้ยเล่า ว่าหิวอะไร ” “พี่ลุกดิ ไปล้างหน้าบอกดื้อคืนนี้อด” “คร้าฟฟฟ เมียจ๋า” ผมดีดตัวจากที่นอนอย่างไว วิ่งเข้าห้องน้ำ อิอิ “ผัวเว้ย อย่ามั่วๆ”น้องตั้มตะโกนตามหลัง จากนั้นก็ลงมากินข้าวกันหน้าปากซอย อาหารตามสั้งนั่นแหละ (สิ้นคิดเน๊อะ) ผมคนกินข้าวน้อย แต่จะหนักพวกผลไม้มากกว่า อิ่มก่อนก็นั่งรอน้องตั้ม เด็กคนนี้มันกระเพาะควายป่าวว่ะ สั่งมารอทีเดียว3จาน ไม่ถงไม่ถามเงินในกระเป๋าผมสักคำ น้ำหนักแค่30ปลายๆไมกินจุแท้ กินเสร็จ เรอใส่ผมอีกต่างหาก แต่ก็น่ารักเน๊อะ อิอิ ชมผัวตัวเอง “พร้อมยัง ” “พร้อมอะไร พี่จะไปใหนอะ” เด็กน้อยสงสัย “ไปเก็บของย้ายมาอยู่กับพี่ไง น้องตั้มลืมเหรอ” “วันนี้เลยเหหรอครับ ไม่มีใครอยู่บ้านนะ” ตั้มบอก “ย้ายมาก่อน วันหลังค่อยไปบอกก็ได้นี่” ผมแนะนำแผนพาลูกเขาหนี “ก็ได้ คร้าบ” “ตั้มไปคนเดียวนะ พี่รออยู่ปากซอยป่ะ ขึ้นรถ” ผมขับรถไปส่งน้องตั้มลงหน้าปากซอย แล้วนั่งรอในรถ คิดถึงชีวิตตัวเอง ฉันดีใจที่มีเธอ จากนี้ไปจะเจออะไรก็ตาม พี่จะเดินไปกับตั้ม จะดูแลให้ดี แม้จะไม่ดีที่สุดก็ตาม ตั้งแต่รู้จักกันมาผมยังไม่เคยเห็นตั้มมองผู้หญิง หรือ พูดถึงผู้หญิงคนใหนให้ผมได้ยินเลย ตรงนี้แหละที่ผมมั่นใจ เชื่อใจ ว่าตั้มก็รักผม ไม่ได้มโนไปเองหรือเข้าข้างตัวเอง ผมนั่งยิ้มคนเดียวไม่รู้ว่านานแค่ใหนจนตั้มกลับมาเปิดประตูขึ้นนั่งบนรถแล้วนั่นแหละจึงได้สติ ตั้มถือเป้ใบเดียวไม่ใหญ่มาก ผมมองนิดนึงก็อมยิ้มคนเดียว นี่เรากำลังพรากผู้เยาว์หรือเปล่านะ ถ้าพ่อแม่เขาเอาเรื่องผมคงแย่ จะมีเหตุผลอะไรไปสู้คดี ญาติก็ไม่ใช่ “พี่ยิ้ม อะไรน่าสงสัยนะพี่เนี่ย เห็นยิ้มตั้งแต่มาละ” ตั้มคงกลัวผมพาไปขายมั้ง 55 “ไม่มีอะไรครับ” ผมตอบตั้ม แต่ยังยิ้มอยู่ “แน่นะไม่มีแผนอะไรนะ ถ้าตั้มไม่พร้อมห้ามกดตั้มนะพี่ ” ดูความคิดมันต่ำแค่ใหน “โว๊วว พี่ไม่หื่นขนาดนั้นหรอก พี่คิดถึงเรื่องของเราต่างหาก” “ยังไงๆ อธิบายเลย” “พี่ดีใจที่มีตั้มดีใจที่ตั้มเข้ามาเติมเต็มและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ ทำให้พี่มีคำว่า เรา” “ตั้มก็ดีใจที่สุด ชีวิตตั้มไม่เคยมีใครเอาใจเข้าใจตั้มมากขนาดนี้ ไม่เคยมีใครกอดตั้มด้วยความรัก ไม่เคยมีใครถามตั้มว่าหิวมั้ย พี่เป็นคนแรกที่มาทำให้ตั้มได้ในสิ่งที่ตั้มไม่เคยได้ขอบคุณครับ” ตั้มพูดยืดยาว “อืมมมครับ แล้วของน้องตั้มมีแค่นี้เหรอ”ผมเปลี่ยนประเด็นก่อนจะมีฉาก ดราม่า “ตั้มเอามาแค่เสื้อผ้าคับ อีกอย่างบ้านตั้มจนไม่มีอะไรแล้วคับ” “อย่าคิดมากน่าอย่าเอาความจนความรวย มาวัดค่าความเป็นคน” ผมปลอบใจที่เห็นตั้มน้อยใจ ผมขับรถพาน้องตั้มกลับหอ ผมรู้และเข้าใจแล้ว ที่เด็กไม่ค่อยอยู่บ้าน เร่ร่อน เที่ยวกลางคืน เพราะเขาน้อยใจ เขาไม่มีเหมือนครอบครัวอื่น พ่อแม่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยกอดลูก ไม่เคยบอกรักลูก คนภายนอกไม่เข้าใจ ก็พากันเหมารวมว่า เป็นเด็กเกเรเหลือขอ เป็นเด็กไม่ดี ใครที่คิดแบบนี้ลองเปิดใจสักนิด เด็กเหล่านี้เขาเห็นเด็กคนอื่นๆมีพ่อแม่กอดหอมแก้ม เด็กเขาจะแสดงอาการซึมเศร้าออกมา เมื่อน้อยใจมากๆก็กลายเป็นความก้าวร้าว หนึ่งในนั้นคือเด็กน้อยที่นั้งข้างผมตอนนี้ ใครๆว่าก็น้องตั้มเป็นเด็กเกเรเหลือขอ ผมไม่ว่าเขาหรอกคนเหล่านั้น สงสารเขามากกว่าที่ มองคนแค่ภายนอกตัดสินแค่สิ่งที่เห็น วันนี้ผมป็นอะไรนะผมเหม่อๆคิดไปเรื่อย จนขับรถมาถึงหอแบบเบลอๆ อึนๆ ผมพาน้องตั้มเอาของไปเก็บ จัดเสื้อผ้าเข้าตู้ ก็มีชุดนักเรียน2ชุดเสื้อผ้าใส่เล่น5-6ตัว ผมนอนดูทีวีบนเตียง ตั้มเก็บของเสร็จ แล้วเดินขึ้นมานอนข้างผม ถืออะไรบางอย่างมาด้วย “พี่แม็ก นี่กุญแจรถใครอ่ะพี่”ตั้มยื่นพวงกุญแจหมีน้อยให้ผมดู “มอไซร์ไง มีโอพ่อซื้อให้นานแล้ว” “พี่มีมอร์ไซด้วยเหรอ ตั้มไม่เคยเห็นพี่ขับเลยอ่ะ”ที่จริงผมไม่ได้ใช้มันนานแล้ว “ไม่ค่อยชอบกลัวดำ ขี่มอร์ไซตำรวจแมร่งชอบจับด้วย” ผมบอกเหตุผล แต่ที่จริงเห่อรถใหญ่ “พี่จะว่าอะไรมั้ย ถ้าตั้มขอขับไปโรงเรียนบ้างอะ” “อื้มมม พี่ยกให้น้องตั้มเลย ขับดีๆละกัน พี่ไม่อยากเป็นม่าย” “เย้ๆๆๆ ตั้มรักพี่แม็กจัง” น้องตั้มแสดงอาการลิงโลดดีใจสุดชีวิต กอดจูบหอมแก้มผมจนหายใจไม่ทัน “ไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวพี่พาไปเดินห้าง(อิมพีเรียล)” “คร้าบ” สภาพผมตอนนี้ เหมือนพ่อม่ายเลี้ยงลูกอ่ะ 555 ตั้มอาบน้ำเสร็จออกมาผมก็อาบต่อ อาบน้ำอยู่ได้ยินเสียงเด็กน้อย บอกว่าจะลงไปรอข้างล่าง ผมก็ไม่ว่าอะไรนะ ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตามลงไป เด็กน้อยหาย!!! ผมไปถามลุงยาม ลุงแกบอกว่าน้องเอารถไปลองเดี๋ยวมาเฮ้อ...เวรกรรม ระหว่างรอผมไปซื้อคีย์การ์ดให้น้องตั้มอีกอันนึง ไม่ถึง5นาทีเด็กน้อยกลับมายิ้มหน้าบานมาแต่ไกล เฮ้อ.......แค่วันแรกก็วุ่นแล้ว ไอ้เด็กเห่อหมอยยยย
โปรดติดตามตอนต่อไป
|