ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
เจ้าของ: sand

[กิจกรรม] น้ำคือชีวิต (S-1400)

 มาแรง...   [คัดลอกลิงก์]

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:42:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง

ความหมาย ชื่อเพลงครับ

แสดงความคิดเห็น

แต่บางสถานการณ์แล้งก็ดีกว่านะครับ  โพสต์ 2013-3-9 09:46

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:42:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำยาอุทัย

ความหมาย เป็นยาสามัญประจำบ้าน(ยาแผนโบราณ) ประกอบด้วย สมุนไพร นานาชนิดได้แก่ ดอกกระดังงา ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ชะมด ไม้จันทน์เทศ จันทน์ ชะมด จันทน์แดง

แสดงความคิดเห็น

ใส่น้ำดื่มดับกระหายคลายร้อน  โพสต์ 2013-3-9 09:47

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:41:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำกลิ้งบนใบบอน

ความหมาย คนที่ตลบตะแลง มิจิตใจไม่แน่นอน

แสดงความคิดเห็น

กลิ้งกลอกไปมา  โพสต์ 2013-3-9 09:47

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:40:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำหยดลงหิน

ความหมาย การทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย

แสดงความคิดเห็น

น้ำ...ทุกวันหินมันยังกร่อน แต่หัวใจอ่อนๆ ของคนจะทนได้อย่างไร  โพสต์ 2013-3-9 09:48

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:39:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำสั่งฟ้า ปลาสั่งฝน
ความหมาย สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย, ทําการอันใดที่เป็นสิ่งสําคัญเพื่อไว้อาลัยก่อนจากไป, ฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนอง

แสดงความคิดเห็น

ครับผม  โพสต์ 2013-3-9 09:49

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:38:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำขุ่นออกไป น้ำใสเข้ามา
ความหมาย เรื่องไม่ดีให้เอออกไปจากชีวิตเก็บแต่สิ่งดีๆๆเอาไว้

แสดงความคิดเห็น

น้ำขุ่นไว้ในน้ำใสไว้นอก  โพสต์ 2013-3-9 09:50

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:29:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ชักแม่น้ำทั้งห้า
หมายถึง พูดจาหว่านล้อมเพื่อหวังสิ่งตอบแทน

แสดงความคิดเห็น

พูดจาหว่านล้อม  โพสต์ 2013-3-9 09:52

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 10:28:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ไม่เห็นน้ำตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอกก่งหน้าไม้
หมายถึง ด่วนทำๆไปโดยยังไม่ถึงเวลา

แสดงความคิดเห็น

ซ้ำครับ เคยตอบมาแล้วครั้งนึง  โพสต์ 2013-3-9 09:53

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:34:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันเมล็ดคำฝอย

ความหมาย คำฝอย
           จากหลักฐานที่ค้นพบในหลุมฝังศพของชาวอียิปต์ยืนยันว่ามีการปลูกคำฝอยมาเป็นเวลานานกว่า ๔,๐๐๐ ปี เพื่อเป็นไม้ดอก และใช้ กลีบดอกเป็นสีย้อมผ้าและวัสดุอื่น  ๆ ให้มีสีเหลืองคำฝอยมีถิ่นกำเนิดในทะเลทรายอาหรับ ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและอ่าวเปอร์เซีย จากนั้นได้แพร่ออกไปสู่ทวีปแอฟริกา ยุโรป และเอเชียตะวันออก รวมทั้งประเทศไทย โดยนำกลีบ
ดอกมาเป็นสีย้อมผ้าครองของพระสงฆ์ จนกระทั่งเมื่อ ๕๐ - ๖๐ ปีที่ผ่านมา ชาวยุโรปได้นำเอาเมล็ดคำฝอยมาสกัดน้ำมันและได้น้ำมันที่มีคุณภาพสูง (โดยมีไขมันไม่อิ่มตัวสูงถึงร้อยละ ๙๐)นำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันผสมสี และน้ำยาเคลือบผิว ต่อมาเมื่อทางการแพทย์ได้ค้นพบการ สะสมตัวของคอเลสเทอรอลในเส้นเลือด ทำให้มีการบริโภคน้ำมันคำฝอยมากขึ้น และได้มีการ
แปรรูปเป็นโภคภัณฑ์อีกหลายชนิด รวมทั้งเครื่องสำอางและยารักษาโรคคำฝอยอยู่ในวงศ์ Compositae เช่นเดียว

           กับทานตะวันและมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Carthamus tinctorius L. ทรงต้นเป็นพุ่มเตี้ยแตกกิ่งมาก สูง ตั้งแต่ ๓๐ - ๑๕๐ เซนติเมตร ใบค่อนข้างเล็กปลายแหลม และขอบใบเว้าเป็นฟันเลื่อย แข็ง และคมคล้ายหนาม ดอกมีสีเหลืองอมแดงรวม
กันอยู่บนจานซึ่งเกิดจากยอดและกิ่ง จานดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๕ เซนติเมตร เมล็ดคำฝอยมีลักษณะคล้ายทานตะวัน แต่มีขนาดเล็กกว่า น้ำหนัก ๑๐๐ เมล็ดประมาณ ๕ - ๗ กรัม    เมล็ดสุกแก่หลังจากปลูก ๘๐ - ๑๒๐ วัน เก็บเกี่ยว    โดยใช้มีดตัดจานดอก เก็บรวบรวมไปตากให้แห้งแล้วใช้ไม้ตีแยกเอาเมล็ดออก การปฏิบัติทำได้ลำบาก เนื่องจากอันตรายจากหนามแหลมคม ในสหรัฐอเมริกาซึ่งปลูกในแปลงขนาดใหญ่ต้องใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยว
           คำฝอยเป็นพืชที่ทนทานต่อความแห้งแล้งมากที่สุด ปลูกได้ในท้องที่ที่แห้งแล้ง ซึ่งมีฝนตกน้อย (๒๐๐ - ๕๐๐ มิลลิเมตรต่อปี) ประเทศที่ปลูกมากคือ เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และอินเดีย สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีการปลูกเพื่อเป็นการค้า เนื่องจากทำรายได้ไม่สูงเท่าพืชอื่น

แสดงความคิดเห็น

เป็นสมุนไพร  โพสต์ 2013-3-9 09:53

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:33:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันเมล็ดนุ่น

ความหมาย น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดนุ่น

แสดงความคิดเห็น

หายาก  โพสต์ 2013-3-9 09:54

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:32:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันเมล็ดฝ้าย
ความหมาย น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดฝ้าย

แสดงความคิดเห็น

ไม่ค่อยเห็น  โพสต์ 2013-3-9 09:54

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:30:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันทานตะวัน

ความหมาย ทานตะวัน

         ทานตะวันเป็นพืชน้ำมันสำคัญของหลาย ประเทศในเขตอบอุ่น ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ทั่วโลกผลิตเมล็ดทานตะวันได้ประมาณ ๑๗ ล้านตันประเทศที่ปลูกทานตะวันมาก ได้แก่ รัสเซียสหรัฐอเมริกา และอาร์เจนตินา น้ำมันทานตะวันเป็นน้ำมันที่มีคุณภาพสูง โดยมีน้ำมันไม่อิ่มตัวสูงกว่าร้อยละ ๙๐ จึงนิยมนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง  ๆ เพื่อบริโภคโดยเฉพาะ เช่น

          ทานตะวันเป็นพืชล้มลุก (อายุต่ำกว่า ๑ ปี)อยู่ในวงศ์ Compositae เช่นเดียวกับดอกบัวตองมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Helianthus annus L.ลำต้นสูงประมาณ ๑ - ๓ เมตร ใบมีขนาดใหญ่ปลายแหลมและขอบใบเป็นจักร ช่อดอกเป็นจานประกอบด้วยดอกขนาดเล็กจำนวนหลายร้อยดอกกลีบดอกรอบจานดอกมีสีเหลืองสวยงาม เนื่องจากดอกทานตะวันไม่ผสมเกสรในต้นเดียวกันจึงต้องอาศัยผึ้ง หรือแมลงบางชนิด นำละอองเกสรจากดอกอื่นมาช่วยผสม จึงจะได้เมล็ดที่สมบูรณ์ทำให้เกิดมีอาชีพเลี้ยงผึ้งควบคู่ไปกับการปลูก ทานตะวันไปด้วยในทุกท้องที่
          ปัจจุบันได้มีการส่งเสริมการปลูกทานตะวันเป็นการค้าในประเทศไทยในจังหวัดทางภาคกลางในปลายฤดูฝนและเกษตรกรได้รับรายได้ดี เชื่อ ว่าพื้นที่เพาะปลูกจะขยายตัวมากขึ้นในปีต่อ  ๆ ไป

เนยเทียม น้ำมันสลัด และอาหารอีกหลายชนิด และขายได้ราคาสูงเป็นพิเศษ กากเมล็ดทานตะวันหลังจากสกัดน้ำมันแล้ว จะมีโปรตีนร้อยละ ๓๐- ๔๐ นำไปเป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ นอกจากนี้ยังนำเอาเมล็ดของทานตะวันพันธุ์ที่มีเปลือกบางมาบริโภคเป็นของขบเคี้ยวเล่น
          ทานตะวันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ชาวอินเดียนแดงได้เก็บเมล็ดมาบริโภคเป็นเวลานาน จนกระทั่งเมื่อ ๓๐๐ -๔๐๐ ปีก่อน ได้นำทานตะวันไปปลูกเป็นไม้ดอกในยุโรป และได้แพร่ไปถึงรัสเซีย นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้ปรับปรุงพันธุ์ทานตะวัน เพื่อใช้ เมล็ดสกัดน้ำมันได้สำเร็จเมื่อประมาณร้อยปีที่ผ่านมา ทำให้การปลูกทานตะวันได้แพร่ขยายตัวออกในเขตแห้งแล้ง (มีฝนตกต่ำกว่าปีละ ๖๐๐มิลลิเมตร) ในเขตอบอุ่นทั่วทุกทวีป รวมถึงสหรัฐอเมริกา

แสดงความคิดเห็น

เป็นน้ำมันพืชที่มีคอเลสเตอรอลน้อย  โพสต์ 2013-3-9 09:55

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:29:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันมะพร้าว

ความหมาย มะพร้าว

          คนไทยคุ้นเคยกับมะพร้าวมาเป็นเวลานานและใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของมะพร้าว เช่นผลอ่อนใช้รับประทานสด (น้ำและเนื้อ) เนื้อมะพร้าวจากผลแก่นำไปปรุงอาหารและขนมหลาย ชนิด และใช้สกัดน้ำมัน กากที่เหลือใช้เลี้ยงสัตว์น้ำมันมะพร้าวใช้ประกอบอาหาร เนยเทียม และสบู่ เปลือกมะพร้าวนำไปแยกเอาเส้นใยใช้ทำเชือก วัสดุ ทำเบาะและที่นอน ขุยมะพร้าวใช้ทำวัสดุเพาะชำต้นไม้ กะลาใช้ทำภาชนะตักตวงของเหลว(กระจ่า กระบวย ฯลฯ) ทำกระดุม เครื่องประดับเครื่องดนตรี (ซออู้) ทำเชื้อเพลิง และถ่านกัมมันต์(มีคุณสมบัติในการดูดซับสูง) ใบมะพร้าวทั้งอ่อนและแก่ ตลอดจนก้านใบใช้มุงหลังคาเครื่องจักสาน ไม้กวาดทางมะพร้าว ใช้ทำรั้วและเชื้อเพลิง ลำต้นแก่ใช้ในการก่อสร้างประดิษฐ์เครื่องเรือน ยอดอ่อนใช้เป็นอาหาร จั่น
(ช่อดอก) มีน้ำหวานรองมาดื่มเป็นน้ำผลไม้หรือทำน้ำตาล หมักทำเหล้าและน้ำส้ม รากใช้ทำยา สีย้อมผ้า และเชื้อเพลิง แต่อย่างไรก็ตามการปลูกมะพร้าวโดยทั่วไปก็เพื่อนำเอาเนื้อมะพร้าวไปประกอบอาหารและสกัดเอาน้ำมันเช่นเดียวกับปาล์ม
           ไม่มีหลักฐานแน่ชัดระบุถึงถิ่นกำเนิดของมะพร้าว แต่ยอมรับกันว่าอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชีย หรือหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ต่อมา จึงแพร่กระจายออกไปทั่วทุกภูมิภาคในเขตร้อนและกึ่งร้อน โดยอาจจะกระจาย (ลอยน้ำ) ไปเอง
และคนนำเอาไปปลูก มะพร้าวอยู่ในวงศ์ปาล์ม(Family Palmaceae) มะพร้าวที่ใช้บริโภคมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cocos nucifera  (Linn.)
          มีการปลูกมะพร้าวในทุกภาคทั่วประเทศไทยแต่สวนขนาดใหญ่อยู่ในภาคใต้และจังหวัดชายทะเลรอบอ่าวไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ มีพื้นที่ปลูก มะพร้าวประมาณ ๒,๕๐๐,๐๐๐ ไร่  ได้ผลิตผล๑,๓๐๐,๐๐๐ ตัน คิดเป็นมูลค่าที่เกษตรกรได้รับ
๒,๗๐๐ ล้านบาท ใช้บริโภคในรูปต่าง ๆ ประมาณ๙๐๐,๐๐๐ ตัน ใช้สกัดน้ำมัน ๔๐๐,๐๐๐ ตันและส่งเป็นสินค้าออก ๓,๐๐๐ ตัน เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกมีจำกัด ขยายออกไปอีกไม่ได้ ดังนั้นจึงมุ่งในทางเพิ่มผลิตผลต่อพื้นที่ให้สูงขึ้น โดยเปลี่ยนสวนมะพร้าวเก่าที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองมีอายุ มากและให้ผลิตผลต่ำเป็นสวนปลูกใหม่ ใช้พันธุ์มะพร้าวลูกผสมที่ให้ผลิตผลสูง และเพิ่มรายได้
ให้แก่เกษตรกรโดยปลูกพืชแซม เช่น โกโก้ พริกไทย สมุนไพร หรือเลี้ยงสัตว์ เช่น โคเนื้อ หรือโคนม ในสวนมะพร้าว
          มะพร้าวเป็นพืชปลูกกันมาเป็นเวลานานทั่วเขตร้อนของโลก จึงมีความแตกต่างกันในรูปทรง และลักษณะอื่น ๆ อย่างหลากหลาย มีนักพฤกษศาสตร์หลายท่านพยายามจำแนกพันธุ์มะพร้าวที่ปลูกกันออกเป็นหมวดหมู่ แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป การจำแนกพันธุ์มะพร้าวในประเทศไทยอาศัยทั้งความสูง และอายุการตกผล
          การแบ่งพันธุ์มะพร้าวโดยอาศัยความสูงออกเป็น ๒ พันธุ์ คือ

๑. ต้นเตี้ย แยกออกตามสีของผล ได้แก่หมูสีเขียว หมูสีเหลือง นกคุ่ม น้ำหอม มะพร้าวไฟนาฬิเก เป็นต้น
๒. ต้นสูง ได้แก่ พันธุ์มะพร้าวใหญ่มะพร้าวกลาง ร้อยทะลาย ปากจก  (ผลยาว)กะโหลก  (ใหญ่พิเศษ) เปลือกหวาน และ
มะแพร้ว เป็นต้น

          ส่วนการจำแนกโดยอาศัยอายุการติดผลแบ่งออกเป็น ๓ พันธุ์ คือ
๑. มะพร้าวพันธุ์เบา โดยออกผลหลังจากปลูกได้ ๓ - ๔ ปี
๒. มะพร้าวกลาง ออกผลหลังจากปลูกได้ ๕ - ๖ ปี
๓. มะพร้าวหนัก ออกผลหลังจากปลูกได้๗ - ๘ ปี
          มะพร้าวแต่ละประเภท ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องขนาดและทรงต้น จำนวนและลักษณะของใบ ขนาดรูปร่างและสีของผล ในระยะหลังมีการนำเชื้อพันธุ์มะพร้าวจากทวีปแอฟริกา อเมริกากลาง และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ามาเพื่อใช้ในการปรับปรุงพันธุ์อีกเป็นจำนวนมากทำให้การจำแนกประเภทและพันธุ์มะพร้าวยุ่งยากยิ่งขึ้น
          กรมวิชาการเกษตรแนะนำพันธุ์มะพร้าวอยู่๒ พันธุ์ คือ พันธุ์ลูกผสมสวี 1 และพันธุ์ลูกผสมสวี 2
          มะพร้าวเจริญเติบโตและติดผลได้ดีในแหล่งที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า ๑,๕๐๐ มิลลิเมตรและตกอย่างสม่ำเสมอตลอดปี ถ้ามีช่วงฝนแล้งนานกว่า ๓ เดือน การออกดอกและติดผลลดต่ำลง มะพร้าวชอบดินร่วนปนทราย หรือดินตะกอนตามบริเวณปากแม่น้ำซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูง และอุ้มน้ำได้ดี ในที่ลุ่มซึ่งมีน้ำ    ท่วมขังควรจะยกแปลงปลูกให้สูงพ้นระดับน้ำสำหรับดินดอนต้องมีหน้าดินลึกกว่า ๑ เมตร

          การเตรียมพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรปรับหน้าดินให้เรียบ มีการตัดแบ่งแปลงและทำถนนภายในสวน พื้นที่ที่ลาดชันมากควรปรับเป็นขั้นบันได และปลูกพืชคลุมดินป้องกันการชะล้างและพังทะลายของดิน จัดเตรียมหลุมปลูกไว้ล่วงหน้าโดยวางแนวเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมด้านเท่า สำหรับมะพร้าวเล็กระยะระหว่างต้นห่างกัน ๖ - ๗ เมตร (ในหนึ่งไร่จะปลูกได้ ๓๗ - ๕๑
ต้น) ส่วนมะพร้าวใหญ่ขยายระยะระหว่างต้นเป็น๘ - ๙ เมตร (ในหนึ่งไร่ปลูกได้ ๒๒ - ๒๕ ต้น)ขุดหลุมปลูกขนาดกว้าง ๑ x ยาว ๑ x  ลึก ๑เมตร นำเศษพืช ปุ๋ยคอก และหินฟอสเฟต (อัตราหลุมละครึ่งกิโลกรัม)  คลุกดินรองก้นหลุม
          ควรเพาะผลมะพร้าวให้งอกไว้ล่วงหน้าเป็นเวลา ๘ เดือน - ๑ ปี (มีใบ ๓ - ๔ ใบ)และควรเริ่มปลูกในต้นหรือกลางฤดูฝน สำหรับที่ดอนให้ขุดหลุมวางหน่อมะพร้าวให้เสมอหรือต่ำกว่าระดับดิน แต่ในที่ลุ่มให้วางหน่อมะพร้าวเสมอหรือสูงกว่าระดับดิน จัดหน่อให้หันไปในทิศทางเดียวกัน ระยะแรกอาจใช้น้ำช่วยเมื่อมี ช่วงฝนแล้งนาน ไถพรวนหน้าดินในระหว่าง ต้น
มะพร้าวเป็นครั้งคราวเพื่อป้องกันกำจัดวัชพืชและไฟป่า ปลูกพืชคลุมหน้าดิน ออกสำรวจการระบาดทำลายของโรคและแมลงศัตรูมะพร้าวและ  ป้องกันกำจัดตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
          ต้นมะพร้าวจะเติบโตขยายตัวทางด้านข้างในระยะ ๓ ปีแรก หลังจากนั้นลำต้นจะยืดตัวทาง ด้านสูง เริ่มออกดอกติดจั่นและติดผล (ตามอายุของพันธุ์) ติดต่อกันไปเป็นเวลานานถึง๘๐ - ๑๐๐ ปี

           การเจริญเติบโตของต้นมะพร้าวและผลิตผลขึ้นอยู่กับความชุ่มชื้นและความอุดมสมบูรณ์ของดินเมื่อมะพร้าวติดผลแล้วควรให้ปุ๋ยเกรด 13-13-21หรือ 12-12-17-2 (แมกนีเซียม) ในจำนวนตามคำแนะนำ โดยทั่วไปมะพร้าวจะแตกใบใหม่ออก
มาปีละ ๑๒ - ๑๕ ใบ และที่มุมใบจะมีช่อดอกหรือจั่นแทงออกมา โดยเฉลี่ยแล้วมะพร้าวให้ผล๕๐๐ - ๘๐๐ ผล/ไร่/ปี แต่ถ้ามีการบำรุงรักษาที่    ดีอาจให้ผลสูง ๘๐๐-๑,๐๐๐ ผล/ไร่/ปี
   

แสดงความคิดเห็น

ใช้ทาแผลแห้งเร็ว  โพสต์ 2013-3-9 09:56

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +100 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 100 แต้มหมดพอดี

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:27:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันถั่วลิสง

ความหมาย ถั่วลิสง
  
          ในบางท้องถิ่น เรียกว่า ถั่วดิน ถั่วขุด หรือถั่วยี่สง นอกจากการใช้เมล็ดเป็นวัตถุดิบในการสกัดน้ำมันแล้ว ยังได้นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบ เช่น ถั่วลิสงต้ม คั่ว ทอดทำขนมพวกขบเคี้ยว เช่น ถั่วตัด จันอับ ถั่วกระจก และเป็นส่วนประกอบของอาหารหลายชนิด(แกงมัสมั่น น้ำจิ้มสะเต๊ะ น้ำพริกรับประทานกับขนมจีน) ใช้ทำแป้ง และเนยถั่วลิสง อนึ่งถั่วลิสงเป็นพืชตระกูลถั่ว การปลูกถั่วลิสงจึง เป็นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน เช่นเดียวกับถั่วเหลือง ต้นและใบถั่วลิสงหลังจากปลิดฝักออกแล้ว นำไปใช้เลี้ยงสัตว์หรือทำปุ๋ยหมัก
          ถั่วลิสงมีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนและกึ่งร้อนตอนกลางของทวีปอเมริกาใต้ หลักฐานทางโบราณคดีระบุไว้ว่าชาวพื้นเมืองบริโภคถั่วลิสงมานานกว่า ๔,๐๐๐ ปี ชาวยุโรปได้นำไปปลูกในทวีปแอฟริกา เมื่อประมาณ ๔๐๐ - ๕๐๐ ปีก่อนต่อมาจึงได้แพร่มายังทวีปเอเชีย และกลายเป็นพืชน้ำมันที่สำคัญของหลายประเทศ รวมทั้ง ประเทศไทยด้วย
          ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ทั่วโลกมีพื้นที่ปลูกถั่วลิสงประมาณ ๑๒๓ ล้านไร่ ได้ผลิตผล ๒.๒ล้านตัน อินเดียและจีนผลิตได้มากที่สุด คือประเทศละ ๖ ล้านตัน ประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกถั่วลิสง ๗๖๓,๐๐๐ ไร่ ได้ผลิตผล(ถั่วทั้งเปลือก) ๑๖๒,๐๐๐ ตัน ใช้บริโภคและทำพันธุ์เกือบทั้งหมด ส่งเข้าสกัดน้ำมันเพียง ๒๒,๐๐๐ ตัน การเพาะปลูกมีอยู่ทั่วประเทศ แต่ ปลูกมากที่สุดในภาคเหนือ เป็นพื้นที่ถึง ๔๓๓,๐๐๐ไร่ รองลงมาได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ๒๑๓,๐๐๐ ไร่ และภาคกลาง ๑๐๖,๐๐๐ ไร่

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
          ถั่วลิสงจัดอยู่ในวงศ์ (Family) Legume-minosae เช่นเดียวกับถั่วเหลือง เป็นพืชล้มลุก(มีอายุเพียงฤดูเดียว) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าArachis hypogaea L.

          ถั่วลิสงขยายพันธุ์โดยเมล็ด เมื่อเมล็ดได้รับน้ำเพียงพอ ต้นอ่อนในเมล็ดจะงอกโดยขยาย แก้วเติบโตขยายไปทางแนวราบใต้ผิวดินแผ่ออกเป็นบริเวณกว้างและมีปมของจุลินทรีย์เกิดขึ้นเป็นกระจุกตามผิวราก ต้นอ่อนของถั่วลิสงเจริญเติบโตโผล่พ้นผิวดิน มีกิ่งแตกออกจากลำต้นตรงมุมใบ มีจำนวน ๓ - ๘ กิ่ง บางพันธุ์มีทรงต้นเป็นทรงพุ่มตั้งตรง บางพันธุ์แตกกิ่งเลื้อยไปตาม แนวนอน ลำต้นอาจมีสีเขียวหรือม่วง สูงประมาณ๕๐ - ๗๕ เซนติเมตร ใบถั่วลิสงเป็นใบรวม ประกอบด้วยใบย่อย ๒ คู่ (๔ ใบ) ขอบใบเรียบปลายมน ก้านใบยาวสีเขียวหรือม่วง ดอกถั่วลิสงเกิดขึ้นบนช่อดอกซึ่งแทงออกมาจากมุมใบ เริ่มจาก
โคนต้นไปสู่ยอด ดอกบานในเวลาเช้า มีสีเหลือง เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีอับเกสรตัวผู้ และเรณู(รังไข่) อยู่ในดอกเดียวกัน หลังจากผสมเกสรแล้วกลีบดอกจะเหี่ยวและร่วง แต่ก้านของรังไข่ขยายตัวยาวออกไปเรียกว่า เข็ม ปลายเข็มขยายตัวตามแนวดิ่งแทงลงไปในดินแล้วจึงพัฒนาเป็นฝักแต่ละฝักมีเมล็ด ๒ - ๔ เมล็ด เนื่องจากดอกออกไม่พร้อมกัน ทำให้ฝักแก่ไม่พร้อมกันด้วยการเก็บเกี่ยวจึงเลือกเวลาที่มีฝักแก่จำนวนมากที่สุดถั่วลิสงต้นหนึ่งเมื่อถอนออกมามีฝักที่สมบูรณ์อยู่จำนวน  ๘ - ๒๐ ฝัก และมีฝักอ่อนอีกจำนวนหนึ่งปนอยู่ ซึ่งเป็นฝักที่เกิดจากดอกชุดหลังหรือจากยอด ฝักแก่มีลายเส้นและจะงอยเห็นได้ชัด
ฝักคอดกิ่วตามจำนวนเมล็ดในฝัก เมื่อตากให้แห้งแล้วเขย่าจะมีเสียง เยื่อหุ้มเมล็ดมีหลายสี เช่นขาว ชมพู แดง ม่วง และน้ำตาล เมล็ดประกอบด้วยใบเลี้ยงขนาดใหญ่ ๒ ใบ ห่อหุ้ม ต้นอ่อนไว้ภายใน
          พันธุ์ถั่วลิสงที่แนะนำให้เกษตรกรปลูกได้แก่พันธุ์ลำปาง สุโขทัย 38 ไทนาน 9 ขอนแก่น  60-1 ขอนแก่น  60-2 และ ขอนแก่น 60-3
          เนื่องจากฝักถั่วลิสงเจริญเติบโตอยู่ใต้ดินควรเลือกปลูกในดินร่วน หรือร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี มีปฏิกิริยาเป็นกลาง และไม่ใช่ดินเค็ม อนึ่ง ไม่ควรปลูกในดินที่มีสีดำหรือแดงจัด เนื่องจากถ้าฝักถั่วลิสงเปื้อนติดสีดังกล่าวทำให้ขายได้ราคาต่ำ ประเทศไทยอาจปลูกถั่วลิสงได้ตลอดทั้งปี แต่เพื่อเหมาะสมกับระบบการปลูกพืชได้ผลิตผลสูง และเก็บเกี่ยวสะดวก จึงนิยมปลูกเพียงปีละสองครั้ง คือ ในฤดูฝนและฤดูแล้งในพื้นที่ที่มีการชลประทาน การ เตรียมดินปลูกถั่วลิสงก็เหมือนกับพืชไร่ทั่วไป คือ
ไถพรวนให้ดินมีความร่วนซุยและกำจัดวัชพืชถ้าปลูกในเขตชลประทานควรมีการยกแปลงทำร่องส่งและระบายน้ำในระหว่างแต่ละแปลงนำเมล็ดที่กะเทาะเปลือกออกแล้วปลูกเป็นหลุม ๆละ ๒ - ๓ เมล็ด ลึกจากผิวดิน ๕ เซนติเมตรมีระยะระหว่างแถว ๓๐ - ๕๐ เซนติเมตร และระหว่างหลุม ๒๐ เซนติเมตร จะได้จำนวนถั่วลิสงประมาณ ๕๐,๐๐๐ - ๖๐,๐๐๐ ต้นต่อไร่ซึ่งจะใช้เมล็ดที่กะเทาะเปลือกออกแล้วจำนวน๑๒ - ๑๕ กิโลกรัมต่อไร่ หรือเมล็ดทั้งฝัก๒๐ - ๓๐ กิโลกรัมต่อไร่ (แล้วแต่ขนาดของ
เมล็ดและความงอก และควรกะเทาะเมล็ดก่อนปลูกเพื่อให้ได้ต้นงอกที่สม่ำเสมอ)

          เมล็ดเริ่มงอกภายใน ๕ วันหลังจากปลูก ทำการถอนหรือซ่อมให้มีจำนวนต้นต่อไร่ครบตามกำหนดภายในระยะเวลา ๗ - ๑๐ วัน และพรวนดิน ดายหญ้า เพื่อกำจัดวัชพืช ภายใน ๓๐วันหลังงอก และควรพรวนดินกลบโคนสูงประมาณ๕ - ๗ เซนติเมตร เพื่อให้เข็มแทงลงดินได้ง่ายขึ้นและงดการพรวนดินเมื่อต้นถั่วลิสงมีอายุ ๔๐วันไปแล้ว เนื่องจากจะไปรบกวนการแทงเข็มอันเป็นผลให้เมล็ดฝ่อ ในระยะเจริญเติบโตควรออก สำรวจแปลง ซึ่งอาจจะมีโรคและแมลงศัตรูพืช ระบาดทำลายต้นถั่วลิสง ทำการป้องกัน กำจัด ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ถั่วลิสงมีอายุตั้งแต่ ๙๐ - ๑๒๐ วัน (ตามลักษณะของพันธุ์)
เมื่อฝักสุกแก่สังเกตได้จากใบร่วง และลำต้นเหี่ยวในของฝักได้เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลเก็บเกี่ยวโดยใช้มือถอนต้นและฝักขึ้นจากดินเลือกปลิดฝักแก่ออก นำไปตากแดดจนฝักแห้งสนิทแล้วจึงเก็บเพื่อรอการจำหน่ายในปัจจุบันปัญหาสำคัญของถั่วลิสง ก็คือ การเกิดสารพิษแอลฟลาท็อกซินซึ่งเป็น สาเหตุของการเกิดมะเร็งในตับ ดังนั้น  จึงต้องตากเมล็ดให้แห้งสนิทโดยเร็ว (มีความชื้นในเมล็ดต่ำกว่าร้อยละ ๑๔) จะระงับการเจริญเติบโตของเชื้อราซึ่งผลิตสารพิษชนิดนี้
          โดยทั่วไปเกษตรกรจะเก็บถั่วลิสงไว้ทั้งฝักเมื่อจะนำไปปลูกหรือใช้บริโภคจึงกะเทาะเปลือกออก โดยใช้มือหรือเครื่องกะเทาะเมล็ด เมล็ดถั่วลิสง ๑๐๐ เมล็ด มีน้ำหนัก ๓๐ - ๖๐ กรัมเมล็ดที่มีขนาดใหญ่นำไปปรุงแต่งเพื่อใช้บริโภคทั้งเมล็ด  ส่วนเมล็ดขนาดเล็กหรือเมล็ดแตก นำไปบดเป็นถั่วป่นและสกัดน้ำมัน เมล็ดถั่วลิสงมีโปรตีนร้อยละ ๒๕ - ๓๕ และน้ำมันร้อยละ
๔๔ - ๕๖ (ขึ้นอยู่กับพันธุ์) น้ำมันถั่วลิสงประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัวถึงร้อยละ ๘๐ ของ น้ำมันทั้งหมด  จึงเกิดกลิ่นเหม็นหืนได้ง่าย (จึง ต้องเก็บรักษาไว้ทั้งฝัก) กากถั่วลิสงที่สกัดเอาน้ำมันออกแล้ว นำไปอบให้แห้งใช้ประกอบเป็น  อาหารหรือส่วนผสมของอาหารสัตว์ได

แสดงความคิดเห็น

เอาไปทำอะไรครับ  โพสต์ 2013-3-10 10:51

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +20 ย่อ เหตุผล
sand + 20 หมดพอดีวันนี้

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:25:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ปาล์มน้ำมัน

ความหมาย

ปาล์มน้ำมัน
            ปาล์มน้ำมันชนิดที่ปลูกเป็นการค้ามีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา และได้นำเข้ามาปลูกในประเทศไทย โดยผ่านทางอินโดนีเซียและมาเลเซีย เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๗๐ ที่สถานีทดลองยางคอหงษ์จังหวัดสงขลา และสถานีกสิกรรมพลิ้ว จังหวัด จันทบุรี ส่วนการปลูกเพื่อเป็นการค้าเริ่มต้น ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่จังหวัดสงขลาแต่ก็ได้ล้มเลิกกิจการไปจนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้มีการส่งเสริมอีกครั้งหนึ่ง และพื้นที่เพาะปลูกขยายตัวออกอย่างรวดเร็ว ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐มีเนื้อที่การปลูกน้ำมัน ๖๐๐,๐๐๐ ไร่  โดยแยกออกเป็นสวนปาล์มของบริษัทร้อยละ ๕๗ สวนของเอกชนร้อยละ ๒๘ และในสหกรณ์นิคมร้อยละ ๑๕  พื้นที่เพาะปลูกปาล์มยังขยายตัวออกไปอีกทุกปี ปาล์มน้ำมันเจริญเติบโตและให้น้ำฝนตั้งแต่ ๒,๐๐๐ มิลลิเมตรต่อปีขึ้นไป จึงปลูกกันมากในภาคใต้และชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของอ่าวไทย

            น้ำมันปาล์มเกิดขึ้นจากผลปาล์ม ๒ ส่วนคือ จากเปลือกหุ้มภายนอก และจากเนื้อในของเมล็ด

            น้ำมันจากเปลือกของปาล์ม ประกอบด้วยกรดไขมันที่อิ่มตัว ประมาณร้อยละ ๕๒ และกรดไขมันไม่อิ่มตัว ร้อยละ ๔๘ ดังนั้น จึงต้องนำน้ำมันดิบผ่านกรรมวิธีแยกกรดไขมันทั้งสองออกจากกัน นำน้ำมันไม่อิ่มตัวไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารหลายชนิด เช่น ใช้ปรุงอาหาร ทำเนยเทียม หรือ มาการีน เนยขาวเป็นส่วนผสมของนมข้นหวาน ไอศกรีม และขนมอีกหลายชนิดส่วนที่เป็นกรดไขมันอิ่มตัวก็ไปทำสบู่ ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ
            ส่วนน้ำมันเนื้อในของเมล็ดปาล์ม ประกอบ  ด้วยน้ำมันชนิดอิ่มตัวสูงถึงร้อยละ ๘๕ - ๙๐ทำให้ไม่เหมาะต่อการบริโภค จึงนำไปใช้ในอุตสาหกรรมทำสบู่ เครื่องสำอาง ผงซักฟอกอุตสาหกรรมสี และเรซิน เป็นต้น

            ปาล์มน้ำมันมีอยู่หลายชนิด แต่ที่ปลูกเป็นการค้ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Elaeis guineensis
และจำแนกออกเป็น ๓ พันธุ์ คือ
๑. พันธุ์ดูรา (Dura) มีเปลือกหุ้มผล ค่อนข้างบางและมีกะลาหนา มีปริมาณน้ำมันต่อทะลายต่ำเพียงร้อยละ ๑๘ - ๒๐
๒. พันธุ์ฟิสิเฟอรา (Pisifera) มีเปลือกหุ้มผลค่อนข้างบาง แต่ให้ผลขนาดเล็กและดอกตัวเมียเป็นหมันผลิตผลต่อต้นต่ำ                                                                                                                                                                                                                          ๓. พันธุ์เทนเนอรา (Tenera) เป็นพันธุ์ ลูกผสม โดยรวมลักษณะดีจากทั้งสองพันธุ์ดังกล่าวเข้าด้วยกัน โดยใช้ดูราเป็นแม่และฟิสิเฟอรา เป็นพ่อ ให้น้ำหนักผลปาล์มต่อทะลายสูง เนื่องจากมีเปลือกหุ้มผลหนา และมีปริมาณน้ำมันมาก

            ผลปาล์มน้ำมัน เป็นรูปเรียวรีหรือรูปไข่ มีขนาดกว้าง ๓ เซนติเมตร และยาว ๕ เซนติเมตรมีน้ำหนักผลละ ๑๐ - ๑๕ กรัม เปลือกผิวนอกของผลปาล์มเป็นสีเขียวหรือดำเมื่ออ่อน และเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงเมื่อสุกแก่ ภายใต้เปลือกเป็นเมล็ด ประกอบด้วยกะลาและเนื้อในซึ่งมีต้นอ่อน ฝังอยู่ เมื่อนำไปเพาะให้งอกจะเห็นรากและยอดอ่อนโผล่ออกมาจากช่องของกะลา รากของปาล์ม น้ำมันเป็นระบบรากฝอย แตกออกจากโคนด้าน เพื่อทำหน้าที่ยึดลำต้น ดูดน้ำและแร่ธาตุ ต้นปาล์มที่เจริญเติบโตเต็มที่จะมีรากจำนวนมากประสานกันอยู่อย่างหนาแน่นในบริเวณใต้ผิวดิน๓๐ - ๕๐ เซนติเมตร  รากมีขนาดใหญ่อาจยาวถึง
๕ เมตร และแตกออกเป็นรากที่สองและที่สามซึ่งมีความยาวและขนาดเล็กลง แต่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

           ลำต้นปาล์มตั้งตรง เปลือกภายนอกแข็งภายในเนื้อเยื่อและเส้นใย ต้นปาล์มมียอดอยู่ ยอดเดียว ถ้าถูกทำลายต้นปาล์มก็จะตาย นช่วง๓ ปีแรก ลำต้นจะเจริญเติบโตขยายตัวออกทางด้านข้าง มีโคนอวบใหญ่ หลังจากนั้นจึงยึดตัวเติบโตทางยอด ปล้องบนลำต้นเห็นได้อย่างชัดเจนต้นปาล์มอาจสูงถึง ๓๐ เมตร และมีอายุนานถึง๑๐๐ ปี แต่พันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้ามีความสูงเพียง๑๕ - ๑๘ เมตร และตกผลดกในช่วงอายุ ๒๕ ปี หลังจากนั้นตกผลน้อยลง

           ใบปาล์มเป็นใบประกอบมีความยาว ๖ - ๘ เมตร มีใบเล็กหรือทางใบยาวประมาณ ๑ เมตร แตกออกจากก้านใบทั้งสองด้านเป็นรูปขนนกจำนวนประมาณ ๑๐๐ - ๑๖๐ คู่ ก้านใบมีหนามแหลมเรียงอยู่ ๒ แถว ทางใบแตกออกจากยอดประมาณปีละ ๒๐ - ๔๐ ทาง และมีอายุประมาณ ๒ ปีช่อดอกแยกเป็นช่อดอกตัวผู้และตัวเมียแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ออกสลับกันจากมุมก้านใบ
แต่มีช่อดอกตัวเมียมากกว่า การพัฒนาตั้งแต่ตาดอกจนถึงดอกบานและรับการผสมเกสรใช้เวลา๓๐ เดือน หลังจากนั้นอีก ๖ เดือน ผลบนทะลายจึงสุกแก่ ช่อดอกตัวเมียประกอบด้วยช่อดอกย่อยประมาณ ๑๐๐ - ๑๑๐ ช่อ และแต่ละช่อย่อยมีดอกตัวเมีย ๑๕ - ๓๐ ดอก ดังนั้นในหนึ่ง ทะลายมีดอกตัวเมียประมาณ ๔,๐๐๐ ดอก
           การปลูกปาล์มน้ำมันเริ่มต้นด้วยการนำเมล็ดมาเพาะในถุงให้งอกเป็นต้นกล้า (ซึ่งใช้เวลาประมาณ๖ - ๙ สัปดาห์) หลังจากนั้นจึงย้ายลงปลูกในถุงบรรจุดิน ขนาด ๑๕ x ๒๐ เซนติเมตร ต้นละถุง เก็บไว้ในเรือนเพาะชำ (อีก ๑ - ๓ เดือน)เพื่อสะดวกต่อการให้น้ำและดูแลรักษา ต่อจากนั้นจึงย้ายต้นกล้าลงปลูกในถุงขนาดใหญ่ (ขนาด๕๐ x ๗๕ เซนติเมตร) นำไปเก็บรวมในแปลง เพาะเลี้ยง เพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตสมบูรณ์เต็มที่ (ประมาณ ๑ ปี) จึงย้ายไปปลูกในแปลงใหญ่ช่วงต้นฤดูฝน

          ต้นปาล์มขึ้นได้ดีในที่ที่มีหน้าดินลึก ๗๕เซนติเมตร และเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้เร็วการปลูกในพื้นที่ขนาดใหญ่ควรแบ่งแปลงออกเป็นแปลงย่อย โดยตัดถนนผ่านระหว่างแปลง เพื่อสะดวกต่อการเข้าไปดูแลรักษา และขนส่งทะลายปาล์มจากสวนสู่โรงงาน ควรปลูกต้นปาล์ม เป็นแถวโดยมีระยะระหว่างแถว ๘ - ๑๐ เมตรระหว่างต้น ๗ - ๘ เมตร  จะมีต้นปาล์ม
๒๐ - ๓๐ ต้นต่อไร
         หลังจากปลูกแล้วควรเข้าไปตรวจสวนทุกเดือนและทำการปลูกซ่อมต้นตาย  กำจัดวัชพืชที่ขึ้นคลุมต้นปาล์ม ตลอดจนทำการป้องกันกำจัดแมลงและศัตรูพืชชนิดต่าง ๆ บางแห่งมีการปลูกพืชคลุมหน้าดินเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายและรักษาความชุ่มชื้นในดิน ให้ปุ๋ยเคมีตามที่กำหนดในคำแนะนำ

          ต้นปาล์มเริ่มออกช่อดอกเมื่อมีอายุประมาณ     ๑ ปีครึ่ง - ๒ ปี แต่เป็นช่อดอกขนาดเล็กและให้ ผลิตผลไม่มากพอ จึงควรตัดดอกชุดแรกออกทิ้งเพื่อให้ต้นเจริญและสมบูรณ์ได้เต็มที่ การเก็บเกี่ยวผลิตผลอาจเริ่มจากปีที่สามเป็นต้นไป ผลิตผลของปาล์มเพิ่มมากขึ้นตามอายุ และให้ผลิตผลสูงเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่ ๘ โดยเฉลี่ยให้ผลิตผลตั้งแต่๘ - ๑๕ ทะลาย/ต้น/ปี ทะลายหนึ่งมีผลปาล์ม๑,๐๐๐ - ๒,๐๐๐ ผล และหนักทะลายละ ๑๐ - ๑๕กิโลกรัม ต้นปาล์มจะให้ผลิตผลสูง ไปจนถึงอายุ๒๕ - ๓๐ ปี หลังจากนั้นเริ่มลดลง ซึ่งเป็นเวลาที่ต้องรื้อสวนเก่าออกเพื่อปลูกใหม่

           เมื่อผลปาล์มสุกแก่ เปลือกนอกจะเปลี่ยนเป็นสีส้มและเริ่มร่วงหล่น เป็นระยะที่เปลือกมีน้ำมันสะสมมากที่สุด ควรทำการเก็บเกี่ยวทันทีโดยใช้เสียมหรือมีดตัดที่ก้านของทะลาย รวบรวมนำส่งโรงงานหีบน้ำมัน โดยให้ได้รับการกระเทือนน้อยที่สุดภายในเวลา ๒๔ ชั่วโมงจึงจะได้น้ำมันคุณภาพสูง

           โรงงานจะนำผลปาล์มสดทั้งทะลายไปอบไอน้ำเพื่อยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของน้ำมัน และช่วยให้ผลปาล์มหลุดออกจากทะลายและแยกเปลือกออกจากกะลาได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงนำไปย่อยอีกครั้งเพื่อแยกเอาเปลือกไปสกัดน้ำมันออกนำน้ำมันไปทำความสะอาดและลดความชื้น แล้วจึงส่งน้ำมันดิบเข้าโรงกลั่นเพื่อแยกน้ำมันบริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง นำกากเส้นใยและเศษของทะลายที่แยกออกกลับไปใช้เป็นเชื้อเพลิง ส่วนเมล็ดปาล์ม ที่แยกมาจากเปลือก นำไปกะเทาะอีกครั้งเพื่อแยกเอาเนื้อในออกจากกะลานำเนื้อไปอบให้แห้งส่งไปยังโรงงานที่กลั่นน้ำมันจากเนื้อของเมล็ดปาล์มโดยเฉพาะ ส่วนกะลาที่เหลือนำกลับไปใช้ เ ป็นเชื้อเพลิง

แสดงความคิดเห็น

คอเลสเตอรอลต่ำ  โพสต์ 2013-3-10 10:52

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:24:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันรำข้าว

ความหมาย ป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากรำข้าวดิบ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้จากการขัดข้าวกล้องให้เป็นข้าวสาร  จึงมีคุณค่าทางอาหารสูง  นอกจากนี้ยังสามารถสกัดสารอาหารอื่นที่มีอยู่ในน้ำมันรำดิบ เพื่อใช้เป็นสารเสริมสุขภาพและเครื่องสำอางค์ได้

          น้ำมันรำข้าว เป็นผลิตภัณฑ์จากรำข้าวดิบ  ซึ่งหมายถึง  ส่วนผสมของรำละเอียดและคัพภะ และจากกรรมวิธีการทำน้ำมันรำข้าว ก็จะได้รำที่สกัดน้ำมันออกแล้ว ซึ่งนำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์อื่นได้ต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ครับผม คะแนนหมดเดี๋ยวให้ตามหลัง  โพสต์ 2013-3-10 10:52

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:22:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันมะกอก

ความหมาย แม้อาหารทางบ้านเราจะไม่นิยมใช้ "น้ำมันมะกอก" ในการประกอบอาหารมากนัก
แต่รู้ไหมว่าน้ำมันมะกอกนั้นถือเป็นน้ำมันพืชที่ปลอดภัยต่อร่างกายและให้ประโยชน์มากมายทีเดียว

พูดถึงมะกอกแล้ว คนไทยในบ้านเราก็มักจะนึกไปถึงผลมะกอกที่เอาไปใส่ในส้มตำ หรือไม่ก็ที่ไปจิ้มกินกับเกลือเป็นของกินเล่น
น้อยคนที่จะนึกถึงมะกอกของฝรั่งที่มีชื่อว่าโอลีฟ (olive) มะกอกชนิดนี้จัดเป็นพืชโบราณที่มีต้นกำเนิดและประวัติความเป็นมาที่แสนยาวนาน
มะกอกกำเนิดขึ้นที่เกาะครีตเมื่อประมาณ 6,000 พันปีมาแล้ว มีหลักฐานและตำนานมากมายที่กล่าวถึงมะกอกเอาไว้
อย่างเช่นค้นพบพวงมาลัยที่ทำจากกิ่งมะกอกซึ่งวางอยู่บนตัวมัมมี่ระหว่างเทพี อะเธน่า (Athena)
และโปสิดอน (Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเล โปสิดอนต่อสู้ด้วยอาวุธที่แข็งแกร่งว่องไว
ในขณะที่เทพีอะเธน่าสร้างต้นมะกอกมาเพื่อเป็นตัวแทนของความสว่างไสวในยามค่ำ คืน
หรือในตำนานทายาทของพระเจ้าผู้สร้างกรุงโรม ก็ได้เห็นแสงสว่างครั้งแรกที่ใต้ต้นมะกอก

มะกอกเป็นต้นไม้ที่ทนทาน อายุยืนมากเป็นหลายร้อยปี ต้นมะกอกจึงเป็นเสมือนต้นไม้แห่งอมตะชีวิต
เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ ความดีงาม ความเจริญ ฯลฯ ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวเมดิเตอร์เรเนียนมาแต่โบราณกาล

ในศตวรรษที่ 15 ชาวสเปนได้นำมะกอกเข้ามาสู่โลกยุคใหม่ แพร่กระจายไปทั่วยุโรปตอนใต้
และตลอดแนวของชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน จนกระทั่งปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมการเพาะปลูกมะกอกได้ขยายตัวขึ้นถึง 30-40 เท่า

มะกอกหรือโอลีฟมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Olea europaea เป็นพืชในวงศ์ Oleaceae จัดเป็นผลไม้ที่มีเม็ดในแข็ง
หนึ่งลูกจะมีหนึ่งเมล็ด เป็นพืชที่ทนได้ทุกสภาวะอากาศ ดอกมะกอกจะออกช่อในช่วง
ปลายฤดูหนาว มีดอกเล็กๆสีขาว ผลจะโตเต็มที่ประมาณ 7-8 เดือนหลังออกดอก ลำต้นจะสูงใหญ่กว่ามะกอกไทยบ้านเรามาก
สูงตั้งแต่ 3 เมตร จนถึง 18 เมตร ใบเรียวยาวสีเขียวเข้ม มีหลายร้อยพันธุ์ ตัวผลจะมีรสขมและฝาด มีปริมาณสูง
พอแก่จัดสีจะเปลี่ยนจากเขียวจนเป็นสีคล้ำจนเกือบดำ ถ้าจะนำไปสกัดเอาน้ำมันต้องเลือกผลแก่จัด
แต่ถ้าจะนำมาบริโภคสดหรือนำไปประกอบอาหารต้องใช้มะกอกอ่อน

การนำมะกอกมากินสดนั้น มีข้อจำกัดอยู่ว่า ต้องนำมะกอกมากำจัดสารขมที่มีชื่อว่า
Oleuropein ออกเสียก่อน มีทั้งนำไปแช่โซดาไฟ (Sodium hydroxide) หรือจะใช้วิธีธรรมชาติที่ง่ายที่สุดก็คือ
แช่ในน้ำเกลือเข้มข้นทิ้งไว้ 1-2 วัน แล้วจึงล้างน้ำออก เพียงเท่านี้ก็สามารถกินผลสดของมันได้อย่างเอร็ดอร่อย
ผลของมันนอกจากจะนิยมบริโภคสดๆแล้ว ยังนำมาดัดแปลงโดยการสอดไส้พริกพีเมียนโต
หรือพริกหยวกลงไปดองกับน้ำเกลืออีกด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติไปอีกแบบหนึ่ง รสชาติจะออกเค็ม เผ็ดแบบปะแล่มๆ
มะกอกแบบนี้พบวางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ผู้ผลิตจะนำเอามะกอกเขียวที่ยังไม่แก่จัดมาเข้าเครื่องดึงเมล็ดออก
แล้วก็ยัดพริกที่ปอกเปลือกแล้วลงไป
พริกที่ใช้ส่วนมากเป็นทางแถบเมืองหนาว ซึ่งไม่เผ็ดมาก ที่นิยมก็คือพริกพีเมียนโต และพริกหยวกสีแดง
จากนั้นก็นำไปบรรจุขวดดองน้ำเกลือ ผลสดซึ่งผ่านการแปรรูปเหล่านี้นิยมนำมากินกับสลัด ตกแต่งจานอาหาร
ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารโดยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความหอมและรส ให้อาหาร เช่น หั่นแว่นตามขวางวางบนคานาเป้
หรือแซนด์วิชเปิดหน้า หรือไม่ก็กินเล่นตามชอบ

มะกอกจัดเป็นผลไม้ที่มีน้ำมันมากที่สุด ในผลมะกอกที่แก่จัด 100 กรัม ให้น้ำมันถึง 20-30 กรัม
แต่กระบวนการหีบเอาน้ำมันจากผลมะกอกมิใช่เป็นเรื่องง่ายๆ ต้องผ่านหลายขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน
เริ่มตั้งแต่การคัดและเก็บผลด้วยคนงาน เครื่องจักรทำแทนไม่ได้เลย เพราะผลมะกอกแก่ไม่พร้อมกัน
อีกทั้งต้องระมัดระวังมิให้ผลเกิดเสียหายในตอนเก็บและขนส่งไปโรงงาน

การคั้นน้ำมันมะกอกที่ดีเป็นวิธีการหีบเย็น (cold press) แบบโบราณ เริ่มด้วยการโม่ผลมะกอกให้เนื้อแหลก
แล้วเอาไปเข้าเครื่องหีบน้ำมันออกโดยไม่ใช้ความร้อนเข้าช่วยเลย
น้ำมันที่ไหลออกมาจากการหีบครั้งแรกถือเป็นน้ำมันคุณภาพดีที่สุด มีความบริสุทธิ์เพราะเป็นน้ำมันแรก
การหีบครั้งต่อๆไปต้องใช้แรงมากขึ้น น้ำมันที่ได้มีคุณภาพด้อยลง ทั้งหมดนี้ใช้เครื่องมือทำจากหินและแรงคนเป็นหลัก

ปัจจุบันมีโรงงานกลั่นน้ำมันมะกอกสมัยใหม่ที่ใช้ความร้อนและเครื่องจักรใน การโม่และกลั่นน้ำมันมะกอก
แต่น้ำมันมะกอกแบบนี้มีคุณภาพไม่ดีเท่าแบบวิธีหีบเย็นแบบเก่า หลังจากหีบเอาน้ำมันมะกอกได้แล้ว
ก็ต้องเอามาเก็บไว้ในห้องใต้ดินที่มีอุณหภูมิเย็นพอเหมาะเป็นเวลาหลาย สัปดาห์ เพื่อให้เศษผงต่างๆจมตัว
จากนั้นจึงนำมากรองและบรรจุขวดขาย


ประเภทของน้ำมันมะกอก

สภาน้ำมันมะกอกนานาชาติได้แบ่งชนิดน้ำมันมะกอกตามคุณภาพ จากปริมาณกรดในน้ำมัน
และนิยมเรียกชื่อตามความ "บริสุทธิ์" ดังนี้คือ


- ชนิดบริสุทธิ์พิเศษ Extra Virgin Olive Oil มีคุณภาพเยี่ยมที่สุด
ประมาณความเป็นกรดต่ำกว่า 1% น้ำมันที่ออกมาบริสุทธิ์จริงๆ รสและกลิ่นมะกอกแรง
- ชนิดบริสุทธิ์ดีมาก Superfine Virgin Olive Oil มีความเป็นกรดต่ำไม่เกิน 1.5%
- ชนิดบริสุทธิ์ดี Fine Olive Oil มีความเป็นกรดต่ำระหว่าง 1.5 ถึง 3 %
- ชนิดบริสุทธิ์ Virgin or Pure Olive Oil ความเป็นกรดไม่เกิน 4%
(หากเกินก็กินไม่ได้แต่ใช้เป็นน้ำมันจุดตะเกียงได้) โดยทั่วไปกลิ่นมะกอกจะมีเพียงอ่อนๆ

โดยทั่วไปน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ (extra virgin) มีสีออกเขียวกว่าชนิดคุณภาพต่ำลงมา
และถ้าจะให้ดีต้องได้มาด้วยวิธี cold press น้ำมันมะกอกคุณภาพดี ราคาแพงอย่างนี้ ควรเอามาปรุงเป็นน้ำสลัด
หรือเครื่องปรุงรสของอาหารอื่น ไม่เหมาะนำมาเป็นน้ำมันสำหรับทอดหรือผัดอาหาร
ซึ่งอาจใช้น้ำมันมะกอกเกรดต่ำลงมาได้ อนึ่ง น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอย่าง cold press
อาจเสียรสไปได้หากถูกความร้อนทำให้มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส

นอกจากค่าของกรดที่เป็นตัวกำหนดคุณภาพของน้ำมันมะกอกแล้ว รสชาติและกลิ่นของน้ำมันมะกอกยังแปรไปตามเขตที่ปลูก
น้ำมันมะกอกจากที่เดียวกัน ก็อาจมีกลิ่นและรสชาติแตกต่างกันไปได้
ในทางปฏิบัติการซื้อขายน้ำมันมะกอกแบบขายส่งจึงต้องมีการชิมก่อนเหมือนการ ชิมไวน์อย่างไรอย่างนั้น

ส่วนประเทศที่ผลิตน้ำมันมะกอก แต่ละประเทศจะมี Character ของตัวเอง เช่น
a) Greece จะมีความข้นกว่า (Heavy Texture)
b) Spain จะมีกลิ่นและรสชาติที่แรงกว่าประเทศอื่น
c) ฝรั่งเศส (Provencal) จะมีกลิ่นหอมหวาน (Fruity)
d) Italy จะคล้ายกับ Spain จะมีกลิ่นที่เด่นกว่า เหมือนกัน

ต่ทั้งนี้ในฉลากของน้ำมันมะกอก จะมีชื่อของพันธุ์มะกอกที่ใช้ทำน้ำมันอยู่ ให้มองหา Green Provencal
หรือ Tuscan Olives เพราะนี่คือมะกอก พันธุ์ดีที่สุด หรือถ้าอ่านไม่เจอ ก็เลือกตามความต้องการจากประเทศผู้ผลิตครับ

นอกเหนือจากน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แล้ว ในท้องตลาดยังมีน้ำมันมะกอกผสม คือผสมกับน้ำมันพืชอื่นๆ
ในทางปฏิบัติมีระเบียบว่าจะต้องมีส่วนผสมน้ำมันมะกอกกลั่น 5-10% จึงจะเรียกชื่อเป็นน้ำมันมะกอกผสมได้

ในทางปฏิบัติ การเลือกซื้อน้ำมันมะกอกก็เลือกตามระดับความบริสุทธิ์ที่กล่าวไปแล้ว ทางที่ดีควรเลือกแบบ cold press
เรื่องรสชาติอาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและแหล่งผลิต ก็ต้องลองซื้อมากินดูจนได้ที่ถูกใจ
ข้อคำนึงที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือราคา เนื่องจากน้ำมันมะกอก extra virgin ราคาค่อนข้างสูง
จึงควรเลือกใช้เฉพาะทำน้ำสลัดหรือปรุงรสอาหารเท่านั้น ยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มลองใช้น้ำมันมะกอกใหม่
ยังไม่ชินกับกลิ่นน้ำมันมะกอกแรงๆ ก็น่าจะลองใช้ชนิดที่คุณภาพต่ำลงมา เพราะนอกจากกลิ่นมะกอกอ่อนลงแล้ว
สนนราคายังถูกอีกด้วย โดยเฉพาะถ้าทำอาหารทอด หรืออาหารผัด ก็จะเหมาะพอดีกัน

น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันทำอาหารที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพ แต่รสนิยมอาหารเป็นเรื่องวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น เฉพาะสังคม
การรับของดีจากวัฒนธรรมอื่นจึงต้องผ่านการเลือกและประยุกต์ใช้โดยคนใน วัฒนธรรมนั้นๆ
ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันมะกอก จึงเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการพิจารณาประยุกต์ใช้
ตามความเหมาะสมของวิถีครัวไทยและเงื่อนไขของแต่ละคน

แสดงความคิดเห็น

บำรุงผิว  โพสต์ 2013-3-10 10:52

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:21:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันงา

ความหมาย น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดงา

แสดงความคิดเห็น

ทาแก้ปวดเมื่อย  โพสต์ 2013-3-10 10:53

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:17:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันถั่วเหลือง

ความหมาย คือน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการสกัดน้ำมันดิบจากเมล็ดถั่วเหลืองแล้วเข้าสู่กระบวนการกลั่นด้วยระบบไอน้ำแรงดันสูง เพื่อให้ได้น้ำมันบริสุทธิ์ออกมา  คุณสมบัติของน้ำมันถั่วเหลืองจะมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่าน้ำมันพืชที่ผลิตจากเมล็ดพืชหลาย ๆ ชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว  ซึ่งการบริโภคน้ำมันที่มีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงจะมีผลดีต่อสุขภาพมากกว่าการบริโภคน้ำมันที่มีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวต่ำ นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตใช้วิธีเติมไนโตรเจนเพื่อรักษาสภาพน้ำมันให้คงเดิม แทนการใส่สารกันหืน เพื่อให้ปลอดภัยกับผู้บริโภค

แสดงความคิดเห็น

เอาไปทำอะไรครับ  โพสต์ 2013-3-10 10:54

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

นายกสโมสร

ตะเองอย่าหลอกให้เค้าฟันน่ะ!

กระทู้
1434
พลังน้ำใจ
135661
Zenny
1465940
ออนไลน์
9816 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-3-8 08:16:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้ำมันละหุ่ง

ความหมาย ละหุ่งเป็นพืชในวงศ์เดียวกับมันสำปะหลัง และยางพารา ซึ่งมีลักษณะสำคัญอย่างหนึ่ง คือ มีน้ำยางขาวข้นในลำต้น ละหุ่งมีถิ่นกำเนิดในอัฟริกาตะวันออก และมีการปลูกในอียิปต์เพื่อผลิตน้ำมันละหุ่งมาตั้งแต่เมื่อ 6,000 ปีที่แล้ว ปัจจุบันประเทศบราซิล ไทย และอินเดียเป็นผู้ส่งออกละหุ่งรายใหญ่ของโลก น้ำมันละหุ่ง (castor oil) ได้จากเมล็ดละหุ่ง ซึ่งมีน้ำมันประมาณ 40-50% ในสมัยก่อนจะต้มเมล็ดที่ทุบละเอียดแล้ว จนกระทั่งน้ำมันลอยขึ้นมาจึงช้อนเอาน้ำมันไปใช้ แต่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อต้องการใช้น้ำมันละหุ่งในการผลิตยา จะใช้วิธีบีบอัดที่อุณหภูมิต่ำกว่า 50C เพื่อไม่ให้โปรตีนไรซิน (ricin) ซึ่งเป็นพิษ ถูกสกัดออกมาด้วย น้ำมันละหุ่งประกอบด้วยกรดริซิโนเลอิก (ricinoleic acid) ใช้เป็นยาระบาย จึงไม่ใช้เป็นน้ำมันปรุงอาหาร แต่เป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอาง เช่น สบู่ ลิปสติก ใช้ทำสีทาบ้าน และน้ำมันหล่อลื่น

แสดงความคิดเห็น

ใช้แทนน้ำมันไบโอดีเซลรถยนต์ได้  โพสต์ 2013-3-10 10:54

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 ย่อ เหตุผล
sand + 30 + 500

ดูบันทึกคะแนน

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-22 17:57 , Processed in 0.415003 second(s), 47 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้